"ทุ่มเทอย่างสุดกำลัง เพื่อความฝันและวันข้างหน้า วันนี้เหนื่อยไม่ว่าถ้าหากมันทำให้มีวันหน้าที่สวยงามได้"
Trip to India วันแรก
6 Dec 2009 06:10   [5833 views]

ไม่ได้อัพบล็อคมาหลายวัน มาอัพทีก็โผล่หัวอยู่อินเดียซะแล้ว โหะๆๆๆ ใช่แล้ว ตอนนี้อยู่เมืองบังกาลอร์อินเดียหนะ ส่วนมาทำอะไรหนะหรอ ก็มางานของโนเกียหนะ หลายงานเลยไม่ว่าจะเป็น Forum Nokia Developer Conference และก็งานรวมพลเหล่า Forum Nokia Champion อย่าง Forum Nokia Champion Day อีกด้วย (อย่างที่ได้บอกไปในบล็อคก่อนนั่นแหละ)


วันนี้การเดินทางก็ไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่ เจออุปสรรคมากมาย ถึงจะไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไรแต่มันก็มาเรื่อยๆ เหนื่อยอ่ะ


ต้องบอกก่อนว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางสองต่อคือจากกรุงเทพฯไป Kolkata จากนั้นก็ต่อไป Bangalore


อุปสรรคชีวิตอย่างแรกที่เจอก็คือ เคาน์เตอร์ KingFisher ไม่เอาใบ Immegration มาให้ เราเลยโดยตม.ดุแล้วไล่ไปเขียนใหม่ต่อแถวใหม่ บุ่ยยยย จากนั้นก็เจอ Ground ของสายการบินนี้พูดไม่ดีใส่ตอนเราเข้าไปถามตอน Gate เปิดว่า "ตะกี้เค้าให้ที่นั่งไหนเข้าก่อนนะครับฟังไม่ทัน" เค้าก็น่ารักมาก ตอบกลับมาว่า "เข้าไปเลยก็ได้ค่ะ ขี้เกียจคุย"


...ขอบคุณมาก...


แต่นั่นก็แค่เบาะๆเพราะความปั่นป่วนจริงจังเริ่มจากการที่เครื่องบินไปถึง Kolkata ช้ากว่ากำหนดเป็นชั่วโมงอีกทั้งกว่าจะได้กระเป๋าก็รออีกเกือบ 20 นาที แถมยังเขียนใบ Immegration พลาดอีก (โง่เอง) ทำให้มีเวลา Transfer เครื่องน้อยมาก คือประมาณ.. 15 นาทีนับจากได้กระเป๋า (ที่รู้ว่า 15 นาทีเพราะตอนเดินออกมามีแท็กซี่มาถามว่าจะนั่งแท็กซี่มั้ย พอเราบอกว่าไม่ เราจะไปบังกาลอร์ เค้าก็เลยหยิบนาฬิกาขึ้นมาดูแล้วก็บอกว่า "15 minutes left" เป็นประเทศที่คน Nice เหมือนกันนะ) ซึ่ง 15 นาทีอาจจะฟังดูเหมือนเยอะแต่จริงๆแล้วเรียกว่าน้อยมากกกกกกกกกกก เพราะเราต้องรอกระเป๋า(ซึ่งนานมากกว่าจะมา)แล้วลากกระเป๋าวิ่งไปอีกตึกนึงซึ่งเป็นตึกระหว่างประเทศ (ย้ำว่าวิ่งเพราะรอรถก็ไม่ทันแล้ว) เพื่อ Check In ใหม่ Load กระเป๋าใหม่ ตรวจของใหม่ บลาๆๆๆ วิ่งจนกระเป๋าล้อพังเลยอ่ะ ฮืออออ


พอถึงตึก Domestic ก็รีบทำโน่นทำนี่อย่างไวแต่เนื่องจากทาง KingFisher อินเดียเห็นว่าเวลาเหลือน้อยแล้วก็เลยจัดเส้นทางทุกอย่างให้โดยสะดวก มีอะไรต้องต่อแถวก็ลัดคิวให้ ตอน Load กระเป๋าก็ไม่ต้องทำ เค้าลากขึ้นเครื่องให้เลย บลาๆๆๆ (บริการดีจริง)


ตรงนี้เราโชคดีที่ขึ้นเครื่องทัน แต่จริงๆคือช้ากว่ากำหนด 5 นาทีแหละแต่เค้าก็รอ และนั่นเองจึงเกิดปัญหา... เพราะ Flight ที่เรามาจาก BKK มีทัวร์คนไทยเป็นป้าๆประมาณ 30-40 คนหรือมากกว่านั้นพร้อมพระอีกสามรูป เค้าก็จะไปบังกาลอร์เหมือนกัน แต่ทัวร์กรุ๊ปนี้ดูชิลล์กันเหลือเกิน เอ้อระเหยลอยชาย สุดท้ายไม่รู้ติดปัญหาอะไรกันทำให้มา Transfer ไม่ได้สักที ทาง Flight นี้ก็เลยรอร้อรอ ทางกัปตันก็ประกาศว่า "เราต้องรอผู้โดยสารจาก BKK มาก่อนถึงจะขึ้นเครื่องได้" แค่นั้นแหละ... แขกอินเดียใน Flight ก็เริ่มโวยเสียงดัง สรุปได้ใจความว่า "คุณให้เรามาตรงเวลา คุณก็ต้องออกตรงเวลา ทำไมพวกเราต้องมารอเค้าด้วย" จากตอนแรกโวยคนเดียว ผ่านไปอีกสิบยี่สิบนาที คน 1/3 ลำก็ลุกขึ้นมาตะโกนโวยวายด่าทอทั้งกัปตัน แอร์ พนักงานทุกคนจนเรียกว่าเป็นจลาจลย่อมๆ น่ากลัวมากอ่ะ


