"Yesterday is gone and Tomorrow may never come so.. Live for Today!!"
AIS on the Cruise ทริปหรรษา เมื่อ AIS เชิญไปทดสอบสัญญาณที่ภูเก็ต
27 Dec 2013 01:11   [8929 views]

กลับมาไทยได้สักสองอาทิตย์แล้ว แต่ก็ยังวุ่นมากอยู่ ไม่มีเวลามาอัพบล็อคเลย ถึงแม้จะมีอะไรอยากเล่าให้ฟังเยอะแยะมากมายก็ตาม


สัปดาห์ที่แล้วมีหมายด่วนไปสิงคโปร์อีกรอบ (หลังจากกลับมาได้ 5 วัน) ก็กลับไปทำโน่นทำนี่เสร็จเรียบร้อย กลับมาเย็นวันศุกร์ Land ปุ๊บก็มุ่งหน้าไปดูงานของน้องๆชาวหัวลำโพง ด้วยสภาพไมเกรนเพียวที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่เคยเป็นมา (ที่บอกว่าเพียว เพราะเคยมีหนักกว่านี้ แต่เป็นอาการแทรกซ้อนกับโรคอื่น แต่ครั้งนี้เป็นไมเกรนอย่างเดียวล้วนๆเลย) แต่ก็รู้สึกดีที่ได้เห็นน้องๆมีความสุขกับงานที่ทำขึ้นมาแล้วได้ใช้จริง จนทำให้คนที่มาใช้บริการมีความสุข มันช่างเป็นบรรยากาศหน้าหนาวที่แสนแฮปปี้


กลับบ้านดุ่ยๆด้วยสภาพแย่มาก เดินไม่ได้ (แต่ฝืนเดิน) แทบจะต้องให้ณิชอุ้ม พอถึงห้องก็ลงไปนอนหายใจรวยรินกับเตียงทันที พร้อมสิ่งที่กังวลมากอยู่ในใจสองอย่างคือ "พรุ่งนี้ต้องไปทริปกับ AIS แต่เช้า" และ "มีงานที่ต้องทำให้เสร็จก่อนไป"


เป็นทริปที่อยากไปมาก เพราะไม่ได้เจอเพื่อนฝูงมานาน และจากการไปอยู่สิงคโปร์มา ทำให้ความรู้สึก "อยากรู้จักเพื่อนใหม่" เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากล้น ตรงกับที่งานนี้ AIS เชิญ Blogger ที่รู้จักและไม่รู้จักไปร่วมทริปด้วยกันเต็มไปหมด ก็เลยตอบตกลงอย่างไม่ลังเล


และเพื่อเป็นการขอบคุณทาง AIS ก็เลยทำ "ระบบพิมพ์ภาพที่ระลึก" แบบ On The Go เพื่อพิมพ์ภาพของ Blogger ที่ไปร่วมทริปแล้วแจกสดระหว่างเดินทางเลย และอีกจุดประสงค์ก็คือจะ "วัดใจ" ความแรง AIS 3G ที่ภูเก็ตไปในตัว เพราะระบบพิมพ์นี้ต้องใช้เนตต่อผ่านมือถือตลอดเวลาเพื่อดึงรูปมาพิมพ์ เป็นการหา Story มาเล่าแบบเห็นจริง ไม่อิงนิยาย


แต่นึกออกใช่มั้ย ตอนนั้นห้าทุ่มแล้ว สถานการณ์ตอนนั้นคือ

- เนยนอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียง

- ต้องตื่นตีห้าเพื่อไปถึงสนามบินแต่เช้า

- ตัวระบบพิมพ์ภาพที่ระลึก ทำเสร็จไป 50% ตอนอยู่สิงคโปร์


ก่อนนอนจึงตัดสินใจกิน Ponstan ไป 2 เม็ด ตอนแรกอยากกินสาม แต่เกรงจะ Overdose แล้ว Side Effect จะพาให้ทุกอย่างพังได้ กินเสร็จก็นอนไปแบบไม่ตั้งนาฬิกาปลุก ...​ (วัดใจเห้ๆ)


