หลังจากเดินหลงทางอยู่นานหลายปีทั้งๆที่เริ่มก่อนคนอื่นเขา ล่าสุดตอนนี้โนเกียก็เริ่มเห็นทางสว่างของตัวเองแล้ว และเริ่มปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรรวมถึงประกาศ Strategy ที่ชัดเจนและได้ใจนักพัฒนาจนตอนนี้นักวิเคราะห์หลายๆคนเริ่มพูดว่า "Nokia กำลังจะกลับมาแล้วนะ!!"
วันนี้จึงขอมาเขียน Blog รวบรวมเรื่องราวทั้งหลายแหล่เกี่ยวกับโนเกียและซิมเบี้ยนให้ฟัง
การเปลี่ยนแปลงเยอะแยะมากมายขององค์กร
ต้องเข้าใจก่อนว่า Symbian กับ Nokia จริงๆแล้วเป็นคนละองค์กรกัน โนเกียก็ผลิตมือถือไป ซิมเบี้ยนก็ผลิต OS ไป ซึ่งก่อนหน้านี้ซิมเบี้ยนถูกกว้านซื้อจากผู้ถือหุ้นทุกเจ้าเพื่อทำให้มันกลายเป็น Open Source และจัดตั้ง Symbian Foundation ขึ้นเพื่อรับผิดชอบ
ผ่านมาสองปี Symbian Foundation (ซึ่งจากนี้ขอเรียกสั้นๆว่า SF) เริ่มสั่นคลอนเมื่อเกิดเหตุการณ์สองอย่างขึ้นคือ "หัวหน้า SF ประกาศลาออก" และ "SF ล่ม ส่งต่อหน้าที่พัฒนา OS ให้โนเกียแทน" จึงขอเริ่มเขียนจากสองประเด็นนี้ก่อนละกัน
Lee William หัวหน้า Symbian Foundation ประกาศลาออก
จริงๆแล้ว Lee เป็นคนที่อยู่ในโนเกียฝ่ายซิมเบี้ยนมาหลายปีมาก ตั้งแต่เราไปแข่ง Forum Nokia Open C Challenge ก็เจอกันแล้ว เป็นคนที่น่ารักคนนึงเลย แต่เรื่องการทำงานเนยไม่รู้อ่ะนะ ^^" เพิ่งมารู้จากปากของคนในองค์กรเอง (ซึ่งแน่นอนว่าไม่ประสงค์ออกนาม) ว่า การลาออกของ Lee William นั้นถือเป็นข่าวดีที่สุดในรอบหลายปีของ Symbian เลย...!!
ยอมรับว่าตอนแรกที่ได้ยินก็แปลกใจ ก็เลยอ่านต่อว่าทำไม? ทางนั้นบอกว่าเป็นเพราะ Lee เป็นคนที่ค่อนข้าง Conservative ทำให้การพัฒนาของ Symbian ไปได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น และคนที่ทำให้ Symbian^3 และ Symbian^4 รวมถึง N8 ออกมาช้ากว่ากำหนดก็เพราะเขาคนนี้นี่แหละ
ก่อนหน้าที่จะมารับหน้าที่เป็น Head ให้ SF ทาง Lee William ได้เคยเป็น Head ฝ่าย S60 มาก่อน ซึ่งในช่วงที่เค้าบริหาร S60 นั้นเอง ความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่ชื่อว่า "Series 60 5th Edition" หรือ "S60 Touch" ก็เกิดขึ้น อย่างที่เห็นนั่นแหละว่า S60 Touch นั้นเละเทะแค่ไหน และผลของความเหลวเป๋วก็มาถึงตัว S^3 อีก ต้องมานั่งแก้ไขกันยกใหญ่
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเรื่องจริงหรือ Lee จะเป็นแค่แพะ แต่จากปากโนเกียหลายๆคน เชื่อว่าการที่ Lee ลาออกจะทำให้ Symbian พัฒนาได้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างมีนัยสำคัญ
สรุปแล้วเรื่องนี้เป็นข่าวดี!! (ซะงั้น)
โนเกียเทคโอเวอร์ Symbian Foundation พร้อมเปลี่ยนหน้าที่
