เขียนไว้หน่อยละกันถึงเรื่องที่ไปได้ที่สามโลกมา จริงๆก็ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่หรอก หรือจะบอกว่าไม่ตื่นเต้นแม้แต่นิดเดียวก็ได้ เริ่มชินชากับการแข่งแล้ว ถึงจะเป็นระดับโลกก็เถอะ ที่ยังตื่นเต้นคือการที่เราได้ไปพบปะผู้คนมากกว่า โดยมีงานแข่งนี้เป็นตัวเชื่อม ฟังดูน่าหมั่นไส้นะ แต่ก็รู้สึกอย่างงั้นจริงๆนี่นา
สำหรับงานแข่งที่ไปแข่งมานี้มีชื่อว่า Forum Nokia Calling All Innovators ประกาศแข่งไว้นานมากแล้ว ตั้งแต่ Q3-Q4 ของปีที่แล้ว งานแข่งแบ่งออกเป็นสามหมวดคือ ECO-Challenge (ทำโปรแกรมที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม), Emerging Market (ทำโปรแกรมที่ทำให้ผู้ใช้ในชนบทได้ประโยชน์) และ Technology Showcase (มีเทคโนโลยีอะไรที่ทำด้วยมือถือก็โชว์มา!)
การแข่งแบ่งออกเป็นสองรอบ รอบแรกคือรอบภูมิภาค ซึ่งเค้าแบ่งเป็น APAC, EMEA, Americas และ China จะคัดเอาที่ 1 ของแต่ละหมวดในแต่ละภูมิภาคแล้วไปแข่งในระดับโลกอีกที เราส่งแข่งไปทั้งหมวด Emerging Market และ Technology Showcase แต่โชคดีหลุดเข้ารอบไปแค่ Technology Showcase ด้วยผลงาน NeuScreen หรือโปรเจคที่เปลี่ยน Monitor ธรรมดาให้เป็น Multi Touch Screen โดยใช้ N95 กับถุงมือ IR ก็เลยได้ที่ 1 ของระดับเอเชียในหมวด Technology Showcase ด้วยประการฉะนี้ สำหรับที่หนึ่งในหมวด ECO-Challenge และ Emerging Market ของ APAC เป็นอินเดียทั้งคู่ ซึ่งงานนี้ที่ 1 ภูมิภาคทุกคนก็ได้ไปคนละ 10,000 เหรียญเก็บเป็น Pocket Money ไว้เรียบร้อย (ได้เท่าที่ 1 โลกตอน Open C Challenge เลย -_-)
คราวนี้ Finalists ทั้ง 11 คนก็ต้องไปเจอกันฟาดฟันในระดับโลกที่งาน Mobile World Congress ตามที่ได้เล่าๆไปใน Blog ก่อนๆ ว่าแต่เอ๊ะ.. ทำไม 11 คนหละ? ก็เพราะว่าจีนไม่มีผู้ได้รับเลือกในหมวด Emerging Market เลยหนะสิ ก็แปลกนะ จีนน่าจะเหมาะกับหมวดนี้ที่สุดนี่นา
สิ่งที่น่าตื่นเต้นของเราก็คือตรงนี้แหละ การได้เจอกับ Finalists ระดับเทพจากทั่วโลก ในคืนที่สองอยู่ที่บาเซโลน่า ทางโนเกียได้จัด Group Dinner ให้กับพวกเราทั้ง 11 คนรวมถึงคนใหญ่โตจากโนเกียด้วย
งานนี้ถึงเราจะนั่งใบ้ด้วยความโง่อังกฤษส่วนบุคคล แต่เราก็ฟังทุกคนพูดออกนะ แค่พูดไม่เก่งเลยเงียบๆไว้ ได้เห็นคนจากโนเกียเมาไวน์แล้วรั่วด้วย ๕๕๕ น่ารักดี
ชีวิตที่นั่นดำเนินต่อไป วันที่สองมีโอกาสได้ถ่ายวีดีโอเป็นการสัมภาษณ์ด้วย เดี๋ยวทางโนเกียตัดเสร็จก็คงจะอัพขึ้น YouTube ให้ ถึงตอนนั้นจะเอามาแปะให้ดูละกัน แต่ต้องบอกก่อนว่าไม่ได้ดีหรอกนะ เราโง่อังกฤษอ่ะ
