"ไม่ต้องมีเวทมนตร์ ไม่ต้องไปหาแม่มด แค่คุณทำสิ่งที่โลกระลึกถึงตลอดกาล แค่นั้นคุณก็เป็นอมตะแล้ว"
วิธีขึ้นรถเมล์ที่สิงคโปร์ ชีวิตที่ดีกว่าขึ้นรถไฟฟ้า
5 Oct 2013 23:01   [56415 views]

มาสิงคโปร์เป็นรอบที่สิบ วิธีการเดินทางสาธารณะปกติก็ทำเป็นแค่ เดิน ขึ้นรถไฟฟ้าและขึ้นแท็กซี่(ที่แพงมหาโหด) แต่พอต้องมาใช้ชีวิตทื่นี่ก็จึงได้รู้ว่า วิธีที่เดินทางได้สะดวกและถูกที่สุดคือการ "ขึ้นรถเมล์"


ก่อนหน้านี้ไม่ได้ไม่รู้นะว่าสิงคโปร์มีรถเมล์ แต่เหตุผลเดียวที่ไม่เคยขึ้นเลยถึงแม้จะมามากกว่าสิบครั้งแล้วคือ "กลัว" คือขึ้นไม่เป็นอ่ะ คือมันจะเหมือนเมืองไทยมั้ยอ่ะที่ขึ้นไปแล้วโดนกระเป๋ารถเมล์ด่า ถ้าขึ้นไปแล้วงงๆจะโดนอะไรมั้ยอ่ะ บลาๆๆๆ


แต่มาอยู่นี่โชคดีที่วันแรกก็มีคนมาสอนขึ้นรถเมล์เลย และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ข้าพเจ้าก็ไม่ขึ้นรถอย่างอื่นเลย รถเมล์นี่แหละ เร็วสุด ถูกสุด สบายสุด มีความสุขสุดๆละ ความรู้สึกนี่ต่างจากการขึ้นรถเมล์ที่ไทยแบบคนละคลาสเลย อารมณ์ประมาณรถไฟชั้นสามกับเครื่องบิน Economy Class (ของประเทศไหนเป็นอันไหน เชื่อว่าคนไทยอนุมานได้ไม่ยาก) ทุกครั้งที่เดินทางด้วยรถเมล์ มันช่างมีความสุข เหมือนกับได้พักผ่อน เหนื่อยน้อยกว่าขึ้นรถไฟฟ้าเสียอีกนะเออ


จึงขอเขียน Blog วิธีการขึ้นรถเมล์เผื่อพี่น้องชาวไทยอยากลองขึ้นบ้างยามมาเที่ยวหรือมาทำงาน


การโบกรถและการจอดรถ

หากคิดว่ารถเมล์สุดแสนศิวิไลซ์ที่นี่จะจอดทุกป้ายหละก็ ...​ผิด ! เพราะแท้จริงแล้วเค้าจอดเฉพาะที่จำเป็นจ๊ะ โดนเงื่อนไขการจอดของรถเมล์ที่นี่คือ "ต้องมีคนโบกขอขึ้น" หรือ "มีคนในรถกดขอลง" เท่านั้น หากไม่มีสองกรณีนี้ เค้าไม่จอด และการโบกรวมถึงการกด จะต้องทำก่อนถึงป้ายสักระยะ ไม่งั้นเค้าจะเข้าคอกป้ายรถเมล์ไม่ทัน ดังนั้น ต้องรู้ตัวเองนะว่าจะลงป้ายไหน บนรถเมล์ไม่มีบอกว่าถึงไหนแล้ว (แต่ยุคนี้แล้ว เรามีเครื่องมือช่วย ไปดู Section หลังๆ)


การจ่ายค่าโดยสาร

ที่นี่ไม่มีกระเป๋ารถเมล์คอยเก็บค่าโดยสารเหมือนที่ไทย การจ่ายเงินมีอยู่สองวิธี และจะต้องทำตั้งแต่ตอน "ขึ้นรถ" หากจะขึ้นรถเมล์ต้องเตรียมสติไว้ให้ดี เพราะไม่มีมานั่งชิวแล้วรอคนมาเก็บเงินนะ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นตั้งแต่ก้าวแรกที่ขั้นรถละ

