"เวลามีค่ามากกว่าเงิน"
ออกจากโรงบาลแล้ว
18 Mar 2009 23:07   [12194 views]

ขอบคุณทุกคนสำหรับกำลังใจนะครับ ตอนนี้ออกจากโรงบาลแล้ว อาการดีขึ้นกว่าวันแรกมากแต่ก็ยังไม่ 100% ยังเดินไกลๆไม่ได้ เวียนหัวตลอดเวลา (บ้านหมุน) ปวดหัวมาก ตาพร่า ปวดท้อง เจ็บหัวใจ ใจสั่น อันนี้ไม่รู้ว่าเกิดจากอาการเองหรือเกิดจากฤทธิ์ยา แต่โดยรวมยังรู้สึกไม่ค่อยดีนัก ที่ออกจากโรงบาลนี่เพราะอ้อนวอนขอหมอออกมา เราไม่มีประกันหนะ จะนอนต่อก็ไม่มีตังค์จ่ายแล้ว


วันนี้นอนๆกลิ้งๆอยู่บนเตียงคนไข้ตลอดเช้าจนหมอเข้ามาดูอาการแล้วก็บอกว่าออกได้ แต่อาการยังมีอยู่ อาทิตย์หน้าให้มาตรวจใหม่ แล้วแม่ก็ไปจ่ายเงินให้ ส่วนเราก็นอนรอพยาบาลถอดสายน้ำเกลือออก คราวนี้ไม่เจ็บละ เรียกว่าชินเข็มแล้ว โดนไป 5 จึ๊กแล้วหนิ

ตอนระหว่างรอแม่กลับมาจากฝ่ายการเงินก็เดินเล่นในห้องทำตัวเป็นคนสบายดี แต่ปรากฎว่าเดินไปได้ราวๆ 5 เมตรก็วูบ เหอะๆ... ไม่ดีเลยจริงๆ ทำไมมันแย่ได้ขนาดนี้วะเรา สุดท้ายเลยต้องขอรถเข็นนั่งไปขึ้นรถ มาถึงบ้านก็ยังเดินไกลๆไม่ได้อยู่


นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เรานอนโรงพยาบาล เกิดมาพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด แต่คราวนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ ถ้าไม่นอนโรงพยาบาลก็คงต้องไปนอนโลงศพแหง๋ๆ


ตลอดสามวันที่ผ่านมาก็เป็นเหมือนนักโทษพิการที่ถูกพันธนาการด้วยสายน้ำเกลือ จะอาบน้ำก็อาบไม่ได้ เช้าเย็นจะมีพยาบาลมาเช็ดตัวให้บนเตียง รู้สึกแปลกๆดี... อย่าทะลึ่งๆ ไม่ได้โป๊ๆ แต่ความรู้สึกตอนนั้นคือ เหมือนคนกำลังจะตายมากกว่า ตอนเค้ามาเช็ดตัวนี่ลืมตายังไม่ขึ้นเลย (อันเนื่องจากหมดแรงจากอาการป่วย)


การเข้าโรงพยาบาลครั้งนี้กระทบชีวิตไปหลายอย่างทีเดียว


อย่างแรก งาน! กระทบเต็มๆ หายไปสามวันงานหายไปเยอะเลยนะ (ป่วยหนักยังจะห่วงงาน คนเรา)


อย่างที่สอง... กำลังจะซื้อกล้อง Nikon D90 ก็ล้มเลิกไปเลยทันที เพราะค่า Admit สามวันสองคืนที่ผ่านมานั้น เบ็ดเสร็จรวมไป 23,000 บาท เงินที่กะจะเอาไว้ซื้อกล้องก็เลยหมดไปกับค่ารักษาทันที


อีกอย่าง ตอนนี้...กินปลาดิบไม่ได้แล้ว เกิดอาการเดียวกันกับกุ้งเผา จริงๆเราไม่ได้แพ้กุ้งเผาหรอก แต่ตอนเด็กๆเราเคยกินกุ้งแล้วอาหารเป็นพิษรุนแรง ก็เลยกินกุ้งไม่ได้อีกเลย ครั้งนี้เหมือนกัน... แค่คิดถึงปลาดิบก็อี๋แล้ว... (แล้วคอยดู อาทิตย์หน้าก็จะไปกินอีก ฮ่าๆๆ)


แต่ที่กระทบหนักๆเลยคือจิตใจ ตอนอยู่โรงบาลเหงามากถึงมากที่สุด ถึงจะมีแม่กับพี่สาวคอยสลับกันมานั่งเฝ้า รวมถึงมีเพื่อนซินกับเพื่อนแพมมาเยี่ยม แต่ก็ยังเหงาอยู่ดี รู้สึกเหมือนไม่มีใครจนต้องไปซื้อเนตนั่งเขียน Blog บ่นพึมพัมบนเตียงคนไข้รวมถึงออนไลน์ MSN มาคุยกับคนโน้นคนนี้


เอาจริงๆโลกในสายตาเราเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน อาจจะเพราะว่าเราผ่านช่วงที่เรียกว่าปางตายไปแล้วก็ได้ เพราะอาการตอนนั้นมันแย่มาก ก็เป็นอีกครั้งที่เราคิดได้ว่า "คนเราตายได้" ทุกครั้งจะคิดได้ตอนที่ไปงานศพเพื่อนหรือรุ่นพี่ แต่คราวนี้มาเกิดกับตัวเอง แต่แทนที่จะคิดว่าอยากอยู่แต่กลับรู้สึกอยากตายแฮะ... ดูท่าจะสงบดีจัง ไม่ต้องทุกข์ทรมานจากเรื่องใดๆในโลกนี้ ไม่ต้องเสียใจกับเรื่องใดๆ (เข้าข่ายโรคซึมเศร้าป่ะ)


บางคนบอกว่าได้นอนโรงบาลก็ดีแล้วเป็นการพักผ่อน ก็จริงอยู่ พักผ่อนได้นิดนึง แต่นอนไม่ค่อยหลับอ่ะ ตื่นมันทุกชั่วโมงเลย ไม่ชินที่มั้ง กลับถึงบ้านนี่พยายามนอนก็นอนไม่หลับ สงสัยยังไม่ถึงเวลา ก็เลยนั่งทำงานต่อตามที่ร่างกายพอทำไหว


Blog วันนี้อาจจะดูงงๆวนไปวนมา อันนี้เป็นผลกระทบโดยตรงมาจากอาการเวียนหัวเลยหละ รู้สึกสมองผิดปกติๆ เสียวว่าเชื้อจะขึ้นสมองนิดๆเพราะเห็นหมอบอกว่ามันเข้ากระแสเลือดแล้ว แต่ดูอาการจากในเนตแล้วคงไม่มั้ง...


โอเค จะไม่อัพ Blog อีก 1-2 อาทิตย์ของจริงละนะ ไว้เจอกันใหม่ถ้าเรายังไม่ตาย

บทความที่เกี่ยวข้อง

Mar 14, 2009, 01:19
5022 views
พ่อแม่ เรา มัลดีฟ ญี่ปุ่น
Mar 25, 2009, 02:57
3856 views
1 อาทิตย์ผ่านไป
0 Comment(s)
Loading