และไม่รู้ว่าบุญพาวาสนาส่งอย่างไร ตีสองก็ตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวที่ยังคงเหลืออยู่แบบพอดีๆ คือปวดอยู่ แต่น้อยลงมาก อยู่ในระดับที่เดินได้แล้ว แต่ขยับตัวมากไม่ได้ ซึ่งทำให้ตื่นขึ้นมาเองกลางดึกได้ยังไงก็ไม่รู้ ปกติไม่ตื่นนะเนี่ย 555


จึงตัดสินใจ ... นอนต่อ


ก็เห้ละ จึงตัดสินใจ ฮึด ! และเริ่มนั่งทำงานต่อให้เสร็จ โดยกะจะใช้เวลา 2 ชั่วโมง (จากเดิมคาดว่าต้องใช้ 6 ชั่วโมง) แล้วนอนต่อเพื่อให้ไมเกรนหาย


ต้องเรียกว่านาทีนั้นขับเคลื่อนด้วยแรงใจล้วนๆ ลุยต่อท่ามกลางไมเกรนและมารณิชที่คอยลุกมาบอกให้ไปนอนทุกครึ่งชั่วโมง 555 สุดท้ายก็ทำเสร็จจนได้ตอนตีห้าอย่างไม่น่าเชื่อ บอกไม่ถูกว่าดีใจแค่ไหน สิริรวมใช้เวลา 3 ชั่วโมง และนี่คือผลงานจ๊ะ

แล้วก็กระโดดไปนอนต่อหนึ่งชั่วโมง ตื่นสายเล็กน้อย หกโมงกว่าๆ เจออุปสรรคอีกเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ถึงสนามบินตรงเวลา 8 โมงตรง เย้ เย ~~~


ทั้งหมดที่พิมพ์มานี้ ... เกริ่นนำครับ เนื้อหาจริงๆ เริ่มต่อจากนี้ ... กร๊ากกกกกกก


นาทีที่ลงจากแท็กซี่หน้า Terminal สนามบินดอนเมือง เพลงชาติก็ดังขึ้น เป็นสัญญาณให้รู้ว่า "กุไม่สายแล้ววววว"​ (หมายเหตุ: ออกจากคอนโดย่านพร้อมพงษ์ตอน 7:30) เดินเข้าไปอย่างเฉิดฉาย สะบัดบ็อบดังฝั่บ (โม้ทั้งสิ้น) แล้วก็ได้เจอกับ PR มาต้อนรับอย่างอบอุ่น


Check In เรียบร้อยก็ได้ป้ายชื่อมาห้อยเล่น เค้าเรียกเราว่า AIS Celeb Net หละ รู้สึกแปลกๆ เพราะเดี๊ยนไม่ใช่เซเล็บ แต่ก็เอาน่าา

เพิ่งมารู้ตอนหลังจาก Check In เสร็จว่านี่เป็นทริปที่ใหญ่มาก มี Blogger กว่า 40 ชีวิต พร้อมทั้งผู้บริหารระดับสูงของ AIS ก็มาร่วมทริปด้วยเช่นกัน เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญไปในครั้งนี้ครับ กราบบบบ


ทริปนี้ได้รับเชิญจากทาง AIS ทั้งเนยและณิช แบบแยกกัน และทาง PR ไม่รู้ว่าเป็นแฟนกัน เพราะเป็น Blogger คนละสายกัน เนยจะมาทาง Beauty ส่วนณิชจะไปทางไอที ...​ ไม่ใช่สินะ ความจริงณิชเป็นสาย Life Style ส่วนเนยตอนแรกเป็นสายไอที แต่ตอนนี้ก็มา Life Style แล้วเช่นกัน (อ่านออกเสียงว่าไร้สไตล์) ก็เลยถือเป็นการไปเที่ยวผ่อนคลายไปในตัวเลย


สำหรับ Blogger ที่ไปร่วมทริปนี้มาจากหลากหลายสาขามากมาย ทั้งไอทีเอย Life Style เอย Beauty เอย กินเที่ยวเอย เรียกว่าครบทุกสายเลยหละ ระดับแนวหน้าอย่างคุณเอิ๊ก คุณยูริและคุณตูนนี่ก็มา

ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่ทำให้ได้รู้จักกันมากขึ้น ทุกคนล้วนน่ารักและเป็นกันเอง สนุกสนาน เฮฮาาาา


แต่ตอนนั้นทุกคนยังง่วงอยู่ โดยเฉพาะข้าพเจ้า ไมเกรนยังไม่หาย ก็เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูป ...​ ตัดไปตอนจะขึ้นเครื่องเลยละกันนะ 555 สายการบินที่ใช้บริการครั้งนี้คือนกตัวน้อยๆอย่างนกแอร์

วืบบบบบ


บินถึงภูเก็ตแล้ว !