1) จ่ายด้วยบัตร EZLink- ตรงหน้าประตูจะมีเครื่องแบบนี้ แปะไปเลย​ โป้งง

พอแปะเสร็จจะมีเสียงร้องตุดุ๊ดๆๆๆ ระหว่างแปะนี้พนักงานจะมองหน้าทุกคน(แบบผิวเผิน) อย่าไปเกร็ง แปะไป และก็หากบัตรเหลือตังค์น้อยหรือบัตรหมด มันก็จะร้องโวยวายให้ขายหน้าประชาชีด้วย ดังนั้นเติมเงิน EZLink ให้มากกว่า 5 เหรียญเสมอนะจ๊ะ

พอถึงปลายทางก็แปะเครื่องแบบเดียวกันตรงประตูที่เราลง มันก็จะแจ้งว่าใช้ไปเท่าไหร่และก็บัตรเราเหลือเท่าไหร่

พูดง่ายๆ เหมือนขึ้นรถไฟฟ้าอ่ะ เป๊ะ

2) จ่ายด้วยเงินสด- ประโยคแรกขอบอกว่า "โคตรยาก ไม่แนะนำอย่างยิ่ง" เพราะต้องมาหยอดเหรียญตามจำนวนค่าโดยสาร ซึ่ง ...​ ใครจะไปจำได้ฟระ !! แต่ตรงนี้รัฐบาลเตรียมพร้อมไว้แล้ว ตรงป้ายรถเมล์จะมีเขียนว่าระยะทางเท่านี้ๆ กี่บาท และก็ไป Map กับเส้นทางสายรถเมล์แต่ละสายที่ลิสต์ไว้อย่างดีบนป้ายได้เลย

พอขึ้นรถก็จะมีเครื่องไว้หยอดเหรียญพร้อมปุ่มสัก 10 ปุ่ม ก็ใช้ไม่เป็นเหมือนกัน แต่เหมือนว่าต้องกดปุ่มตามจำนวนเงินที่จะจ่ายแล้วหยอดเหรียญลงไปนะ ซึ่งเครื่องไม่มีทอน กรุณาเตรียมให้พอดี หรือไม่ก็เตรียมเกินไว้ ...

ส่วนตอนลงอันนี้ไม่ต้องทำอะไร ยืดอกแล้วพุ่งลงไปอย่างเต็มภาคภูมิได้เลย

ดังนั้นคำแนะนำเดียวเรื่องจ่ายค่าโดยสารของเนยเลยคือ "จงมีบัตร EZLink หากไม่มีก็จงอย่าขึ้นรถเมล์"

เคยถามคนท้องถิ่นที่นี่ว่าถ้าเงินไม่พอจ่ายหรือลืมเอาบัตรมาจะทำยังไง ได้คำตอบประมาณว่า "เนียนๆไป" ก็นะ ที่นี่ไว้ใจกันมากๆ เคยเห็นคนแปะบัตรไม่ผ่านแล้วคนขับก็ไม่ว่าอะไรอยู่เหมือนกัน แต่ก็อย่าเสี่ยงเล้ย


การขึ้นและลงรถ

ด้วยกลไกแล้ว ที่นี่จะขึ้นที่ประตูหน้าเท่านั้น (เครื่องจ่ายแบบหยอดเหรียญมีแค่ข้างหน้า) ส่วนการลงจะลงได้ทั้งประตูหน้าและประตูหลัง แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ด้วยวัฒนธรรมอันดีงามและความเป็นระเบียบประจำชาติแล้ว ทุกคนจะขึ้นประตูด้านหน้าและลงประตูด้านหลังกันอย่างพร้อมเพียง ซึ่งช่วยให้ทุกอย่างเป็นไปได้อย่างราบรื่นมาก ดังนั้นถ้าเรารอรถเมล์อยู่ ก็ไปรอแถวๆประตูหน้าได้เลย


