"ใจเค้าซื้อกันด้วย 'ใจ'"
โอกาสจากการเขียนบล็อกโปรแกรมมิ่งเป็นภาษาอังกฤษ กรณีศึกษาจากบล็อก The Cheese Factory
12 Dec 2015 14:41   [11024 views]

จะเห็นว่าบล็อก nuuneoi.com มีบทความ Geek ลดน้อยลงไปมาก สาเหตุนึงคืออยากเขียนพวกบล็อกเชิง Technical น้อยลงเนื่องจากค่อนข้างอิ่มตัวกับงานด้านนี้ แต่ก็ยังมีเขียนบ้าง แต่ย้ายไปเขียนที่บล็อกบริษัท The Cheese Factory แทน

และเพื่อทำตามความตั้งใจก็เลยเขียนบล็อกเป็นสองภาษา (ไทยและอังกฤษ) มันซะทุกบล็อกเลย สามารถสลับภาษาอ่านได้

ตอนนี้ผ่านมาเกือบปีแล้วกับบล็อกนี้ เขียนไปแค่ 17 บล็อกแต่ก็ได้อะไรดีๆกลับมาเยอะ ก็เลยเอาเรื่องที่ได้จากการเขียนบล็อกภาษาอังกฤษมาให้อ่านกันครับ

ทำไมถึงทำบล็อกสองภาษา?

เริ่มต้นจากจุดประสงค์ของการเขียนบล็อกสองภาษาก่อน จุดประสงค์หลักๆมีอยู่สองข้อด้วยกัน

1) ฐานผู้อ่านที่ใหญ่ขึ้น(มาก)

เอาง่ายๆเลย เขียนบล็อกภาษาไทยได้ผู้อ่านเท่านี้

แต่ถ้าเขียนภาษาอังกฤษได้ขนาดนี้

จริงๆแค่นี้ก็จบละ ฐานผู้ใช้ใหญ่ขึ้นไม่ใช่แค่เท่าสองเท่าแต่เป็น 100 เท่าเลยนะ แต่ Effort ที่ใช้ไม่ได้เพิ่มขึ้น 100 เท่า แต่เพิ่มขึ้นแค่ประมาณเท่านิดๆเท่านั้นเอง (ใช้พลังในการแปลเป็นภาษาอังกฤษ แต่เนื่องจากเขียนเป็นภาษาไทยเสร็จแล้ว ดังนั้นการแปลจึงใช้เวลาไม่เยอะและไม่เหนื่อยมาก) ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากกกก ไว้ไปดู Stat กันตอนหลัง

2) อยากฝึกภาษาอังกฤษ

สิ่งที่ถือว่าเป็นจุดอ่อนนึงของตัวเฮาคือภาษาอังกฤษ สิ่งที่ดีที่สุดในการพัฒนาเรื่องนี้คือฝึกฝน ดังนั้นก็เลยตัดสินใจเขียนบล็อกเป็นภาษาอังกฤษเพื่อฝึกเรื่องการเขียนและการพูดไปในตัว ซึ่งผลออกมาน่าพอใจมากมายเลย ปีที่ผ่านมาภาษาอังกฤษพัฒนาขึ้นเยอะมาก ส่วนใหญ่ๆก็มาจากการเขียนนี่แหละ =)

บล็อก Technical ภาษาอังกฤษส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีคุณภาพ

สิ่งหนึ่งที่น่าแปลกใจแต่เป็นเรื่องจริงคือบล็อกภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับโปรแกรมมิ่งนั้นส่วนใหญ่เขียนไม่ดี

เนื่องจากเป็น Geek กันก็เขียนกันภาษา Geek เต็มที่ ไม่สนใจหรอกว่าคนอ่านอ่านรู้เรื่องมั้ย และก็ไม่ค่อยใส่รูป ซัดไปเลย Text ล้วนยาว 10 หน้ากระดาษ ตัวอย่างโค้ดก็แปะๆไปไม่อธิบายสักคำว่าบรรทัดไหนทำอะไร หรือบางบล็อกโค้ดก็ไม่ยอม Highlight Syntax

แล้วใครจะอ่าน ...

