เขียนถึงมือถืออีกหน่อยละกัน ตอนนี้เริ่มเห็นอะไรๆหลายอย่างเพิ่มขึ้นในตลาดมือถือแล้ว โดยที่จะเขียนนี่คือมุมมอง Global นะ ไม่ใช่มุมมองประเทศไทยเพราะสถิติจากประเทศไทยไม่อาจจะบอกทิศทางของตลาดโลกได้เท่าไหร่นัก อ่ะก็เริ่มไปทีละ Platform เลยละกันนะ
Symbian
ยังคงเป็นและน่าจะเป็นอันดับ 1 อีกสักหลายไตรมาส (จากตอนแรกบอกว่าหลายปี) ถึงแอนดรอยด์จะมาแรงมากแต่แอนดรอยด์ก็ยังตีตลาดโลกที่ต้องการของถูกและเจือกใหญ่จัดๆอย่างอินเดียและจีนไม่ได้ ยกเว้นแอนดรอยด์จะมี Flagship ราคาถูกแต่ทุกอย่างเทพอีกสักตัวออกมาตี นั่นแหละถึงจะตี Symbian อย่างจริงๆจังๆได้ อย่างที่เคยบอก "ของถูกยังไงก็ขายดีและวงกว้างกว่าของแพง"
อย่างไรก็ตาม จริงๆแล้วไม่นี้ด Flagship อะไรมากมายหรอก แต่ Android ตีตลาดได้ด้วยปริมาณอยู่แล้ว ยังไง Android ก็จะค่อยๆเบียด Symbian ลงเรื่อยๆๆๆๆๆ จนมันตกไปเป็นอันดับสอง(แค่มีโอกาสนะ) แต่จะนานแค่ไหนต้องรอดู บอกไม่ได้เลย
แต่ Symbian เอาจริงๆตลาดก็แข็งแรงมาก คงไม่ยอมให้แอนดรอยด์โค่นได้ง่ายๆ สำหรับเจ้า N8 เราค่อนข้างมั่นใจว่ามันจะเป็นมือถือที่ขายดีมาก อารมณ์ N95 ตัวนึงเลยหละ... ถ้ามันไม่มีข่าวว่ามีปัญหาโน่นปัญหานี่ออกมาอ่ะนะ ^^"
สำหรับพระเอกของ Symbian นาทีนี้... ต้องขอชมคนออกนโยบาย "แจกฟรี Ovi Maps" (แล้วเพิ่มราคาค่าเครื่อง) เสียจริงๆ เมืองนอกชอบ Ovi Maps กันมาก มากจนทำให้ถึงจะใช้แอนดรอยด์ก็ต้องพก Symbian เพื่อนำทางอยู่ดี นาทีนี้ยอมรับว่า Ovi Maps คือระบบนำทางฟรีที่ดีที่สุด
แต่ถึงจะขายดียังไงมันก็จะยังได้แค่ตลาดเก่า ความน่าเศร้าของ Symbian เริ่มฉายแววเล็กๆหลังจากไปรู้เรื่อง Source Code ของ Symbian ซึ่งออกแบบมา "แย่มาก" แย่พอที่จะ "โยนมันทิ้งไป" และเนยเดาใจแล้วหละว่าโนเกียจะโยนมันทิ้งจริงๆ แต่ไม่ได้โยนไปเลยแต่จะให้ Priority น้อยลงไป เนื่องจากยังไง Symbian ก็เป็นอันดับ 1 การจะโยนทิ้งดื้อๆมันผิดหมดทั้งเรื่องการตลาด ฯลฯ
แล้วใครเป็นคนทำให้ Symbian เจ๊ง? ... ก็คือคนคิด Policy Symbian Signed นั่นแหละ... ไปไล่เบี้ยกันเอาเองนะ (เตือนแล้วไม่เชื่อ)
และถึง Symbian จะ Open Source เป็น Symbian Foundation แต่ ณ จุดนี้ขอบอกได้เลยว่าความ Open Source ของมันเป็นหมันหรือ "Nothing" เลยก็ว่าได้เพราะหลังจากที่ได้อ่าน Source ของทั้ง Symbian และ Android รวมถึงนั่งดูประสิทธิภาพแล้ว ไม่มียี่ห้อไหนหรอกที่จะเอา Symbian ไปใช้ สุดท้ายมันก็จะจมอยู่กับโนเกียไปเรื่อยๆเหมือนเดิมไม่มีผิด