การดูสายรถเมล์

สิ่งที่คุณต้องรู้คือ "คุณจะไปไหน" ...​ (ก็แหงสิฟระ) แต่ๆๆๆ มันไม่ได้ง่ายอย่างงั้น จริงอยู่ว่าที่ป้ายรถเมล์จะมีข้อมูลของทุกสายที่ผ่านอย่างละเอียดว่าจะไปลงไหนได้บ้าง แต่มันบอกเป็นชื่อป้ายอ่ะ เช่น Opp. Normanton Park, Opp. One North ... คือไม่มีาทางตรัสรู้ว่ามันที่ไหน

ดังนั้น นี่มันปี 2013 แล้ว ... หยิบมือถือมาเลยจ๊ะ เปิด Google Maps เลยจ๊ะ จิ้มเลยจ๊ะว่าจะไปไหนแล้วให้มัน Route หาสายรถเมล์ให้ ซึ่งปกติมันจะ Route มา 4 เส้นทาง บางทีก็สายตรงเลย บางทีก็ต้องไปต่อ แรกๆยังไม่ชินก็ทำตามมันแนะนำได้เลย หลังๆชินแล้วก็อย่าไปเชื่อมันมาก ...​ 555 โอกาสที่มันจะเลือกสายที่ดีที่สุดเหมาะสมที่สุดให้ อยู่ที่ 80% โดยประมาณ บางทีก็ต้องใช้ประสบการณ์ในการเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดเหมือนกัน แต่ถ้ายังไม่เชี่ยว ทำตาม Google Maps ได้อยู่ ไปถึงปลายทางได้แน่ มิมีปัญหาาา

และ Google Maps นี่เองจะช่วยให้คุณรู้ว่าคุณใกล้ถึงปลายทางหรือยัง และก็จะไม่มีปัญหาในการกดผิดป้ายอีกต่อไป ...​เรื่องซิมต้องมีเนตอิฮั้นไม่พูดถึงละกันนะ ถือว่าต้องมี แหะๆ


รถเมล์ไม่ได้วิ่งตลอดเวลา ดูตารางเวลาด้วย

วันแรกๆที่ยังไม่รู้ว่าบางสายมันไม่ได้วิ่งทุกวัน บางวันวิ่งไม่ทั้งวัน บลาๆๆๆ ก็เลยไปนั่งรอรถเมล์ครึ่งชั่วโมง สงสัยเหลือเกินว่าทำไมไม่มาสักที จึงเปิดแอพฯ MyTransport แอพฯสำหรับตรวจสถานะของขนส่งสาธารณะของสิงคโปร์ดู พบว่ารถไม่วิ่ง ...​ ร้องไห้อยู่ตรงนั้น

ดังนั้นจึงต้องศึกษาเพิ่มก่อนว่ารถที่เราจะขึ้นมันวิ่งวันไหนบ้าง เมื่อไหร่บ้าง ตรงป้ายรถเมล์จะมีเขียนไว้ค่อนข้างละเอียดจ๊ะ ดูจากตรงนั้นได้เลย


คนขับและการขับ

ถึงที่นี่จะไม่มีสาย 8 ถึงที่นี่รถเมล์จะไม่ออกเลนอื่น(ถ้าไม่จำเป็น) ถึงที่นี่จะขับค่อนข้างสุภาพ แต่การขับแบบโหดร้ายทารุณก็มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆเหมือนกัน เกือบหน้าคว่ำไปหลายรอบมาก ทั้งหมดทั้งมวลก็แล้วแต่จิตใจคนขับเลย แต่โดยรวมจะค่อนข้างราบรื่นจนจบการเดินทางนะ ถ้ายืนก็เกาะดีๆหน่อยละกัน


ค่าโดยสาร

ค่าโดยสารมีแยกตามประเภทรถและระยะทาง เริ่มต้นที่ 0.68-0.73 สำหรับคนทั่วไป หรือประมาณ 18 บาทเท่านั้นเอง และก็จะเพิ่มตามระยะทาง ซึ่งกว่าจะเพิ่มก็ไกลเหมือนกันอ่ะ 3-4 โลเพิ่มที และเพิ่มทีละ 10 เซ็นต์เท่านั้นเอง (2.5 บาท) เรียกว่าโคดดดดถูก ถูกกว่ารถไฟฟ้ามากโข

