กลับมาประเทศไทยมาสองวันแล้วแต่แรงก็ยังกลับมาสักที ไม่มีแรงเขียน Blog เท่าไหร่แต่คิดว่าถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้คงจะไม่ได้เขียนเป็นการถาวรแน่นอน... ก็เอาวะ! เขียนก็เขียน >_

วันแรกพอไปถึงที่พักในสิงคโปร์อย่างเสียวๆตามที่พูดใน Blog ที่แล้ว โรคติดเนตเกิดกำเริบเลยไปนั่งหาข้อมูลการใช้เนต ก็พบว่าโรงแรมมีบริการด้วยราคา SGD10 ต่อ 1 วันและ 30SGD ต่อ 7 วัน ซึ่งคนที่ไปด้วยก็มีอยู่ 3 คน มองหน้ากันไปมองหน้ากันมา... แพง!! เรามาแชร์กันเถอะ เลยจ่ายไป 1 คนแล้วมานั่งแชร์เนตผ่าน Repeater ที่เตรียมเอาไป ฮ่าๆๆๆ

แต่ผลปรากฎว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เสียเวลาเป็นชั่วโมงๆ สุดท้าย Repeater ที่เอาไปไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่ก็ค้นพบว่าโรงแรมมีบั๊กนิดหน่อยทำให้ใช้ได้ 2 เครื่องพร้อมกันโดยจ่ายเพียง 1 คนเท่านั้น สรุปก็เลยจ่ายไปแค่ 2 คนเท่านั้น ฮ่าๆๆๆ จริงๆคูณแล้วมันก็ไม่ได้เยอะแยะอะไรมากมายหรอก ประมาณ 750 บาทเอง แต่เน้นความสะใจ ฮ่าๆๆๆๆ (ไปถึงสิงคโปร์ ยังจะไปสนุกกับเรื่องพวกนี้อีกเนอะ -_-)

นั่งเสียเวลาไปกับมันนานเหมือนกัน กว่าจะกระดิกตัวเองออกจากห้องได้ก็ล่อไปบ่ายโมงกว่าละ พอก้าวออกจากห้องก็รู้สึกหิวอ่ะหิว เลยลงไปกิน Subway ที่ตึกติดกับที่พัก (เผอิญไปพักกลางเมืองตรง Orchard เลยหากินสะดวก)

ถือเป็นการกิน Subway ครั้งแรก กินไปครึ่งชิ้นถึงกับพุงกางงงง อิ่มมมมม นอกจากนั้นยังมีคุกกี้ชิ้นใหญ่เท่ามือให้กินอีก อิ่มอืดดดด

อิ่มเสร็จก็กลับเข้าห้องไปนอน... ไม่ได้สิ!! นึกขึ้นได้ กรูมาสิงคโปร์เพื่อมา Communic Asia นี่หว่าาาา เลยรีบกระโดดขึ้นแท็กซี่แล้วบึ่งไปยัง Communic Asia ทันที... ตอนแรกนึกว่าใกล้ๆ แต่พอเอาเข้าจริงมันก็ไกลพอควรเหมือนกันนะเนี่ย อยู่เกือบถึงสนามบินแหนะ

พอไปถึงก็ไปทำตาปริบๆใส่บู้ท Starhub ที่มาแจกซิมฟรีพร้อม Credit $2 อยู่หน้างานสำหรับคนต่างชาติที่มางาน CMMA เราก็เลยสอยไป 3 ใบ เย้ๆ มีซิมสิงคโปร์ใช้แล้ววววววววววว


จากนั้นเดินไปลงทะเบียนเอาบัตรเข้างาน สวยงามๆ

และแล้วก็ถึงเวลาเดินงาน... (เกริ่นซะยาว)

เดินงาน

งานวันแรกมีเวลาไม่มากนัก ด้วยสาเหตุที่บอกไปก่อนหน้านี้... มัวแต่ไปทะเลาะกับเนตโรงแรม -_- แต่ก็ถือว่าเก็บอะไรมาได้เยอะเหมือนกัน

บู้ทแรกที่ไปเจอแล้วทำให้เราหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายได้คือบู้ท Yahoo!

ไม่รู้จะถ่ายไปทำไมเหมือนกัน เพราะบู้ทยังไม่เปิดให้เข้าชม เลยเดินข้ามไป -_-

เดินเลยบู้ทยาฮูไปนิดหน่อยก็เห็นคนกำลังยืนเล่นต่อจิ๊กซอว์บนจอกระจกใสๆอยู่ โดยมี iPod Touch มาหลอกล่อให้คนไปเล่น

คนอื่นเค้าจะสนใจอะไรเราไม่แคร์ เราสนแค่ว่าเค้าทำจอใสๆนั่นเป็น Touch Screen ด้วยเทคนิคไหน (แหะๆ) เลยเดินอ้อมไปข้างหลังดูเทคนิค

