เราได้เห็นนวัตกรรมทางอาหาร Ready Made จากใน 7-Eleven ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ว่าจะเป็นเบอร์เกอร์เอย ไข่ลวกเอย ไข่ตุ๋นเอย ล่าสุดตอนนี้ 7-Eleven กำลังโปรโมทหนักอยู่กับผลิตภัณฑ์ตัวใหม่อย่าง "เค้กช็อคโกแลตลาวา"
แน่นอนว่า เราก็เลยไม่พลาดจะซื้อมาเขียนรีวิวให้ดูกัน โหะๆๆๆ
แต่ ... ไม่คิดเลยว่ามันจะทำยากขนาดนี้ Sensitive สุดๆ - - สุดท้ายเลยซื้อมา 3 กล่องเพื่อทดลองแบบต่างๆ เพื่อหาวิธีกินที่เหมาะสม (ลงทุนมะ) มา ไปดูกันเลยว่าทำอะไรมาบ้าง
ก่อนอื่นพาไปดูกล่องกันก่อน กล่องเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดพอดีมือ ถือได้ด้วยมือเดียว จับสะดวก น้ำหนักไม่มาก เอาไปขว้างใส่คนอื่นได้
การเก็บรักษาให้เก็บในตู้เย็นอุณหภูมิ 2-6 องศาเซลเซียส คุณค่าทางอาหาร ... คาร์โบไฮเดรตเต็มๆ
วันหมดอายุราวๆ 8 วัน ซึ่งถือว่าไม่มาก ดังนั้นดูเรื่องวันหมดอายุให้ดีด้วย
อ้อ กล่องมีความสูงด้วยนะ
ลองเปิดกล่องดู ปรากฎว่ามีส่วนที่เป็นเนื้อเค้กแค่ครึ่งเดียว ที่เหลือเป็นอากาศจ้า
แต่ๆ อย่าไปว่าเค้า มันมีสาเหตุ! ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไม แต่พอทำการทดลองหลายครั้งเข้าก็เลยรู้ละว่าทำไม (ไว้เล่าตอนหลัง)
สำหรับเนื้อเค้กด้านใน ประกอบไปด้วยเนื้อเค้กตรงรอบๆ และตรงกลางที่ดูเหลวๆ (แต่เพราะแช่เย็นมามันเลยยังไม่เหลว)
คราวนี้มาทดลองทำกันบ้าง ! โดยเราไม่ได้ให้ที่ 7-Eleven อุ่นให้ เราซื้อกลับมาอุ่นเองที่บ้าน เพราะอยากรู้อะไรนิดหน่อย
ทดลองครั้งที่หนึ่ง: เวฟนานเกินไป
เค้าเขียนวิธีทำไว้ด้านหน้ากล่องว่า "ไฟ 1300 วัตต์ อุ่น 20-30 วินาที" เอาหละ คำนวณเล่นๆ ไมโครเวฟที่บ้าน 900 วัตต์ ก็ต้อง 45 วินาทีเซ่ ก็เลยจัดไป 45 วินาที ผลคือ ...
