ห่างหายการรักษาใบหน้าไปนานมาก เพราะพักหลังหน้าตาดีมากอยู่แล้ว ... #ใครจะเถียงหยุด!
ครั้งล่าสุดที่ทำก็ช่วงม.ปลายที่สิวเต็มหน้า ทำไปทำมา สิวก็ยังเต็มหน้าอยู่ ... สุดท้ายใช้ไม้ตาย ทำให้สิวเสิวไม่ขึ้นละ หากเด็กคนไหนอยากทำตามก็ทำได้นะ แค่ง่ายๆเลย ... "แก่ !" (ฮาไปร้องไห้ไป T_T) เคยมีคนบอกแต่เด็กว่าถ้ามีอายุสิวก็จะหายไปเองแหละ ตอนนี้เลยไม่รู้จะดีใจที่สิวหายหรือมีอายุดี ... (ฮืออออ~~~~)
แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่หายและเป็นหนักขึ้นตลอดคือ "ความดำของหน้า" ไม่รู้เพราะรังสีบ้ารังสีบออะไรพุ่งออกมาจากหน้าจอบ้าง วันๆนึงก็ใช้เวลาอยู่หน้าจอเกินครึ่งวัน รับไปเต็มๆ สุดท้ายหน้าดำเป็นท่านเปาจ้าาา ในขณะที่ตัวขาวใสน่ากอดมาก หากใครจะมากอดก็ยินดี ... ขอเป็นผู้หญิงเท่านั้นนะ นอกเรื่องอีกละ - -
พอรู้จัก Advance IPL มาสักพัก เค้าบอกว่าทำแล้วจะหน้าขาว แต่ยังไม่มีเวลาและเงินตราไปทำ และแล้วเหมือนโชคเข้าข้าง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางวุฒิศักดิ์คลีนิคติดต่อมาให้เข้าไปทดลอง Advance IPL ครั้งนึง ก็เลยตอบรับไปแบบงงๆว่าทำไมต้องเป็นเนย แต่ก็แหละนะ คนมันหน้าตาดีมี Potential นี่ถ้าหน้าขาวนะ เจมส์จิ ก็เจมส์จิ เหอะ ! ... (ก็แพ้อยู่ดี)
เลยมาเล่าให้ฟังชีวิตที่ต้องเอาหน้าไปขึ้นเขียงให้หมอกระทำชำเราอีกครั้ง
โดยอย่างที่บอก บริการที่ไปทำมาชื่อว่า Advance IPL ส่วนตัวแล้วไม่เคยทำ (จริงๆไม่เคยทำอะไรเลยนอกจากจิ้มสิวที่รวมแล้วกว่า 1000 จึกตลอดชีวิต) ตอนนี้เริ่มรู้สึกแย่กับสภาพโทรมๆของตัวเอง เลยเริ่มอยากรักษาผิวหน้าให้ดูดี (พูดจริงๆ ซีเรียสนะเนี่ย ... อะไร ไม่เชื่อหรอ ชั้นซีเรียสเป็นนะเฟร้ย!)
