ช่วงนี้สนุกกับการซ่อมของมาก สัปดาห์ก่อนก็เพิ่งเย็บกางเกงที่ขาดไป ส่วนวันนี้ถึงคราวกระเบื้องห้องน้ำที่ยาแนวหลุดไปเป็นปีจนกระเบื้องโมเสคที่พื้นเริ่มหลุดแล้ว ก็เลยได้เริ่มภารกิจ "เอายาแนวกระเบื้องกลับมา !" ไม่คิดอะไรมากมายเดี๋ยวไม่ได้ทำ วิ่งไปร้านอุปกรณ์ก่อสร้างใกล้บ้านแล้วกลับมาลุยเลยยย

นี่ก็เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ยาแนวกระเบื้องเอง ก็เลยสนุกกับมันพอสมควร ซื้ออะไรมาลองหลายอย่าง สุดท้ายก็ได้วิธียาแนวที่เวอร์คเรียบร้อย ผลงานออกมาสวยงาม เลยเอามาเขียนบันทึกไว้เผื่อใครอยากจะทำบ้าง และวันนึงถ้าเราต้องทำอีกจะได้มากลับมาอ่านเองด้วย 555

จะบอกว่ามันง่ายมาก ใครก็ทำได้ ไม่ต้องมีสกิลช่างก็ทำได้ และต้นทุนก็ถูกมากด้วย อ่ะ มาดูกัน

เตรียมอุปกรณ์

อุปกรณ์ที่ใช้ค่อนข้างง่าย ๆ ตรงไปตรงมา ทุกอย่างหาได้จากร้านอุปกรณ์ก่อสร้าง มีดังต่อไปนี้

1) ที่ขูดร่อง (มีหลายแบบ ลองถามเจ้าของร้านดูว่าอยากได้ที่ขูดร่องกระเบื้อง เดี๋ยวเค้าก็จัดมาให้เอง)

2) เกียงสามเหลี่ยม ถ้าเป็นเกียงยางจะดีมาก

3) กาวยาแนวตราจระเข้ มันมีหลายสีมาก แต่เบสิคสุดก็สีขาว สีครีมและก็สีดำ เลือกให้เหมาะสมกับสีของกระเบื้องครับ สำคัญมาก สีผิดนี่ทำใหม่หมดเลยนะ

4) ถุงมือยาง เพราะมันจะเลอะเทอะมาก ไม่ใส่นี่มือเละ

5) ฟองน้ำ ขอใหญ่ ๆ ใหญ่กว่าในรูป เพราะต้องใช้เช็ดเยอะพอสมควร

6) ผ้าแห้ง ถ้ายาแนวพื้นที่เยอะก็เตรียมไว้หลาย ๆ ผืน

7) ถ้วยผสม เตรียมให้เหมาะกับปริมาณที่ต้องใช้ นี่ทำไม่เยอะก็เลยใช้แก้วพลาสติคเอา ง่าย ๆ

8) ไม้คน ใช้อะไรก็ได้ นี่ใช้ตะเกียบคนเอา ก็ได้อยู่

ทั้งหมดนี่ไม่เกิน 500 บาท แพงสุดก็ที่ขูดร่อง ที่เหลือแต่ละอย่างแค่ไม่กี่สิบบาทเท่าน้านนน

ขั้นตอนการยาแนว

1) อย่างแรกเลยคือต้องทำความสะอาดร่องก่อน เพราะถ้าร่องมีคราบมันหรือว่าตื้นไปจะทำให้ยาแนวยึดไม่อยู่ หรืออยู่ได้ไม่นานก็หลุด ดังนั้นก็ใช้ขูดร่องทำความสะอาดแต่ละร่องเต็มที่ ร่องไหนตื้นก็ขูดให้มันลึกลงไป ร่องไหนมีคราบอะไรอยู่ด้านไหนก็คว้านมันออกมาให้หมด ใช้เวลากับมันเต็มที่ !

2) ผสมยาแนวกับน้ำด้วยอัตราส่วนตามที่กำหนดไว้หลังถุง อย่างสีดำก็ยาแนว 2.5 ส่วนต่อน้ำ 1 ส่วน เคล็ดลับตรงนี้คือ "ต้องเทยาแนวลงไปในน้ำเท่านั้น" เพราะ ถ้าเทน้ำลงไปในยาแนวจะคนไม่ได้เลย ต้องทิ้งอย่างเดียว ใครเคยกินเวย์โปรตีนจะเข้าใจดี กรั่ก ๆ

คนส่วนผสมให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวแล้วก็วางพักทิ้งไว้ 10 นาทีเพื่อให้มันทำปฏิกิริยาเคมีกัน

3) ตัดส่วนผสมมาปาดลงร่องโดยปาดทำมุม 45° กับปาดตามแนวร่องสลับกันไปเพื่อให้ยาแนวถูกปาดลงไปในร่องอย่างสวยงาม