และวันที่สามที่อยู่ที่นั่น (วันที่ 17 กุมภาฯ) ก็เป็นวันประกาศผล ในวันนั้นเองเราก็เพิ่งรู้ตัวว่าเรา... ลืมเอาสูทไป -_- เลยต้องใส่เชิ้ทธรรมดายืนทนหนาวกันไป ตอนไหนทนไม่ได้ก็คว้าโค้ทมาใส่แป๊บนึง ประมาณนั้น
การจัดงานรอบระดับโลกนี้จัดขึ้นที่สถานที่หนึ่งชื่อ Poble Espanyol ข้างในเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์อะไรทำนองนั้น มีตึกสำหรับงาน Calling All Innovators อยู่สองตึก ตึกแรกคือตึกที่เอาไว้ตั้งบู้ทเดโมผลงาน เป็นอาคารวนๆ สวยดี
ตรงนี้ทุกคนก็จะมีบู้ทเล็กๆเป็นของตัวเอง จัดเป็นโซนละสามบู้ทด้วยกัน
อันนี้บู้ทเรา
ผลงานเรามี Hardware มากมาย เราเลยใช้เวลา Setup นานเป็นชั่วโมงอยู่ แต่สุดท้ายก็สำเร็จไม่มีปัญหาใดๆ
ส่วนงานประกาศผลรางวัลจัดขึ้นตอนบ่ายสามโมงครึ่งในอีกอาคารหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆกัน แต่งานนี้บอกตามตรงว่าไม่หวังรางวัลแม้แต่รางวัลเดียว เนื่องจากเรารู้ว่างานเราไม่มีประโยชน์ในเชิงธุรกิจมากนัก เค้าไม่เลือกหรอก เราเน้นโชว์เทคโนโลยีอย่างเดียว อีกทั้ง 9 ใน 11 ผลงานเป็นคนจากบริษัท มีแค่เรากับอีกคนที่มาในนามบุคคล จะให้หวังรางวัลอะไรหละคร้าบบบ -_- แต่ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นตอนประกาศผลอ่ะนะ
สำหรับรางวัลระดับโลกนี้จะมีอยู่ 3 รางวัลต่อหมวดคือ Grand Prize, 1st place และ 2nd place เงินรางวัลก็จะเป็น 25,000 USD, 10,000 USD และ 5,000 USD ตามลำดับ และก็จะมีผลงานนึงต่อหมวดที่จะไม่ได้รับรางวัลใดๆไป (ยกเว้นหมวด Emerging Market เพราะมีคนเข้ารอบสุดท้ายอยู่สามคน)
ก่อนงานประกาศรางวัลทุกคนก็หิวโซกันทีเดียว เลยไปหาอะไรกินกันแถวๆนั้น เป็นแซนด์วิสราคาสองร้อยบาท เอิ๊กๆๆ
มาถึงงานประกาศรางวัลเลยละกันนะ โดนท่านๆไล่ให้ขึ้นไปนั่งรอในห้องตั้งแต่บ่ายสาม ระหว่างนั้นเลยได้นั่งคุยกับ Finalist คนอื่นๆอย่างเป็นจริงเป็นจัง ทำให้ได้รู้ว่ามีบางคนในนั้นใช้ MobiTubia ด้วย เค้าก็ตกใจใหญ่ ไม่นึกว่าจะได้เจอคนพัฒนาที่นี่ แอบดีใจนะเนี่ย อิอิ คุยกันไปคุยกันมาพอบ่ายสามยี่สิบห้าวีดีโอแนะนำงานก็เปิดขึ้น ทุกคนเงียบกริบด้วยความกดดัน
แล้ว Rob Tylor หัวหน้า Forum Nokia Global ก็ขึ้นไปพูดโน่นพูดนี่ มีแอบฮาเล่นกับตากล้องด้วย ฝรั่งนี่เค้าเฮฮาดีนะ แล้วก็มี Eric John คนที่รู้จักจากงาน Forum Nokia Open C Challenge ก็ขึ้นไปพูดโน่นพูดนี่ สุดท้ายก็ถึงเวลาประกาศผล...