อาทิตย์ก่อนอยู่ดีๆโนเกียก็ประกาศย่อขนาดของ Symbian Foundation ซึ่งเป็นองค์กรที่โนเกียตั้งขึ้นมาเพื่อรับผิดชอบการพัฒนาโอเอสลง แล้วให้หน้าที่ใหม่เป็นองค์กรที่จัดการเรื่อง Licensing เช่นการแจกจ่าย License ในกรณีที่(เผื่อ)มีใครคิดจะเอา Symbian ไปลงมือถือของตน (จะมีเร้ออออ) พร้อมกับยกหน้าที่การพัฒนา OS ไปเป็นของโนเกียแทน
เอาหละสิ เอาหละสิ -_- เป็นการเปลี่ยนแปลงที่แอบตกใจนะ เพราะ SF ตอนแรกถูกตั้งขึ้นมาเพื่อการพัฒนาโอเอสแบบไม่หวังผลกำไร พอเป็นแบบนี้รูปแบบก็เปลี่ยนไปหนะสิ ซึ่งครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ เหอะๆ แต่มันก็เป็นไปตามนั้น สาเหตุหลักๆก็คงหนีไม่พ้นไม่มีเงินบริหารองค์กรนั่นแหละ (ก็ทำตัวไร้อนาคตขนาดนั้นนี่ ใครจะสนับสนุนทางการเงินหละะะ เหอะๆ)
อย่างไรก็ตาม ข่าวนี้เป็นทั้งข่าวร้ายและข่าวดี ข่าวร้ายคือรูปแบบของซิมเบี้ยนได้เปลี่ยนไปแล้ว แต่ข่าวดีคือซิมเบี้ยนตอนนี้ตกไปอยู่ในองค์กรเดียวกับโนเกียแล้ว!! นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ซิมเบี้ยนกับโนเกีย (ซึ่งคนเข้าใจผิดมาโดยตลอดว่าเป็นองค์กรเดียวกัน) รวมตัวกันอย่างเป็นทางการ นั่นแปลว่าจากนี้ซิมเบี้ยนจะพัฒนาเร็วพุ่งปรี้ดดดด (ตามทฤษฎี) แต่สำหรับทางปฏิบัติค่อยว่ากันอีกทีนะ โหะๆๆ
Symbian^3 อัพเกรดเป็น Symbian^4 ได้ และจากนี้มันคือ Symbian ตัวเดียวกัน
คำถามยอดฮิต "Symbian^3 จะสามารถอัพเกรดเป็น Symbian^4 ได้มั้ย" ก่อนหน้านี้คงตอบว่าไม่ได้ แต่ไม่นานมานี้โนเกียก็ได้ให้คำตอบที่ชื่นใจผู้ใช้เป็นอย่างมากว่า "มือถือ Symbian^3 ทุกตัวจะอัพเกรดเป็น Symbian^4 ได้!!" และจากนี้ทางโนเกียจะไม่พูดให้มันดู Fragment แล้ว แต่จะเรียกมันว่า "Symbian" ตัวเดียวเลย ^_^
การออกมาประกาศของโนเกียครั้งนี้ถือว่าเป็นหมากสำคัญของเกม Mobile War ครั้งนี้เลยเพราะมันเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่ซื้อมือถือโนเกียเป็นอย่างมาก เพราะมันได้เผยถึงอนาคตที่ชัดเจนต่อ Device ที่คุณจะซื้อในวันนี้ว่ามันมีอนาคตแน่ๆ
ยอดดาวน์โหลดแอพฯพุ่งขึ้น 3 ล้านโหลดต่อวัน
เมื่อกันยายนที่ผ่านมาโนเกียประกาศว่ายอดโหลด Ovi Store อยู่ที่ 2 ล้านโหลดต่อวัน แต่ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้โนเกียประกาศอีกรอบว่า "ยอดโหลดพุ่งขึ้นเป็น 3 ล้านโหลดต่อวันแล้ว!" เรียกว่าเป็นการเติบโตที่รวดเร็วมาก โดยปัจจัยใหญ่ที่ทำให้ยอดโหลดพุ่งครั้งนี้ยกประโยชน์ให้ Nokia N8 เต็มๆเพราะยอดขาย Nokia N8 เรียกว่าสูงมาก และทุกคนที่ซื้อ N8 ไปก็โหลดแอพฯจาก Ovi Store กันอย่างถ้วนหน้าจนทำให้ยอดโหลดพุ่งอย่างที่เห็น
ทั้งนี้ยอดโหลดนี้รวมหมดทั้งแอพฯ/Content/Ringtones/Videos และก็เป็นยอดโหลดทั้ง S40 และ S60 ทำให้ยังบอกไม่ได้ว่ายอดโหลดแอพฯเยอะแค่ไหน แต่ดูจาก Stat แล้วยังไงก็เกินครึ่งอ่ะ
