กลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องมาแล้วสำหรับ Amazon Go ซุปเปอร์มาร์เก็ตไซส์เล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีจนสามารถสร้างประสบการณ์การซื้อของที่ไม่เคยมีที่ไหนด้วยการเดินเข้าไปหยิบของแล้วออกมาได้เลย !

แน่นอนว่าเค้าไม่ได้แจกฟรี ก็เก็บเงินเราเหมือนเดิมนี่แหละ แต่อาจจะสงสัยว่าแล้วจ่ายเงินยังไงถ้าเดินออกมาได้เลย เผอิญว่าวันก่อนไปเดินเล่นมาก็เลยไปเก็บข้อมูลมา รู้สึกว่ามันน่าสนใจและเจ๋งมากกกก เลยมาเขียนบล็อกเล่าต่อให้ฟังกันครับ

Amazon Go คืออะไร

ถ้าพูดถึง Amazon คนไทยอาจจะยังไม่คุ้นชินมากเพราะอาจไม่ค่อยได้ใช้บริการกัน แต่สำหรับคนที่อยู่ที่เมกาแล้ว มันเป็นร้านขายของออนไลน์ที่ใหญ่อันดับหนึ่งไปแล้ว และจะบอกว่าผู้คนไม่ค่อยไปซื้อของตามห้างกันแล้ว หลัก ๆ ก็เปิด Amazon แล้วรอรับของที่บ้านเลย

ดังนั้นถ้าพูดถึง Position ของ Amazon แล้ว มันก็คือ "ร้านขายของที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา" นั่นแหละ

ทีนี้ที่ผ่านมา Amazon มีความพยายามจะขยายร้านของตัวเองจากออนไลน์สู่ Offline (ซึ่งเป็นทางตรงกันข้ามกับร้านค้าดั้งเดิมอื่น ๆ เลย) หนึ่งในตัวอย่างคือการซื้อ Whole Foods ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ขึ้นชื่อเรื่องสินค้าเพื่อสุขภาพ ไม่ใช่สารกันบูดและยาฆ่าแมลงใด ๆ ปลอดภัยจากสารเคมีอันตรายแน่นอน

แต่แน่นอนว่า Amazon ก็อยากจะเปิดร้านสะดวกซื้อของตัวเองในแบรนด์ Amazon เหมือนกัน ซื้อแบรนด์คนอื่นก็ยังไม่ตอบโจทย์ แต่ถ้าเปิดร้านขึ้นมาเฉย ๆ มันก็คงจะแข่งกับคนอื่นยากเพราะที่นี่ก็มีเจ้าตลาดอยู่แล้ว Amazon เลยซุ่มสร้างนวัตกรรมพร้อมนำเสนอ "ความแตกต่าง" พ่วงด้วยนวัตกรรมล้ำ ๆ อย่างไม่เคยมีมาก่อนเยอะมากภายใต้ร้านที่ชื่อว่า "Amazon Go"

Amazon Go ดูภายนอกก็เหมือนกับร้านสะดวกซื้อทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วเรียกว่ามีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับร้านสะดวกซื้อแบบเดิม ๆ ประมาณว่าเป็นร้านในอนาคตที่เกิดขึ้นจริงแล้ววันนี้แล้วก็ว่าได้ ด้วยคอนเซปต์

"Just Walk Out" หรือ "แค่เดินออก"

แปลตรง ๆ คือ สามารถหยิบของแล้วเดินออกได้เลย ไม่ต้องต่อคิวจ่ายเงินเหมือนอย่างที่แล้วมาอีกต่อไป !

เป็นไปได้ไง แม่นยำแค่ไหน เดี๋ยวมาบอกกันอีกทีด้านล่าง

แน่นอนว่าร้านก็มีพนักงานอยู่ แต่หลัก ๆ คือเป็นพนักงานที่คอยสอนวิธีการใช้งานสำหรับมือใหม่ กับอีกส่วนนึงคือพนักงานที่อยู่ในห้องครัวทำอาหารสดขาย ส่วนพนักงานเก็บเงินอะไรทั้งหลายไม่มีเลยจ้าาาา

มาดูกันว่าร้านนี้ทำงานยังไง ไป

วิธีเข้าร้าน Amazon Go

ถึงจะเดินออกจากร้านได้เลย แต่ตอนเข้าไม่ใช่เดินเข้าไปได้ดื้อ ๆ แบบร้านสะดวกซื้อทั่วไปไรงี้นะ แต่เราต้องเปิดแอป ฯ Amazon Go แล้ว "แปะ QR Code" เพื่อเข้าร้านด้วย อารมณ์เหมือนแปะบัตรเข้า BTS ไรงี้

สาเหตุก็เพราะว่า แอป ฯ Amazon Go จะผูกกับแอคเค้าท์บน Amazon ของเราซึ่งมีข้อมูลบัตรเครดิตเราอยู่ (ถ้าไม่มีก็ใส่เพิ่มในแอป ฯ ได้เลย) ตอนแปะเข้าไปมันก็จะจำว่าคนหน้าตาแบบนี้ใช้แอคเค้าท์ Amazon ไหน จะได้ตัดบัตรเครดิตตอนเดินออกถูกนั่นเอง

มีแอคเค้าท์คนเดียวจะเข้ากี่คนก็ได้

แล้วถ้าไปกันเป็นสิบคนต้องมีแอคเค้าท์ทุกคนมั้ย ?

