ช่วงนี้สถานการณ์ตึงเครียดและวุ่นวายเหลือเกิน มาผ่อนคลายความเครียดจากเรื่องการเมืองมาดูเรื่องอื่นกันมั่ง
เรื่องที่จะมาพูดถึงวันนี้คือ "21/12/2012 วันอวสานโลก" ... เป็นไง เครียดน้อยลงเปล่า!! ฮ่าๆๆๆ ดูเหมือนจะเครียดขึ้นนะ
ถ้าคนที่ติดตามเรื่องการทำนายทายทักคงจะคุ้นกับวันนี้ดี เพราะเป็นวันที่ศาสตร์หลายๆด้านให้ข้อมูลว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นพร้อมๆกันหลายอย่างโดยไม่ได้นัดหมายในวันนี้
เอาทางด้านวิทยาศาสตร์ก่อนละกัน เคยได้ยินเรื่องการกลับขั้วแม่เหล็กโลกมั้ย? นั่นแหละ นักวิทยาศาสตร์เค้าคำนวณกันไว้ว่า วันที่ 21 ธันวา 2012 นี้จะเกิดเหตุการณ์ขั้วแม่โลกพลิกกลับอย่างสมบูรณ์ ... แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังหา Paper ดีๆไม่ได้ว่าจะเกิดยังไง เกิดเมื่อไหร่
จะว่าไป การที่ขั้วแม่เหล็กโลกพลิกกลับนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นแบบฉับพลันหรอก ไม่ใช่ว่าวันที่ 20 ธันวาทุกอย่างยังปกติ แต่พอ 21 ปุ๊บทุกอย่างพลิกกลับทันควัน!! หาใช่อย่างนั้นไม่ (สำนวนลิเกมั้ย) ถ้าเป็นแบบนั้นมันก็ตลกไปนิดนึง จริงๆมันจะค่อยๆเกิดอย่างช้าๆ แล้วมันเริ่มเมื่อไหร่?... คำตอบคือมันเริ่มมาหลายปีแล้ว เพียงแต่ไม่มีคนสนใจข้อมูลตรงนี้เท่าไหร่นัก
อาจจะสังเกตเห็นว่าช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้เกิดภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงแบบไม่เคยพบเจอมาก่อนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเฮอริเคนแคธารีนา แผ่นดินไหวใหญ่นับครั้งไม่ถ้วนที่อินโดนีเซีย รวมถึงสึนามิที่คร่าชีวิตผู้คนหลายแสนทั่วโลก ทั้งหมดนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของขั้วแม่เหล็กโลกทั้งสิ้น หาใช่ภาวะโลกร้อนอย่างที่ทุกคนเข้าใจไม่ (ลิเกรอบสอง)
คงมีคำถามเกิดขึ้นในใจว่าการที่ขั้วแม่เหล็กโลกมันพลิกกลับ มันร้ายแรงแค่ไหน? ต้องบอกก่อนว่าสนามแม่เหล็กโลกตอนนี้ทำหน้าที่ป้องกันรังสีคอสมิคและพายุสุริยะอยู่ ถ้าสนามแม่เหล็กเกิดการกลับขั้วหรืออ่อนแรงลง รังสีเหล่านี้ก็จะพุ่งเข้ามายังพื้นโลกได้ ส่งผลให้มนุษย์ไม่สามารถอยู่ได้ จากการคำนวณ นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า มันเคยเกิดมาแล้วหลายครั้ง ครั้งหนึ่งคือยุคไดโนเสาร์ และทำให้สัตว์ขนาดยักษ์ทั้งหลายนั้นสูญพันธุ์ไปในที่สุด ทั้งนี้ข้อมูลตรงนี้ก็ยังเป็นเพียงแค่ทฤษฎี เพราะยังไม่มีใครพิสูจน์ได้อย่างแท้จริงว่าไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปเพราะอะไรกันแน่
...ดาราศาสตร์มั่งละกัน...