เค้าไล่ประกาศผลตั้งแต่ 2nd place, 1st place และ Grand Prize ไล่ไปทีละหมวด ทีละหมวด น่าสงสารเพื่อนอินเดียที่พลาดรางวัลจากหมวด ECO Challenge ไปอย่างน่าเสียดาย แต่เราก็ทำใจแล้วว่า เราได้เป็นเพื่อนกับคนอินเดียนี้แน่นอน ฮ่าๆๆๆ
การประกาศผลรางวัลผ่านไปสองหมวด คนที่ได้ที่ 1 ของหมวด ECO Challenge คือผลงานชื่อว่า RoadGuard เป็นผลงานที่เอาไว้จะ Optimize มลภาวะที่เกิดจากการขับรถแล้วแนะนำให้คนขับรู้ ส่วนที่ 1 หมวด Emerging Market เป็นคนอินเดีย ผลงานชื่อว่า Nano Ganesh หรือระบบการควบคุมน้ำในสวนไร่นาผ่านโทรศัพท์มือถือ... โปรเจคตอนปีสองของเรานั่นเอง ๕๕๕
สุดท้ายก็มาถึงหมวดเรา หูตาฝ้าฟางไปหมด กดดันยังไงก็ไม่รู้ ถึงจะคิดว่ายังไงก็ไม่ได้รางวัลแล้วก็ตาม แต่ก็ยังโชคดีได้รับการประกาศเป็นชื่อแรก... ก็คือได้ 2nd Place นั่นเอง~~~~ รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก ได้ที่ 3 โลกเฟ้ยยยยยยย สำหรับที่ 1 ก็เป็นไปตามคาดคือเกมของคนจีนที่มีชื่อว่า SIMLIFE ที่เอาเพลงมา Generate เกมเต้นได้อย่างอิสระ ถึงเทคนิคจะไม่มีอะไรมาก มีคนทำมาก่อนมากมาย แต่ว่าเค้าทำออกมาได้ดีและติดอันดับเกมขายดีในจีนไปเรียบร้อยแล้ว
ส่วนนี่ เราหลังจากได้รับรางวัล ยืนจิบไวน์อย่างมีความสุข
ก็นั่นแหละ... ที่สามจ้า!! ได้ถ้วยหนัก 2.8 โลมาพร้อมกับใบประกาศใบนึง (ถ้วยหนักมากๆๆๆๆๆ ใครมีโอกาสลองมายกดู หนักที่สุดตั้งแต่เคยได้มาแล้ว)
หลังจากมีความสุขได้ไม่นาน... ก็ทำไวน์ที่ถืออยู่นั่นหกใส่ Lenovo ไปซะงั้น T_T โดนไปครึ่งจอครึ่งคีย์บอร์ด แต่... แม่งไม่พัง!! เทพมาก รู้ละที่เค้าบอกว่า Lenovo มันทนมากมันเป็นยังไง โดนไปเต็มๆชนิดที่ไม่ควรจะเปิดติดแล้ว แต่ก็ยังกลับมาใช้งานได้ปกติอยู่ เอิ๊กๆ ตอนนี้เลยคิดว่าคงไม่ขายต่อแล้ว เพราะว่ามันกลายเป็นของมีตำหนิไปแล้ว กลัวคนซื้อไปแล้วจะมีปัญหา... T_T
