เมื่อปีที่แล้วเคยเขียน Blog บ่นพึมพัมชีวิตตัวเองเรื่องอาการแพ้อากาศเรื้อรังและรุนแรง ใน Blog "ชีวิตที่อยู่(กรุงเทพฯ)ได้ด้วยยา" คร่าวๆคือตัวเองเป็นโรคแพ้อากาศมานานหลายปีแล้ว และค่อยหนักขึ้นเรื่อยๆ จนไม่สามารถหายใจได้ทางจมูก ต้องหายใจทางปากตลอดเวลา และต้องสั่งน้ำมูกตลอดเวลาอีกด้วย เมื่อผสมกับไมเกรนเรื้อรังที่ตัวเองเป็น ทำเอาชีวิตแต่ละวันหมดไปกับอาการป่วย
เคยไปหาหมอมาหลายที แต่ละทีหมอก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก ที่เจอบ่อยสุดคือ "อาการภูมิแพ้หนะ มันหายไม่ได้หรอก แค่ต้องเปลี่ยนยาไปเรื่อยๆ" ซึ่งเข้าใจได้ สุดท้ายทดลองวิธีต่างๆมากมาย ไม่เว้นแม้แต่สิ่งที่กลัวที่สุด อย่างการล้างจมูก แต่ก็ไม่หาย
ตอนนี้ผ่านไป 1 ปีพอดีหลังจาก Blog นั้น ขอมาอัพเดตอาการว่า "อาการแพ้อากาศหายแล้วจ้าาาาา"
เรื่องของเรื่องคือพอชีวิตเริ่มไม่สามารถใช้ชีวิตได้แล้ว (คำว่าใช้ชีวิตไม่ได้นี่แหละถูกต้องที่สุดละ) ก็เลยไปหาหมออีกรอบ เพราะอาการถึงจุด Peak (แพ้อากาศทุกที่อย่างรุนแรง โดยเฉพาะที่ออฟฟิศ) นอกจากจะหายใจทางจมูกไม่ได้แล้ว ยังหอบและหืดอีกด้วย จนต้องซื้อ Otrivin (ยาลดน้ำมูกแบบเห็นผลทันตา แต่แลกมากับผลข้างเคียงนามว่า โพรงจมูกอักเสบ) และยาพ่นขยายหลอดลมมาใช้
ซึ่งไม่ผิดหวัง หลังจากใช้ Otrivin มา 3 วัน โพรงจมูกก็เริ่มอักเสบ ทุกอย่างแย่ลงในระดับวิกฤติ เลยไปสวัสดีหมอที่บำรุงราษฎร์หน่อย ซึ่งตอนแรกหมอก็ไม่ค่อยเชื่อว่าเป็นภูมิแพ้เท่าไหร่ แต่ไม่รู้ว่าคำพูดไหนของเราไปสะกิดใจหมอ หมอก็ทำหน้าสนใจขึ้นอย่างเห็นได้ด้วยตาเปล่า แล้วก็ให้เราขึ้นไปนั่งเก้าอี้ แล้วก็เอาไฟส่องจมูกดู จากนั้นเอา Sucker มาดูดน้ำมูกทิ้งทั้งหมด (อยากได้ Sucker มากตอนนั้น) แล้วก็เอาน้ำพ่นๆๆๆใส่จมูกทั้งสองข้าง ตามด้วยยาอะไรสักอย่าง แล้วหมอก็ร้องเพลงรออย่างมีความสุข
ผ่านไปสองนาที แล้วหมอก็ส่องจมูกส่องปากด้วยหน้าเคร่งเครียด ส่องเสร็จก็บอกว่า "คุณแพ้อากาศเรื้อรังนะ" ... "และจมูกคุณตอนนี้ก็อักเสบแล้วด้วย"
แล้วหมอก็พ่นยาอีกขนานนึงเข้าไป จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นยาอะไร รู้แต่ว่ามันทำให้ทั้งวัน "จมูกโล่ง" อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เป็นการโล่งแบบธรรมชาติ โล่งแบบ Perfectly จำความรู้สึกวันนั้นได้เลย มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากกกกกกกกกกกกก เป็นครั้งแรกเลยที่หายใจทางจมูกได้
กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาไปกว่า 10 นาที แล้วหมอก็เรียกมานั่งคุย ประโยคเดิมกับที่เคยคุยกับหมอคนอื่น "โรคภูมิแพ้มันหายไม่ได้นะ ต้องอยู่กับมันไปจนตาย ต้องเปลี่ยนยาแก้แพ้ไปเรื่อย" พร้อมกับบรรยายอาการที่เราเป็น สุดท้ายหมอสั่งจ่ายยาแก้อักเสบและยาแก้ภูมิแพ้ขนานแพง
หลังจากกลับไปวันนั้น อาการภูมิแพ้ยังอยู่ แต่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตามลำดับ สาเหตุหลักๆเพราะเราถูกโรคกับ Xyzal ตัวนี้มาก ช่วงแรกกินทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน นั่นเป็นเดือนแรกที่อาการแพ้อากาศหายไปเหมือนไม่เคยเป็นมาก่อน (แต่ถ้าหยุดกินเมื่อไหร่ก็เป็นเหมือนเดิมนะ) นั่นเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีมากๆที่สามารถหายใจด้วยจมูกได้ แต่ร่างกายก็ยังไม่ชิน ยังหายใจทางปากอยู่ (ต้องเข้าใจคนที่หายใจทางปากมาตลอดหลายปี เปลี่ยนกลับกันง่ายๆไม่ได้หรอก) มีความสุขมากที่สามารถมีชีวิตปกติแบบคนอื่นเค้า