ยังไม่พอ ได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาจากท่านๆทั้งหลายว่า ถ้าเกิดต้องต่อรถภายในเวลาที่กำหนด (ไม่ 30 นาทีก็​ 45 นาทีนี่แหละ) และเราจ่ายด้วย EZLink มันจะงดเว้นค่าเริ่่มต้นให้ในคันที่เราต่อ เช่นขึ้นคันแรกจ่าย 0.73 ขึ้นคันต่อไปจ่ายแค่ 0.20 เป็นต้น ซึ่งถือว่าระบบดีมากกกกก ประทับใจสุดๆ ตะกี้ลองไปเล่นด้วยการต่อ 3 คัน ปรากฎว่ามันก็จ่ายประมาณนี้ คันแรก 0.73 คันต่อไป 5 ป้าย 0.20 คันต่อไปป้ายเดียว ก็ 0.20 เช่นกัน

เรื่องต่อรถไม่ได้ใช้แค่รถเมล์นะ รถไฟฟ้าก็ถือว่าอยู่ในระบบนี้ด้วยเช่นกัน แค่ Rate จะเปลี่ยนไปนิดหน่อย ซึ่ง ...​ ยังคำนวณไม่ถูกเหมือนกัน 555 เอาเป็นว่าถ้าต่อรถมันถูกดีนะ


บรรยากาศการรอรถเมล์

การรอรถเมล์ก็ค่อนข้างชิวนะ บรรยากาศดี สะอาด ปลอดภัย นั่งรอได้เลย และรอไม่เคยนาน รถมาถี่มาก

(ภาพด้านบนนี้เป็นเพื่อนๆใน JFDI ตอนไปขึ้นรถเมล์หมู่ด้วยกัน 20 คน)


บรรยากาศภายในรถเมล์

รถเมล์ที่นี่สะอาดมาก ขยะสักชิ้นไม่เคยเห็น แต่เบาะมีดำๆบ้าง น่าจะเพราะใช้งานมานาน แต่ไม่ได้สกปรกแบบนั่งแล้วตูดเปื้อนแต่อย่างใด แค่เบาะมันดำตามการใช้งาน

ชีวิตในรถเมล์ถือว่าเป็นอะไรที่สบายมาก ขึ้นไปแล้วก็ปล่อยตัวปล่อยใจได้เลย (จนเลยป้ายมาหลายรอบแล้ว) วิวรอบข้างก็สวยสดชื่นรื่นรมย์

และสิ่งที่ชอบมากคือรถเมล์สองชั้น มีโอกาสขึ้นเมื่อไหร่ กระโดดไปนั่งเล่นแถวหน้าทุกที

ก็คงจบประมาณนี้ขอรับ ใครมาเที่ยวสิงคโปร์ก็มาลองขึ้นรถเมล์เล่นได้น้า สนุก ชิว มีความสุข ^_^


อย่างไรก็ตาม รถเมล์มีไว้สำหรับการเดินทางที่ไม่ไกลมากนัก หากจะขึ้นจาก East มา West ก็ทำได้ แต่อาจจะหลายต่อหน่อยและน่าจะช้ากว่ารถไฟฟ้า หากต้องเดินทางไกลมาก ยังคงแนะนำขึ้นรถไฟฟ้า(หาเส้นทางที่สั้นที่สุดดูด้วย) แล้วค่อยต่อรถเมล์อีกที ชีวิตจักดีเองครับ แต่ถ้าไม่ไกลมาก แบบไม่เกิน 10 โล ขึ้นรถเมล์ได้เล้ย-


สวัสดีครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

Dec 27, 2013, 01:11
8797 views
AIS on the Cruise ทริปหรรษา เมื่อ AIS เชิญไปทดสอบสัญญาณที่ภูเก็ต
Sep 21, 2013, 19:49
14507 views
ประสบการณ์ F1 ครั้งแรกในชีวิต
0 Comment(s)
Loading