"จงเรียนรู้เพื่อเติบใหญ่ จงตัดสินใจเพื่อเติบโต"
BadaThai vs DroidSans กรณีศึกษาที่น่าสนใจ
12 Aug 2010 03:05   [8959 views]

วันนี้ครบ 1 เดือนพอดีพอดิบที่เราเปิดเว็บคอมมูนิตี้บาด้าอย่าง BadaThai ขึ้นมา และยอมรับจริงๆว่าตลอดเวลาเพียง 1 เดือนที่ผ่านมา เว็บ BadaThai ทำ Stat ได้น่าเร้าใจมาก เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ตัวเองเข้าใจอะไรมากขึ้น จึงขอจดบันทึกเก็บไว้เพื่อการเรียนรู้ในอนาคตสักหน่อย

เว็บ BadaThai.com เปิดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีจุดประสงค์เพื่อจะรวบรวม "ผู้ใช้" Bada (ซึ่งตอนนี้ก็มีแต่ Samsung Wave) ในเมืองไทยเพราะจากการได้จับเจ้าระบบปฏิบัติการตัวนี้ทำให้รู้สึกว่ามันมีความน่าประทับใจอยู่มาก ก็เลยคิดว่าคงคุ้มที่จะเปิดเว็บเพื่อเป็น Community ตรงนี้


ถึงการเปิดเว็บนี้เราจะตั้งใจมาก ออกแบบหน้าตาเว็บเองหมด (จนบางคนก็ชมบางคนก็ด่า) แต่อย่างไรก็ตาม เรารู้ว่า Bada มันใหม่มาก เราจึงไม่ได้คาดหวังจะให้มีอะไรหรูหราฟู่ฟ่า หวังแค่ว่าจะมีคนเข้ามาร่วมด้วยสักร้อยสองร้อยคน ไม่คาดหวังว่าจะมีนักพัฒนาเข้ามาร่วมเลย เน้นที่ผู้ใช้ล้วนๆ แต่แล้ว... ทุกอย่างที่ผ่านมา "เกินคาด" ทั้งหมด


เริ่มจากการตอบรับอย่างดีมากในวันแรกที่เปิดตัวเพราะแค่เพียงวันแรกก็มีคนสมัครสมาชิกไปร้อยคนแล้วอย่างรวดเร็ว! ผลคือในวันที่ 15 (วันที่ 3 นับจากวันเปิดตัว) UIP ก็พุ่งขึ้นเป็น 1207 คนในทันที... ซึ่งส่วนตัวถือว่าเยอะมาก ถ้าเทียบกับ DroidSans ซึ่งตอนนี้คงตัวอยู่ที่ 10000 UIP แต่เว็บนั้นเป็นเว็บเก่าทำให้มีบอทบลาๆๆเข้ามาบ้าง UIP ก็ไม่แปลกใจ แต่ BadaThai เป็นเว็บเปิดใหม่ทำให้(ยัง)ไม่มีบอท ดังนั้นสรุปได้ว่า 1207 คนคือคนจริงๆล้วนๆ :|


จากนั้นกราฟก็ค่อยๆไต่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง... แบบว่าต่อเนื่องจริงๆอ่ะ ล่าสุดตอนนี้คงตัวอยู่ที่ 3100 โดยประมาณเพราะว่าไม่ค่อยได้อัพเดต Content แต่ก็ยังมีคนเข้ามาเรื่อยๆ ดังกราฟ (ไม่ต้องแปลกใจสำหรับกราฟวันสุดท้ายเพราะที่แสดงให้เห็นนั่นมันแค่ครึ่งวัน)

สาเหตุที่คนยังเข้ามาเรื่อยๆก็เพราะว่ามันเป็น Community ที่ไปได้ด้วยตัวของมันเองแล้ว ... อะไรคือ Community ที่ไปได้ด้วยตัวมันเอง? ถ้างั้นมาดู Stat เรื่องของในเว็บกัน


1 เดือนที่ผ่านมามี User เข้ามาสมัครทั้งหมด 1264 คน มี Node เพิ่มขึ้นมาทั้งหมด 817 nodes รวมแล้วทั้งกระทู้และข่าวหรือหารกันเล่นๆก็ ชั่วโมงละ 1 node และมีคอมเม้นท์ถึง 9800 คอมเม้นท์หรือพูดง่ายๆคือมีอัตราการคอมเม้นท์อยู่ที่ประมาณ 14 คอมเม้นท์ต่อชั่วโมงหรือว่าทุก 4 นาทีจะมีเพิ่มมา 1 คอมเม้นท์!!!... เยอะนะ :|


