"Fly high but don't fly alone"
ตัวอย่างภาพถ่ายแบบจัดเต็ม จากมือถือกล้องเทพ Samsung Galaxy S8
4 Apr 2017 20:43   [322353 views]

สิ่งที่ทุกคนคงจะกรี้ดรองลงมาจากดีไซน์โค้งมนสวยสดใหม่ของ S8 ก็คงจะเป็นเรื่องของ "กล้อง" (หรือบางคนอาจจะกรี้ดเป็นอันดับหนึ่งเลยก็ได้ เช่น เนย เป็นต้น) เพราะกล้อง S8 นี่คือเทพมาก ปีที่แล้ว S7 เรียกว่าเทพจนได้รับรางวัลกล้องมือถือแห่งปีไปแล้ว แต่ปีนี้ S8 ก้าวล้ำกว่าจุดนั้นไปอีกไกลมาก คุณภาพภาพดีกว่า S7 มากทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง บล็อกนี้เลยจะมาเน้นรีวิวกล้องกันโดยเฉพาะเพื่อความสุขของปวงประชาจ้าาา

เอ้า จัดปายยย

คำเตือน: บล็อกนี้รูปเยอะมากมากมากมากมากมากมากมากกกกกกกกกกกก ไม่เหมาะกับคนที่เปิดผ่านมือถือแล้วมีเนตจำกัดเพราะอาจหมดได้ในบล็อกเดียว

เพื่อความเป็นระเบียบ เราขอพูดถึงกล้องหลังก่อนแล้วค่อยไปกล้องหน้านะ จะได้เข้าใจง่ายไม่สับสนกัน

สเปคและฟีเจอร์กล้องหลัง

เบื้องต้นแล้ว กล้องหลัง S8 มาพร้อมความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ประกบข้างมาด้วย LED Flash ร่วมด้วยกันสั่นในตัวตรงเลนส์

ซึ่งอาจจะฟังดูไม่มีอะไร แต่สิ่งที่เจ๋งก้าวล้ำไปกว่ามือถือตัวอื่นคือฟีเจอร์ที่ทางซัมซุงพัฒนาขึ้นมาเพื่อเพิ่มคุณภาพภาพขึ้นอย่าง Multi-frame Processing

อันนี้เคยพูดไว้ในบล็อกที่แล้วแล้วแต่ก็ขอพูดซ้ำละกัน Multi-frame Processing คือการที่มือถือจะถ่ายภาพหลาย ๆ ช็อตในช่วงเวลาที่เราถ่ายภาพแล้วนำมารวมกันเป็นภาพสุดท้ายเพื่อให้ภาพคมชัดขึ้น ซึ่งเทคนิคนี้ส่งประโยชน์หลายแง่ ไม่ว่าจะเป็น

ภาพถ่ายวัตถุเคลื่อนไหวจะนิ่งขึ้น - วัตถุเคลื่อนไหวอาจจะส่งผลให้ภาพเบลอเป็นส่วน ๆ ได้ง่ายมาก แต่ S8 แก้ปัญหานี้ด้วยการถ่ายภาพมา 3 เฟรมโดยอัตโนมัติแล้วนำมาประมวลผลรวมกันจนได้ภาพที่ชัดและนิ่งขึ้นกว่าการถ่ายปกติ

ภาพถ่ายในที่มืดจะสว่างขึ้น - สภาพแสงน้อยก็ไม่ใช่ปัญหา S8 จะถ่ายภาพมา 3 รูปและนำมารวมกันจึงทำให้ได้สภาพแสงที่สว่างขึ้น อารมณ์เหมือนเปิดหน้ากล้องไว้กลาย ๆ

ภาพถ่ายตอนซูมจะชัดขึ้น - ปกติตอนซูมภาพจะเบลอยับ แต่ S8 ภาพที่ซูมจะชัดกว่ารุ่นอื่นด้วยการถ่ายภาพหลาย ๆ ภาพแล้วนำมารวมกันอีกเช่นกัน แต่ตอนซูมนี่จะพิเศษนิดหน่อยเพราะมันจะถ่ายมา 5 ภาพเลยไม่ใช่แค่ 3 ถึงสุดท้ายอาจจะไม่ได้คมกริบเหมือนภาพที่ไม่ได้ซูม แต่เรื่องคุณภาพก็ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนครับ

