เผอิญวันก่อนระหว่างกำลังเดิน EmQuartier ระบายอารมณ์เล่น มือก็ไปเผลอปัดมือถือณิชตก ซึ่งตกมาเป็นแสนครั้งไม่เป็นไร แต่ครั้งนี้แจ๊กพอตแตก ...... และไม่ได้แตกแค่แจ๊กพอตด้วย ...
iPhone 5 จอละเอียดขึ้นทันควัน -0-
ก็เลยแก้ปัญหาให้ถูกจุด เมื่อ iPhone 5 จอแตกก็เลยเอาไปเปลี่ยนหน้าจอ เปลี่ยนปุ่ม Home ทุบบอร์ดี้ให้แบนๆบานๆแล้วก็พ่นสีใหม่ สุดท้ายเอากล้องใหม่ใส่พร้อมเปลี่ยน Mainboard
เรียกอีกอย่างว่าซื้อใหม่ ...
ไม่ได้ร่ำรวยอะไรขนาดจอแตกปุ๊บซื้อใหม่ปั๊บ จริงๆคือกันเงินไว้จะซื้ออยู่แล้วเพื่อเอามาเทสต์แอพฯ แล้วจอเครื่องเก่าก็มาแตกพอดีเด๊ะราวกับวางแผนไว้ ถึงไม่แตกก็กะจะซื้อเร็วๆนี้อยู่ละ
พอจอมาแตกก็เลยต้องเร่งรัดการซื้อนิดนึง โดยกลับบ้านก่อน 2 วัน ใช้เวลาวันแรกให้สาวเจ้าตัดสินใจว่าจะเอา iPhone 6 หรือ iPhone 6 Plus ดี สุดท้ายได้คำตอบว่า iPhone 6 Plus ใหญ่เกินไป ใช้ iPhone 6 ดีกว่า
ซึ่งเป็น Logic ที่ได้ยินมาตลอดและเห็นด้วย แต่ระหว่างกำลังดู 6 & 6 Plus ที่ Apple Authorized Store ก็มีคนคุยกันว่า "iPhone 6 Plus อ่ะผู้ชายไม่ใช้กันหรอก เพราะผู้ชายต้องใส่มือถือไว้ในกระเป๋ากางเกง ส่วนผู้หญิงอ่ะชอบใช้เพราะใส่ในกระเป๋าถือได้"
ก็เป็น Logic ที่ดี ไม่เคยคิดในแง่นี้เลย ...
หลังจากตัดสินใจได้แล้วว่าจะเอา iPhone 6 64GB ก็เลยไปนั่งศึกษาโปรโมชั่น iPhone 6 โดยตอนแรกว่าจะซื้อที่ Apple Online Store แต่พอไปดูโปรโมชั่นเทียบกันหลายๆที่ พบว่า AIS และ Truemove H โปรโมชั่นน่าสนใจดี ทั้งลดทั้งผ่อน 0% 10 เดือน แต่ต้องติดสัญญาหรือสมัครโปรโมชั่น สุดท้ายเลยเลือก AIS เพราะใช้บริการของเจ้านี้อยู่แล้ว แต่ละเดือนก็จ่ายอยู่แล้ว ก็จ่ายรายเดือนเท่าเดิมแล้วได้ iPhone ลดราคาอีก คุ้มจะตายยย
โดยโปรที่ AIS มีมีอยู่ 2 อันคือ
โปรแบบที่หนึ่ง Superdeal
อันนี้น่าสนใจมากเพราะลดโหด 5,000 บาทสำหรับ iPhone 6 และ 6,000 บาทสำหรับ iPhone 6 Plus แต่มีเงื่อนไขว่า
- ต้องเป็นลูกค้าเปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่ายเบอร์เดิมหรือเปลี่ยนจากเติมเงินเป็นรายเดือน
- ต้องติดสัญญาไป 12 เดือน โดยต้องเลือกใช้ Package 599 บาทขึ้นไป
- ต้องจ่ายก่อนล่วงหน้า 3,800 บาท แล้วจะหักเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนให้จนหมดแล้วค่อยจ่ายเพิ่ม
และหากใช้โปรนี้ ยังได้รับสิทธิ์ผ่อน 0% 3-4 เดือนด้วยตามบัตรด้านล่าง (หมดเขต 30 เมษายน 2558)
โปรแบบที่สอง โปร iPhone 6 ปกติของ AIS
อันนี้เป็น โปรส่งเสริมการขายตามปกติของ AIS ซึ่งก็มาพร้อมส่วนลดสองแบบ
แบบที่ 1 : ลดประมาณ 850-900 บาท
- ต้องเปิดเบอร์ใหม่/ย้ายค่ายเบอร์เดิมหรือเปลี่ยนเติมเงินเป็นรายเดือน สมัครแพ็กเกจ 350 บาทเป็นอย่างน้อย 3 เดือน หลังจากนั้นยกเลิกได้