สุดท้ายหลังจากรอมา 45 นาที ก็ยังไม่เห็นวี่แววของเหล่ากรุ๊ปทัวร์ ทัวร์ทั้งกรุ๊ปนั้น... ก็เลยตกเครื่องไปเพราะแขกอินเดียไม่ยอมให้รอ บีบบังคับให้ไปเดี๋ยวนี้ หะหะ


ตรงนี้ก็ไม่ขอตัดสินอะไรใคร ทุกคนย่อมมีเหตุผลของตัวเอง... แต่กูกลัว!!


(เดาว่าป่านนี้ก็คงยังติดค้างอยู่เพราะ Flight มันมีวันละเที่ยวสองเที่ยวเอง)


จากนั้นก็นั่งเครื่องต่อไปยัง Bangalore พอเครื่องลงก็เลยเดินลงบ้าง แล้วก็โดนบล็อคตัวไว้... อ่อ ตกลงเค้าไม่ได้ลง Bangalore หนะ ดันไปแวะที่ไหนก่อนไม่รู้ แล้วค่อยไปบังกาลอร์อีกรอบ ToT โง่เองอีก!! แต่ก็ปวดหัวชะมัดอ่ะ Take Off 3 ครั้งติดแบบนี้ เส้นเลือดที่เป็นไมเกรนปรับความดันไม่ทัน เจ็บมากๆ แถมที่นั่งก็นั่งไม่สบายอีก ปวดหลังมากๆถึงมากที่สุด แถมที่หงุดหงิดหนักเลยคือรอบตัวมีแต่เด็กๆๆๆๆ รวมแล้ว 5 คนรอบกาย หน้าหนึ่ง ขวาสอง หลังสอง!! เป็นเด็กไม่ว่าหรอก แต่ดันร้องตลอดเวลาเลย ย้ำว่าตลอดเวลา!! บางทีก็ร้องเดี่ยว บางทีก็ประสานเสียงกัน แต่ไม่เคยมีแม้แต่วินาทีเดียวที่เงียบได้ สุดท้ายก็เลยนอนไม่ได้เพราะเด็กพวกนี้ แย่ชะมัด


จากนั้นก็มาถึงที่นี่ได้อย่างปลอดภัย แต่เหนื่อยห่านเพราะนอนก็ไม่ได้นอน ปวดหลังอีก ปวดหัวอีก เฮ้อ! อาหารก็ไม่อร่อย หนังก็เปิดเรื่องเดียวตลอดทริป เพลงก็ฟังไม่รู้เรื่อง เหม็นก็เหม็นนนนน การเดินทางวันแรกเลยค่อนข้างเฟว สุดท้ายก็มาเฟวเพิ่มตอนนั่งแท็กซี่จากสนามบินมาโรงแรม... แท็กซี่ไม่ได้เปิดมิเตอร์... อันนี้ปกติ ก็แค่บีบบังคับให้เค้าเปิด ซึ่งก็ยอมแต่โดยดี แต่ที่เฟวหนักเลยคือคนขับแม่งบีบแตรรถทุกคนที่มันจะแซง แสรดดด แถมเปิดหน้าต่างด้วย เสียงดังปวดหู หงุดหงิดมากมาย ไม่ได้นับนะว่าบีบกี่ครั้ง แต่อย่างต่ำก็ 100 ครั้งหละ (ในเวลา 20 นาที) แล้วก็มาเฟวอีกทีตอนจ่ายตังค์... โดนไป 600 รูปี T_T ก็คูณๆแล้วประมาณ 450 บาท ก็เอาวะ! อย่าคิดมาก แล้วก็มาเฟวส่งท้ายตอน Check-in... โดนทางโรงแรมยึด Passport ไป ไม่รู้เอาไปทำไม แต่เค้าบอกจะคืนให้ตอนเช้า :(


จากการมาอินเดียและนั่งสายการบิน KingFisher ครั้งนี้จึงได้รู้อะไรหลายอย่าง

1. หนังอินเดียสมัยใหม่นี่มันเทพนะเว้ยยยย มันเจ๋งมากอ่ะ >_<

2. โฆษณา Windows 7 โผล่มาทุก 5 นาทีบนเครื่อง

3. อินเดียเจริญแล้ว

4. คนก็หล่อสวยอยู่นะ

5. กูจะไม่มาอินเดียอีกแล้วววววววววววววววววววววววววววววววว


จบ (นี่แค่วันแรกนะ)

บทความที่เกี่ยวข้อง

Feb 26, 2010, 01:27
7904 views
หนีหน้ามาปายวันที่ 1
Mar 1, 2010, 16:38
8130 views
หนีหน้ามาปายวันที่ 3
0 Comment(s)
Loading