ส่วนณิชเคยทำมาหลายครั้งสมัยยังเยาว์วัย ณิชเล่าให้ฟังว่า "ไม่เจ็บอ่ะ เหมือนหนังติ๊กดีด" อื้ม ... หนังติ๊กดีด โอเค้
วันอาทิตย์ที่ผ่านมาจึงนัดเวลาสถานที่เรียบร้อย โดยพุ่งไปที่ Gateway เอกมัย ใกล้บ้านสุดๆ ไปถึงก็พบพนักงานทำตาปิ๊งๆ หน้าใสดี (ปกติไปร้านหมอก็จะดูหน้าพนักงานเป็นอย่างแรก) แล้วก็ติดต่อกัน ปิ๊งๆๆๆๆ ... หมายถึงติดต่อเข้ารับการรักษาหนะ
ระหว่างรอพบหมอก็ได้น้ำมากินแก้วนึง จำได้ว่าสีม่วงๆ อร่อยดี สีส้วยสวย แต่ยังไม่ทันได้ถ่ายรูป ก็โดนลากไป Cleansing หน้าแล้ว
โชคดีที่พอรู้ภาษาอังกฤษอยู่บ้าง เลยพอรู้ว่าการคลีนซิ้งคือการทำความสะอาดอ่างล้างจาน เดินไปรอที่ซิงก์ล้างจานเลยด้วยความเคยชิน ... ก็เห้ละ ! นะเอยโดนลากไปที่ห้องทำความสะอาดใบหน้าผิวพรรณ เพื่อล้างพิษจากมลพิษทิ้งให้หมด โดยห้องที่ไปทำจะเป็นห้องเล็กๆที่มีเตียงอยู่ให้กระโดดขึ้นไปนอน แล้วพี่ๆพนักงานก็จะมาทำความสะอาดผิวหน้าให้ ให้อารมณ์เหมือนสระผมที่ร้านทำผมเลย ซึ่งเสียใจมากที่ณิชกานต์ตัดสินใจทิ้งพี่ไปในเพลานั้น ... เพื่อไปหาซื้อกาแฟกิน \(T_T)/ จึงไม่มีรูปตัวเองเลยตลอดการรักษา แต่เล่าให้ฟังได้ ไปนึกภาพตามกันได้
แล้วพี่พนักงานก็จัดแจงใช้น้ำพ่น ใช้ครีมทำ เอาสำลีแปะ บลาๆๆๆ อยากรู้ว่าเอาอะไรลงบ้าง แต่ฟังไม่ทัน แค่ได้ยินคร่าวๆว่า อันนี้ทำความสะอาดผิวหน้านะคะ อันนี้ล้างมลพิษนะคะ ก่อนจะเอาสำลีลงก็ขออนุญาตก่อนนะคะ ~~ น่ารักดีนะ และพนักงานก็หน้าตาน่ารักซะด้วย ... ปริบๆๆ
ทำความสะอาดอ่าง เอ้ย! ทำความสะอาดหน้าได้ 5 นาที ก็เสร็จ (รู้สึกว่ามันนานมากเลยและสบายมากเลย อยากอยู่อย่างนั้นอีกสักสองชั่วโมง)
เสร็จก็ไปรอที่ข้างหน้าเพื่อเข้าพบหมอ ได้น้ำมาอีกแก้ว แต่ยังไม่ทันจะหยิบมือถือมาถ่าย โดนลากไปพบหมออีกละะะะ
การเข้าไปพบหมอก็เกร็งๆเพราะไม่รู้จะถามอะไรดี เลยถามไป
เนย: สวัสดีครับ
หมอ: สวัสดีครับ วันนี้จะมาปรึกษาเรื่องอะไรครับ
เนย: นั่นสิครับ
หมอ: อ้าว
เนย: แหะๆ คือว่าไม่ได้มาหาหมอมานานมาก อยากรู้ว่าหน้าตาอย่างณเดชผสมเจมส์จิอย่างผมเนี่ย ต้องรักษาอะไรครับ เผื่อจะมารักษาเป็นคอร์สๆ (แต่ตอนถามจริงตัดช่วงอย่างณเดชผสมเจมส์จิทิ้งไปเนื่องจากกระดากปากและกลัวหมอตบ)
(หมอเอาไฟส่องและดูทั่วหน้า)
หมอ: ไม่มีปัญหาสิวนะครับ โอเคเลย หน้ามีหลุมอยู่นะครับ ต้องกรอผิวเพื่อลบหลุมทิ้ง แล้วก็มีจุดด่างดำ ต้องยิงเลเซอร์ IPL เพื่อลดรอยด่างดำครับ
เนย: แล้วใต้ตาที่ดำ พอจะมีคอร์สรักษามั้ยครับ
(หมอมองดูอย่างพินิจพิจารณา)
หมอ: หมอว่าเราต้องทำใจนะ
(ห้องเงียบไป 3 วินาที)
หมอ: อาการตาคล้ำของเรามันเกิดจากภูมิแพ้นะ
(นี่สิหมอผิวหนัง มองปุ๊บรู้ปั๊บว่าเราเป็นภูมิแพ้เรื้อรัง!)