ถ่ายภาพกับน้องอุ่นใจเป็นที่ระลึก ...

AIS คงดีใจ 555


จากนั้นก็จิ้ม Speedtest เล่นๆสักรอบนึง ผลได้ตามเน้ !

เนตเร็วประทับใจจ๊ะ จากการกดใช้งานก็ลื่นปรี้ดๆ ลื่นกว่าตอนอยู่กรุงเทพฯอีก (เทสต์ที่สนามบิน)


จากนั้นมวลมหาประชาชนก็เคลื่อนพลเข้าสู่รถบัส

ประชากร 90% นั่งดูมือถือจ้าาาา


แล้วก็มุ่งสู่ภารกิจแรก ...​ รับประทานอาหารเที่ยงที่ร้านหมี่ต้นโพธิ์

ภารกิจทดสอบความเร็วเนตด้วยเครื่องพิมพ์ก็เริ่มต้นขึ้นที่ร้านนี้ นั่งพิมพ์แล้วแจกภาพทีละคนๆ เป็นการเทสต์จริงครั้งแรกหลังจาก Dev เสร็จ (แล้วไม่ได้ทดสอบอะไรเลย) ผลออกมาน่าพอใจมากกกก มีแต่คนชอบและฮือฮาที่มันพิมพ์ภาพที่เพิ่งโพสท์ออกมาได้เลย ปลาบปลื้มทีเดียว

ผลของการทดสอบจุดแรกนี้ ​ณ หมี่ต้นโพธิ์ ต้องบอกว่า เนตลื่นแบบไม่มีสะดุด ทุกภาพใช้เวลาโหลดไม่เกิน 2 วิ ทุกอย่างทำงานได้โดยไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย ผ่านจ้าาาา


ส่วนจุดพีคของร้านหมี่ต้นโพธิ์คือนาทีที่แม่ค้าได้ตุ๊กตาอุ่นใจไปกองนึง แล้วเอาไปกอดๆดีใจอย่างแฮงงง จนทุกคนต้องขอถ่ายรูป น่าร้ากกก

จบจุดแรกไป ทุกคนพุงกางและก็มุ่งหน้าสู่ภารกิจถัดไป "เพ้นท์ผ้าบาติค" มีผ้าบาติคที่ถูกวาดไว้แล้วด้วยเทียนเป็นลายน้องอุ่นใจออนเดอะบีช มาให้เราเพ้นท์เอง โดยมีอาจารย์มาสอนเกริ่นนำแป๊บนึง

เป็นครั้งแรกที่ได้เพ้นท์ผ้าบาติค ก็เพิ่งรู้ว่าเทียนมันป้องกันการซึมของสี เวลาระบายก็ระบายทีละช่องอย่างไม่ต้องกังวลใจ เพราะมันไม่ซึมไปช่องข้างๆแน่ (ถ้าไม่ทำพลาดเอง ... เหมือนที่เราทำไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า กรั่กๆ) เป็นกิจกรรมที่ทุกคนสนุกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ...​ ณิชกานต์

เสียดายมีเวลาไม่มาก ก็เลยต้องรีบๆทำแล้ววิ่งไปเช็คอินที่โรงแรมต่อ แต่ก็ระบายเกือบเสร็จ ~~~

จากนั้นคณะทัวร์ก็พาลูกทัวร์เข้าโรงแรม ทริปนี้ได้ไปพักโรงแรมสุดชิคอย่าง Foto Hotel ซึ่งจัดโรงแรมเก๋มากกกกกกกก ชอบแบบว่า เดี๋ยวจะกลับไปเที่ยวเองอีก ชอบมาก

โรงแรมมี Mascot เป็นหมียักษ์ ตอนแรกนึกไม่ออกว่าเป็นยังไง คงตุ๊กตาหมีธรรมดาๆมั้ง แต่พอถึงแล้วต้องบอกว่าน่ารักมากกกกก ไม่ได้มีตัวเดียว มีทุกหนทุกแห่งในโรงแรม แม้กระทั่งในห้อง

ชักภาพร่วมกันสักเล็กน้อย ... กรั่กๆ

ณิชก็ไม่พลาดจะชักภาพร่วมกันด้วยเช่นกัน ...