หลังจากประกาศผลก็เป็นเวลาเดโมผลงาน ตรงนี้ได้เจอผู้คนมากมาย หลายคนมาเพื่อเจอเราโดยเฉพาะ แบบว่าเห็นในเนตมานานแล้วอยากเจอตัวจริง ซึ่งก็ทำให้เราดีใจมากกว่ารางวัลที่ได้รับซะอีก กลายเป็นบุคคลระดับโลกไปแล้วหรอเนี่ยเรา ดีใจจริงๆ
ตอนเดโมไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลยน่าเสียดายๆ ตอนจะกลับเลยไล่ถ่ายกับทุกคนที่ถ่ายได้ คนนี้ๆ น่ารักมาก เป็นคนคนนึงในโนเกีย หน้าเหมือนเฮอร์ไมโอนี่เลย เห็นแล้วละลาย >_<
ก่อนกลับก็ถ่ายรูปรวมกับ Finalist เท่าที่เหลืออยู่(บางคนกลับไปแล้ว) และคนจากโนเกียอีกนิดนึง
ถือเป็นทริปที่มีความสุขจริงๆ ประทับใจมาก ^_^
งานนี้เราก็ได้รับสมญาว่า "So Young" เพราะเป็นแค่คนเดียวที่อายุต่ำกว่า 25 และก็เป็นแค่ 4 คนที่ยังไม่ได้แต่งงาน ๕๕๕ ที่เหลือเค้าแก่ๆกันแล้วทั้งนั้น อืมๆ อีกอย่างคือมีแค่ 2 คนที่เป็น Developer ที่เหลือเป็นนักธุรกิจกันหมด คุยเรื่องเทคโนโลยีอะไรก็ไม่ค่อยจะรู้เท่าไหร่ละ นั่นแหละ หวังว่าจะเป็นแบบนั้นสักวันในอนาคต อิอิ ^ ^
สรุปแข่งงานนี้ก็ได้ไปเบ็ดเสร็จ 15,000 เหรียญ ... คูณกันเอาเองนะ แต่ไม่ต้องคิดว่าเราจะรวย เพราะที่เห็นทั้งหมดนั่นอ่ะ... หมดแล้ว ฮ่าๆๆๆ เฮ้อ... เมื่อไหร่จะได้แต่งงานวะกู
หลังจากที่ประกาศผลแล้วก็เห็นความแตกต่างของแต่ละประเทศเล็กๆ อย่างอินเดียเนี่ย... สื่อโหมโปรโมทกระหน่ำมากๆ แค่ลงจากเวทีก็มีทีวีช่อง Star TV ของอินเดียมาสัมภาษณ์และออกเป็น Breaking News ทันที จากนั้นทางอินเดียก็เตรียมคนมารับที่สนามบินถึง 500 คน... เค้าอยู่ประเทศที่ดีจังเลยเนอะ ^ ^ ไม่ต้องพูดถึงประเทศไทยนะ หะหะ ขนาดได้แชมป์โลกตอนนั้น ตอนนี้ยังมีคนรู้อยู่ไม่กี่คนเอง ถามว่าน้อยใจหรอ? ถ้าตอนปีที่แล้วก็น้อยใจเล็กๆ แต่สำหรับตอนนี้เรากลับดีใจที่ไม่มีใครมารับ ดีใจที่ไม่เป็นเรื่องใหญ่โต เพราะอยากทำทุกอย่างเงียบๆด้วยตัวเองมากกว่า แค่มีคนพิเศษมาดีใจด้วยแค่นั้นก็พอแล้ว ^ ^ ... ตอนนี้ก็งดออกสื่อจ้า เพราะมีงานต้องทำมากมาย ... ชื่อเสียงไม่ต้องการแล้ว ต้องการแต่เงิน!!! ฮ่าาาาาาาาาาาาาาา