ในด้านของซอฟต์แวร์กล้อง S8 มาพร้อม UI การใช้กล้องแบบมือเดียว สามารถใช้วิธีปัดไปปัดมาเพื่อเปลี่ยนโหมดได้ทันที อย่างเช่นถ้าอยากจะเปลี่ยนเป็นโหมดโปรหรือโหมดพาโนรามา ก็แค่ปัดนิ้วไปทางขวาแล้วเลือกโหมดได้เลย

หรือถ้าอยากจะสลับกล้องก็ใช้วิธีปัดขึ้นหรือลงครับ

การซูมก็ใช้มือเดียวได้ แค่ลาก ๆ ตรงปุ่มชัตเตอร์ก็ซูมได้แล้น

ดังนั้นเรื่อง UX นี่คล่องตัวมาก คิดออกมาเป็นอย่างดี มิต้องเป็นห่วงเลย

โหมดการใช้งาน Auto vs Pro

โหมด Auto

เริ่มจากโหมดพื้นฐานอย่างโหมด Auto ก่อน โหมดนี้ก็ง่าย ๆ คือเปิดมาปุ๊บถ่ายได้เลย ถ่ายยังไงก็สวย มันทำอัตโนมัติให้ทุกอย่าง

นอกจากนั้นก็ยังสามารถปรับตำแหน่งโฟกัส วัดแสงอัตโนมัติ รวมถึงปรับระดับแสงตามที่ต้องการได้อีกด้วย

ฟิลเตอร์เอฟเฟ็กส์ต่าง ๆ ก็มีให้ใช้งานง่าย ๆ แค่เพียงปัดซ้ายแล้วเลือกก็จะเห็นภาพพรีวิวแบบเรียลไทม์เลย ภาพถ่ายที่ได้ออกมาก็จะแปลกตาและได้อารมณ์ของภาพที่ต่างกันออกไป ไว้ดูตัวอย่างภาพจะเห็นอารมณ์ที่ต่างกันได้ชัดเจนเลย

หรือถ้าอยากเพิ่มความมุ้งมิ้งให้เพื่อนฝูงก็นี่เลย ใส่หน้ากากให้ไปโลดดด มีให้เลือกเยอะเลย เห็นผลแบบเรียลไทม์เช่นกัน

โหมดนี้ของเล่นจะค่อนข้างเยอะเพราะมันเป็นออโต้นั่นเอง แต่ก็จะควบคุมอะไรไม่ได้เท่าไหร่ เน้นถ่ายเลย แต่คนส่วนใหญ่คงใช้โหมดนี้แหละและมันก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย ถ่ายยังไงก็สวยได้

โหมด Pro

ส่วนโหมดถัดไป โหมด Pro สำหรับสายเล่นกล้องคงจะชอบกันมากเพราะมันสามารถเซตค่าต่าง ๆ ได้ตามใจชอบเหมือนกล้องโปรเลย แถมยังถ่ายไฟล์ RAW ได้ด้วย (เป็นไฟล์ dng) โดยค่าที่เซตได้ก็เช่น ISO ที่ตั้งได้ตั้งแต่ 50 จนถึง 800

Shutter Speed ที่สามารถเปิดได้ตั้งแต่ 1/24000 จนถึง 10 วินาที

ค่า White Balance ที่จะใช้ค่าที่เซตมาแล้วหรือจะตั้งอุณหภูมิเองก็ได้

ค่า Exposure สำหรับทดแสง

ที่เหลือก็จะเป็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การโฟกัสที่ Center หรือเป็น Area ประมาณนี้ครับ

ยังมีโหมดอื่นให้ใช้อีก แต่ขอไปต่อท้าย ๆ บทความ เพราะหลังจากนี้จะเป็นตัวอย่างภาพจากโหมด Auto และ Pro เป็นส่วนใหญ่ครับ =)

ซึ่งจะบอกว่าโหมดอื่นนี่เจ๋ง ๆ ทั้งนั้นด้วย อ่านให้จบนาจา

ความเร็วในการถ่ายภาพ

ยังคงเหมือนเดิมคือถ่ายได้แบบ Instant กดปุ๊บเก็บภาพปั๊บ ไม่ต้องรออะไรเลยแม้แต่วินาทีเดียวครับ

ความเร็วในการเปิดแอป ฯ กล้อง

เปิดปุ๊บกล้องมาปั๊บ ไม่มีเวลาบู้ทใด ๆ ใช้เวลาไม่ถึง 1 วินาทีในการเปิดกล้องขึ้นมาจนถึงพร้อมใช้งานครับ

