ชื่อบล็อกแปลเป็นภาษาไทยแล้วอาจจะเข้าใจยากนิดนึง แต่เป็นหนึ่งในคติประจำใจที่คิดเองและยึดถือไว้มาตลอด ซึ่งก็ไม่ต้องแปลกใจ มีนักแสดงต่างชาติคนนึงที่เสียชีวิตก่อนเราเกิดเสียอีกที่คิดเหมือนกันและ Quote คติเดียวกันนี้เป๊ะๆไว้ว่า

Always be a first rate version of yourself and not a second rate version of someone else

- Judy Garland

จงเป็นตัวคุณคนแรกของโลกนี้ ไม่ใช่เป็นบุคคลอื่นคนที่สอง

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ตัวตนของมนุษย์ล้วนเกิดจากการเหนี่ยวนำจากคนรอบข้าง ต่างคนก็ต่างเติบโตกันไปตามทางของตัวเองด้วยพลังภายในและแรงดึงดูดจากการกระทำและความคิดของคนรอบกาย

และเชื่อว่าน่าจะทุกคนแหละที่มี "ไอดอล" อยู่ในใจและอยากจะเป็นเหมือนไอดอลของตนให้จงได้ อยากเป็นแบบ อีกร่างนึงของคนๆนั้นเลยประมาณนั้น

มันก็เป็นเรื่องดีที่มี Role Model ที่เราอยากดำเนินรอยตาม ถือว่ามีแนวทางชีวิตระดับนึง แต่ถามว่าแนวทางการจะเป็นเหมือนคนๆนึงแบบก็อปปี้มาเลย อยากจะเป็นร่างที่สองของคนๆนั้น ประมาณว่าอยากเป็น Mark Zuckerberg คนที่สองจนทำทุกอย่างตาม Mark นี่มันเป็นเรื่องที่ดีมั้ย?

ก็จากคติประจำใจที่บอกไว้ข้างต้น สำหรับท่านอื่นไม่รู้ว่าคิดยังไงแต่ส่วนตัวคิดว่า อย่าเลยครับ

ตอนเด็กๆเราก็เคยเป็นนะ โห ... คนนั้นเท่จัง อยากเป็นแบบนั้นจัง แล้วก็พยายามจะเป็นคนๆนั้นให้ได้ แบบ พยายามลอกไปหลายคนเลย แต่สุดท้ายก็ค้นพบว่ามันไม่ใช่ตัวเราอ่ะ ทำไปแล้วมันฝืนชะมัด หรือบางทีก็ต้องผิดหวังเมื่อได้เห็นไอดอลคนนั้นๆทำสิ่งที่ไม่ดี รู้สึกเฟล รู้สึกว่าเราจะแย่แบบนั้นไปด้วยมั้ยนะ ...

ตอนโตมาความคิดอะไรหลายๆอย่างก็เลยเปลี่ยนไป ประสบการณ์ชีวิตจากการที่รู้จักคนเยอะพอสมควรในหลายๆมิติหลายๆอาชีพหลายๆวัยทำให้เรียนรู้ว่า

ทุกคนล้วนแตกต่าง

ไม่มีมนุษย์คนไหนในโลกหรอกที่เหมือนกัน คนหลายพันล้านคนทุกคนต่างก็ Unique ทุกคนโตมาไม่เหมือนกัน มีความฝันต่างกัน มีสิ่งที่มีต่างกัน มีสิ่งที่ขาดต่างกัน การจะก็อปปี้คนคนนึงแล้วทำตามมันจะมีประโยชน์อะไร โลกต้องการคุณในแบบนั้นจริงๆหรือ?

หากยังดันทุรังเอาแต่เดินตามเส้นทางชีวิตของคนอื่น มันก็เหมือนกับการหลงทางแหละ ถึงจุดหนึ่งคุณจะไม่รู้เลยว่าตัวเองมีอยู่ทำไม ถ้าสุดท้ายเป็นได้แค่ "บุคคลอื่นคนที่สอง"

ไม่มีใครสมบูรณ์แบบและปราศจากข้อเสีย

ไม่ว่าไอดอลคุณจะดูดีเจ๋งเก่งแค่ไหน หากได้ไปลองล้วงแคะแกะเกา คุณก็จะเห็นว่าทุกคนต่างมีเรื่องแย่ๆกันหมดนั่นแหละ ไม่มีใครในโลกนี้ที่ดีไปทุกอย่าง ไม่มีใครในโลกนี้ที่ Perfect แม้แต่คนที่มีทุกอย่าง คนๆนั้นก็มีสิ่งที่ขาดและสิ่งที่แย่อยู่เสมอ

ชีวิตนี้รู้จักคนมาหลายบทบาทมาก และเรื่องนี้เป็นสัจธรรมที่เกิดกับทุกชีวิตเลยจริงๆ จะจนจะรวย คนธรรมดา ดารา หรือจะยังไงก็เป็นแบบนี้หมด มันเป็นสัจธรรม

If somebody says s/he is perfect, s/he lies. If you think someone is perfect, you are blind.