สุดท้ายเลยพูดได้เลยว่าหากเขียนบล็อกดี เนื้อหาอ่านเข้าใจง่ายและมีรูปภาพประกอบ คนอ่านเยอะชัวร์ ยังไงก็เยอะ ถึงวันแรกๆที่ปล่อยยังไม่เยอะ อีกแป๊บก็เยอะจากการ Search Google ขออย่างเดียว

"Content ต้องมีคุณภาพ"

ตอนแรกเราก็คิดว่าตลาดนี้จะเป็น Red Ocean แล้ว แต่พอได้เขียนจริงก็ได้รู้ว่านี่มันยัง Blue Ocean อยู่เลย หาคนที่ทำ Content คุณภาพเขียนดีเข้าใจง่ายได้ยากมากกก ตลาดนี้ยังมีอะไรให้เขียนให้ทำอีกเยอะมากครับ ขาดของมีคุณภาพจริงๆ

เทคนิคการเลือกเนื้อหาบล็อกมาเขียน

คนที่มาสาย Dev น่าจะรู้จักคำว่า SEO (Search Engine Optimization) กันทุกคน

การเลือกเนื้อหามาเขียนบล็อกก็สำคัญต่อ SEO มาก ที่ผ่านมาเราเลือกเขียนเนื้อหาที่ "สดใหม่และกำลังจะได้รับความสนใจในอนาคต" คือเขียนรอกระแสว่างั้น ซึ่งตรงนี้ต้องรู้จัก Predict นิดนึงครับ ใครเชี่ยวชาญด้านไหนก็น่าจะ Predict ได้ว่าอะไรกับจะบูม แล้วก็จับเนื้อหาตรงนั้นมาเขียนได้เลย หลังจากบล็อกเขียนไปได้แป๊บนึงแล้วกระแสมา คนก็จะ Search กันกระหน่ำแล้วคนก็จะเทเข้ามาบล็อกเราอย่างรวดเร็ว

อย่างที่ผ่านมาบล็อกนี่คือตัวอย่างเนื้อหาที่เราเลือกเขียน

Retrofit 2.0 - เขียนเพราะ Retrofit 2.0 เพิ่งออกใหม่และ Doc เขียนห่วยมากกกกก เลยลองเองและเขียนบล็อกเลย


ปรากฏว่าหลังจากนั้น 1 เดือนคนก็เริ่มทยอยมาใช้ Retrofit 2.0 และประสบปัญหาเดียวกัน บล็อกเราซึ่งเขียนดักไว้ก็เลยมีคนเข้ามาอ่านเยอะมากตามเวลานั่นเอง

Android Runtime Permission - เขียนไว้ดักรอ Android M ออกกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของแอนดรอยด์


ซึ่งก็เห็นผลชัดมาก พอ Android M ปล่อยสู่สาธารณะ คนอ่านบล็อกนี้เพิ่มขึ้นมหาศาล

Glide vs Picasso - ตอนนั้นในงาน DevFest กูเกิลพยายามเอา Glide มาขาย ฟังแล้วเดาได้ว่ามันต้องมาแน่ๆ ก็เลยเขียนบล็อกทันที

บล็อกนี้พิเศษหน่อยเพราะเราเป็นคนแรกเลยมั้งที่เขียนเปรียบเทียบสองตัวนี้แบบนี้ มันเลยกลายเป็นแหล่งอ้างอิงของคนเขียนแอปแอนดรอยด์ทั่วโลกไปโดยปริยาย

ซึ่งปรากฏว่าทุกบล็อกที่เขียนมามันเป็นไปตามที่คาดไว้ คนเข้ามาอ่านเยอะมากและเยอะขึ้นเรื่อยๆ และเนื่องจากเขียนเร็วทำให้คน Search เจอง่ายและกลายเป็น Reference ให้กับคนอื่นและมันก็กระจายไปเรื่อยๆด้วยตัวเอง ส่งผลดีต่อบล็อกมากๆ