ความละเอียดภาพที่สามารถถ่ายได้

กล้องหลังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายได้ละเอียดสูงสุดที่ 4032 x 3024 พิกเซล ซึ่งมีอัตราส่วน 4:3 แต่ถ้าจะถ่าย 16:9 ก็จะได้สูงสุด 4032 x 2268 พิกเซลครับ และแน่นอน สามารถบันทึกเป็นไฟล์ RAW ได้สำหรับโหมด Pro ด้วยครับ เค้าแอบซ่อนมาไว้ตรงนี้ บอกไว้เผื่อคนหาไม่เจอ

โอเค ต่อมาถึงเวลาสำหรับตัวอย่างภาพถ่ายละ โดยภาพส่วนใหญ่จะถ่ายในโหมด Auto หรือว่า Pro นะครับ แต่ละรูปสามารถกดคลิกเพื่อดูภาพเต็มได้ เผื่ออยากจะดูรายละเอียด เอ้า ! จัดปายยย

ภาพถ่ายกลางวัน สภาวะแสงดี

ภาพทั้งหมดเปิด HDR Auto ไว้และถ่ายไปเรื่อย ๆ แบบไม่คิดอะไรมาก

เป็นยังไงบ้าง คมชัดสะใจมั้ย =D

ภาพถ่ายกลางวัน สภาวะครึ้มฟ้าครึ้มฝน (Cloudy)

เนื่องจากทริปนิวยอร์คนี้ฝนตกเกือบทุกวัน ก็เลยได้ภาพครึ้มฟ้าครึ้มฝนมาเพียบ จัดปายย

ใช้กล้องหลังถ่าย Selfie ก็ได้นะ

ทำงานได้ดีสมบูรณ์แบบตามสภาพแสงครับ =)

ภาพถ่ายกลางวัน + เอฟเฟ็กส์ภาพเก่า

ลองใส่เอฟเฟ็กส์ที่กล้องมีมาให้ให้ภาพดู อันนี้แบบ Deep

แบบ Classic (ขาวดำ)

จะเห็นว่าแค่เปลี่ยนเอฟเฟกส์ก็ได้อารมณ์ภาพที่ต่างกันเยอะมากเลย =)

ภาพถ่ายในที่ร่มสภาวะมีแสง

อันนี้ภาพของที่ร่มที่มีแสงครับ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดดส่องถึงหรือแสงจากหลอดไฟครับ

การถ่ายที่ร่มในสภาวะมีแสงสามารถดึงแสงขึ้นมาได้ดีและเก็บรายละเอียดได้ครบครับ แต่บางทีแสงอาจจะแบนหน่อย ซึ่งก็ไม่มีปัญหา เอาไปแต่งภาพต่อได้ ยังไงรายละเอียดก็ครบและสีไม่เพี้ยนอยู่แล้ว

ภายถ่ายในที่ร่มสภาวะแสงน้อย

อันนี้เป็นภาพถ่ายในสถานที่ที่แสงน้อยแต่ก็ยังมีแสงอยู่

S8 ถ่ายตอนสภาวะแสงน้อยได้ดีมากถึงมากที่สุดครับ ถ้าเป็นภาพ JPEG จะ Noise น้อยด้วยเพราะกล้องมันจะเบลอ Noise ให้ แต่ถ้าเป็น RAW จะมี Noise มาด้วยแบบดิบ ๆ ก็เอาไป Denoise ได้ครับ ไม่มีปัญหา ปรับตามที่ตัวเองชอบได้อย่างอิสระเลย

ภาพถ่ายในที่ร่มสภาวะแสงน้อยมาก

เมื่อแสงน้อยลงมาอีกสเต็ป อันนี้คือน้อยระดับต้องเพ่งถึงจะใช้ชีวิตได้ ภาพจะออกมาเป็นยังไง มาดูกัน

หลาย ๆ ภาพด้านบนนี่อยู่ใน Condition เลวร้ายสุด ๆ (เช่นภาพสเต็ค) แต่ S8 กลับทำให้ถ่ายออกมาได้อย่างชัดเจน อันนี้ยอมรับเลยว่า S8 ถ่ายในสภาพมืดได้ดีสุด ๆ