แต่ถ้าหากถอยหลังมานิดนึงแล้วพูดถึงเจ้าของ Symbian อย่างโนเกีย พูดกันหนาหูว่าจะเจ๊งๆ แต่เอาจริงๆถามว่ามันจะล้มมั้ย?... ตอบได้ว่ายังไงก็ไม่เจ๊งและยังขายดีมากๆอีกต่างหาก เพียงแต่ทุกวันนี้คนชอบมองว่า Nokia = Symbian แต่จริงๆแล้วไม่ใช่นะจ๊ะ โนเกียหนะเก่งตลาดล่างเอามากๆ รายได้หลักทุกวันนี้ไม่ใช่มือถือราคาสองหมื่นอย่าง Symbian หรอก แต่เป็น S40 ต่างหาก
สรุปแล้วก็คงต้องบอกและยอมรับว่า Symbian กำลังจะตาย แต่มันจะไม่ตายแบบถาวร มันจะย้ายตัวเองลงไปยังตลาดล่างจนกลายเป็นมือถือราคาถูกที่ยอดนิยมไป... ดังนั้นถ้านักพัฒนาคนใดจะจับ Symbian ก็จับได้ แต่ต้องบอกว่าเม็ดเงินจาก End User คงไม่เยอะแต่ถ้าหา Deal ดีๆได้ก็ยังเป็น Platform ที่ได้เงินเยอะอยู่ถ้าเทียบกับระบบปฏิบัติการอื่นๆ
สำหรับระบบปฏิบัติการอายุ 10 กว่าปี เนยต้องบอกว่า "มันทำหน้าที่มาได้ดีมาก" หากใครบอกว่ามันห่วยอย่างโง้นห่วยอย่างงี้ ลองย้อนกลับไปสัก 15 ปีครับ ดูว่าตอนนั้นมันไม่มีอะไรเลย จอสียังไม่มีเลยตอนนั้น แล้วมันเริ่มมาจากตอนนั้นต้องใช้ความสามารถแค่ไหนที่จะทำให้มันกลายเป็นระบบปฏิบัติการบนมือถือแบบทุกวันนี้ได้
แค่ว่างานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา จนถึงตอนนี้ไม่มีระบบปฏิบัติไหนจากยุคนั้นที่อยู่รอดมาถึงตอนนี้ยกเว้น Symbian และ WM ซึ่ง WM ก็จะโดนโยนทิ้งแล้ว ส่วน Symbian ก็คงถึงเวลาของมันแล้วที่จะย้ายตำแหน่งตัวเองไปอยู่ที่ที่มันควรอยู่ ปกติหนะทุกอย่างจะมีวงรอบอายุอยู่ที่ 7 ปี สำหรับ Symbian มันทำมาได้เกินอายุมากๆแล้ว
สำหรับปฏิบัติการตัวต่อไปที่โนเกียจะใช้ Symbian ในการเหวี่ยงมันขึ้นมาจากดินสู่ยอดภูเขาให้ทุกคนได้เห็นกันคือ... MeeGo
MeeGo
ถึงโนเกียจะไม่ออกมาประกาศความชัดเจนสักทีว่า(เมิง)จะเอายังไงกับ MeeGo (วะ) แต่จากประสิทธิภาพจากวีดีโอที่หลุดๆออกมาก็ถึงกับทำให้คน"รอ"เลย ตรงนี้วัดได้ว่าโนเกียจริงๆแล้วตั้งใจมากๆ และได้ยินแว่วๆมาว่า MeeGo Device จะออกมาแน่ๆภายในปีนี้หรืออย่างช้ามกราฯปีหน้า ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็น Tablet หรือ Mobile อ่ะนะครับ แต่ก็เอาวีดีโอสาธิตทั้ง Mobile และ Tablet ที่บอกว่าทำให้ผู้คนประทับใจมาให้ดูกันก่อน