โนเกียประกาศให้ Qt เป็นภาษาสำหรับพัฒนาหนึ่งเดียวต่อจากนี้
หลังจากทีเล่นทีจริงกับ Qt มาสักพักใหญ่ ล่าสุดโนเกียได้ประกาศผูกอนาคตตัวเองไว้กับ Qt เป็นที่เรียบร้อยด้วยการออกมาบอกว่าจากนี้ไปโนเกียพร้อมจะสลัดทุก Programming Language ทิ้ง (ซึ่งตอนนี้มีเยอะมากไม่ว่าจะเป็น WRT, Python, Symbian C++ etc.) และจะอ้าแขนรับ Qt เป็นภาษาเดียวสำหรับพัฒนาแอพฯบน Platform ของสมาร์ทโฟนโนเกียต่อจากนี้!! (แต่สำหรับ S40 ก็ยังเป็น J2ME ต่อไป) ซึ่งจะเห็นได้จากตอนนี้โนเกียทุ่มสุดตัวไปที่ Qt ชนิดที่ว่าถ้า Qt เจ๊งตัวเองก็เจ๊งไปด้วย จากนี้ทุกอย่างที่ออกมาจากโนเกียจะเป็นอะไรที่คิ้วๆล้วนๆ แม้แต่ WRT ก็ถูกโยนทิ้งและทดแทนด้วย Qt เช่นกัน
โดย Qt จะถูกใช้ทั้งใน Symbian ตัวต่อไป (หรือที่เคยมีชื่อว่า Symbian^4) รวมถึง MeeGo ที่จะออกในปี 2011 นี้ และทั้งหมดก็เป็นไปตามแผนคือการใช้ Symbian เป็นตัวปูทางในการปั้มแอพฯที่เขียนด้วย Qt และเมื่อ MeeGo ออกมาก็สามารถสั่งคอมไพล์ใหม่และออกมาเป็น MeeGo App ได้ทันที
แต่อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ Qt ที่มีอยู่ตอนนี้ก็พบว่าถึงทางเทคนิคมันคอมไพล์ใหม่แล้วก็เอาไปรันได้เลยก็จริง แต่เรื่องหน้าจอที่ไม่เท่ากันของ Symbian และ MeeGo แหละนี่จะเป็นอุปสรรคในการพอร์ทแอพฯข้ามแพลตฟอร์ม งานนี้ขอรอดูอีกหน่อยว่าโนเกียจะรับมือกับตรงนี้อย่างไร
Qt Creator ทำการบ้านมาดี
ต้องปรบมือดังๆให้ Qt Team จริงๆ ทำการบ้านมาดีมากกกกก เพราะ Nokia Qt SDK มีทุกอย่างพร้อมสรรพจริงๆ มันไม่ได้มาเฉพาะ Qt Library แต่กลับพ่วงมาพร้อม Series 60 API ทั้งพวง เรียกว่าถ้าเกิดมีปัญหา ทำอะไรที่ต้องการด้วย Qt ไม่ได้ เราก็สามารถเรียก API ของ Native Platform เช่น Symbian ได้ อย่างที่เนยใช้ก็คือตัวสั่งเครื่องให้สั่น (Vibrate) ซึ่งถึงมันจะมี Feedback API อยู่ใน Qt Mobility 1.1 แต่มันก็ยังไม่มีออกมาให้ใช้จริง สุดท้ายก็เลยต้องเรียกใช้จากนี่แหละ
เอ... แล้วแบบนี้จะมีปัญหากับการคอมไพล์เพื่อ Platform อื่นมั้ย? อันนี้ต้องตอบว่า Qt ทำการบ้านมาดีอีกเช่นกัน มันสามารถแบ่ง Section สำหรับ Platform Specific ได้เลย สรุปคือถ้าเขียนดีก็ไม่มีปัญหาเรื่อง Cross Platform มากวนใจแน่นอนนน
แต่ปัญหาสำคัญของ Emulator ตัวนี้คือ ตัว Qt Designer ที่เอาไว้ลากวาง UI Component กับผลตอนรันดันไม่เหมือนกัน!! ฮ่วยจริงๆ ทำไปด้ายยยยย เรียกว่าทำทุกอย่างมาดี แต่ดันตกม้าตายตรงส่วนของ UI Design สำหรับโปรแกรมเมอร์ ก็ขอให้รีบแก้ไขละกันนะ -_-
Apple App Store กับ Android Market เน่าแล้ว Ovi Store อ้าแขนรับผู้เจ็บช้ำ