หมอ: มันเกิดจากเส้นเลือดใต้ตาแตก ทาครีมก็ไม่ช่วยอะไรมาก ถ้ายิงไอออนโต แมกนีโต มานีไอ้โต (หรืออะไรสักอย่างนี่แหละ สมองไม่สามารถจำศัพท์พวกนี้ได้) ก็จะรักษาใต้ตาดำจากสาเหตุอื่น
หมอ: ต้องทำใจนะครับ
เนย: อะ อะ โอเคครับ
ก็จบการปรึกษาหมอไปแต่เพียงเท่านี้ ใช้เวลาประมาณ 1 นาที ออกไปนั่งร้องไห้เอานิ้วเขี่ยพื้นที่มุมห้องเรื่องตาคล้ำอีก 3 นาที แล้วหมอก็เรียกให้ไปรักษาด้วย IPL ในห้อง (ปล. หมอหน้าใสมาก สร้างความมั่นใจให้ชีวิตได้อีก 4 หน่วย)
บรรยากาศภายในห้องนี้ต่างจากห้อง Cleansing คนละเรื่องเลยทีเดียว ห้องนี้เป็นห้องขาวๆ กว้างๆ มีอ่างล้างมือและเครื่องมืออะไรสักอย่างที่เหมือนแขนหุ่นยนต์ นึกตั้งนานว่าเหมือนอะไร ... ห้องเชือดของหมอฟัน ! แค่คนละกลิ่น ฟิดๆๆๆ
"นอนลงบนเตียงนะคะ" พยาบาลกล่าว
"ขออนุญาตใส่หมวกนะคะ" พยาบาลกล่าว
"ขออนุญาตปิดตานะคะ" พยาบาลกล่าว
"อ่า ... เอ่อ ... ช่วยถ่ายรูปให้หน่อยได้มั้ยครับ" เนยขอพูดบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าเป็นใบ้
"อะ อะไรนะคะ อ่อ ถ่ายรูปหรอคะ ได้ค่ะ" พยาบาลกล่าว
"ขอเอาที่ถ่ายได้นะครับ อยากได้บรรยากาศรวมๆในห้องว่านอนรอทำการรักษาอยู่" เนยกล่าว
"ได้เลยค่า" พยาบาลกล่าว
ตอนนั้นถูกปิดตาอยู่ จึงไม่สามารถกำหนดมุมหรือตำแหน่งใดๆได้ แต่อธิบายไปชัดเจนแล้ว เอาน่า จินตนาการว่าต้องได้รูปนอนอยู่บนเตียงแบบครึ่งตัว แล้วด้านหลังมีเครื่องมือวางอยู่ มีแสงแวววาวของเครื่องมือสาดมากระทบ โดยมีผู้ชายคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงอย่างมีความสุข ประหนึ่งเหมือนกำลังนอนรอการเข้าสู่ชีวิตใหม่
แล้วก็ได้รูปนี้มาครับ
... ณิชผิด !
ถ่ายรูปเสร็จ พี่พยาบาลก็เอาเจลมาละเลงใส่หน้าพร้อมบอกว่า "เย็นหน่อยนะคะะ" เชื่อเถอะครับ พี่เค้าไม่ได้โกหก อารมณ์เหมือนเป็นว่านหางจระเข้ที่ถูกลืมไว้ในช่องฟรีซสองวัน แล้วหยิบมาใช้เลย อะไรทำนองนั้น
หลังจากหน้าเริ่มหมดความรู้สึก (เย็นชาคืออะไร เข้าใจละ) หมอก็เดินเข้ามาพร้อมเสียงอันเย็นยะเยือกท่ามกลางอากาศที่ดูเย็นลงอย่างรวดเร็ว "เคยทำ IPL มาก่อนมั้ยครับ"
"ไม่เคยครับ นี่ครั้งแรก" เนยตอบ
"อ้อ ครั้งแรกหรอ" หมอตอบ
ถึงตอนนั้นจะถูกปิดตาอยู่ แต่รับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิตย์ถูกแผ่ซ่านออกมาจากหมอ ประหนึ่งว่าอยากจะพูดว่า เสร็จกูหละมึง ! แน่ๆ
แล้วหมอก็อธิบายวิธีการเพื่อลดความกังวล(เนยคงหน้ากังวลมากตอนนั้น) "เดี๋ยวจะมีแท่งเล็กๆไปจิ้มๆตามใบหน้า แล้วจะรู้สึกเปรี้ยะๆนิดหน่อย ขณะเดียวกันจะมีไฟถูกยิงออกมาวาบๆทั่วใบหน้า ไม่ต้องตกใจนะ มันไม่ทำอันตรายอะไรดวงตา ปิดไว้ให้แล้ว"
"คะครับ" เนยตอบแบบกระอึกกระอักนิดหน่อย
"โอเคนะ"
เปรี้ยะ !