ชักจะสงสารหมี - -


ตอนเข้าห้องก็กรี้ดเบาๆเลยทีเดียว AIS ทำประทับใจอีกแล้ว มีสัตว์ประหลาดสีเขียวๆนอนอยู่บนเตียง

ดูใกล้ๆ

ขอบคุณ AIS มากมายฮับ ใส่ใจอีกแล้ว > <


โรงแรมนี้อยู่ตรงหน้าผา ไต่ลำดับลงไปเป็นขั้นบันได วิวสวยมาก ตายอยู่ตรงนั้นเลย

ถ้าใครไป แนะนำให้พุ่งตรงขึ้นไปนอนเล่นตรงสระว่ายน้ำเลย ชิวสุดๆ


ส่วนด้านนอกของห้องพัก(ในบางห้อง) จะเป็นสนามหญ้าส่วนตัวให้ออกไปวิ่งเล่นได้

เสียดายมากที่ไม่มีเวลา เลยไม่ได้ออกไปนั่งชิวเท่าไหร่ (ถามว่าเอาเวลาไปทำอะไร ... นั่งพิมพ์รูปให้คนร่วมทริปอยู่จ้าาาา แหะๆ)


สำหรับระเบียง บอกห้องก็จะมีเบาะให้นอนเล่น ส่วนบางห้องก็จะเป็นอ่างแช่น้ำให้แช่ไปดูวิวไป เท่(และหวิว)มาก

นั่งพักได้แปีบเดียว ก็ถึงเวลาออกไปสู่กิจกรรมต่อไปอันเป็นกิจกรรม Highlight ... "ขึ้นเรือ Cruise" ซึ่งอยู่อีกฟากนึงของเกาะ ...​ ครั้งนี้ทำให้รู้ว่าภูเก็ตมันใหญ่แค่ไหน ฮ่าๆๆๆ


เมื่อถึงบริเวณสะพานเรือ ก็มีคณะต้อนรับอย่างอบอุ่น ...​ ผู้บริหาร AIS และเหล่าผู้จัดการ + PR จ้าาาา น่าร้ากกกก

นี่เป็นครั้งแรกๆที่ไปปาร์ตี้บนเรือ Cruise ตื่นเต้นทีเดียว

ในขณะที่พระอาทิตย์เริ่มจะคล้อยลง ก็ถึงเวลาชักภาพรัวจ้าาา

ชิวไปชิวมาพักนึง ผู้ใหญ่ใจดีก็มากล่าวต้อนรับอย่างเป็นทางการ ช็อตเด็ดสุดคงเป็นประโยคที่บอกว่า "เราไม่แย่กว่าเจ้าอื่นแล้ว" ...​ ย้อนกลับไปตอนต้นปี ท่านเหล่านี้เคยออกมาประกาศยอมรับว่า "เรายังแย่กว่าเจ้าอื่นอยู่ แต่ขอเวลา 1 ปี เพื่อให้ทัดเทียม" และนี่ผ่านไปยังไม่ถึงปีดี สำหรับข้าพเจ้า ตอนนี้ AIS 3G ก็กลับขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งเรียบร้อยแล้ว ขอปรบมือให้จากใจจริงครับ สำหรับการพูดได้ทำได้ และไม่ใช่แค่ทำได้ แต่ยังทำได้ "ดีมาก" อีกด้วย

จากนั้นก็ถึงคิว Mini Concert จากเฮียแหนม รณเดช เจ้าของเพลง "ให้ช้อนนนนดูแลเธอ" ถือเป็นครั้งที่สามแล้วที่ได้ฟังคุณแหนมเล่นสด เป็นคนที่ Entertain เก่งและร้องเพลงดีจริงๆ ขนาดลมแรงมากกกกจนไมค์แทบปลิวก็ยังไม่หวั่น

ทุกท่านรับชมกัน ...​ อย่างสงบเสงี่ยม 555

ความจริงทุกคน Move และร้องตามอย่างสนุก แต่ภาพมันเบล้อเบลอ เลยเอาลงเฉพาะภาพนิ่งๆละกัน แหะๆ ^^"