อย่างไรก็ตาม Logic นึงที่อยากให้จำไว้คือ บางเนื้อหามีคนเคยเขียนแล้ว นั่นไม่ได้แปลว่าเราจะเขียนซ้ำไม่ได้

อย่างที่บอกว่า Content ที่มีคุณภาพนั้นหายากมากๆ หากคุณสามารถเขียน Content ที่คนอื่นทำมาแล้วแต่มั่นใจว่าทำมาได้ดีกว่าและเข้าใจง่ายกว่าแล้วหละก็ เขียนเลยครับ ตลาดนี้วัดกันที่คุณภาพ เนื่องจาก Volume ของผู้เข้าชมสูงมาก พอมีของที่ดีกว่าสังคมก็จะชักจูงทุกคนไปหาสิ่งที่ดีกว่าเสมอ

ตัวอย่างเนื้อหาที่เนยเคยเขียนทั้งๆที่มีคนอื่นเคยเขียนไว้มาหลายปีก่อนหน้านี้คือเรื่องของการลง Google Play Services บน Genymotion

เนื่องจากตอนนั้นอยากจะลงใช้เองแหละ แต่เรื่องน่าตลกคือหาบล็อกที่เขียนเรื่องนี้ชัดๆและเข้าใจง่ายไม่ได้เลย แม้แต่บนบล็อกของ Genymotion เอง ส่วนใหญ่ที่เจอคือบน Stackoverflow ซึ่งมีหลายคำตอบกระจัดกระจายมาก

เราก็เลยทดลองทำด้วยตัวเองและนำมาเรียบเรียงเขียนอธิบายโดยละเอียดทีละขั้นตอนพร้อมภาพจนกลายมาเป็นบล็อกที่ว่า และผลคือทุกวันนี้มีคนเข้ามาชมเรื่อยๆและกลายเป็นบล็อก Reference สำหรับเรื่องนี้ในระดับโลกไปแล้ว ประมาณว่าหากมีคนคุยกันว่าจะลงยังไงเค้าก็โยนบล็อกเราให้ไรงี้ ถ้าถามว่าบล็อกไหนคนเข้ามาอ่านต่อวันเยอะที่สุดก็บล็อกนี้แหละครับ

เห็นมั้ยว่าเนื้อหาที่มันมีอยู่นานแล้วก็กลายเป็นโอกาสได้เหมือนกันหากทำได้ดีกว่า ... ลอจิคนี้ใช้กับเว็บไทยได้ด้วยเช่นกันนะจ๊ะ

การกระจายบล็อก

อีกสิ่งสำคัญคือจะกระจายบล็อกยังไง?

การเดินทางของบล็อกภาษาอังกฤษจะค่อนข้างต่างจากบล็อกภาษาไทย สำหรับภาษาไทยเนี่ยเนื่องจาก Volume ของคนในคอมมูนิตี้มันต่ำและยิ่งเป็นเนื้อหาเฉพาะทางอีก มันก็ยิ่งจับกลุ่มผู้อ่านที่เล็กมากลงไปอีก สุดท้ายก็ไปโพสต์บน Facebook แล้วคนในสังคมก็แชร์ไปยังกรุ๊ปที่เกี่ยวข้องแล้วก็จบการเดินทาง

แต่กับบล็อกภาษาอังกฤษ Volume ของผู้อ่านสูงกว่ามากและสังคมที่ได้ประโยชน์จากเนื้อหาก็กระจายอยู่ทั่วโลกนับหมื่นสังคม ดังนั้นแค่เพียงแปะบล็อกไว้ที่ที่ถูกต้อง มันก็จะกระจายตัวไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึงอย่างไม่น่าเชื่อ

สำหรับบล็อกแอนดรอยด์ที่เราเขียนเราแปะไว้แค่สองที่เท่านั้นคือ

Android Development Google+ Page

เป็นคอมมูนิตี้ที่มีสมาชิกสองแสนกว่าคน น่าจะเป็นที่รวม Android Developer ทั่วโลกที่ใหญ่ที่สุดแล้วหละมั้ง หากมีเนื้อหาน่าสนใจคนจะแชร์อย่างบ้าคลั่งมาก แต่ถ้าไม่น่าสนใจจะไม่มีคนมองเห็นเลย ดังนั้นเลือกเนื้อหาและหัวข้อให้ดีๆ สำคัญๆ