สำหรับ MeeGo ได้ทิ้งท้ายไว้ในส่วน Symbian ว่า "โนเกียจะใช้ Symbian ในการเหวี่ยง MeeGo ขึ้นมา" ... สงสัยหละสิว่า MeeGo กับ Symbian มันจะไปเกี่ยวกันได้อย่างไร ก็ Keyword ตรงนี้อยู่ที่ "Cross Platform Programming" โดยใช้ Framework ที่ชื่อว่า "Qt" (อ่านว่าคิวท์) ที่โนเกียซื้อมานั่นเอง ค่อนข้างมั่นใจว่าโนเกียจะดัน Symbian ที่ดังอยู่แล้วด้วยการชวนโปรแกรมเมอร์มาเขียน Qt เยอะๆ (น่าจะได้เห็นงานแข่งรางวัลเยอะแสรดๆออกมาเร็วๆนี้)
จากนั้นโนเกียก็จะใช้ Qt ทำให้คนไปเขียน MeeGo ไปในขณะเดียวกัน สุดท้ายเมื่อ Port ระบบปฏิบัติการไปไม่ได้ ก็ "Port โปรแกรมเมอร์ไปแทน" เท่ป่ะหละ อิอิ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าโนเกียจะทำแบบนี้หรือเปล่า ซึ่งเราก็ไม่อาจเดาใจโนเกียได้ แต่ยังไงเนยก็เชื่อว่าโนเกียจะทำอย่างงั้น :)
สำหรับ MeeGo อนาคตยังไม่มั่นคง ประสิทธิภาพอ่ะค่อนข้างชัดแล้วว่ามันเทพมาก แต่การตลาด... ถ้าทำไม่ดีก็คงจะเหมือน WebOS ของ Palm ไปได้เหมือนกัน
แล้วในมุมมองโปรแกรมเมอร์อย่างเราหละ? ... ก็เริ่มฝึกเขียน Qt อีกรอบแล้วอ่ะ :)
Bada
คราวที่แล้วตอนเขียนบทความเกี่ยวกับ OS มือถือทั้งหลายไป Bada ยังเป็นวุ้นโปรตีนอยู่เลย แต่ตอนนี้ทุกคนคงเห็นกันไปแล้วว่ามือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการตัวนี้ "เกิดมาก" ด้วยเวลาเพียง 1 เดือน Samsung Wave สามารถขายได้ถึง 1 ล้านเครื่อง และก็ยังคงขายดีต่อไป ต่อไปและต่อไป ทางด้านแอพฯก็มีถึงพันกว่าแอพฯเป็นที่เรียบร้อย
ย้ำว่า "มือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการตัวนี้" ไม่ได้บอกว่ามันเกิดเพราะบาด้า แต่ Wave จริงๆเกิดเพราะมันถูกและมันมีลูกเล่นเยอะ ทั้งหมดรวมกันแล้วสรุปมาได้คำสั้นๆว่า "โคตรคุ้มราคา" ... ซึ่งเป็นการตลาดที่ถูกต้องมากๆ เชื่อว่า Wave น่าจะราคาสูงกว่านี้ แต่ที่ถูกขนาดนี้เพื่อ "การตลาด" ล้วนๆ และก็ตีตลาดได้แตกเสียด้วยสิ ^ ^
ซึ่งเอาจริงๆตัว Bada ก็ไม่ใช่กระจอก Wave เป็นแค่ตัวที่เอามาประกาศให้ชาวโลกรับรู้ว่า "Bada ไม่จอกนะเฟ้ยยย" หลายคนคงสงสัยว่าอะไรคือจุดแข็งของ Bada ทำไมระบบปฏิบัติการเล็กๆดูไม่มีอนาคตตัวนี้ถึงอยู่ดีๆบูมขึ้นมา ... คำสั้นๆที่เรียกว่า "เกม" ครับ