ตอนนี้ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการจะหาเงินจากการขายแอพฯบน Apple App Store เป็นอะไรที่ "แทบจะเป็นไปไม่ได้" เพราะตอนนี้เป็นตลาดของบริษัทใหญ่ๆเท่านั้น การจะหาเงินสำหรับนักพัฒนาก็คงต้องรับงาน Sub มาจากคนอื่นอีกทีนึงถึงจะพออยู่ได้เป็นงานๆ ส่วน Android Market ก็เละยังไงก็เละอย่างงั้น เคยพูดถึงกี่ทีไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เนื่องจากความ "เปิดมากเกินไป" เปิดเสียจนใน Market มีแต่ขยะ ยังไม่พอ แอพฯดีๆก็มีแต่ฟรีทั้งนั้น ผลคือไม่มีใครสามารถทำแอพฯขายได้เงินเป็นกอบเป็นกำ (หรือถ้ามีก็น้อยมาก นับเป็น % ไม่ถูกเลย) เพราะวงรอบที่น่าเศร้าคือเมื่อใดมีคนทำแอพฯดีๆออกมาขาย อีกสักพักจะมีคนก็อปแล้วทำเป็นแอพฯฟรีแบบแปะ Ads และอีกสักพักก็จะมีคนก็อปแล้วทำแอพฯฟรีแบบไม่แปะ Ads ออกมา สุดท้ายเจ๊งกันทั้งระบบฮะ
เรียกได้ว่าทั้งสอง App Store "เน่า" เป็นที่เรียบร้อย แค่เน่าไปคนละแบบ นักพัฒนาที่คิดจะหาเงินก็เริ่มไม่สนใจสองเจ้านี้แล้ว ตอนนี้ก็เลยเริ่มมองเจ้าอื่น ซึ่งโนเกียก็จับเอาโอกาสอันงามนี้แหละ ประกาศไปยังนักพัฒนาว่า "มาหาเรานี่มามะ มามะ เราลดความหยิ่งแล้วนะ มาหาเราเถอะนะ มามะ มามะ" ฮ่าๆๆ เป็นยังไงหนะหรอ? มา! งั้นอ่านต่อกันเลยยย
โนเกียลดความหยิ่ง ส่งแอพฯขึ้น Ovi Store กันได้ฟรีๆเสียแค่ 1 ยูโรตลอดชีวิต!!
สิ่งที่ทำให้เรา(และนักพัฒนาจำนวนมาก)เกลียด Symbian ไปจนมันเกือบจะเจ๊งในทุกวันนี้มีชื่อสั้นๆว่า "Symbian Signed" ซึ่งแม้แต่เราก็เคยประกาศ Goodbye Symbian ให้ช้ำใจกันไปแล้วเหมือนกัน โดยบอกว่า "ถ้ามี Symbian Signed ก็ไม่มีเรา" ณ นาทีนี้เหมือนโนเกียจะเริ่มเห็นปัญหา ... (นานไปหน่อยนะ) แต่ครั้นจะเอา Symbian Signed ออกก็เป็นไปไม่ได้เพราะมันถูกฝังเข้าไปในระบบแล้ว และมันเป็นระบบ Security ที่ดีมาก (มากเกินไป) โนเกียก็เลยตัดสินใจทำตัวเป็นคนจัดการทุกอย่างให้โดยที่นักพัฒนาไม่ต้องทำอะไรอย่างอื่นเลย!
สิ่งที่ต้องทำก็แค่เขียนโปรแกรมให้เสร็จ สมัครสมาชิก Ovi Store Publisher ราคา 1 ยูโรตลอดชีพแล้วก็ส่งแอพฯขึ้น Ovi Store งานนี้ยอมรับว่า "โนเกียเล่นแรงมาก" ด้วย Policy นี้ทำให้นักพัฒนาจำนวน "มาก" หันกลับมายังซิมเบี้ยนในเวลาเพียง 1 เดือนหลังประกาศ เนื่องจากมัน Publish แอพฯง่ายจริงๆ ถ้าให้เรา Rank ระดับความง่าย ที่ง่ายสุดคงหนีไม่พ้น Android Market ส่วนตำแหน่งรองลงมาขอยกให้นายเลย Ovi Store!! ที่ยากรองลงมาคงเป็น Apple App Store สุดท้าย Samsung Apps... ไปไกลๆ ชิ่วๆๆๆ
Operator Billing จุดยุทธศาสตร์ที่โนเกีย "ทำถูกอย่างแรง"