หนังติ๊กดีดพ่องงงงงงงงงง
"ไม่เจ็บเนอะ" หมอถามแบบนิ่งๆ แต่กรูรู้ว่ายิ้มมุมปากอยู่แน่นอน
"ไม่เลยครับ สบายมาก เหมือนหนังติ๊กดีดเลยคับ" เนยตอบอย่างหน้าระรื่น แค่กัดฟันพูด
"เนอะ มันดีดๆเนอะ" หมอตอบกลับทันใด
เปรี้ยะ !
(ขายืดเกร็ง)
เปรี้ยะ !
(เท้าจิก)
เปรี้ยยยยยะ !
(หนังติ๊กสิบแปดเส้นดีดพร้อมกัน)
เปรี้ยยยยยยยยยยะ !
(เพิ่มมาอีกสิบหกเส้น)
เปรี้ยยยยยยยยยยยยยะ !
(สลบ)
เปรี้ยะ !
เปรี้ยะ !
เปรี้ยะ !
เปรี้ยะ !
เปรี้ยะ !
เปรี้ยะ !
เปรี้ยะ !
เปรี้ยะ !
(ฟื้น)
เฮ้ออออ เสร็จแล้วสินะ รอดแล้วกุรอดแล้ว
เสียงเบาๆแหวกอากาศออกมา เดินทางด้วยความเร็ว 300 เมตรต่อวินาที พุ่งเข้าหูขวา เข้าสู่สมองส่วนควบคุมสภาพจิต
"จบรอบแรกแล้วนะ เหลืออีกสองรอบ"
ผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เผยให้เห็นชัดเจน ใส่แว่นตาว่ายน้ำอยู่กุก็ตาเหลือกได้ !
แต่หมอใจดี หมอให้พักก่อน อธิบายว่า "เลเซอร์มันทำงานด้วยการไปจับกับเม็ดสีดำ ดังนั้นหากตรงไหนมีสีน้อยก็จะไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้ามีสีเยอะก็จะตีแรงหน่อย ตรงไหนเป็นขี้แมลงวันมันจะเปรี้ยะใหญ่มาก"
อ่อ ไอ่หนังติ๊กสิบแปดเส้นมันเกิดจากตรงนี้นี่เอง !
หากถามว่ารู้สึกยังไง สำหรับที่ไม่ค่อยมีเม็ดสีก็หนังติ๊กดีดเบาๆจริงๆแหละ แต่ถ้าตรงไหนมีจุดดำๆอยู่หละก็ ... เคยเดินห้างแล้วโดนไฟฟ้าสถิตดูดจากคนข้างๆป่ะ นั่นแหละ นั่นเลยยยย แค่มันมาอยู่ตามจุดต่างๆบนหน้าเท่านั้นเอง สนุกห่าๆเลยทีนี้
"โอเคนะ..."
เปรี้ยะ แหง่ก เปรี้ยะ หงั่ก เปรี้ยะ สลบ เปรี้ยะ ฟื้น เปรี้ยะ แหง่ก แหง่ก เปรี้ยะ หงั่ก ... เอาเป็นว่าถ้าให้พี่พยาบาลถ่ายวีดีโอตอนทำอยู่ ณ ตอนนั้น ... กรูจะลบทิ้งทันที ! ตัดจบเลยละกันนะ
ทำเสร็จ หมอไปล้างมือ พี่พยาบาลก็เช็ดหน้าให้ ระหว่างนั้นหมอก็บอกว่า "อาจจะมีรอยแดงเกิดขึ้นได้ หรืออาจจะมีสะเก็ดขึ้นบนหน้า ถ้ามันมีก็ไม่ต้องไปแกะมันนะ ให้มันหายเอง" แล้วหมอก็จากไปพร้อมสายลม
ลุกจากเตียง เดินออกจากห้องในสภาพเหมือนถูกข่มขืนมา แล้วพี่พยาบาลก็พาไปห้อง Cleansing อีกครั้งหนึ่งเพื่อทำความสะอาดใบหน้า ซึ่งคราวนี้ฟินมาก ทำอะไรบ้างไม่รู้ มีใส่อโลเวร่า ทาครีม ทาครีมกันแดด ฯลฯ จบท้ายด้วยนวดคอและไหล่ให้ ฟินเฟิร์มเคลิ้มคร่อกเลยทีเดียว รวมๆแล้วก็ราว 5 นาที เป็นการรักษาสภาพจิตใจหลังจากถูกข่มขืนมาได้อย่างดี
