ห่างหายการรีวิวอาหารมาสักพัก มัวแต่ไปเขียนเรื่อง Geek เรื่อง Startup อะไรไม่รู้ วู้วววว แต่วันนี้เรากลับมาแล้วววววววววว
ครั้งล่าสุดเราทิ้งไว้กับแคบหมูไมโครเวฟ Kappy มาวันนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องของแคบหมู เมื่อวันนี้เดินเข้า 7-Eleven ปกติ แต่เจอไอเทมใหม่จนต้องซื้อมาลองแบบไม่คิดชีวิต อย่างเจ้า...
เห็นตอนแรกนึกว่าหมูแผ่นทอด แต่ไม่ใช่นี่หว่าาาา แค่เป็นเจ้าเดียวกัน แถมยังถุงขนาดเดียวกันอีกต่างหาก หยิบผิดกันได้ง่ายๆ สนนราคา 20 บาทถ้วนนน
หลังจากซื้อมาก็เดินกลับบ้าน ระหว่างทางก็เจอคุณลุงถือหาบขายแคบหมูเดินผ่านพอดี ... พรหมลิขิต ! ก็เลยซื้อมาถุงนึง "กี่บาทครับลุง" ... "20 บาทลูก" ... นั่นไง ! พรหมลิขิตบันดาลชักพาาาา ดลให้มาพบกันทันใด~~~~~
ซื้อแบบไม่คิดชีวิตอีกเช่นกัน เพื่อท่านผู้อ่านกันเลยนะเนี่ย
Concept เดิม เมื่อคุณกล้าขาย เราก็กล้ารีวิวฮ้าบบบบ
สำหรับแคบหมูอองเทร่ เป็นแคบหมูซองน่อยๆ น้ำหนักสุทธิ 14 กรัม ให้พลังงาน 70 กิโลแคลอรี กินเสร็จก็วิ่งกันเองนะค้าบบบ
(เป็นเทคนิคการถ่ายภาพแบบใหม่ หน้าเบลอหลังเบลอเนื้อหาเบลอ เบลอแม่มทุกอย่าง)
สำหรับวันหมดอายุถือว่าค่อนข้างสั้นสำหรับขนมแบบนี้ คือ 8 เดือนเท่านั้นเอง (ซึ่งดีแล้ว แต่ถ้าอีกสักครึ่งปีถ้าจะซื้อไอ่นี่กิน ดูวันหมดอายุดีๆด้วยนะ)
และถามว่าเป็นขนมธาตุลมหรือไม่? ก็เจาะเอาลมออกแล้วพับให้ดูว่าปริมาณในถุงมีประมาณเท่าไหร่ละกันนะ
ก็ประมาณครึ่งถุง ถือว่าโอๆ
คราวนี้มาดูเนื้อหนังมังสาของมันบ้างว่าหน้าตาเป็นยังไง เทหละน้าาาาาาาาาาาาาา
สีของแคบหมูอองเทร่เป็นสีเหลืองอ่อนๆ สีอารมณ์ฮานามิแต่ดูมีความใสกว่านิดๆ ส่วนเรื่องขนาดเนี่ย ถือว่าควบคุมคุณภาพมาได้ดีมากเพราะทุกชิ้นทำออกมาพอดีคำ
ส่วนเรื่องปริมาณ เราเอามาเทเทียบกับแคบหมูคุณลุงราคา 20 บาทที่เดินสวนกันตอนกลับบ้านพอดี ก็ได้ออกมาดังเน้
ปริมาณก็ต่างกันเยอะพอควรเลยหละ แต่จะเอาอะไรมาก อันนึงวางขายเซเว่น อันนึงแผงหาบ
ส่วนเรื่องสีนี่ดูต่างกันมาก โดยปกติที่ซื้อแคบหมูมา มันก็จะเป็นสีมาตรฐานแบบด้านขวา ส่วนของอองเทร่สีอ่อนกว่า ดูเป็นมิตรต่อชีวิตมากกว่าอย่างบอกไม่ถูก (อารมณ์ล้วนๆ ไม่มีหลักการใดๆ)
ระหว่างถ่ายรูป ณิชก็เดินมาจะขโมยไปกินหลายต่อหลายครั้ง เกิดเป็นศึกชิงแคบหมูย่อมๆภายในบ้าน แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี
หลังจากถ่ายเสร็จ ก็ถึงเวลาของ ... การชิมมม มาถึงเรื่องรสชาติกันบ้าง อ้ามมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
ง่ำๆๆๆ งุ่มๆๆๆ งิ่มๆๆๆๆ
อร่อยเว้ยเฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยย
มันเป็นอะไรที่แบบ ไม่ต้องจิ้มอะไรอ่ะ รสชาติแคบหมูอยู่ครบ แต่รสชาติที่ปรุงออกมาทำออกมาได้ลงตัวมาก กินแล้วหยุดไม่ได้ เคี้ยวงุบๆๆๆๆๆแล้วจะหยิบชิ้นต่อไปทันที
แต่เอ๊ะ ... ความรู้สึกนี้มันคุ้นๆ ก็เลยไปพลิกดูหลังห่อ
มีผงชูรสด้วยนั่นเอง ... (เป็นเรื่องปกติของขนมพวกนี้แหละ แค่พักหลัง Sensitive ต่อผงชูรสมากจนเลิกกินขนมกรุบกรอบไปสักพักละ นี่ซื้อกินเพื่อท่านผู้อ่านเลย ซึ้งป่ะล่าาาา ... อ้าว ไม่หรอ T+T)
หลังจากชิมด้วยตัวเองไปฝั่งละชิ้นแล้ว ก็เดินไปให้คนในบ้านหยิบกิน โดยบอกว่าให้หยิบที่กินแล้วอร่อยไปกินซะ โดยไม่บอกว่าอันไหนเป็นยี่ห้ออะไร ผ่านไปได้แป๊บนึง ก็กลายเป็นภาพนี้ ...
ก็เป็นเอกฉันท์ จากผลการทดลองพบว่าคนในบ้านหลังจากชิมทั้งสองจานแล้ว ก็หยิบแคบหมูอองเทร่กินต่อ ส่วนฝั่งแคบหมูคุณลุง ก็ไม่ได้ไม่อร่อยนะ แต่อีกฝั่งอร่อยกว่า ก็เลยไม่มีคนหยิบ (วิธีการทดลองนี่มัน ... อย่างกับทดลองกับลิง)
แต่ปริมาณก็น้อยจริงๆเทียบกับราคา นี่กินแป๊บเดียวก็หมดแล้ว ถ้าชอบจริงๆก็ซื้อกินสัก 2 ถุงแหละ ก็ตก 40 บาท ... เท่าแม็กนั่ม ... เท่าข้าวผัด ... และแพงกว่าป็อปคอร์น POP Secret ถุงเล็ก ...
สรุป แพงแต่กิ๊บเก๋เท่มาก หากอยู่ๆแล้วอยากแคบหมู ก็เดินไป 7-Eleven ซื้อกินแก้ขัดได้เล้ยยย แต่อย่ากินเยอะ ไม่ดีๆ อ้วนเอาง่ายๆ แล้วก็อ้อออออ อย่าลืมซื้อน้ำไว้ด้วย หมดถุงนี่ดื่มน้ำหมดขวดอ่ะ กินแล้วคอแห้งมาก เดี๋ยวจะหาว่าครู๊ซไม่เตือนนนนน
จบไปอีกบลอค แฮ่~~~~~~