นักดาราศาสตร์คำนวณเอาไว้ว่า วันที่ 21 นั้นจะเกิดเหตุการณ์ที่โลก ดวงอาทิตย์ และกาแล็กซี่เกิดการเรียงตัวกัน โดยมีดวงอาทิตย์อยู่ศูนย์กลางกาแล็กซี่ เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ได้ถูกคำนวณโดยใครที่ไหนไม่รู้มากมายจนขี้เกียจเอาชื่อ มาแปะว่า วงโคจรจะเพี้ยนและสั่นคลอนทั้งกาแล็กซี่ ถ้าโชคดีจัดๆก็จะมีดาวดวงหนึ่งพุ่งมาเฉียดโลก ... ส่วนจะชนมั้ยก็ไม่อาจจะรู้ได้
ซึ่งทั้งหมดนี้ ... ไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด คนเข้ามาเขียนกันเอง ฮ่าๆๆๆ
...วิทยาศาสตร์แล้ว มาโหราศาสตร์กันบ้าง...
เผอิญเราศึกษาด้านโหราศาสตร์มาพอควร (ชอบเรื่องลี้ลับ) ก็พบว่ามีคนทำนายถึงปี 2012 นี้ไว้มากมาย คนหนึ่งที่ทุกคนต้องรู้จักแน่นอนคือ "นอสตราดามุส" ... แต่ไม่ได้พูดถึงการทำลายล้างใดๆ พูดถึงแค่ว่าดาวและกาแล็กซี่จะเกิดการเรียงกันสอดคล้องกับที่นักดาราศาสตร์คำนวณเอาไว้
แต่คนที่พูดตรงๆเลยว่าจะเกิดเหตุภัยพิบัติก็มี อย่างที่ดังสุดคือนายกอร์ดอน[1] ผู้ซึ่งตายแล้วฟื้นขึ้นมาแล้วอ้างว่าเค้าได้รับพรจากสวรรค์ให้หยั่งรู้อนาคตได้ นายคนนี้ทำนายอะไรไว้หลายอย่าง แล้วเผอิ๊ญญญญเผอิญถูกเป๊ะๆราวกับเป็นคนสั่งการให้เกิดเอง คำทำนายขึ้นชื่อคือเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ LA ในปี 2535 และแคลิฟอร์เนีย 2537
แล้วนายกอร์ดอนคนนี้ก็ดั๊นนนนทำนายไว้ว่าโลกจะเกิดการเปลี่ยนแปลงจากภัยธรรมชาตินานับประการอย่างเช่นน้ำท่วม แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด โดยทั้งหมดจะเกิดตั้งแต่ปี 1988 และสิ้นสุดปี 2012 ... และหลังจากการเปลี่ยนแปลงนั้นเอง แผนที่โลกจะเปลี่ยนไป และนายกอร์ดอนก็ใช้เวลา 4 ปีในการวาดแผนที่ใหม่ที่เค้าอ้างว่าเกิดจากที่เค้าเห็นว่าตัวเองลอยอยู่บนอวกาศและมองกลับมาที่โลก
... ตกใจกับแผนที่ใหม่มั้ย? โดยรวมเปลือกโลกหลายส่วนเกิดการเคลื่อนตัว แต่ที่น่าตกใจ(จัดๆ)คือ แผ่นดินหายเป็นเกือบครึ่ง และถูกแทนที่ด้วยทะเลทะเลและก็ทะเล... หากโฟกัสที่ประเทศไทยก็จะพบว่า หายไปครึ่งประเทศ ซึ่งตรงนี้ตรงกับที่หมอดูและนักวิทยาศาสตร์ไทยหลายคนทำนายไว้