ศึกษาด้านมือถือมานาน มือถือจะบูมไม่บูมนั้นเกมเป็นอะไรที่จำเป็นมาก ซึ่ง Samsung ก็เหมือนจะมองโจทย์ตรงนี้ออก เลยไปกว้านซื้อ License เกมดังๆมาหลายตัวเช่น Asphalt เอย Need For Speed Shift เอย แถมมีเกมดังๆจากค่าย Gameloft ฯลฯ ที่มีขายบน iPhone ยกมาวางขายบน Samsung Apps กันเรียกว่าครบทุกเกมแล้วมั้ง
แต่การที่มันมีเกมเยอะนี่ก็ไม่ใช่จุดแข็งที่เนยจะสื่อ เพราะที่เนยจะสื่อเนี่ยคือ "ทำไมบริษัทเหล่านั้นถึงพอร์ตเกมจาก iPhone มาลง Bada ได้เร็วนัก" ... ใช่ครับ ... มัน Port มาได้เลยตรงๆ!!!!!! เหตุเพราะว่า OpenGL ที่เขียนบน iPhone กับ Bada มันคล้ายกันมาก ที่ต้องเปลี่ยนแปลงก็แค่ระบบ Interface กับ I/O เท่านั้นเอง
เป็นจุดแข็งที่ทำให้ Bada (โคตร)น่ากลัวเลยหละครับเพราะเมื่อความจริงตรงนี้เปิดเผย เกมดังๆจาก iPhone จะทยอยเทมาลง Bada กันให้พรึ่บ
แต่อย่างไรก็ตาม... Bada ก็ยังมีโซ่ตรวนที่ตัวเองล่ามเองไว้อยู่อย่าง Policy ที่ Stupid สุดๆอย่างที่เคยบ่นไปเมื่อ Blog วันก่อน เมื่อบาด้าเริ่มดราม่า แต่ก็ยังดีที่ตอนนี้ Samsung ตอบกลับมายอมรับผิดแล้วและให้คำสัญญาว่าจะปรับปรุง Service ตรงนี้ให้เร็วที่สุด ก็จะรอดูครับผม
เอาเป็นว่าโดยสรุป Bada เริ่มต้นได้ดีและมีอนาคตสดใส เพียงแต่จะติดลมบนหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับรุ่นอื่นๆที่กำลังจะออก หากเกิด Fragmentation ตามรอยรุ่นพี่อย่าง Symbian และ Android ก็อาจจะเหนื่อย รวมถึง Policy ที่หากยัง @*!&@*# อยู่อย่างงี้... ก็อาจจะล่มจมได้ แต่ส่วนตัวคงจะจับ Bada ไปอีกพอสมควรเลย
Windows Phone 7
เลี่ยงจะพูดถึงมาโดยตลอดว่ามันจะมาหรือไม่มายังไง แต่คราวนี้พูดถึงนิดหน่อยละกัน
สั้นๆก็... "มา!!"
ก็เพราะว่า Microsoft เหมือนจะแสดงความชัดเจนแล้วว่าเค้าจะทำ Windows Phone 7 ให้เป็น "Gaming Device" ซึ่งเป็นหนทางรอดของอุปกรณ์ Handheld (ดูสิว่า iPhone, NDS, PSP ติดลมบนแค่ไหน นี่ยังไม่รวมถึง Bada ที่อัตราการเติบโตสูงมากอีกตัวด้วย) และทาง Microsoft ไม่ได้จะทำเล่นๆคราวนี้เพราะมีการตั้งทีมพัฒนาเกม In-House ซะด้วย
ลองคิดดูสิว่าถ้าคนเงินหนาและเป็นเจ้าของ X-Box อย่าง Microsoft จะไปดีลกับ Game Developer สักร้อยเจ้าแล้วปล่อยเกมที่ทุกคนอยากเล่นมาพร้อมกัน 100 เกมจะเกิดอะไรขึ้น? ตามนั้นเลย... ดังนั้นตอนนี้ค่อนข้างมั่นใจแล้วว่า WP7 มาแน่ แต่จะไปทางเกมซะเยอะ ถ้าเกิดต้องการเขียนโปรแกรมบนนี้ให้สะสมไอเดียไว้ก่อนเลยเพราะ "แอพฯแปลกๆ" เท่านั้นที่จะได้ดีบน WP7 ได้