คำตอบคือ ไม่ต้องครับ มีคนเดียวก็พอ

ตอนเข้าก็แค่ต้องแปะ QR Code แล้วให้คนเดินผ่านไม้กั้นไปทีละคน (แปะ 1 ครั้งเดินเข้าได้ 1 คน) ทำจนครบ จากนั้นทุกคนก็จะถูกตัดเงินไปที่แอคเค้าท์เดียวกันครับคือของคนแปะนั่นเอง

เทคนิคเบื้องหลัง เซนเซอร์รอบทิศ

ภายในร้านนี่เหมือนกับร้านสะดวกซื้อทั่วไปเลย มี Shelf วางสินค้า มีราคาแปะอยู่ หยิบของได้เลย ไม่มีขั้นตอนอะไรพิเศษ

ถามว่าทำได้ยังไง คำตอบคือ "มีเซนเซอร์รอบทิศเลยจ้าาาา"

ด้านบนนี่มีกล้องหลายร้อยตัว Shelf วางสินค้ามีเซนเซอร์วัดน้ำหนักอยู่ ด้านหลัง Shelf มีกล้องและเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและ Detect หน้าคน

ด้วยซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทำให้ร้านนี้เหมือนสิ่งมีชีวิตที่มองเห็นทุกอย่าง คนหยิบของก็รู้ทันทีว่าใครหยิบ ถ้าวางของคืนก็จะรู้อีกเช่นกัน และจากที่ลองนี่บอกเลยว่าแม่นยำมากกกกกก ที่น่าประทับใจคือเค้าทำระบบได้เสถียรสุด ๆ โกงไม่ได้เลย จะหลบจะแอบยังไงมันก็รู้หมด เจ๋งมากกก

ระบบตัดสินใจยังไงว่าเราซื้อสินค้าชิ้นไหน

เกิดคำถามที่แอบสงสัย ถ้าเราหยิบของ A ส่วนเพื่อนหยิบของ B แล้วสลับของกันเดินออก ระบบจะคิดเงินสินค้า B (ที่เพื่อนหยิบ) หรือ A (ที่เราหยิบ) กับเรา ?

ซึ่งซนไปได้สักพัก สรุปว่ามันคิดเงินสินค้า A ที่เราหยิบจ้าาาาา

ข้อสรุปง่าย ๆ คือ

"ใครหยิบชิ้นไหนออกจาก Shelf คนนั้นจ่าย"

ต่อให้จะทำอะไรหลังจากนั้นมันก็ไม่สนใจ คนหยิบคือคนจ่ายเป็นอันจบ (ยกเว้นถ้าวางคืน ก็จะไม่ถูกคิดเงิน)

ก็ถือเป็น Logic ที่ซิมเปิ้ลดี Make Sense และโอกาสพลาดน้อย

จ่ายเงินตอนไหน

เราจะหยิบของกี่ชิ้นก็ได้ แต่มันจะยังไม่คิดเงินจนกว่าเราจะ "เดินออก" จากร้านครับ

ซึ่งการเดินออกก็จะมีไม้กั้นเหมือนกันให้ออกได้ทีละคน แต่ตอนออกไม่ต้องแปะอะไรละ เดินออกได้เลย แล้วก็รออีกสัก 20-30 นาทีก็จะมีบิลส่งมาที่แอป ฯ Amazon Go เพื่อให้ดูว่าเราซื้ออะไรไปบ้าง

ก็ถือว่าใช้เวลานานนะ สงสัยเหมือนกันว่าถ้าผ่านไป 30 นาทีแล้วมันขึ้นสินค้าผิด เราจะทำยังไงได้บ้าง จะเดินกลับมาก็ไม่ใช่เรื่อง พนักงานก็บอกว่า "เราสามารถแก้ไขผ่านแอป ฯ ได้เลยว่ามันคิดเงินผิด แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยเจอเคสนั้นเลย !"

ยอม

วิดีโอพาเดินเล่นใน Amazon Go

ก็เอาเป็นว่าพาไปเดินเล่นกันหน่อยละกันสำหรับ Amazon Go

เป็นประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ดีมากครับ ใครมาเมกาแนะนำให้แวะมาเดินเล่นจริง ๆ มีอะไรกลับไปเล่าให้เพื่อนฟังเพียบแน่

Amazon Go มีที่ไหนบ้าง

Amazon Go ตอนนี้ยังมีอยู่แค่ 10 สาขา ประกอบด้วย Seattle 4 สาขา, Chicago 4 สาขาและ San Francisco อีก 2 สาขา ใครแวะไปเมืองเหล่านี้ก็ลองดูใน Google Maps ได้ครับว่าร้านอยู่ไหน จะได้แวะไปดูกัน

ไม่อยากให้พลาดเลยจริง ๆ ประทับใจ ๆ =)