แปลงร่างเป็นเค้กกล้วยหอมรสช็อคโกแลตเรียบร้อย 555
เค้กฟูววววขึ้นมาจนถึงขอบด้านบน จึงเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงเว้น Space ด้านบนไว้เยอะขนาดนี้ เพราะถ้าเวฟนานเกินไปมันจะฟูขึ้นมาจนเต็มพื้นที่ ถ้าไม่เว้นพื้นที่ไว้มันจะล้นจนถือไม่ได้ (นับถือคนออกแบบ Packaging ออกแบบได้รอบคอบมาก)
ส่วนสาเหตุที่ฟูขึ้นมาก็คือช็อคโกแลตที่ควรจะเป็นลาวามันฟอร์มตัวเป็นของแข็งไปพร้อมกับเนื้อเค้กนั่นเอง นั่นก็คือ ... ไม่มีลาวา มีแต่เค้ก ฮืออออ T_T
หั่นออกมาไม่มีอะไรเลย เป็นแค่เค้กธรรมดาก้อนนึง แต่กรอบดี
ผลการทดลอง: ถ้าเวฟนานเกินไป (แค่ไม่กี่วินาที) ก็จะไม่มีลาวาเหลือ และจะได้เค้กหน้าตาคล้ายเค้กกล้วยหอมมาแทน
ทดลองครั้งที่สอง: เวฟพอดีด้วยถ้วยที่ให้มา
ถ้วยแรกพลาดไปแล้ว หยิบถ้วยที่สองมา คราวนี้ทดลองใหม่ เวฟด้วยเวลา 20 วินาทีที่ 900 วัตต์ ด้วยถ้วยที่เค้าให้มา ดึงฝาให้เผยอเล็กน้อย
ผลออกมาสวยงาม ตรงกลางกลายเป็นของเหลวลาวาโดยสมบูรณ์ ส่วนด้านข้างยังคงเป็นเนื้อเค้กอยู่
พยายามดึงถ้วยตามรอยพับที่ทำมา แต่พบว่าเนื้อเค้กมันนุ่มแล้ว ทำให้เนื้อเค้กฉีกตามรอยไปด้วย
แต่ยังคงพยายามจะแงะเค้กออกมาใส่จาน เลยหยิบช้อนมาแซะๆ
ผลคือหน้าตาไม่ดีเท่าไหร่ ... แต่อย่างน้อยก็เป็นเค้กลาวาแล้ว T_T
ผลการทดลอง: ถ้าเวฟด้วยถ้วยที่เค้าให้มา มันจะเหมาะกับการตักกินในถ้วยนั้นเลยมากกว่า อย่าพยายามแซะออกมาใส่จานอื่น เพราะมันจะไม่สวย ขอช้อนพนักงานแล้วเดินกินโลด
ทดลองครั้งที่สาม: เวฟพอดีด้วยจานของตัวเอง
ยังไม่ยอมแพ้ จึงหยิบถ้วยที่สามมา ... คราวนี้ดึงตามรอยพับของถ้วยแล้วแงะเค้กออกมาเลย
เนื่องจากมันแช่เย็นมา ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องการฉีกขาดของเนื้อเค้ก ออกมาได้สวยงามทีเดียว แล้วก็เอาไป "คว่ำ" ใส่จาน
แล้วก็เอาไปเวฟ 22 วินาทีที่ 900 วัตต์ ผลคือ ...
สำเร็จ !! T_T
ได้เค้กช็อคโกแลตลาวาที่ลาวาพุ่งออกมาโดยไม่ต้องใช้อะไรจิ้มเค้กแต่อย่างใด ... (เค้าก็เขียนไว้แล้วว่าภาพตกแต่งเพื่อการโฆษณา)
เพื่อความอร่อย ก็ตกแต่งเค้กด้วยไอศครีมหรือสตอร์เบอรี่ซะหน่อย
เย้ ! ได้กินแบบสวยๆแล้ว !
ผลการทดลอง: หากอยากเอาไปใส่จานและตกแต่งให้ดูสวย ให้แงะเค้กมาเวฟในจาน แต่เผื่อใจเรื่องหน้าตาไว้นิดหน่อย เพราะเค้กแตกตั้งแต่อยู่ในไมโครเวฟแน่นอน มันนุ่มนิ่มมาก
รสชาติ
มาพูดถึงรสชาติกันบ้าง
เข้มมาก ข้นมาก กินแล้วรู้สึกทรมาน T_T
ปกติเป็นคนกินช็อคโกแลตอะไรพวกนี้อยู่แล้วนะ แต่พอมากินนี่แล้วรู้สึกอึดอัดในลำคอทุกคำที่กินเลย ต้องกินน้ำตามแทบทุกคำ รู้สึกว่ามันเข้มเกินไปที่จะกินเปล่าๆ ทั้งตัวช็อคโกแลตเองและเนื้อเค้กที่รู้สึกดูดน้ำมากๆจนฝืดคอ ต้องกินคู่กับไอติมหรืออะไรอย่างอื่นแก้เลี่ยนด้วย ส่วนตัวคงไม่เดินเข้าเซเว่นแล้วซื้อเดินกินอ่ะ ถ้าจะกินคงซื้อกลับมาเวฟแล้วกินกับไอติม พอไปได้อยู่แบบนั้น
ลองไปซื้อมากินกันได้จ้า สนนราคาถ้วยละ 25 บาท กินเสร็จเมาช็อคโกแลตกันไปเลย อย่าลืมซื้อน้ำไว้ด้วยนะ หิวน้ำมากแน่ๆ
จบไปอีก Blog จ้า เหะๆ ว้าบบบบ