ระหว่างที่ทุกคนสนุกสนานอยู่นั้น เราก็ไม่ลืมภารกิจ "พิมพ์ภาพ" ที่วางระบบไว้บนเรือเรียบร้อย เพื่อจะทดสอบความเร็วเนตกลางทะเลให้เห็นกันจะจะ (คาดการณ์จากสายตา น่าจะห่างจากฝั่งประมาณ 1 กิโลเมตร) เดินสั่งพิมพ์รูปผ่านมือถือจากบริเวณคอนเสิร์ตอย่างต่อเนื่อง และทุก 5 นาทีก็จะเดินลงไปห้องที่วางเครื่องพิมพ์ไว้ แล้วก็ไปหยิบภาพมาแจก

น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่งที่เนตเร็วมากกก ไม่มีปัญหาเลยแม้แต่วินาทีเดียว ! Speedtest ดูก็ได้ความเร็วเท่านี้เอ๊งงง

ภารกิจนี้ถือว่าผ่านฉลุยยยยย มีความสุขสุดๆ เนต AIS 3G ทำได้ฟินมากจ๊ะ


จบท้ายสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าด้วยพลุกว่าห้าชั่วโมง ! ...​ โกหก ความจริงคือราวๆ 2 นาที แต่จำนวนไม่อั้นและสวยงามมากมาย ^ ^

ก่อนลงจากเรือ ก็ขอท่านผู้บริหารถ่ายภาพด้วยนิดหน่อย คงไม่มีโอกาสบ่อยๆอ่ะโนะ แหะๆ ^^" ซึ่งท่านๆก็เป็นกันเองมาก รักเลย

แล้วก็ถึงเวลาเดินทางกลับ หมดสภาพ เหนื่อยมาก (ไม่เหนื่อยได้ยังไง เมื่อวานอยู่สิงคโปร์ เมื่อคืนอยู่กรุงเทพฯ​ และวันนั้นตระเวณทั่วภูเก็ต) อยากพักผ่อนมากมาย แต่ก็ไม่วายเกิดเหตุฉุกเฉิน ต้องนั่งมอไซค์แหวกว่ายความหนาวไป 7-Eleven พอถึงห้องก็ "หลับเป็นตาย" จ้าาา


เป็นการหลับที่สนิทที่สุดในรอบปีก็ว่าได้ หลับแบบไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่ฝันอะไรเลย แค่นอนและนิ่งอยู่อย่างงั้น ตื่นมาอีกทีตอน 8 โมงเช้า สดชื่นมากกกกก


เช้านั้นไม่พลาดที่จะขึ้นไปไขว่คว้าหาอาหารกินบนห้องอาหารโรงแรม ซึ่งต้องบอกกันตามตรงว่าไม่อร่อยเลย ...​ แม้แต่โอวัลตินยังชงไม่พอดีเลย T_T เลยกินไปไม่เยอะมาก แต่ที่กินไปอิ่มเต็มๆเลยคือวิวจ้าาาา สวยมากกกกก มากกกกกก มากกกกกกก (ห้องอาหารอยู่ตรงสระว่ายน้ำ)

สรุปเลยใช้เวลาทานอาหารไป 10 นาที และถ่ายรูปอีกครึ่งชั่วโมง 555 แนะนำเลยนะ ถ้าใครไปให้มุ่งตรงไปที่สระว่ายน้ำแบบไม่ต้องคิดชีวิต วิวดีที่สุดแล้ว


แล้วก็โดนเกณฑ์ไปขึ้นรถแบบเร่งด่วน ...​ ด่วนจนลืม Check Out อ่ะ 555 ก็เลยต้องกราบอ้อนวอนพี่คนขับรถตู้เวียนให้ Check Out ให้ (แหะๆ)


พอถึงรถบัส ก็พบว่าตัวเองมาถึงชุดแรก ต้องรออีกราวๆ 5 ชุด ดังนั้นเลยลงเดินหาด ถ่ายรูปเล่นสักนิดสักหน่อย

สำหรับกิจกรรมวันที่สองเป็นกิจกรรมเพลินๆ เดินทางทั่วเกาะอีกแล้ว 555 เริ่มด้วยไปชมหอยที่ตลกที่สุดในโลก

มันมีมุก ...


