บล็อกรีวิวฉบับเต็มละเอียดยิบจบไปแล้ว (สำหรับใครที่พลาด กดดูที่นี่ได้เลย รีวิว DJI Osmo Pocket ของคู่กายที่ Vlogger คู่ควร ฉบับละเอียดยิบยิบยิบยิบยิบ) คราวนี้มาเรื่องทริคเทคนิคใช้งาน DJI Osmo Pocket ในเชิงต่อยอดกันบ้าง โดยบล็อกวันนี้จะนำเสนอวิธีการถ่าย "Hyperlapse" กันครับ

สำหรับคนที่ไม่รู้ว่า Hyperlapse คืออะไร มันก็คือ Timelapse นั่นแหละ แต่มีการเคลื่อนไหวของกล้อง เช่น การเดินมาร่วมด้วย นี่เป็นตัวอย่าง

ทั้งนี้ Hyperlapse ไม่ใช่โหมดที่มีมากับ Osmo Pocket แต่อย่างใด แต่นี่เป็นการ Hack ให้มันใช้ได้ด้วยการถ่ายวีดีโอปกติแล้วค่อยเอาวีดีโอมาเร่งสปีดทีหลัง ฟังดูเหมือนตรงไปตรงมา แต่เอาเข้าจริงถ้าเดินถ่ายปกติก็จะไม่ได้วีดีโอที่เนียน ๆ สวย ๆ แบบนี้หรอก เราเลยต้องใช้ฟีเจอร์บางอย่างใน Osmo Pocket มาร่วมด้วยเพื่อให้ได้ภาพที่นิ่งแม้จะเร่งสปีดแล้วก็ตาม ซึ่งฟีเจอร์นั้นคือ "ActiveTrack" นั่นเอง

เอาหละ มาดูวิธีเต็ม ๆ กันเลยดีกว่า ตามนี้เลยยยย

1) ปรับโหมดถ่ายวีดีโอปกติ ปรับความละเอียดตามต้องการได้เลย อย่างนี่เราถ่ายด้วย 1080p/30fps (จริง ๆ แนะนำเป็น 4K จะสวยกว่ามาก)

2) มองหาวัตถุที่มองเห็นตลอดการถ่าย เราจะเอาวัตถุนั้นเป็นจุดที่กล้องหันไปตลอดเวลา แล้วแตะจอสองครั้งที่วัตถุนั้นเพื่อเปิดฟีเจอร์ ActiveTrack จากนั้นกล้องจะหันไปยังวัตถุนั้นตลอดการถ่ายครับ อย่างนี่เรา ActiveTrack ไปที่ต้นคริสต์มาส (ยิ่งวัตถุอยู่สูงจะมีโอกาสที่เห็นจากทุกมุมมากขึ้นก็เลยเลือกต้นคริสต์มาส)

จากนั้นก็เดินถ่ายเลย ! โดยตอนเดินนี่ขอให้เดินช้า ๆ ครับ อารมณ์ประมาณคิดว่าตัวเองเป็นเต่า นี่เป็นผลงานการถ่าย (ไม่ต้องดูจบหรอก ดูแค่ความเร็วก็พอ)

ความเท่ของวีดีโอตัวนี้คือเราไม่ได้หันกล้องเองเลย เจ้า Osmo Pocket มันหันไปทางต้นคริสต์มาสเอง นี่ถ้าไม่ต้องคอยหลบคนคงเนียนกว่านี้อีก

3) เอาวีดีโอมาเร่งสปีดในแอป ฯ DJI Mimo พร้อม Mute เสียง - ก็โอนไฟล์เข้ามือถือผ่าน DJI Mimo App ได้เลย แล้วก็เร่งสปีดเป็น 4X (ซึ่งสูงสุดที่แอป ฯ ทำได้) พร้อมกับ Mute เสียงด้วย ไม่งั้นเสียงจะแหลมและบาดหูมาก จากนั้นก็ Export ออกมาได้เลย

แต่ 4X มักจะไม่พอ เราแนะนำเป็น 16X หรือ 32X ก็ทำได้ไม่ยาก แค่เอาวีดีโอที่ Export ออกมาเอามาเร่งสปีดซ้ำจนกว่าจะพอใจ สุดท้ายจะได้วีดีโอออกมางาม ๆ แบบนี้ครับ อันนี้ 32X

ส่วนอันนี้ถ่ายกลางคืน เร่งสปีด 16X

ลองเอาไปทำกันดูได้นะ ทำไม่ยาก ผลงานออกมาเท่ดีด้วย =D