ยังจำได้ดีสมัยป.โทปีหนึ่งซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการนำระบบแอดมิชชั่นมาใช้จนทำให้เกิดความวุ่นวายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ณ วันนั้นเอง ผมได้ประกาศกร้าวไว้ว่า "นี่แหละคือวิกฤติของอนาคตชาติ ลองดูคณะหลังจากนี้อีกสัก 3-4 ปี จะรู้ว่าคุณภาพของเด็กที่เข้ามาเป็นยังไงบ้าง"
วันนี้เองเปิดหนังสือพิมพ์แล้วก็เจอข่าว "เศร้าใจกับข่าวนิสิตวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยติด F วิชาฟิสิกส์เกินครึ่งคณะ" มันมาแ้ล้ว มันมาแล้ว...
แต่จะบอกว่าไม่เชื่อหรอกนะ เกินครึ่งคณะมันก็เว่อร์ไป สื่อสมัยนี้เอาแต่จะขายข่าวจนไม่สนใจความจริง เลยไปค้นๆในเนตจึงพบว่าสื่อนำเสนอเกินจริงจริงๆด้วย มีคนติด F แค่ 163 คน ... (จะพูดว่าแค่ก็ไม่ได้ เพราะว่าเยอะพอควร แต่ถ้าเทียบกับเนื้อข่าวก็คงต้องพูดว่าแค่) เอ... คณะกรูมี 300 คนตั้งแต่เมื่อไหร่ -_- จำได้ว่ามันมี 700-800 คนนะ! สรุปคือลงข่าวมั่วอีกแล้ว!!
แต่สำหรับเลข 163 คนก็ถือว่าเป็นเลขที่รับไม่ได้ มันเยอะเกินไปจริงๆ ถามว่าปัญหาอยู่ที่ไหน?
"Admission" "เด็ก" หรือ "อาจารย์"? ไม่มีใครบอกได้ แต่ผลก็ออกมาชัดเจนแล้วอ่ะนะ
ความจริงอย่างหนึ่งของการเรียนในระดับป.ตรีคือ การเรียนจะต่างไปจากตอนม.ปลายอย่างสิ้นเชิง หลายคนที่เทพมาตอนม.ปลายก็อาจจะเป็นควายไปเลยตอนอยู่ป.ตรี หรือหลายคนเป็นควายตอนม.ปลายแต่ใช้เขาไถจนติดที่นี่ได้ สุดท้ายได้เกียรตินิยมก็มี (เช่นเนยเป็นต้น) มันก็เหมือนเป็นชีวิตใหม่ ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด ดังนั้นทุกคนต้องขวนขวายดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดในตอนป.ตรีนี้ แต่ก่อนยังพอโอเคไปรอดกันได้เพราะทุกคนขยันและมีความพยายามจริง แต่พอแอดมิชชั่นเข้ามา เห็นได้ชัดเลยว่าเด็กที่มีความพยายามดังกล่าวมีน้อยลงมากอย่างมีนัยสำคัญ สุดท้ายก็เลยเป็นอย่างที่เห็น
"คนที่มีคุณภาพไม่ได้วัดกันที่ว่าเก่งแค่ไหน แต่เรียนรู้เร็วแค่ไหนต่างหาก"
ตอนนี้ใน pantip มีเด็กมาโอดครวญว่าข้อสอบยาก ยากกว่าสมัยพี่ๆเยอะ ไม่แปลกหรอกที่จะติด F กันกระจุย อยากจะตอบเหลือเกินว่า ถ้าข้อสอบมันเหมือนเดิมหรือง่ายขึ้น ชาติจะเจริญขึ้นมั้ย? ความจริงอย่างหนึ่งของมนุษย์โลกคือ เด็กรุ่นใหม่ต้องเก่งกว่าเด็กรุ่นเก่า ณ ช่วงอายุเดียวกันเสมอ ไม่เชื่อลองดูสิ สมัยนี้ 10 ขวบก็เขียนโปรแกรมกันมือเป็นระวิงแล้ว หรือไม่ก็เด็กอายุต่ำกว่า 10 ขวบรู้เรื่องมือถือเยอะกว่าเราอีก ก็มีอยู่ถมไป
เรื่องของการสอบ Admission แล้วได้เด็กคุณภาพแย่นี้เรากับอาจารย์คุยกันมาโดยตลอดว่ามันจริงมั้ย เด็กสมัยนี้เป็นไงบ้าง แล้วก็ได้คำตอบตรงกันว่า "จริง" เด็กไม่มีพื้นฐานเลย ขอแค่มีการปล่อยเกรดอย่างอู้ฟู่จากสถาบันเดิมมาก็มีโอกาสสอบติดได้ "ง่ายมาก" สุดท้ายก็เป็นปัญหาจริงๆ เห็นหรือยังหละ
ล่าสุดทางคณะวิศวฯจุฬาฯคงทนไม่ไหวแล้ว เลยตัดสินใจเปลี่ยนเกณฑ์การรับนิสิตใหม่กลายเป็นรับจากระบบ Admission 152 คนและรับตรง 610 คน >>คลิกดูรายละเอียด<< ก็หวังว่าจะกลับมาได้นิสิตคุณภาพอีกครั้งหนึ่งนะ
สุดท้ายฝากศธ.ให้ใช้ Admission ต่อไป จะได้บรรลุจุดประสงค์ที่ท่านๆตั้งใจไว้ว่าอยากให้คนไทยโง่ลง จะได้คุมง่ายขึ้น... ไว้อาลัย