ตะกี้โทรไปถามโรงบาลมาละ ตกลงเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 นะ


ถือว่าเป็นอะไรที่สมพรปากมากๆ ย้อนกลับไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ณ วงประชุม MADz ข้าพเจ้าพูดขึ้นมากลางวงว่า "อยากเป็นหวัด 2009 จะได้มีภูมิคุ้มกัน" ฟ้าเหมือนจะเล็งเห็นความต้องการ หลังจากนั้นสองวันไข้ก็ขึ้น... ผ่านไปอีกสองวันก็หามตัวเองไปนอนโรงบาล แล้วก็ดำเนินเรื่องราวตามที่เล่าให้ฟังใน Blog ก่อนๆ


รักษาจนอาการดีขึ้น หมอให้ออกจากโรงบาล... แต่ผลก็ยังไม่ออก


ออกจากโรงบาลมา 2-3 วัน ผลก็ยังไม่ออก... สุดท้ายเลยต้องโทรไปจิกที่โรงบาล ปรากฎว่าพยาบาลหายไปสักพักแล้วก็กลับมาบอกว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่นะคะ


แต่ก็ไม่ต้องตกใจ มันก็แค่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์หนึ่ง ไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงอะไร แค่ร่างกายคนยังไม่มีภูมิคุ้มกันเลยมีโอกาสติดกันง่ายเฉยๆ อย่างเราตอนนี้ก็หายเกือบสนิทแล้ว


ถามว่ารู้สึกยังไงที่เป็น? ก็คงดีใจแหละเพราะว่าอยากมีภูมิคุ้มกันเก็บไว้ จะได้ไม่ต้องระวังอีก


ตอนนี้คนรู้จักเป็นกันอย่างเป็นทางการ 2 คนละ (รวมเราแล้ว) ส่วนอีกหลายๆคนกำลังรอผล เริ่มรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติแล้ว ^ ^


ก็ในฐานะที่เป็นมาแล้วก็ให้ความรู้นิดหน่อย

- เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยกันมาก "เราจะรู้ได้ยังไงว่าเป็นไข้หวัดใหญ่หรือเปล่า" สิ่งหนึ่งที่จะสังเกตได้คือไข้ขึ้นสูงมาก อาจจะพุ่งไปถึง 39-40 องศาเซลเซียส แล้วกินยาลดไข้แต่ไข้ไม่ลด รวมทั้งปวดเมื่อยเนื้อตัว ไม่มีแรงทำอะไร ไอถี่ หลายคนอาจจะมีอาการท้องเสียและอาเจียนร่วมด้วย ถ้าเข้าข่ายให้ไปหาหมอโดยเอาผ้าปิดปากไปด้วย ไม่ใช่แค่เพราะป้องกันคนอื่นติดจากเราอย่างเดียว แต่หลายกรณีมากที่คนไข้ไม่ได้เป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 แต่ก็อุตส่าห์ไปรับเชื้อมาจากโรงบาล สุดท้ายก็ซวยไป

- อาการที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นอะไรร้ายแรงคืออาการหอบและอาการเกี่ยวกับปอด เพราะส่วนใหญ่จะเสียชีวิตจากอาการแทรกซ้อนอย่างปอดบวมหรือน้ำท่วมปอด

- คนจำนวนหนึ่ง(และจำนวนมาก)เป็นแต่ไม่ออกอาการ เรียกว่าเป็นพาหะอย่างเดียว ทำหน้าที่แพร่เชื้อ คนเหล่านี้เราจะมองไม่ออกเลยว่าเค้าเป็นหวัด ดูปกติมาก แต่ก็สามารถแพรเชื้อได้อย่างดีเลย

- หลายคนคงเครียดกับการระบาด ตอนนี้ก็คงบอกกันได้แล้วหละว่า "เราควบคุมการแพร่กระจายเชื้อโรคไม่ได้แล้ว" ขอบอกว่านี่ยังเป็นแค่ช่วงเริ่มต้น ตามลูปของไข้หวัดใหญ่แล้ว อีกไม่เกิน 2 เดือนจะมีคนติด 20-30% ของประเทศ ดังนั้นไม่มีอะไรต้องเครียด มันไม่ได้แย่อย่างที่คิดจริงๆ

- ข่าวออกว่าโอกาสตาย 0.5% แต่ถ้าศึกษาดีๆมันไม่ได้เยอะขนาดนั้นหรอก อาจจะแค่ 0.01% หรือน้อยกว่า เพราะอย่าลืมว่าทุกวันนี้คนติดเป็นแสนคนแล้ว แต่ว่าไม่ยอมตรวจว่าเป็นหรือเปล่า ตัวเลข 0.5% นี่เฉพาะที่เอามาตรวจอย่างเป็นทางการแล้ว

- ใส่หน้ากากไป ใครจะบอกว่าตลกหรือยังไงไม่ต้องไปสน นี่มัน "ชีวิตเรา"

- คนที่ป่วย หากไม่จำเป็นอย่าออกจากบ้าน ถ้าต้องออกจากบ้าน "ต้อง" ใส่หน้ากาก สร้างค่านิยมนี้ซะ ร่วมกันรับผิดชอบสังคมกันดีกว่า

- คนเราเกิดมาก็ต้องตาย ถ้าถึงคราวก็อย่าไปกลัว

- สุดท้าย... ไข้หวัดใหญ่ 2009 ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัว(ฉิบหาย)คือปลายปีคาดว่าจะเกิดการกลายพันธุ์ หากมีใครดั๊นเป็นหวัด 2009 และหวัดนกพร้อมกัน ถึงโอกาสจะมีน้อยแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี ถ้ามันเกิดการกลายพันธุ์และระบาดขึ้นมาจริงๆหละก็ เรียกว่าตายกันเป็นล้านคนแน่นอน ตอนนี้ได้แต่ภาวนาอย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นเลย น่ากลัวจริงจัง