แล้วก็ไปส่องกระจก ........ เย้ดดดดดดดดดดดดดดดด หน้าใสปิ๊งปั๊ง สว่างขึ้นมา 3 เบอร์ ! อันนี้เกิดจากครีมที่ห้อง Cleansing ทาให้ก่อนออกมา รู้สึกดีมากมาย สว่างวาบบบบ (ไม่เกี่ยวกับ IPL เดี๋ยวจะหาว่าเว่อร์) แค่รู้สึกดีมาก อยากจะซื้อครีมมาทาก่อนออกจากห้องทุกวันเลย (แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ทำดั่งใจหวัง)
จบสิ้นกระบวนการ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ความเจ็บที่พูดมาด้านบนขอให้หาร 3 เพราะถึงเนยจะเหมือนเป็นคนหน้าด้าน แต่ความจริงแล้วส่วนตัวเป็นคนที่หน้า Sensitive มากกกกกกก ไม่รู้ว่าเส้นประสาทมันอพยพจากสมองมาอยู่ที่ใบหน้าหรืออย่างไร เพราะโง่เอาๆ แต่ผิวหน้าเจ็บง่ายขึ้นทุกวันๆ สาเหตุที่ไม่ไปกดสิวเป็นสิบปีมาก็เพราะว่าตอนถูกกดเกือบจะชักทุกที (แต่ก็ยังโดนณิชกดอยู่ทุกวัน) ก็คือคนอื่นคงไม่เจ็บหรอก ถามกี่คนต่อกี่คนก็ไม่เห็นบอกว่า IPL เจ็บ และถ้าให้เทียบระหว่างกดสิวนะ อันนี้เจ็บน้อยกว่า 580 เท่า ฟันธง ! (อยากเห็นเนยไปกดสิวแล้วกลับมาเขียน Blog กันมั้ย)
และอีกสาเหตุนึงคือ นี่เป็นครั้งแรก ยังไม่ชิน หวานเป็นลม ขมเป็นคนพาหวานไปโรงบาล เอ้ย! ขมเป็นยา คิดจะรักษา คิดจะสวย ถ้ากลัวเจ็บจะรอดเร้อ ครั้งต่อๆไปเชื่อว่าชิน เอาแท่งมาจิ้มหน้าเองได้ละ
และเหตุผลสุดท้าย สำคัญสุดๆ .... เนยเว่อร์หนะ เพื่อเพิ่มแสงสีเสียงให้เตียงหมอ ! กรั่กๆๆๆๆๆ กลับบ้านตะกี้โดนณิชหยิบหนังติ๊กมาดีดหน้า เพี๊ยะะะะ มันเจ็บพอๆกันจริงๆแฮะ T_T ต่างกันตรงที่หนังติ๊กดีดมันเจ็บเป็นนาที แต่ IPL เจ็บแค่ 2 วิ ไม่เกิน โอเค้~~~
ถามถึงความเปลี่ยนแปลง ตอนนี้ผ่านมา 4 วัน ยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงด้วยตาเปล่า ตามที่เค้าบอกว่าต้อง 5 ครั้งถึงจะเริ่มเห็นด้วยตาเปล่าได้ แต่โดยรวมรู้สึกแฮปปี้และอยากทำอีก
เห็นทำเป็นบ่นๆอย่างงี้อ่ะนะ ทำเสร็จออกมาเกือบซื้อคอร์สอ่ะ เพราะอยากหน้าขาวเต็มที่ละ T_T ไว้กลับจากสิงคโปร์จะมาซื้อคอร์สใช้บริการแน่นอนจ๊ะ ! สำหรับโปรแกรมเมอร์ที่ประสบปัญหาเดียวกัน (เหมือนจะเยอะ) ลองๆดู IPL ไว้ก็ดีขอรับ เหมาะกับอาชีพเราๆมาก ไว้ถ้าซื้อคอร์สแล้วเห็นผลจะมาเขียน Blog อีกที
เพราะความสวยรอไม่ได้ ... นะคะ