ปรากฎว่าก็ตามคาด เค้าใช้ Projector ยิงภาพออกมาสะท้อนกระจกไปพาดลงจอฝ้าๆแล้วก็มีกล้องวางอยู่ข้างๆ Projector เพื่อถ่ายภาพการเคลื่อนไหวบนจอ แต่ครั้นจะถ่ายเฉยๆคงจะลำบากเกินที่จะตรวจจับการสัมผัสบนจอได้เพราะขนาดตายังดูไม่ออกเลย เลยเดาเอาว่าคงจะใช้เทคนิคที่ใช้บนพวกจอ Multi Touch ขนาดใหญ่ๆเช่นโต๊ะ Multi Touch คือยิงแสง Infrared ให้วิ่งๆอยู่ในกระจกฝ้า พอมีคนมาสัมผัสมันก็จะกระเจิงออกจากกระจกแล้วใช้กล้องที่ใส่ Filter Infrared มาตรวจจับแทน อืมๆ เท่ดี

เดินเลยไปอีกหน่อยก็เห็นไอ่นี่ น่าเล่นมากมาย

มันคือระบบ Simulation การขับรถมุมกว้าง(มาก)แบบ 3 จอ โดยเอารถแข่งมาเชื่อมต่อกับมอเตอร์ สายพาน ฯลฯ มากมายให้มันขยับได้เหมือนกับขับบนถนนจริง ถือเป็นระบบ Feedback ที่เท่มากเลยหละ แอบอยากเล่นแต่อาย เลยไม่ขึ้นไปเล่น แหะๆ

เดินไปอีก 10 ก้าวก็เจอบู้ท nuvifone มือถือของ Garmin Asus บู้ทใหญ่พอสมควรเลย

มีมือถือมาให้กดเล่นนิดหน่อยแต่ดันเป็นภาษาจีนจึงขอยอมแพ้ไป

โดยรวมก็เร็วดีนะ ไม่อืดมาก แต่ก็ไม่มีอะไรใหม่มากไปกว่าตอนที่ไปเดินที่สเปน ก็เลยเดินออกจากบู้ทไปอย่างไม่ใยดี หะหะ

บู้ทต่อไปที่จะพาไปเยี่ยมชมคือบู้ทสีแดงสดใสของ LG

LG งานนี้โปรโมท LG GD900 Crystal มือถือโปร่งใสเครื่องแรกของโลกอย่างอลังการ ถือว่าเป็นพระเอกของงานนี้เลยก็ว่าได้

ส่วนนี่นางเอก ฮ่าๆๆๆ

ไม่ใช่ละ! แต่ถ้าถามความรู้สึกส่วนตัวนะ... พริตตี้คนนี้น่ารักมาก... เอ้ย! ผิดเรื่อง จะบอกว่าชอบ LG GD900 เครื่องนี้มากกกกกก ไปยืนลองเล่นแล้วอยากได้เลยหละ ถือเป็นเครื่องแรกของ LG ที่ทำให้เราประทับใจได้ สำหรับรายละเอียดไว้จะเขียนใน Blog ถัดๆไป เพราะวันแรกไม่ได้ดูอย่างละเอียดมากนัก

และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ LG ทำขึ้นมา

คิดว่าทำมาเพื่อตามกระแสและประกาศให้โลกรู้ว่ากรูก็มีเท่านั้น เพราะไม่คิดว่ามันจะเวอร์คอ่ะนะ


ต่อมาก็กระโดดไปที่บู้ท Samsung ที่อยู่เยื้องๆกัน ซึ่งเผอิญไปเจ๊อะกับพี่หนุ่ยแบไต๋กับพี่จอห์นนูโวที่นั่นพอดี เลยยืนคุยกันนิดหน่อย พี่หนุ่ยทิ้งท้ายไว้ว่า "ลองเข้าไปดูในบู้ท Samsung แล้วความเป็นชายของคุณจะเพิ่มขึ้นอีก 200%" เลยรีบลาพี่เค้าแล้วพุ่งเข้าไปทันที ฮ่าๆๆๆ

...จริงด้วย!!

เฮ้ย!! มาดูมือถือ ลืมตัวๆๆๆ

สำหรับงานนี้ Samsung หิ้วอะไรมาเปิดตัวเยอะแยะเลย Samsung Jet เอย Omnia HD เอย Omnia Pro เอย Omnia Lite เอย Omnia II เอย Samsung Galaxy อีก โอยยย งงไปหมด

ก็มีโอกาสไปกดเล่นครบทุกรุ่นแหละนะ แต่ว่าประทับใจอยู่รุ่นเดียวคือเจ้าเก่าอย่าง Omnia HD

ซึ่งตรงนี้ต้องยอมรับว่าอยากได้โคดๆถึงมันจะใหญ่เกินมือจะถือได้ก็เถอะ

ส่วนอีกรุ่นที่เจอปุ๊บก็พุ่งเข้าไปหาเลยคือ Samsung Galaxy หรือที่ได้ยินกันหนาหูในนาม Samsung i7500 แอนดรอยด์เครื่องแรกของ Samsung!!