การปาดนี่ไม่ต้องปาดทั้งกระเบื้องนะ ถ้ากระเบื้องใหญ่ ๆ ก็ทำที่ตรงร่องก็พอ ที่เห็นในรูปว่าปาดไปทั่วก็เพราะว่ามันเป็นโมเสคซึ่งเล็กมากเลยปาดไปทั้งอันได้

ทั้งนี้ไม่ต้องกลัวเลอะ ปาด ๆ ไปเลย แต่เกลี่ย ๆ หน่อยอย่าให้หนาไปก็พอ ตรงไหนที่ไม่ใช่ร่องแล้วมียาแนวเลอะออกมาเยอะก็ปาดไปใช้ตรงอื่นเพื่อความไม่เปลือง ผลสุดท้ายจะได้เป็นแบบนี้

วางทิ้งไว้ให้ยาแนวฟอร์มตัวสัก 15 นาที

4) หลังจากทุกอย่างเริ่มฟอร์มตัวดีให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำแล้วบิดให้หมาดเช็ดทำความสะอาดกระเบื้องซะ

ขั้นตอนนี้จะเหนื่อยหน่อยคือเช็ดเสร็จแล้วก็เอาฟองน้ำไปล้างแล้วก็เช็ดใหม่ ทำไปจนกระเบื้องดูสะอาดขึ้นแบบนี้

5) ใช้ผ้าแห้งเช็ดทำความสะอาดส่วนที่เหลือ

เช็ดจนมันวิ้งแบบนี้ !

6) วางทิ้งไว้ห้ามโดนน้ำ 24 ชั่วโมง จากนั้นก็ทำความสะอาดกระเบื้องด้วยน้ำและสบู่ให้เรียบร้อย แล้วก็เป็นอันเสร็จพิธี เริ่มใช้งานได้เลย !

และนี่เป็นผลงาน Before & After คร้าบบบบ

มันเยี่ยมมากกกกกก ไม่น่าเชื่อว่าแค่ปาดยาแนวกระเบื้องจะทำให้มันดูดีขึ้นมากได้ขนาดนี้ ประทับจายยย เหมือนได้ห้องน้ำใหม่เลยทีเดียว

ง่ายมั้ย แค่นี้แหละ จบแล้วววว บอกแล้วว่าง่ายมาก ๆ แค่จะเหนื่อยหน่อยตอนเช็ดทำความสะอาด แต่รับรองว่าคุ้มค่าาา ทำตามได้เลย =D

ลองยาแนวสำเร็จรูป

เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่ลองยาแนวเอง ก็เลยซื้อมาลองหลายแบบแล้วเปรียบเทียบเพื่อเอาไว้เป็นข้อมูล อย่างนึงที่ซื้อมาเล่นคือ "ยาแนวสำเร็จรูปจากเกาหลี"

คือไม่ต้องผสมอะไร เป็นหลอดที่บีบลงไปในร่องแล้วรอมันแข็งตัวได้เลย ดูหรูและสะดวกดี ราคาก็หรูตาม ประมาณ 250 บาท แพงใช้ได้ (แบบผสมเองแค่ 50 บาท ปริมาตรเยอะกว่าหลายเท่าด้วย)

ฟังดูเหมือนจะเวอร์ค อารมณ์แบบหยอดแล้วน่าจะจบ แต่หลังจากลองแล้วก็พบว่ามันยาแนวยากกว่ามาก เพราะต้องคอยหยอดตามร่องอย่างบรรจงแต่สุดท้ายก็ต้องเช็ดทำความสะอาดอยู่ดี และตอนเช็ดก็เลอะเทอะกว่าแบบผสมเองพอสมควร ต้องมานั่งขูดออกตอนหลัง

สรุปคือแพงและไม่เวอร์ค เชียร์แบบวิธีปกติมากกว่า ถูกกว่าและผลงานดีกว่าเยอะ

ซิลิโคนยาแนวหละเวอร์คมั้ย

นี่มีลองใช้ซิลิโคนที่เอาไว้ยาแนวหน้าต่างหรือบัวมายิงเล่นดูด้วย

ก็น่าจะเดาผลได้ ยิงยากมากกกกกกกกกกกก คือใช้งานผิดประเภทสุด ๆ มันไม่ได้เอาไว้ยาร่องกระเบื้อง ยาได้สองร่องก็ยอมแพ้ละ 555 ดังนั้นเก็บซิลิโคนไว้ยาแนวกระจกหน้าต่างอะไรงี้แบบเดิมเถอะ

เป็นอันจบ เนื้อหาสมเป็น IT Blogger จริง ๆ ภูมิใจ ก็ลองเอาไปทำดูกันน้าาาา