ผ่านไป 1 เดือน หมดไป 3 แผง ปรากฎว่า ... ยาหมด และ ... ขี้เกียจซื้อเพิ่ม (นิสัยเสีย)
แต่ ... วันถัดไปที่ตื่นมาโดยไม่ได้กินยา ... ไม่มีอาการภูมิแพ้แล้ว !! เลยเข้าใจว่า อ่อออ ยาอาจจะออกฤทธิ์เกิน 1 วัน ซึ่งก็เหมือนจะจริง พอผ่านไป 3 วันก็กลับมาเป็นภูมิแพ้ใหม่ จำใจต้องเดินไปซื้อยาเพิ่ม แต่คราวนี้กินทุก 3 วัน และทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่คาด กิน 3 วันต่อเม็ดอาการภูมิแพ้ก็ไม่กลับมา จนผ่านไปครึ่งเดือน ก็เริ่มเพิ่มระยะห่างเป็น 5 วันครั้ง 7 วันครั้ง จนหมดแผงแล้วก็เลิกกิน
และนั่นเป็นยาแก้แพ้แผงสุดท้ายที่กิน จากวันนั้นมาจนวันนี้ เป็นเวลา 10 เดือนแล้วที่สามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งยาแก้แพ้แม้แต่เม็ดเดียว ก็มีแพ้บ้างประมาณเดือนละครั้งเท่านั้นและไม่รุนแรง หายได้ด้วยตัวเองภายใน 2 ชั่วโมง
ซึ่งระหว่างทางมีการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตครั้งใหญ่หลายเรื่องด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ย้ายออฟฟิศ ย้ายบ้าน หมาตาย โดยเราแพ้รุนแรงทุกอย่างเลยที่ว่ามา แต่พออาการดีขึ้น ก็ไม่แพ้สิ่งเหล่านั้นอีกเลย
ชีวิตที่เปลี่ยนไปคือ สามารถใช้จมูกหายใจได้แล้ว ฟังดูไม่ได้น่าตื่นเต้น แต่สำหรับตัวเองแล้ว มันเป็นความรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้งเลย ร่างกายค่อยๆปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากการหายใจทางปากเป็นจมูก ใช้เวลาประมาณครึ่งปี ตอนนี้สามารถหายใจผ่านจมูกแบบ 100% แล้ว ขอบคุณสวรรค์
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น เหมือนดั่งปาฏิหารย์ โรคที่ไม่คิดว่าจะหายแล้ว เป็นมานานหลายปีมาก กลับหายโดยใช้เวลาไม่นานเท่านั้นเอง แต่บอกได้ว่ามีความสุขมาก เวลาชีวิตกลับมาอย่างน้อย 4 ชั่วโมงต่อวัน ... (แน่นอน เราเอาไปนอน 555)
แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น หลังจากหายใจทางจมูกได้แล้ว ก็สังเกตเห็นความผิดปกติของรูจมูกตัวเอง โดยรูจมูกซ้ายรู้สึกหายใจไม่ค่อยสะดวกนัก ทั้งๆที่ไม่มีน้ำมูกแล้ว ในขณะที่รูจมูกขวาหายใจได้ปกติ เมื่อส่องไปจึงได้รู้ว่า .... ตัวเองเป็นโรค ผนังกั้นช่องจมูกคด (Deviated Nasal Septum)
ภาพข้างบนนี้ไม่ใช่จมูกเรานะ ขโมยมาจากอินเทอร์เนตแบบหน้าด้านๆเพื่อการศึกษา แต่สภาพที่เราเป็นเหมือนแบบนี้เป๊ะ เพียงแต่หนักกว่า คือฝ่ายซ้ายไม่เห็นรูเลย เหมือนตันไปเลย (แต่จริงๆก็มีช่องทางให้ลมผ่านได้อยู่)
สุดท้ายจึงไปหาหมอที่บำรุงราษฏร์อีกรอบนึง หมอส่องๆดูแล้วก็บอกว่าเป็นโรคที่ว่า โดยเป็นผลมาจากการเป็นภูมิแพ้เรื้อรังนั่นเอง ถึงจะไม่ได้ร้ายแรงกับชีวิตอะไร แต่ถ้ารำคาญใจหรือหายใจลำบากมาก ก็สามารถผ่านตัดเพื่อแก้ไขได้ ระหว่างนี้หากยังทนได้ ให้ใช้มือบีบๆดัดๆไปก่อน (ซึ่งจนถึงตอนนี้ผ่านไป 4 เดือนแล้ว ยังไม่มีอะไรดีขึ้น) แต่ก็ถือว่าโชคดีที่เป็นอะไรไม่มาก ยังหายใจได้ ใช้ชีวิตได้ เลยปล่อยไปงี้ก่อน
สรุปแล้ว ชีวิตตอนนี้เปลี่ยนไปเหมือนเกิดใหม่ จากคนที่หายใจไม่ได้ วันแต่ละวันผ่านไปเพื่อจาม สั่งน้ำมูกและหอบหืด กลายเป็นคนปกติที่ไม่ต้องมานั่งคิดกังวลเรื่องการหายใจ เจอกลิ่นฉุนแค่ไหน ระคายเคืองแค่ไหน เลวร้ายแค่ไหน ก็ไม่อาจทำให้น้ำมูกไหลออกมาอีกเลย ... นี่คือชีวิตที่ฝันไว้
ชีวิตคนปกติ
^_^