ความน่าตกใจไม่ได้สิ้นสุดที่นายกอร์ดอนเสียด้วยสิ เพราะยังมีอีกหลายคนที่ทำนายเรื่องนี้ไว้ อย่างเช่น นักทำนายชาวบราซิลอย่างฮูเซลีนโย่ที่ทำนายเรื่องภัยธรรมชาตินานับประการในช่วงนี้ไว้เหมือนนายกอร์ดอนเด๊ะๆ แต่มีของแถมว่าปี 2011 จะเกิดไวรัสพันธุ์ใหม่ที่คร่าชีวิตมนุษย์ไปมากมาย ปี 2014 ดาวเคราะห์ดวงเล็กๆจะพุ่งชนโลก ล่วงจนปี 2015 มนุษย์จำนวนมากต้องตายเพราะความร้อน
ประจวบกับนักทำนายที่อ้างว่าตัวเองสามารถติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้อย่าง โอลิเวียร่า พูดถึงปี 2012 ว่าจะเกิดแสงสว่างที่สุดในกาแล็กซี่และสะท้อนไปยังดาวเคราะห์ทุกดวงในกาแล็กซี่ และจะทำให้โลกเกิดการปั่นป่วนมากมาย (สามารถรบกวนคลื่นวิทยุในโลกได้ ถ้าใครได้ดูเรื่อง Knowing แล้ว ก็นั่นแหละ สไตล์นั้น) ความซวยจะเกิดต่อเนื่องจากตรงนี้ เมื่อระบบคลื่นวิทยุรวนก็จะทำให้ระบบคอมพิวเตอร์รวนไปด้วย หนึ่งในสิ่งที่ทุกคนกลัวคือขีปนาวุธจะทำงานเองหรือเปล่า
ยัง ยังไม่พอ จริงๆยังมีอีกเพียบ ทั้งหมอดูธรรมดาและหมอดูมนุษย์ต่างดาวที่พูดถึงปี 2012 นี้ มีคนนึงจำชื่อไม่ได้แล้ว อ้างว่าตัวเองโดนมนุษย์ต่างดาวจับตัวไป โดนวันที่หายตัวไปเค้าหายไปจากเตียงนอนโดยทิ้งรอยไหม้ไว้บนเตียง แต่อีกไม่กี่วันต่อมาญาติก็มาพบเค้านอนอยู่บนเตียงตัวเดิม หลังจากนั้นเค้าก็กลายเป็นนักทำนายคนหนึ่งไป นายคนนั้นก็ได้พูดถึงปี 2012 นี้เช่นกัน แต่... เค้าพูดถึงปีหลังจากนั้นด้วย ซึ่งตรงกับนักทำนายทุกคนที่ทำนายเหตุการณ์หลังจากปี 2012 ไปแล้ว ดังนั้นในศาสตร์โหราศาสตร์ยังเชื่อกันว่าปี 2012 ยังไม่ใช่ปีของโลกาวินาศแต่อย่างใด เพียงแต่จะเป็นปีของ "โลกใหม่"
...มาด้านโบราณคดีกันบ้าง...
ชาวมายาเป็นชนเผ่าที่ทุกคนยอมรับในความพิศวง หลายๆอย่างที่ชนเผ่านี้ทำออกมากลับเจริญรุดหน้ากว่าหลายๆอย่างในสมัยนี้ด้วยซ้ำ สิ่งขึ้นชื่อเลยก็คงหนีไม่พ้นปฏิทินชาวมายันที่ถูกทำไว้ 5,000 ปี โดยแต่ละเดือนมี 20 วัน สิ่งที่น่าตกใจคือ ปฏิทินสิ้นสุดในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 นี้เอง! นี่ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดจากเรื่องราวทั้งหมดเลยก็ว่าได้ เพราะทุกวันนี้ยังไม่มีใครไขปริศนาของชาวมายาออก เลยเป็นคำถามข้างในจิตใจของหลายคนถึงวันสุดท้ายในปฏิทินนี้
...เริ่มสนุกแล้วใช่มั้ย มาต่อกันที่ใบเบิ้ล...