แต่สำหรับตอนต้นๆ เอาจริงๆจะแอพฯอะไรก็ได้แหละ ถือเป็นตลาดใหม่ที่ยังไงก็พร้อมรับทุกอย่างเสมอก๊ะ ^0^
ตอนนี้ Device ทยอยออกมาเรื่อยๆแล้วเน้อ น่าสนใจดี
iPhone
ยังไงมันก็อยู่ได้ของมันเพราะมันถือเป็น Mobile Gaming Device ที่มีเกมเยอะที่สุด แต่ด้วยความหยิ่งและความ "I don't care" ของจ็อบส์ก็เริ่มทำให้ตลาดเป๋ไปบ้าง จุดนี้อาจจะดูไม่มีผลกระทบอะไรแต่จริงๆแล้วถ้ามองไปตลาดเมกา มันถือว่ามีผลมากและตลาดเมกาก็มีผลต่อตลาดโลกเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามตลาดโลกโดยรวมก็ยังไปได้ของมันอยู่
สำหรับตลาดนักพัฒนา... ก็ยังยืนยันคำเดิมนะว่า "เน่าแล้ว" ถ้าไม่ได้ทำแล้วได้เงินแน่ๆอย่างเช่นมีคนจ้างหรือทำ Service (ที่ Unique และโดนลอกยากๆ) ก็อย่าไปจับมันมากเลย
Blackberry
ถึงจะโดนศึกหนักจากรัฐบาลหลายประเทศ (ซึ่งไม่น่าแปลกใจหรอกเพราะมันสมควรโดนอยู่ ตอนแรก BB ดังอยู่แค่เมกาเลยไม่มีปัญหามาก แต่พอขยายฐานปัญหาก็ตามมาตูม) แต่ก็ยังคงประคองตัวเองอยู่ได้และยังขยายตัวเองได้เรื่อยๆ ทั้งนี้เพราะความเป็น "Social" นั่นเอง
แต่ก็ยังยืนยันคำเดิม ถ้ามีใครทำ Cross Platform Messaging ได้ BB จะหงอยหนัก เนื่องจากเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกันแล้วว่า BB หนะมันมีดีอยู่แค่สองสามอย่างคือ Push Mail, BBM และพิมพ์ง่าย(แต่ก็ต้องฝึกฝน) ส่วนตัวระบบปฏิบัติการกากได้ใจเลย ช้าก็ช้า แฮงค์ก็บ่อย
...จะว่าไปก็มีคนทำแล้วนะ ชื่อว่า Pingchat, Palringo ฯลฯ แต่ก็ยังไม่บูมพอจะให้คนใช้งานจริง คงต้องให้เวลาอีกสักพักเพราะยังไม่มีอะไรมาแทน BBM ได้ คงต้องรอให้มีคน Port BBM Contact ไปใช้ได้ก่อนกระมัง ^ ^
ดูจาก Spec โดยรวมและการเติบโตไปยังประเทศต่างๆของ BB แล้ว คงต้องบอกว่า RIM อาจจะเหนื่อยจากแอนดรอยด์ได้เหมือนกัน ถ้ามีคนทำออกมาเพื่อตี BB โดยเฉพาะเช่นมีระบบการพิมพ์ QWERTY ที่สมบูรณ์แบบพอและเป็น Android 2.2 ที่มี C2DM เพียบพร้อมสมบูรณ์ก็อาจจะตีตลาดใหม่ได้อยู่เหมือนกัน แต่ตลาดเก่าก็คงลำบากเพราะคนเลิกใช้ไม่ได้อ่ะนะ
