"ทุ่มเทอย่างสุดกำลัง เพื่อความฝันและวันข้างหน้า วันนี้เหนื่อยไม่ว่าถ้าหากมันทำให้มีวันหน้าที่สวยงามได้"
ผจญไข้หวัดใหญ่
7 Jul 2009 03:44   [13788 views]

หลังจากอาการไม่ค่อยดีมาหลายวัน ล่าสุดเมื่อวานไข้สูงปรี้ดจนถึง 38.6-38.7 องศา ร่างกายอ่อนเพลียไม่มีแรง เจ็บคอ ทรมาน บลาๆๆๆ แถมที่หนักห่าๆคือดันมีไมเกรนมาร่วมด้วยนี่สิ เซ็งได้อีกกกกก (เป็นกรรมของคนเป็นไมเกรน ไม่ว่าจะป่วยเป็นอะไรจะเป็นหนักกว่าคนอื่นสองเท่าเพราะไมเกรนนี่แหละ)


เมื่อคืนลังเลว่าจะไปหาหมอดีมั้ยเพราะอาการแย่ จนสุดท้ายตัดสินใจจะไปก็เลยเดินไปหาอะไรกินนิดหน่อยก่อน (ยังจะมีอารมณ์กิน) กินเสร็จก็ล้างหน้าแปรงฟัน... รู้สึกว่าอาการดีขึ้นแฮะ หะหะ เลยเข้านอนเลย ไม่ไปหาหมอดีกว่า เปลือง >_< ตื่นมาก็หายน่าาาาาา

เวลาผ่านไปหนึ่งคืนตื่นมา หาวววววว ไหนวัดไข้ดิ๊... 37.8... เอิ่ม -_- ถือว่ามีไข้อยู่แต่ลดลงมากละ แต่อย่างหนึ่งที่ไม่หายแถมยังหนักกว่าเดิมอีกคือ...ไมเกรน ~_~ แสรดมาก ปวดแบบไม่สามารถลุกจากเตียงได้ แต่สุดท้ายก็ลากสังขารตัวเองขึ้นมาแล้วไปนั่งเช็คเมล์งาน ทำโน่นทำนี่ อีก 10 นาทีวัดไข้อีกที... 38.1... เอิ่มมมม ไข้จะรีบขึ้นไปไหนคร้าบบบบบ

สรุปการนอนเต็มอิ่มทั้งคืนไม่สามารถช่วยให้ไข้ลดลงได้ วันนี้ก็เลยทำงานไปตามปรกติ ทำตัวดีๆ รักษาสุขภาพ ก็ได้ผลนะ วัดอีกทีได้ 38.3... ~.~ โว้ยยยยยยยยยยยยย สุดท้ายยอมแพ้ต่อสังขารเพราะเริ่มไม่ไหวแล้ว เลยให้แม่พาไปโรงบาลที


ไปถึงโรงบาลก็เห็นคนอาการเดียวกันเยอะมาก เป็นฤดูหวัดจริงๆ บุรุษพยาบาลจัดแจงวัดไข้และวัดความดัน ผลคือความดันปกติดี แต่ไข้ 37.9 อืมๆๆๆ ทีเจอหมอหละหงอเชียวนะเมิง =_=

นั่งรอหมออีกครึ่งชั่วโมงโดยประมาณ เจอหมอก็บอกอาการโดยละเอียดไป หมอถามว่าไปต่างประเทศมาด้วยรึเปล่า เราก็บอกว่าไปสิงคโปร์มา หมอเริ่มคิดหนัก เอิ่มๆๆๆ แล้วสุดท้ายหมอก็บอกว่าหมอจะให้เราไปตรวจไข้หวัดใหญ่นะ เอิ๊กกก ได้ครับได้ แล้วพยาบาลก็เดินเอาผ้าปิดจมูกมาให้พร้อมบอกว่า "ใส่ผ้าปิดไว้จะดีกว่าค่ะ" ดีครับดี ^^"


จากนั้นโดนเนรเทศออกไปนั่งนอกโรงบาลคนเดียว... อ่อ ไม่มีใครรังเกียจหรอก(มั้ง) มันเป็นห้องสำหรับเจาะเลือด + ตรวจเชื้อที่ดันไปอยู่นอกโรงบาลหนะ ไม่รู้ใครออกแบบ


นั่งรอไป 10 นาทีได้ พยาบาลก็เรียกเข้าไป ถึงห้องก็สั่งให้เราเงยหน้าแล้วเค้าก็หยิบไม้ยาวๆที่มีคัตตอนบัตอยู่ตรงปลายมาแหย่เข้าจมูกลึกโคดๆแล้วก้ปั่นๆๆๆๆ ไม่เจ็บเลยแต่จั๊กกะจี้โคดดด จะจามให้ได้แต่ก็ไม่จาม

เสร็จก็ไปนั่งรอฟังผล 40 นาที


.... 40 นาทีผ่านไป อะห้อย อะห้อย ....