ภาพถ่ายกลางคืนแบบถ่ายทันที

เป็นการถ่ายภาพกลางคืนแบบยกมือถือมาถ่ายเลย ไม่มีขาตั้งกล้องหรืออุปกรณ์อื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง นี่คือตัวอย่างภาพครับ

ส่วนตัวชอบภาพถ่ายกลางคืนมากเพราะหลาย ๆ สิ่งที่ดีมักจะเกิดตอนกลางคืน รวมถึงแสงสีตอนกลางคืนจะสวยกว่าตอนกลางวัน ซึ่ง S8 ตอบโจทย์ตรงนี้มากครับ ไม่ต้องคิดอะไรมาก ถ่ายได้เลย สวยเลย

ภาพถ่ายกลางคืนแบบ Long Exposure

สาย Long Exposure จะต้องรัก S8 อย่างแน่นอน เพราะมันเปิดหน้ากล้องได้ถึง 10 วินาทีแถม ISO ก็กดได้ต่ำสุด 50 ทำให้เราสามารถถ่ายภาพ Long Exposure ได้อย่างมีความสุข นี่เป็นตัวอย่างภาพการเปิดหน้ากล้อง 4 วินาทีที่ ISO 50 ครับ

อย่างไรก็ตาม กล้อง f/1.7 มันกินแสงได้ดีมากจนทำให้ถ่าย Long Exposure ในสภาพแสงเยอะ ๆ อย่างกลางเมืองได้ไม่ค่อยดีนัก ภาพจะ Overexposure ตั้งแต่วินาทีแรกละ ถ่ายภาพไฟรถเป็นสายยาว ๆ ไม่ได้เพราะมันปรับ f ไม่ได้

แล้วทำยังไงดี ? ... ตอนนี้กำลังคิดจะหาฟิลเตอร์สีชาเอาไว้ให้มันกินแสงน้อยลงเพื่อที่จะได้เปิดหน้ากล้องได้นานขึ้น ใครสนใจลองใช้เทคนิคนี้ดูได้ ๆ กำลังหาอยู่เหมือนกัน =D

ภาพถ่ายระยะใกล้

มีแมลงวันมาบินเกาะมือพอดีเลยถือโอกาสถ่ายเลย (ไม่หนีด้วยนะ)

รายละเอียดครบ มีหน้าชัดหลังเบลอชัด เผอิญภาพนี้รีบถ่ายมากเพราะกลัวมันบินหนี ถ้า Object นิ่งเราสามารถถ่ายได้ใกล้กว่านี้อีกเล็กน้อยครับ

ภาพแถม

ไม่รู้จะจัดอยู่ในหมวดหมู่อะไรดี

ใครจะเอาไปตั้งเป็น Wallpaper ก็ได้นะ ไม่หวง นี่ใช้อยู่ แหะ ๆ

โหมด Selective Focus หน้าชัดหลังเบลอ

มาดูโหมดถ่ายแบบอื่น ๆ กันบ้าง เริ่มที่โหมดนี้ Selective Focus ที่นักถ่ายภาพ Portrait น่าจะชอบกัน เพราะมันจะบันดาลให้ได้ภาพหน้าชัดหลังเบลอแบบสวย ๆ ได้ทันที เช่น

โหมดนี้ปรับแต่งอะไรไม่ได้ แค่กดถ่ายแล้วจบเลย (ต้องถือนิ่ง ๆ แป๊บนึง) แต่เงื่อนไขคือวัตถุข้างหน้าจะต้องมีมิติห่างจากวัตถุด้านหลัง มันจะได้เบลอได้ถูกบริเวณนั่นเอง และพอหลังจากถ่ายเสร็จแล้วก็สามารถปรับรูปแบบโฟกัสทีหลัง(เมื่อไหร่ก็ได้)ได้สามแบบ เริ่มจาก หน้าชัดหลังเบลอ

ตามด้วย หน้าเบลอหลังชัด

และ ชัดทั้งภาพ

สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ซื้อ S8 มาก็เตรียมซ้อมถ่ายโหมดนี้ไว้ให้สาว ๆ ได้เลย รับรองว่าฮอต ! =D

อย่างไรก็ตาม เทคนิคเบื้องหล้งการทำเบลอคือการถ่ายภาพที่จุดโฟกัสต่างกันสองรูปแล้วนำมารวมกัน ไม่ได้ใช้ Hardware พิเศษ ก็เลยทำให้ภาพที่ได้ไม่ได้เนียนมากครับ ยังมีจุดเพี้ยน ๆ อยู่บ้าง