ก็ได้รู้จักประเภทของมุก เห็นการแกะหอยสด ขั้นตอนการแซะ จนถึงสินค้าที่แปรรูปแล้ว

ได้โปรดอย่าถามราคาจ๊ะ ซึ่งหลังจากเดินวนศูนย์ ก็จบท้ายด้วยห้องขายสร้อยมุก กำไลมุก ต่างหูมุก​ ฯลฯ ซึ่งเมื่อเห็นราคาแล้วก็ได้แต่ชื่นชมและนิยมอยู่ไกลๆ ... ซื้อคอนโดกลางเมืองได้เลยนะนั่น T^T


หลังจากดูแต่ในโชว์รูมจบแล้ว ก็ถึงเวลาไปวิ่งเล่นที่ที่เค้าเลี้ยงหอยมุกไว้จริงๆ ด้วยการขึ้นเรือ Cruise ...

อ้าว ไม่ใช่หรอ นั่นแหละ ตามนั้นๆ


ได้เห็นเค้าเลี้ยงยังไงแล้วก็รู้สึกเท่และทึ่งดีเหมือนกัน

คนเลี้ยงต้องใช้ความอดทนมาก ต้องเลี้ยงเป็นปีๆกว่าจะโตจนเก็บมุกได้ บางปีหอยตายยกครัวจนไม่ได้มุกเลยก็มี แต่ถ้าได้ขึ้นมา บางเม็ดราคาเป็นแสนก็มี

เสร็จจากเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงหอยมุกแล้ว ก็ขึ้นเรือต่อไปหม่ำข้าวกันบนร้านกลางทะเลอย่างร้านชื่อว่า Scallop และแน่นอน ชื่อร้านมาอย่างงี้ จะพลาด Main Dish อย่างกุ้งมังกรได้อย่างไร !

ดูจากภาพอาจจะกะขนาดไม่ถูก แต่บอกได้เลยว่าใหญ่มาก ความยาวน่าจะร่วม 9-10 นิ้วได้ ซึ่งก็ต้องยอมรับและเขียนไปตรงๆว่าไม่อร่อยเท่าไหร่ เนื้อกุ้งแห้งมากมากมากมาก รสชาติก็ค่อนข้างปรุงแปลกๆ สุดท้ายกินข้าวผัดเป็น Main Dish แทน แนะนำให้ไปร้านอีกร้านใกล้ๆกันมากกว่า อยู่กลางทะเลเหมือนกัน แต่อร่อยกว่าจ้า


และนั่นเป็นจุดสุดท้ายที่ทุกท่านได้ร่วมเที่ยวด้วยกัน งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา จึงถึงเวลาที่ต้องกลับกันแล้ว

ต้องขอบคุณ AIS มากมายสำหรับทริปดีๆในครั้งนี้ เคยไปมาหลายทริปแล้ว ทริปนี้จัดดีที่สุดแล้วครับ ไม่รู้สึกอึดอัดติดขัดประการใดเลย ถึงเวลาจะมีแค่ 2 วัน แต่ก็ใช้อย่างคุ้มค่าแต่ไม่คลุ้มคลั่ง ^^


สารภาพว่าไม่ได้ไปเที่ยวมานานมากแล้ว เพราะชีวิตค่อนข้างยุ่งกับงานมากจนไม่มีเวลาไปพักผ่อน ครั้งนี้โชคดีที่ได้ไปด้วยกันทั้งคู่ ถือเป็นการผ่อนคลายไปในตัว ถึงจะเป็นเวลาสั้นๆแต่ก็มีความสุขมากครับ ขอบคุณ AIS ที่ทำให้วันเสาร์อาทิตย์เหงาๆกลายเป็นสองวันอันแสนวิเศษ และขอบคุณที่ทำให้ผมมี 3G คุณภาพดีใช้ในประเทศไทยด้วยขอรับกระผม ขอบคุณครับ =)

บทความที่เกี่ยวข้อง

Mar 3, 2014, 16:44
8488 views
ตะลุยทั่วกรุง กับภารกิจวัดสัญญาณ AIS ในวันที่ AIS3G ครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ
Jan 1, 2014, 00:43
6236 views
สวัสดีปีใหม่ 2014 ครับ =)
0 Comment(s)
Loading