พยาบาลเรียก "เชิญคุณสิทธิพลค่ะ" เข้าห้องไปหมอมองหน้าแล้วบอก "คุณเป็นไข้หวัดใหญ่นะคะ" โอ้ กรูอินเทรนด์กะเค้าแล้วหรอเนี่ย ๕๕๕ ในนาทีนั้นก็เห็นพยาบาล Step ถอยหลังไปแปดก้าวเห็นจะได้พร้อมกับซุบซิบนินทากันสองคน เอ่อออออ ช่างเค้า เรามาสนใจหมอดีกว่า


หมอเค้าดูแคร์เรามากมาย กลัวว่าเราจะ Panic เรื่องการเป็นหวัด 2009 พร้อมกับอธิบายยาวยืดเกี่ยวกับผลตรวจ เค้าบอกว่าเราหนะผลตรวจออกมาว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 ชนิด A ซึ่งเป็นสายเดียวกับสายพันธุ์ใหม่แหละ แต่ยังบอกไม่ได้นะว่าเป็นหวัดสายพันธุ์ใหม่รึเปล่า ถ้าอยากรู้ผลต้องส่งตรวจอีก 1-2 วันค่าใช้จ่าย 6 พัน (ได้ยินแล้วจะเป็นลม) แล้วหมอก็บอกว่า "ถ้าถามหมอนะ ไม่ต้องไปตรวจหรอก" โอ้ววว เหตุผลคือ "ถึงจะสายพันธุ์ใหม่หรือเก่ามันก็รักษาตามอาการอยู่ดี" อืมมม จริง


แล้วหมอก็เผยความจริงให้อีกด้วยว่า ถ้าเป็นแต่ก่อนนะเค้าบังคับกักตัวแล้วเอาไปตรวจแล้ว แต่ทุกวันนี้หรอ มันคุมไม่อยู่แล้วววว ใครจะเป็นก็เป็นไป กระทรวงสาธารณสุขเค้าปล่อยแล้ว (เยี่ยม!)


จากการนั่งคุยกับหมอสักพักจึงจับประเด็นได้ว่า

1. ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ก็แค่ไข้หวัดใหญ่ ไม่ได้ร้ายแรงกว่าสายพันธุ์เก่ามากมาย อัตราการตายตัวเก่าอยู่ที่ 1% ส่วนตัวใหม่ 6% ซึ่งถือว่าน้อยมากแหละ

2. แต่สิ่งที่จะทำให้มันร้ายแรงคือไข้หวัดใหญ่ตัวเก่ามีวัคซีนทำให้สามารถควบคุมการติดต่อได้ แต่สายพันธุ์ใหม่ไม่สามารถควบคุมได้ ตอนนี้คาดว่าทั่วโลกมีคนติดมากกว่าล้านคนแล้ว ดังนั้นอาจจะตายกันเยอะ นั่นหมายความว่าคุณมีโอกาสติดได้ทุกเมื่อ แต่ไม่ได้หมายความว่าถ้าคุณติดคุณต้องตาย เพราะถึงคนจะติดเยอะแค่ไหน อัตราการตายก็ 6% อยู่ดี (ดูอย่างข้าพเจ้าเป็นตัวอย่าง หมอยังบอกเลยว่าอย่าไปสนใจ รักษากันตามอาการไป)

3. การเรียกมันว่า "เชื้อมรณะ" เป็นสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควรอย่างยิ่ง!! เพราะมันไม่ได้ทำให้คนตื่นตัวแต่ทำให้คนตื่นตูมโดยใช่เหตุ

4. การตรวจไข้หวัดใหญ่ว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่รึเปล่าต้องใช้เงินสูงมากในการเข้าแลป เดี๋ยวนี้เค้าไม่ตรวจกันแล้วเพราะว่าก็จะรู้แค่ว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่หรือไม่แค่นั้น ไม่มีผลต่อการรักษา

5. อาการของหวัด 2009 มีดังนี้

6. อาการรุนแรงที่ทำให้ได้ตายได้คือหอบและกดการหายใจ ถ้าเกิดเป็นต้องไปหาหมอด่วน

7. เราไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเราเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เก่าหรือใหม่ได้นอกจากจะไปตรวจ


จบแต่เพียงเท่านี้ดีกว่า ส่วนเราตอนนี้อาการยังไม่ดีแต่ก็ยังแรดมาอัพ Blog... ไม่มีอะไรหรอก อยากแบ่งปันข้อมูลในฐานะคนที่อยู่ในภาวะเสี่ยงหนะ อยากให้รู้ว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ไม่อยากให้แตกตื่นกันมากมาย ^ ^

บทความที่เกี่ยวข้อง

Dec 17, 2010, 14:14
7790 views
ฉีด Botox สู้ไมเกรน!!
Oct 2, 2011, 04:50
11492 views
เวลามีค่ามากกว่าเงิน
0 Comment(s)
Loading