ถ่ายรูปโหมดพาโนรามา

อันนี้ไม่มีอะไรมาก ใช้กันเป็นอยู่แล้วเนอะ ก็สามารถถ่ายพาโนรามาได้และภาพต่อกันเนียนสวยดีมากครับ อันนี้เป็นพาโนรามาแนวนอน

ส่วนนี่เป็นพาโนรามาแนวตั้ง (ในที่แสงน้อย)

ถือว่าเนียนเรียบน่าพอใจครับ =)

ภาพถ่าย Food Mode

จะเห็นจากรูปบน ๆ ว่าตอนถ่ายภาพอาหารแบบ Auto ภาพมักจะซีด อาหารดูไม่สดเท่าไหร่ เช่น

ซึ่งเป็นเรื่องปกติเพราะว่าโหมดออโต้นั้น ถ้าภาพสดทุกรูปมันจะดูเฟค แต่สำหรับภาพอาหารสีมันควรจะสด ซึ่งไม่ใช่ปัญหา ซัมซุงเตรียม Food Mode มาให้ถ่ายอาหารโดยเฉพาะอยู่ โดยเวลาถ่ายภาพจะสีสดขึ้นและสามารถทำการเบลอภาพส่วนรอบ ๆ อาหารได้เพื่อให้ได้ภาพที่สวยขึ้น เน้นเฉพาะอาหาร

ตัวอย่างภาพครับ

ก็น่าจะมีประโยชน์ต่อคนไทยมากมาย =D

ปล. โหมดนี้มีมานานแล้วเหมือนกับโหมดอื่น ๆ ที่บรรยายไปในบล็อกนี้ แต่เราเขียนถึงโดยละเอียดทั้งหมดเผื่อคนไม่เคยใช้มือถือซัมซุงมาก่อนครับ 

คุณภาพวีดีโอ

S8 สามารถถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K (3840 x 2160 พิกเซล) หรือถ้าจะถ่ายที่ 60 fps จะถ่ายได้ที่ความละเอียด Full HD (1920 x 1080 พิกเซล)

อันนี้เป็นตัวอย่างวีดีโอที่ถ่ายด้วย S8 ครับ

คมชัดกริ๊บบบ ทั้งนี้ทั้งนั้น S8 มี Video Stabilization เพื่อให้ถ่ายวีดีโอได้นิ่งขึ้นอีกด้วย อาจจะไม่ได้นิ่งขนาดพวก DJI แต่ก็ช่วยได้ระดับหนึ่งครับสำหรับคนมือสั่น

วีดีโอ Slow Motion

S8 สามารถถ่ายวีดีโอ Slow Motion ได้ที่ 720p @ 240fps เหมือน S7 ครับ โดยตอนถ่ายมันจะอัดเป็นวีดีโอความเร็วสูงไว้ แล้วเราสามารถเลือกทีหลังได้ว่าจะให้ส่วนไหน Slow บ้างผ่านทางมือถือโดยตรง อันนี้เป็นตัวอย่างวีดีโอครับ

ถ้าเอาไปใช้ถ่ายอะไรที่ Movement เยอะ ๆ เช่นตอนเล่นกีฬา จะเท่มาก

วีดีโอ Hyperlapse

เป็นโหมดการถ่ายวีดีโอนึงที่รวบวีดีโอ 10-12 วิให้เหลือ 1 วิครับ นี่คือผลลัพธ์

จริง ๆ โหมดนี้มีให้ใช้มาหลายรุ่นละ ส่วน S8 ก็ทำได้ดีเช่นเคยครับ

กล้องหน้า

ดูกล้องหลังจนเหนื่อย เอาหละ มาถึงคิวกล้องหน้าละ ! ก็มาที่สเปคก่อนเลยละกันตามธรรมเนียม ...