ถ้าเทียบกับเว็บ DroidSans ที่ตอนนี้ถือว่าเป็นเว็บใหญ่ไปแล้ว ล่าสุดจากการเปิดเว็บมา 1 ปีกับอีก 9 เดือน มี node อยู่ 4000 nodes และมีคอมเม้นท์อยู่ที่ 23000 เม้นท์ ส่วน User ก็ทั้งหมด 7650 คน ถือว่า DroidSans แอคทีฟน้อยกว่ามากทั้งๆที่มี User เยอะกว่า


ตั้งแต่เปิดเว็บมาเป็นสิบๆเว็บ เว็บ BadaThai ถือเป็นเว็บที่มีคน Active เยอะที่สุดแล้วและยังมีการ Active อย่างต่อเนื่องจริงๆจังๆ


โดยการแอคทีฟไม่ใช่แค่เรื่องของฟอรั่มแต่ที่น่าสนใจและน่าประทับใจมากคือมีคนมาเขียนข่าวแบ่งปันเรื่องราวกันเรื่อยๆ จริงอยู่ที่ตอนแรกเราผลักดันด้วยการเอาซองซิลิโคนมาแจก แต่นั่นไม่ใช่นัยสำคัญเท่าไหร่เพราะหลังจากเราหยุดแจกก็ยังมีคนมาเขียนข่าวเรื่อยๆเรื่อยๆและเรื่อยๆ ... ทั้งๆที่ข่าว Wave มันแทบจะไม่มี!! ก็ยังอุตส่าห์เขียน Tips & Trick การใช้งาน Wave มาแบ่งปันกัน สุดยอดจริงๆอ่ะสังคมนี้ > <


ยัง... ยังไม่พอ!! ตอนแรกที่เราเน้นว่า "ผู้ใช้" เพราะว่า... ไปๆมาๆคอมมูนิตี้ดั๊นนนผลักดันไปทางพัฒนา Widget บน TouchWiz เพื่อใช้กันซะงั้นอ่ะ! โดย Widget เอาจริงๆแล้วมันเขียนง่ายแต่ติดตั้ง SDK ยากระดับปานกลาง แต่ก็มีคนศึกษาจนทำได้จริงและทำ Widget ที่ใช้งานได้จริงออกมาแจกด้วย!! โดยตรงนี้ทางกลุ่มผู้ใช้ผลักดันกันเองล้วนๆ เราซึ่งเป็นเว็บมาสเตอร์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อใดๆเลย...


ทั้งหมดนี้นี่แหละที่เราบอกว่า "เกินคาด" ... และมันเกิดคาดจริงๆ จริงๆ และจริงๆๆ ประทับใจมากอ่ะ


BadaThai vs DroidSans

ปรากฎการณ์ Bada ทำให้เราหันไปมองว่าทำไมกัน เกิดอะไรกับแอนดรอยด์ ทำไม DroidSans ถึงไม่แอคทีฟและทำไม BadaThai ถึงแอคทีฟนัก จึงได้ข้อสังเกตดังนี้

1) ในวันที่ DroidSans เปิดตัว G1 เพิ่งออกขาย แต่ G1 มันไม่มีคนไทยใช้ ส่งผลให้ไม่มีคนสนใจ อันนี้มีผลมากต่อการแอคทีฟของ User ในระยะต้นมาก (แต่ตอนนั้น DroidSans เปิดมาเพื่องานพัฒนานะ ก็ไม่มีคนสนใจอยู่ดี) ส่วนในระยะหลังๆตอนแอนดรอยด์เริ่มจะบูมก็เกิดปัญหาที่เรียกว่า "Fragmentation" ตามมา ยังผลให้การเขียนข่าวเกิดการแตกย่อยเยอะเกินไป