โดยรวมแล้วดูดีกว่า Android ทุกเครื่องที่เคยมีมา แต่... มันก็ยังช้าอยู่ ช้าโคดๆเลยหละ ไม่ค่อยพอใจกับมันเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้แย่มากอ่ะนะ ถ้ามันออกมาในราคาไม่แพง ก็มีลุ้นที่เรา(และ Geek จำนวนมาก)จะซื้อ เพราะ Android Phone ทุกวันนี้แพงเหลือเกินนนนน

ใครสนใจเป็นพิเศษก็ลองไปดูวีดีโอที่ถ่ายมาได้ๆ จะเห็นว่าช้าได้ใจ

จากนั้นไปยืนเล่นโน่นนี่นิดๆหน่อยๆ พอถึง Omnia Pro หยิบกล้องขึ้นมาจะถ่ายรูป... ก็มีเจ๊เดินรี่เข้ามา "No Photo" เฮ้อ... สเปนก็ทีนึงละ มาสิงคโปร์ก็เจออีก หงุดหงิด มีดีอย่างเดียวคือพริตตี้สวย เฮ้อออ

อีกหนึ่งอย่างที่ Samsung เอามาโปรโมทอย่างใหญ่โตในงานนี้คือ...

เอาอีกแล้ว หะหะ Samsung Application Store แต่จริงๆอันนี้เค้าเปิดตัวมาสักพักแล้วหละ แต่ก็ไม่บูมเท่าไหร่นัก

สิ่งที่มีอยู่ใน Samsung Application Store นี่ถือว่าน้อยมาก มีเกมอยู่ 9 ตัวเท่านั้น ที่เหลือไม่มีอะไรเลย หะหะ


อืมๆๆๆ ปิดท้ายบู้ท Samsung ด้วยนี่ละกัน

พี่แกเล่นหิ้ว Netbook มาเสนอด้วย หน้าตาเกือบเหมือน Lenovo S10 เลย แหมะ ลอกป่ะเนี่ยๆๆ


สุดท้ายก่อนออกจากงานก็ไปเดินเล่นบู้ท Blackberry นิดหน่อย ปรากฎว่าเล่นๆอยู่... เครื่องแฮงค์!! ต้องเอาแบตออก เอิ๊กๆๆๆๆ ไม่เป็นไรๆ คงปกติของ Smart Phone แหละนะ แต่... ตอนเปิดเครื่องใหม่นี่สิ บู้ทไป 5 นาทีได้!! แม่เจ้า ถึงกับเซ็งเหอะ แล้วเราจะเดินหนีไปไหนก็ไม่ได้ด้วยนะเพราะก่อนแฮงค์ดันเปลี่ยนให้เมนูเป็นภาษาไทย ต้องรอมันเปิดใหม่แล้วเปลี่ยนกลับเป็นอังกฤษให้ -_- พอเปิดใหม่ติดก็รีบแก้แล้วรีบเดินหนี Blackberry ไปในบัดดล เหอะๆ

จบการเดินงานวันแรกไปอย่างสนุกสนานและเหนื่อยมากกกกกก ขนาดเดินแค่ไม่กี่ชั่วโมงนะเนี่ย

ข้าวเย็น

กองทัพเดินด้วยท้อง หลังจากกลับจากการเดินงานอันแสนเหนื่อยล้า ก็ไปฝากท้องกันที่ร้านข้าว+เนื้ออย่าง Yoshinoya ตรงตึก Takashimaya ตรงข้าม Paragon

นี่คือสิ่งที่ข้าพเจ้าสั่งมา ข้าว+เนื้อ+ไก่

เนื้อจะมีรสชาติเปรี้ยวๆนิดหน่อย กำลังดี

เนื้อไก่ก็ทำมาได้ดี

อิ่มแล้วก็ไปนั่งชิลล์กันต่อที่ Starbuck ใต้ Paragon วิวสวยใช้ได้ หุหุ เพิ่งเห็นว่าสาวสิงคโปร์น่ารักสัดๆก็มีเหมือนกัน :p

จบวันแรกไปอย่างเหนื่อยหอบ! หิ้วทองอันเต็มไปด้วยอาหารขึ้นห้องแล้วก็... ไปนั่งกินขนมต่อบนห้อง ๕๕๕๕๕๕ แหม ก็นะ พอขึ้นไปก็นั่งทำงานกันต่อจนถึงตี 4 มันก็ต้องหิวบ้างแหละะะ แหะๆ ก็เอาเป็นว่าจบการเดินทางวันแรกไว้แค่นี้ละกันนะฮับ พรุ่งนี้ค่อยมาต่อของวันที่สอง

สวัสดีก๊ะเจ้า