โดยรวมมันก็จะไปของมันได้เรื่อยๆอีกนั่นแหละเพราะ Social ยังไงก็ไม่ตาย แต่ส่วนตัวแล้ว... มันกากมากเลยอ่ะ แค่ตอบโจทย์ในการใช้งาน Social Network เฉยๆ -0-
ตลาดนักพัฒนา... ไม่มีความเห็นจ้า
Android
มันไปของมันได้อยู่ละ ไม่รู้จะเขียนอะไรดี เอาเป็นว่า... อนาคตสดใสเลยแหละ ตอนนี้ Android 2.2 ฟีเจอร์เยอะแยะล้นเหลือ ทำอะไรเทพๆได้เยอะ พอไป Android 3.0 มันจะกลายเป็น OS ที่ไร้เทียมทาน ใครก็สู้ไม่ได้แน่นอน
ปัญหา Fragmentation จะค่อยๆหมดไป แต่ต้องใช้เวลาเพราะต้องมาตามเก็บกวาดมือถือหลายสิบล้านเครื่องที่ปล่อยออกไปก่อนหน้านี้ แต่ถ้าเป็นเนย เนยจะพัฒนาแอพฯสำหรับมือถือรุ่น 2.1 และ 2.2 ขึ้นไปเท่านั้นและจะทำแอพฯเทพๆไปเลยเพื่อรองรับอนาคตที่ "มาแน่"
แต่สำหรับเราหรอ อื้ม... ยังไม่คิดจะพัฒนาแอพฯบนแอนดรอยด์อ่ะ ตลาดเน่าขนาดนั้น ถ้าจะรอดก็คงต้องรอดจากเงินค่าโฆษณา... ซึ่งกว่าจะทำได้ก็ต้องทำแอพฯที่มีคนใช้เยอะมากๆ... และมันไม่ได้ง่าย :)
WebOS
OS ดีและ HP เอาจริง ก็รอดูกันต่อไปครับว่า HP จะดันได้แค่ไหน ตัว WebOS ก็เป็น Gaming Device ดีๆตัวนึงเหมือนกันแถมยังออกแบบ UI มาได้ดีและเทพมาก เชื่อว่าคงเป็นอุปกรณ์ที่น่าใช้เลยแหละ แค่เสียดายนิดหน่อยที่มันไปอยู่กับ HP :)
อย่างไรก็ตาม HP ยังมีชื่อด้านการออกแบบอยู่ ส่วนตัวเรียกว่าเป็นไข่มุกสีดำเลยนะ เทียบกับทาง Apple ที่เป็นไข่มุกสีขาว หากใครจะทำแบรนด์ออกมาเพื่อแข่งแอปเปิ้ลได้ก็คงจะเป็น HP ก็น่าเสียดายที่แบรนด์ HP ก่อนหน้านี้ค่อยๆแย่ลงในสายตาชาวโลก ค่อยๆกู้หน้ามาละกันนะ
ดังนั้นเราก็เลยไว้ใจว่า WebOS Device ตัวแรกจากทาง HP จะออกมาสวยงามหน้าตาดีและดูน่าใช้
ถ้าคาดไม่ผิด WebOS จะเป็นอีก OS นึงที่อยู่ยงคงกระพันเพราะ UI และระบบ Notification ที่ทำออกมาสมบูรณ์สุดๆนั่นเอง เรียกได้ว่าเทพแหละ แต่ก็ขึ้นอยู่กับคน Take Over อย่าง HP ที่จะสร้าง Image ของมันออกมายังไง... แต่ก็เชื่อว่าสร้างเป็นอยู่นะ HP
ดังนั้น... ใครสนใจตลาดใหม่ก็เตรียมจับ WebOS ไว้ได้เลย ปลายปีนี้มาแน่ ;)
สรุป
ทุกตัวมีทางรอดของมัน ตลาดนี้ใหญ่มาก ใหญ่จนไม่จำเป็นต้องมีใครตาย ขึ้นอยู่กับว่าแบรนด์จะจับตลาดไหน ตลาดบน ตลาดกลาง ตลาดล่าง แต่แบรนด์ที่จะอยู่รอดได้ยั่งยืนและใหญ่โตคือ "Brand ที่จับทุก Segment" ซึ่งตอนนี้ที่เห็นจะทำได้ก็มี Symbian, Android และ Bada หละนะ
ทิ้งท้ายไว้แค่นี้ สวัสดีคร้าบบ