เหนื่อยล้า...อาจมีวันฟ้าเป็นสีเทา
เพียงเงาเมฆฝนลอยมาขวางกั้น
ฝัน..หากความฝันยังดูมืดอยู่
ทนดูต่อไปมีโอกาสได้เห็น
หากกลัวฝน รีบท้อไม่ทน
อยู่มองดูวันข้างหน้า
พรุ่งนี้อาจไม่มีฟ้าเป็นสีฟ้า
* (ฟ้ายังฟ้า...อยู่) ฟ้ายังดูสดใส
(ฟ้ายังฟ้า...อยู่) ฟ้าไม่เลือนจากไป
(ฟ้ายังฟ้า...อยู่) มั่นใจ
พรุ่งนี้ต้องมีสิ่งที่ดีกว่า
เดินฝ่าเฆฆฝนยืนดูอยู่บนยอดเขา
ฟ้าคอยอยู่
ความหวัง..อย่าจริงจังกับความแพ้พ่าย
ไหว้วอนกับใครคงไร้ประโยชน์
โกรธ..อย่าไปโทษใครอื่น อันความยั่งยืนมันขึ้นอยู่ที่เรา
หลับตาพัก...ให้ใจมีโอกาสวาดวันข้างหน้า
ค้นหาจุดยืนแล้วเดินจากจุดนั้น
(ซ้ำ * )
(คอรัส) ฟ้ายังฟ้า..อยู่ ฟ้ายังดูสดใส
ฟ้ายังฟ้า..อยู่ ฟ้าไม่เลือนจากไป
ฟ้ายังฟ้า..อยู่ ฟ้ายังดูสดใส ฟ้ายังฟ้า..อยู่
(ฟ้าไม่เลือนจากไป) ฟ้ายังฟ้า..
อีกเพลงให้กำลังใจที่ถูกแต่งขึ้นมาด้วยถ้อยคำที่สละสลวยจนเรียกได้ว่าเป็นอีกบทกวี... ทำให้ฟังแล้วต้องตีความหมายกันนิดนึง เหะๆ (ข้าพเจ้าฟังไปสิบรอบถึงจะเข้าใจความหมาย)
อย่าไปหวั่น!! มาถึง Blog นู๋เนยทั้งที เราก็มีบริการนู๋เนยตีความให้! เพียงกดมาที่เบอร์ 1900 1900 xx... ไร้สาระอีกละกรู -_-
เพลงนี้มีความหมายสื่อถึงคนที่กำลังท้อแท้ กำลังย่อท้อ กำลังหมดหวัง กำลังเสียใจกับความพ่ายแพ้ ให้มีกำลังใจลุกขึ้นยืนอีกครั้งโดยยกเอา "ฟ้า" ที่บอกว่าอย่าไปกลัวตอนมันมืด อย่าไปกลัวตอนมันมีฝน เพราะถ้าทนดูมันต่อไปฟ้าก็จะกลับมาสว่างใสอีกครั้งหนึ่ง
ใช่แล้ว ถ้าให้สรุปเพลงนี้คงได้เป็นสุภาษิตที่ว่า "ฟ้าหลังฝน" ก็จริงอยู่ที่ตอนฝนตกมันอาจจะมืด มันอาจจะน่ากลัว แต่ความจริงมีอยู่ว่า
...ฟ้าหลังฝนนั้นเป็นช่วงที่สวยงามที่สุด... :)