- nuuneoi

เป็นการดีที่คุณมีไอดอลเป็นแรงบันดาลใจ แต่อย่ายึดติดกับ "ตัวบุคคล"

สิ่งที่ทำให้คุณหลงใหลหาใช่ตัวคนๆนั้น แต่เป็นการกระทำและเรื่องดีๆที่คนนั้นแสดงออกมา และนั่นแหละคือสิ่งที่คุณควรจะคว้าไว้ให้มั่น

และก็อย่างที่บอกว่า สิ่งแย่ๆก็มีอยู่ในตัวทุกคนนั่นแหละ แต่สิ่งไหนที่แย่ไม่ต้องรับเข้ามาในชีวิต ดังนั้นคุณมีไอดอลกี่คนก็ได้เพราะใจความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคล มันอยู่ที่สิ่งดีๆที่คนเหล่านั้นเปล่งออกมาจนเป็นแรงบันดาลใจให้เรา คัดเลือกสิ่งเหล่านั้นมาแล้วชีวิตเราก็จะดี

จงเป็นตัวของคุณเอง

ดังนั้นแนวทางที่อยากแนะนำคือ "หาตัวตนของตัวเองให้เจอ"

ทุกคนล้วนมีฝัน หามันให้เจอว่าจริงๆแล้วเราอยากเป็นอะไร เราอยากทำอะไรและนี่ไม่ได้พูดถึงเรื่องงาน แต่พูดถึงเรื่องแนวคิดและวิธีการในการดำเนินชีวิต

หากยังหาตัวตนของตัวเองไม่ได้ การเริ่มต้นแกะจากความอยากจะเป็นเหมือนไอดอลก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะแปลว่าคุณเห็นอะไรบางอย่างในตัวคนๆนั้นและหนึ่งในความฝันก็คงอยู่ในการกระทำของคนเหล่านั้นแหละ

หาตัวตนของตัวเองจนเจอให้ได้ และเดินตามทางของตัวเอง

และแน่นอน ระหว่างทางก็ย่อมต้องเจออุปสรรค ต้องเจอหนทางที่ยากลำบากรวมถึงเจอทางแยกของชีวิตที่ต้องเลือกอย่างยากเย็น

แรงผลักดันจากคนรอบข้างและคนที่เป็นไอดอลเป็นพลังในแง่บวกที่ดี "จงมองหาสิ่งดีๆในตัวไอดอลของคุณแล้วรับเฉพาะสิ่งดีๆมาเป็นแรงบันดาลใจ เปลี่ยนเป็นพลังในการเดินหน้าต่อเพื่อทำให้ตัวตนของเราดีขึ้น"

ทางเดินของเราเอง ชีวิตของเราเอง แต่มีสิ่งดีๆของคนอื่นที่ช่วยให้เราเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและถูกต้อง สุดท้ายคุณจะพบว่าตัวตนเราจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างน่าตกใจ

อยากให้จำไว้เสมอว่า "จงเป็นตัวตนของคุณเองคนแรกบนโลกนี้ ไม่ใช่บุคคลอื่นคนที่สอง"

หากมีคนบอกว่าคุณเป็น Mark Zuckerberg คนที่สอง อาจจะฟังดูดี แต่นั่นแปลว่าคุณพลาดอะไรไปแล้ว ... ตัวตนของคุณอยู่ไหน ทำไมคนถึงไม่เรียกคุณว่าคุณชวาดาลา(นามสมมติ)คนแรกหละ?

เราเรียก Mark Zuckerberg ว่า Mark Zuckerberg

เราเรียก Steve Jobs ว่า Steve Jobs

เราเรียก Jack Ma ว่า Jack Ma

เราไม่เคยเรียกคนเหล่านั้นว่าใครบางคนคนที่สอง เพราะพวกเขาทุกคนได้สร้างตัวตนของตัวเอง มีทางเดินของตัวเอง ฟังแล้วอาจจะคิดว่าเพราะชื่อเสียง ก็ต้องบอกว่าชื่อเสียงเป็นแค่ส่วนหนึ่งแต่ไม่ใช่ทั้งหมด ลองดูได้ คนมีชื่อเสียงจำนวนมากก็ยังเป็น "บางคนคนที่สอง" อยู่เลย ในขณะที่คนธรรมดาหลายๆคนกลับมีความเป็นตัวตนของตัวเองชัดเจนจนไม่มีใครเรียกแบบนั้น

สู้ต่อไปครับมนุษย์

สวัสดีครับ