การแปะลง Google+ Page นี้จะไม่ได้ส่งผลโดยตรงในแง่ของคนเข้ามาอ่าน แต่สิ่งที่คาดหวังคือคนจะเอาลิงค์เราไปแชร์ต่อยังคอมมูนิตี้ของตัวเอง ซึ่งถ้าหัวข้อน่าสนใจจนคนเอาไปแชร์เยอะๆแล้วก็นั่งยิ้มได้เลยครับ

Reddit AndroidDev

เป็นอีกที่ที่รวม Android Developer เยอะสุดๆและ Active สุดๆ

ข้อเสียของคอมมูนิตี้นี้คือเกรียนเยอะสไตล์ Reddit ใครจะใช้ก็อดทนหน่อยละกัน ... เหะๆ

สถิติการเข้าชม

เอาหละ คราวนี้มาเรื่องของผลตลอดปีที่ผ่านมาบ้าง

ถึงแม้บล็อกจะนานๆอัพที ทั้งปีเขียนไปแค่ 17 บล็อก แต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นคือคนกลับเข้าบล็อกเยอะขึ้นเรื่อยๆ ต่างกับบล็อกภาษาไทยที่ถ้าปล่อยทิ้งไว้คนจะหายไปเรื่อยๆ ทั้งนี้เนื่องจากมันมีคน Search ตลอดเวลานั่นเอง หากเนื้อหาเข้ากับชีวิตประจำวันของ Developer ทั่วโลก คนก็จะเข้าเยอะขึ้นเรื่อยๆ

สถิติ Pageview ในแต่ละวันค่อนข้างชัดเจนว่าคนเข้ามาเพื่อทำงาน เพราะมันจะสูงในวันธรรมดาและต่ำลงอย่างเห็นได้ชัดในวันเสาร์อาทิตย์ โดยภาพที่เห็นด้านล่างนี้คือไม่ได้อัพบล็อกใหม่เลยตลอดเดือนนะ แต่คนก็เข้าเรื่อยๆ

และก็ชัดเจนว่า Traffic ส่วนใหญ่ถึง 77% มาจากการ Search

ส่วนที่เป็น Referral แบบ Organic จะมาจาก stackoverflow ซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าช่วงไหนมีบล็อกใหม่ปล่อย Traffic จาก Facebook ก็จะพุ่งขึ้นมา

ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับตัวเองพอสมควรที่มี Referral จาก stackoverflow เข้ามาเป็นอันดับต้นๆ ที่ผ่านมาได้เป็นแค่คนอ่าน แต่ปีที่ผ่านมาได้เป็น Reference และเป็นคนตอบด้วย =)

ถามว่าทำไมถึงมีคนเอาไปโพสต์ใน stackoverflow เยอะ? คำตอบสั้นๆคือ "คุณภาพและความเข้าใจง่ายของเนื้อหา" ครับ อันนี้เป็นข้อพิสูจน์ว่าถ้าเนื้อหาดีมันจะค่อยๆโตขึ้นเองโดยเราไม่ต้องทำอะไร คนจะเอาไปแปะให้เอง ข้อดีของการทำ Content สเกลโลก

และนี่คือแผนที่ของผู้เข้าอ่านบล็อกครับ จะเห็นว่ามาจากทั่วโลกจริงๆ และจะเยอะเป็นพิเศษที่อินเดียและ USA

ด้วยเหตุที่มันถูกเอาไปแปะที่ Stackoverflow ค่อนข้างเยอะ และเนื้อหาค่อนข้างเขียนก่อนคนอื่นเค้า ทำให้ผลการ Search เป็นที่น่าสนใจมาก Keyword ที่คาดหวังไว้กวาดขึ้นหน้าแรกหมดเลย เช่น

Retrofit 2.0 (แซงเว็บ Official)