ปัญหาอย่างใหญ่ของการขายแอพฯบน Online App Store สำหรับประเทศที่ไม่ได้เจริญรุ่งเรืองแบบสหรัฐฯคือ คนส่วนใหญ่ไม่ได้มีบัตรเครดิต(นะเว้ยยยย) หรือบางคนถ้ามีก็ไม่แฮปปี้ที่จะใส่รหัสบัตรเครดิตลงไปในมือถือ ทุกเจ้าจึงมอง "Operator Billing" หรือ "การตัดเงินผ่านบิลค่าโทร" เอาไว้ แต่โนเกียอยู่ดีๆก็เป็นเจ้าแรกที่ทำได้และก็ประสบความสำเร็จอย่างรุนแรงเสียด้วยสิ
ตาม Stat ยอดโหลด/ขายแอพฯพุ่งขึ้น 13 เท่า (ย้ำว่า 13 เท่า!) หลังจากที่ Operator Billing เปิดให้ใช้งาน และสำหรับประเทศที่มี Operator Billing ใช้ มีถึง 2 ใน 3 เลือกใช้การจ่ายเงินผ่าน OB นี้ จนถึงตอนนี้มี 99 โอเปอเรเตอร์ใน 29 ประเทศแล้วที่สนับสนุนตรงนี้
การบ้านของโนเกีย UX ที่ต้องปรับปรุง
เรื่องดีๆพูดมาเยอะแล้ว เรื่องแย่ๆบ้างละกัน
UX หรือ User Experience เป็นสิ่งที่โนเกียสอบตกมาโดยตลอด ยังไม่เคยมีซอฟต์แวร์ตัวไหนจากโนเกียที่สร้างขึ้นมาแล้วมีประสบการณ์การใช้ งานที่ดีเลยแม้แต่ตัวเดียว (ฟังดูน่าเศร้า) ตรงนี้ก็คงพูดได้แหละว่าเป็นจุดอ่อนของโนเกียอย่างรุนแรง ยิ่งตอนนี้โนเกียประกาศเปลี่ยนตัวเองเป็นบริษัทที่เน้นซอฟต์แวร์เกือบเต็มตัวแล้วด้วย หากตรงนี้ยังไม่สามารถหาบุคลากรดีๆได้ ถึง OS จะมีประสิทธิภาพดีแค่ไหนแต่ประสบการณ์การใช้งานก็ต่ำอยู่ดี
ตอนนี้ Symbian^3 (ซึ่ง UX ห่วยแตก) ทำหน้าที่ในการต่ออายุซิมเบี้ยนได้ดีมากแล้ว อันนี้อยากรอดูว่า Symbian^4 และ MeeGo จะให้ UX ที่ดีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งบอกได้เลยว่าหากมันทำออกมาได้ไม่ดี อนาคตโนเกียก็อาจจะดับวูบลงไปได้ แต่กว่าจะถึงตอนนั้นเรานักพัฒนาก็มีเวลาโกยเงินช่วงระยะเวลาหนึ่ง รีบๆโกยกันเข้าหละ เอ้า โกยๆๆๆ
สรุปแล้ว
นาทีนี้แอบอยากบอกว่า "โนเกียกลับมาแล้วนะ" ได้ยินว่าช่วงนี้คนส่งแอพฯขึ้น Ovi Store เยอะจนทีมทำงานไม่ทันและส่งเมลมาวิงวอนว่าขอเวลาตรวจแอพฯเพิ่มหน่อยนะ เหะๆๆ เรียกว่าเป็นข่าวดีแหละ ^ ^
ยังไงสำหรับคนที่จะทำแอพฯแล้วเผชิญปัญหา Fragmentation ก็ขอบอกไว้เลยว่า ถ้าอยากจะทำแอพฯสำหรับแค่หน้าจอเดียวให้ทำสำหรับ S60 Touch ซึ่งหน้าจอ 360x640 (nHD) เท่านั้นเพราะจาก Stat บอกว่า 6 ใน 10 มือถือที่ยอดโหลดสูงสุดใน Ovi Store เป็น Touch Devices อันได้แก่ 5800, N97, N97 Mini, 5530, 5230 และ X6 (และเชื่อว่า N8 กำลังจะติดอันดับเร็วๆนี้)
ก่อนจะจากไป บอกได้เลยว่า Qt นี่แหละเป็นเทคโนโลยีที่ Promising จริงๆ เรากรี้ดมันมาปีนึงละ ตอนนี้เริ่มมาลงมือทำอย่างจริงๆจังๆก็พบว่าสมแล้วหละที่เรากรี้ดมา > < หากสนใจจะทำแอพฯบนโนเกีย เริ่มจับ Qt ตั้งแต่ตอนนี้เลย แล้วถ้าอยากจะทำแอพฯอะไรออกขายก็เริ่มทำเลยก่อนที่จะโดนคนอื่นแย่งทำหมดก่อนเน้ออ ^_^
So. OK, let say...
Symbian, I'm back!!
ทิ้งท้าย นักพัฒนาจาก Silicon Valley พูดถึง Qt ว่าอย่างไร? ไปดูกัน