2) Fragmentation มีผลจริงๆ ผมมั่นใจมากว่าถ้าผมเปิดเว็บ Galaxy S หรือ Desire โดยเฉพาะ จะมี User เยอะและแอคทีฟพอๆกับ BadaThai แต่พอเปิดเป็นเว็บแอนดรอยด์กลางก็พบว่ามือถือแต่ละรุ่นมันทำงานไม่เหมือนกัน มี UI ที่ต่างกัน ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้สึกว่าเข้าร่วมในสังคมนั้นๆอย่างเต็มที่... และเรื่องนี้ก็ทำให้วัดผลได้เล็กๆว่าปัญหา Fragmentation มันมีผลโดยตรงกับ User ด้วยนะ ไม่ใช่แค่ Developer

จากกรณีศึกษาเรื่อง Fragmentation นี้ทำให้ได้เข้าใจว่า... การออกมาหลายๆเครื่องหลายๆรุ่นมันไม่ใช่เรื่องดีต่อ User Community เท่าไหร่หรอก... เคยเจอหลายครั้งนะที่มีคนมาแนะนำโปรแกรมใน DroidSans แต่ปรากฎว่ามีปัญหากับรุ่น x y z บลาๆๆ แล้วผู้ใช้ก็มาถามว่าจะทำยังไง อยากใช้ บลาๆๆๆ สุดท้ายคนเขียนข่าวก็รำคาญและไม่คิดจะแบ่งปันอีกเลย

3) เนื้อหาส่วนใหญ่ของ BadaThai เกี่ยวกับการใช้งาน"จริง" ในขณะที่ของแอนดรอยด์ชอบมีแต่ข่าวแปลกๆ ดูหรูๆ แต่ใช้งานจริงไม่ได้...

4) บาด้าทำฟังก์ชั่นและลูกเล่นมาเยอะและดีมาก เยอะจนแทบไม่ต้องไปหาโปรแกรมเพิ่มอีกแล้ว เทียบกับแอนดรอยด์แล้ว.... สิ่งที่ติดตัวมากับแอนดรอยด์มันกากมากไปเลยหละ -_- และนี่เองที่ทำให้มีคนเขียนข่าวและแบ่งปันกันเรื่อยๆ


ยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าศึกษาแต่ยังไม่ได้เขียนไว้(ไม่มีแรงเขียน) โดยรวมทำให้เข้าใจเรื่องของการตลาดและการผลักดันโปรดักส์ แต่สิ่งหนึ่งที่เนยดีใจมากอย่างหนึ่งสำหรับ BadaThai คือเนยความพยายามในการปลูกฝังนิสัย "ไม่เอาโปรแกรมแครก" เข้าไว้ในคนไทยตามความพยายามตลอดมาหลายปี และสำหรับ BadaThai ก็ได้ผลมากเสียด้วย... ทุกคนแอนตี้คนแจกโปรแกรมผิดลิขสิทธิ์มากๆ ... ก็หวังว่าบาด้าจะซื้อโปรแกรม/เกมได้สักทีน้าาาาา


สุดท้ายนี้บอกไม่ได้หรอกว่า Bada หรือ Android ดีกว่ากัน จริงๆมันมีอีกหลายปัจจัยมากที่ไม่ได้พูดถึงเช่นเรื่องของราคา ความเข้าใจในระบบปฏิบัติการ ความใหม่ ความ Geek ฯลฯ แต่สิ่งที่เรียนรู้กันไปคือทำไมบาด้าที่ทั้งใหม่ทั้งเล็กแถมออกมาเพียงรุ่นเดียวกลับมีคน Active เยอะในขณะที่แอนดรอยด์ที่ทั้งเก่าทั้งใหญ่และมีเป็นร้อยรุ่น... กลับมีอัตราการ Active (แบบเห็นด้วยตาเปล่า) ต่ำกว่า... อื้ม น่าสนใจ (อย่างน้อยก็ในช่วงนี้)


หากมองเยอะๆก็จะเข้าใจมากเข้าไปอีกว่าทำไม Symbian, iPhone ฯลฯ ถึงวางตัวอยู่ในตำแหน่งต่างๆในตลาดแบบในปัจจุบันนี้ :)


Blog หน้าจะมาอัพเดตตลาดมือถือกันนิดหน่อย รออ่านกันได้จ๊ะ สวัสดี

บทความที่เกี่ยวข้อง

Aug 14, 2010, 22:19
5519 views
สถิติตลาดมือถือ Q2'10
Sep 5, 2010, 23:23
7765 views
แอนดรอยด์กับจุดอ่อนสำคัญ
0 Comment(s)
Loading