Glide Picasso

Genymotion Google Play Services

และล่าสุด เมื่อวานนี้เพิ่งปล่อยบล็อก Android Emulator 2.0 ไป ก็ Search เจอบนหน้าแรกแล้ว

ก็เป็นอะไรที่ทำให้เว็บไม่ต้องอัพเลยก็มีคนเข้ามาอ่านไม่หยุดและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วย ทำ SEO แบบ White Hat สุดๆ คือเน้นไปที่ Content แล้วไม่ได้ทำอย่างอื่นอีกเลย

สิ่งดีๆที่ตามมา

พอมีคนอ่านเยอะ ก็เริ่มมีคน Recognize ชื่อ nuuneoi และ The Cheese Factory แล้ว ก็ถือว่าแบรนด์ดิ้งเข้าสู่อินเตอร์ระดับนึง ทุกวันนี้มีคนมา Comment บล็อกอย่างน้อยก็วันละ 2-3 เม้นต์หละ เนื่องจากคนเข้ามาอ่านเค้ามีปัญหาจริงๆถึง Search แล้วพอได้ Solution กลับไปเค้าก็จะเม้นต์ทิ้งไว้

และก็แฮปปี้มากทุกเวลาที่มีคนมาเม้นต์ขอบคุณ รู้สึกเหมือนได้รับการเติมเต็มชีวิต ^_^

บางทีก็มีเมลส่งมาขอบคุณหรือขออนุญาตแปลบล็อกเป็นภาษาของเค้า ซึ่งเป็นข้อดีมากๆของการเขียนบล็อกเป็นภาษาอังกฤษ มันจะไม่หยุดที่ภาษาอังกฤษ มันจะกลายเป็นภาษาอื่นๆมากมาย

ส่วนเรื่องงานก็มีติดต่อเข้ามาเพียบทั้งไทยและเทศ แต่ก็ปฏิเสธไปหมดเพราะปีที่ผ่านมาต้องการโฟกัสเรื่องสอนอย่างเดียว

จะเห็นว่าโอกาสดีๆเข้ามาจากการเขียนบล็อกเป็นภาษาอังกฤษเยอะมาก ขออย่างเดียวครับ

"ต้องมีคุณภาพ"

=)

แนะนำ Blogging Platform สำหรับนักพัฒนา

ปีที่ผ่านมาพยายามยุยงส่งเสริมให้คนไทยเขียนบล็อกกันเยอะๆ ก็เห็นผลพอสมควรละ มี Dev เขียนบล็อกเยอะขึ้น แต่คนที่เขียนแบบคงทนก็ยังมีหยิบมือเท่านั้น ยังไงก็พยายามเขียนกันเยอะๆนะครับ มันสำคัญต่อชีวิตนักพัฒนามาก

สำหรับคนที่อยากเขียนบล็อกแต่ไม่รู้จะไปเขียนที่ไหน หลังจากที่เราไปดูมาหลายที่ เราขอแนะนำ Medium.com นะ

มันตอบโจทย์ในแง่ของนักพัฒนามากและคอมมูนิตี้ดี โอกาสที่บล็อกจะมีคนแชร์ก็เยอะ คน Search เจอก็เยอะ ยังไงลองไปเล่นดูได้ครับ

ป่าวประกาศให้คนเขียนบล็อกมาก็นาน ตอนนี้อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลละ คนที่มีบล็อกกำลังจะได้ดีกันหลายคนเลย ใครยังไม่เริ่มก็...ไม่รู้จะพูดยังไงละ พยายามเข้าละกันนะ อย่าขี้เกียจๆ

สวัสดีวันเสาร์จ้าา

บทความที่เกี่ยวข้อง

Sep 26, 2015, 12:00
28611 views
รู้จัก Juice Jacking วิธีการขโมยข้อมูลผ่านที่ชาร์จมือถือตามที่สาธารณะ
Dec 4, 2015, 11:33
6521 views
บันทึกการเดินทาง ครั้งหนึ่ง ณ ซานฟรานซิสโก ตอน 2: เยี่ยมเยือนเพื่อนพ้อง
0 Comment(s)
Loading