กล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (เยอะขึ้นจาก S7 ที่เป็น 5 ล้านพิเซล) และที่เพิ่มมาไม่ใช่แค่จำนวนพิกเซล แต่คุณภาพโดยรวมดีกว่า S7 มาก ๆ สำหรับคนที่ถามมาว่ากล้องหน้าดีขึ้นมั้ย ตอบได้ว่าดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญครับ สาย Selfie น่าจะชอบกันมาก

อย่างไรก็ตาม สิ่งแรกที่ต้องรู้ก่อนคือ กล้องหน้าถ่ายได้แคบลงจาก S7 นะ อันนี้เป็นตัวอย่าง Selfie กล้องหน้าจาก S7 Edge

ส่วนนี่มาจาก S8+ ครับ

ขออภัยด้วยที่สภาพนายแบบไม่ค่อยดี นี่ผ่านการเดินทางมาแล้วประมาณ 15 ชั่วโมง 555

ก็จะเห็นว่า View แคบลงไปเยอะมากอย่างมีนัยสำคัญ ตอนมีคนในรูปเยอะนี่ถ่ายยากขึ้นอยู่เหมือนกัน แต่มันก็ไม่ได้แย่นะ ยังไงถ้าใครติดใจเรื่องนี้ลองไปเล่นเครื่องจริงตอนมันมาไทยดูครับ ยังถ่ายได้สบาย ๆ อยู่

ตัวอย่างภาพกล้องหน้าสภาพแสงดี

อันนี้ตัวอย่างภาพตอนแสงดีครับ (HDR อัตโนมัติ)

ไม่มีอะไรจะติ =D

ตัวอย่างภาพกล้องหน้าสภาพแสงไม่ดี

อันนี้เป็นการถ่ายในร่ม สภาพแสงไม่ค่อยดีครับ

กล้องหน้าก็ยังทำได้ดีแม้ในที่มืด ^__^

ตัวอย่างภาพกล้องหน้า + แฟลชกล้องหน้า

ถ้าสภาพมันมืดจริง ๆ แล้วถ่ายยังไงก็มืด S8 ก็สามารถเปิดแฟลชกล้องหน้าได้ด้วยการใช้ความสว่างจากหน้าจอมาส่องหน้าเราแว้บนึง ผลออกมาเป็นแบบนี้ครับ

ดูจากบริเวณรอบ ๆ จะเห็นได้ว่ามันมืดแค่ไหน แต่ภาพก็ดูสว่างขึ้นมาเยอะพอสมควร และสภาพแสงก็ไม่แข็งและหลอกมากเหมือน LED Flash ใช้งานได้จริง ภาพไม่ลอยเท่าไหร่ครับ

ฟีเจอร์เสริม

กล้องหน้าลูกเล่นไม่เยอะเท่ากล้องหลัง แต่พวกฟีเจอร์ที่จำเป็นก็มีครบครับ เช่น ... Beauty Mode ... อันนี้สำคัญมาก 555

หน้ากากก็มาาาา บอกแล้วไง ของจำเป็น 555

ตัวอย่างภาพคร้าบผม

ก็ขอให้เอนจอย ดูน่าสนุกดี =D

สรุป

ขอยกให้ S8 เป็นมือถือกล้องเทพถึงเทพมาก เลยมาตรฐานความน่าพอใจของกล้องมือถือไปไกลมาก มั่นใจว่าใครได้ลองใช้ก็จะพูดเหมือนกัน และที่เด็ดมาก ๆ คือความสามารถในการถ่ายภาพในที่มืดที่ทำมาได้เด็ดขาดมาก สามารถเก็บภาพได้ทุกช็อตทุกสภาวะโดยไม่ต้องกลัวเรื่องแสงอีกต่อไป ทุกอย่างจบในตัวครับ

ถามว่าส่วนตัวกรี้ดอะไรที่สุดใน S8 ก็เรื่องกล้องนี่แหละ รอดูปลายปี เชื่อว่าน่าจะเป็นรุ่นที่ได้รางวัลเรื่องกล้องอีกเช่นเดียวกับ S7 =)

เดือนนี้น่าจะเริ่มเห็นในไทย ยังไงถ้ามีโอกาสไปลองกันนะคร้าบ แล้วจิประทับใจ =D

จบละบล็อกนี้ ยาวและเหนื่อยมาก แต่หวังว่าจะมีประโยชน์นะ เดี๋ยวมีเรื่องอื่นตามมาอีก ไว้คอยติดตามก๊ะะะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

Sep 1, 2017, 12:07
241634 views
"Note 8 Sketchbook" โปรเจคสนุก ๆ ควง Galaxy Note 8 ตระเวนสเก็ตช์ภาพทั่วนิวยอร์ค
Apr 1, 2017, 13:45
336082 views
พรีวิว Samsung Galaxy S8 เมื่อซัมซุงเปลี่ยน Design Language ใหม่ สู่ยุคสมัยจอไร้ขอบ
0 Comment(s)
Loading