ใครเป็นคนคริสต์ก็คงจะเคยอ่านคำทำนายวิวรณ์ ถึงจะไม่บ่งบอกวันและปีชัดเจน แต่มีตอนหนึ่งที่ระบุไว้ว่า หลังจากที่พระเจ้าปล่อยให้สัตว์ร้ายสองตัวต่อสู้กันโดยไม่ทำอะไรมาระยะหนึ่ง จะเกิดเหตุการณ์ที่คน 2 ใน 3 ของโลกจะสิ้น และเหลือ 1 ใน 3 ของโลกที่จะดำเนินชีวิตต่อไป คำทำนายหลายๆอย่างได้เกิดขึ้นมาเกินครึ่งแล้ว ส่วนคำทำนายนี้ยังไม่เกิดขึ้น เลยรอดูอยู่ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่กัน
...สุดท้าย จากมุมมองกลุ่มผู้คนที่เชื่อในมนุษย์ต่างดาว...
มีหลักฐานมากมายที่บ่งบอกว่า UFO มีจริงๆ และทุกคนค่อนข้างมั่นใจว่ารัฐบาลหลายต่อหลายชาติอย่างเช่นสหรัฐฯ รัสเซีย รู้ตรงนี้ อีกทั้งยังติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำไป แต่กลับเก็บเป็นความลับระดับชาติไว้... เกิดเป็นข้อสงสัยว่า "ทำไมต้องปิดเป็นความลับ ทั้งๆที่เป็นเรื่องปกติธรรมดาจะตายไป" จึงมีคนเชื่อว่าทางประเทศต่างๆกำลังติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวเพื่อรับการช่วยเหลือให้พ้นวิกฤติตรงนี้ไปได้นั่นเอง แน่นอน... รวมถึงประเทศไทยด้วย ;) เพียงแต่ไม่ใช่รัฐบาล (เพราะเอาแต่กัดกัน ชิงอำนาจกันอยู่นั่นแหละ) แต่เป็นกลุ่มคนเล็กๆที่สามารถติดต่อมนุษย์ต่างดาวได้ และพิสูจน์แล้วด้วยว่าติดต่อได้จริงๆ
เฮ้อ เหนื่อยหวะ เขียนแค่นี้ละกัน ทั้งนี้ที่เขียนมานี้ไม่ได้อยากให้ตื่นตูมกันนะ แล้วก็ไม่อยากให้เครียดกันด้วย แค่อยากให้จะทุกคนใช้ชีวิตโดยมีความคิดว่า "วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของชั้น" เพราะเราไม่มีใครรู้หรอกว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หรือถ้าเกิดขึ้นจริงถามจริงๆว่าเราจะทำอะไรได้? อย่างดีก็หนีไปอยู่ที่สูง แต่ถ้าจะไปยืนอยู่ปากปล่องภูเขาไฟแล้วก็ยืนด่าพร้อมสั่งว่าห้ามระเบิดนะโว้ย!... ก็คงเป็นไปไม่ได้ หรือแม้แต่แผ่นดินไหว จะกระทืบพื้นแล้วสั่งว่า อย่าไหวนะเมิงๆ ... ก็คงไม่ได้อีกนั่นแหละ จริงมะๆ อิอิ
อืม... อีกสักทั้งนี้ละกัน ทั้งนี้ยังมีความเชื่ออีกว่าปี 2012 ไม่ใช่วันโลกแตกหรอก แต่เป็นวันที่โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สู่โลกใบใหม่ที่จะสะอาดขึ้น ผู้คนอยู่กันอย่างเป็นสุขขึ้น เพียงแต่คนจำนวนมากจะอยู่ไม่ถึงวันนั้นเท่านั้นเอง
Source: http://blogazine.prachatai.com/user/dinya/post/1349[1], http://www.google.com
ปล. Blog ที่แล้วเฟอร์ตอบเป็นคนแรกนะ ฮ่าๆ