- ลูกค้า AIS รายเดือนที่ใช้แพคเกจรายเดือน 299 บาทขึ้นไปต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือน สามารถสมัครโปรนี้ได้
แบบที่ 2 : ลด 1,900 - 3,350 บาท (แล้วแต่รุ่น) แต่ต้องใช้
- ต้องเป็นลูกค้า AIS รายเดือนที่ใช้แพคเกจรายเดือน 299 บาทขึ้นไปต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือนเท่านั้นที่สามารถสมัครโปรนี้ได้
- ต้องเซ็นสัญญา 12 เดือนโดยห้ามเปลี่ยนโปรตลอดสัญญา หากยกเลิกสัญญาก่อนเวลาต้องจ่ายค่าปรับ (จำเลขเป๊ะๆไม่ได้ทั้งหมด แต่น้อยกว่าที่ลดราคานิดหน่อย อย่าง iPhone 6 64GB ลดไป 2,350 บาทแต่ปรับ 1,500 บาท)
ความเซ็กซี่ของโปรทั้งสองแบบนี้คือ สามารถผ่อน 0% 10 เดือนได้โด้ยยยย โดยธนาคารที่ผ่อนได้ก็มีตามด้านบนเหมือนกันเป๊ะ แต่มีโปรพิเศษสำหรับบางบัตรที่จะได้ส่วนลดหรือ Cashback ด้วย ราวๆ 3% แหนะ
ก็เลยเลือกซื้อแบบนี้โดยมี 0% 10 เดือนล่อตาล่อใจ ... ตอนแรกก็อยากได้โปรแบบที่ 2 ลดเยอะๆ แต่ปรากฏว่ายอดใช้ต่อเดือนไม่ถึง 555 ก็เลยใช้แบบที่ 1 เปิดเบอร์ใหม่โลดดดด สรุปว่าจ่ายรวมหัก Cashback แล้วจะถูกกว่าราคาเครื่องเปล่านิดนึง และพอเห็นแก่ 0% 10 เดือน ... ก็เลยไม่คิดอะไรละ ตัดสินใจซื้อที่นี่แหละ แหะๆ ^^"
กว่าจะได้ซื้อก็นานเหมือนกัน เช็คโปรโน่นนี่เป็นชั่วโมงกว่าจะสรุปว่าต้องซื้อแบบไหน ก็เลยเอามาเล่าให้ฟังใน Blog นี่แล
AIS Mobile Care
ระหว่างที่กำลังรอจ่ายเงิน พนักงานขายก็เอาโครงการ AIS Mobile Care มานำเสนอ คร่าวๆก็คือขาย "ประกัน" นั่นแล แต่เป็น "ประกันมือถือ" โดยมีประกันอยู่สองแบบคือ
SWAP (เปลี่ยนเครื่อง) - ประกันเครื่องตกแตกหรือตกน้ำ สามารถเปลี่ยนเครื่องใหม่ได้ด้วยราคา 25% ของราคาเครื่อง ณ วันที่ซื้อ
SWAP + Replacement (เปลี่ยนเครื่องหรือรับเครื่องใหม่) - ประกันเครื่องสูญหาย สามารถซื้อเครื่องใหม่ได้ด้วยราคา 45% ของราคาเครื่อง ณ วันที่ซื้อ
โดยทั้ง SWAP และ Replacement สามารถทำได้ 1 ครั้งสำหรับแพคเกจ 6 เดือนและ 2 ครั้งสำหรับแพคเกจ 12 เดือน ส่วนค่าเบี้ยประกันเป็นไปตามนี้
นี่เป็นตัวอย่างค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียเพื่อ SWAP หรือ Replacement
พอได้ยินและเห็นตัวเลข นับนิ้วหนึ่งสองสาม หันไปมองหน้าสาวที่กำลังจะเป็นเจ้าของ iPhone 6 เครื่องนี้ ... ผมมองเห็นอนาคต ...
หันกลับไปหาพนักงาน ยิ้มหวานให้ๆ พร้อมบอกว่า "เอาเงินผมไปเล้ยยยยย" เลยจ่ายเพิ่มไปอีก 999 บาทเป็นประกันแบบ SWAP 12 เดือน
หลังจากนั้นตรวจเครื่อง แล้วก็รูดๆๆๆๆ ซื้อเสร็จปุ๊บ สาวเจ้าก็หยิบ iPhone 5 จอแตกๆของตัวเองเล่นต่อไปแล้วก็วาง iPhone 6 ทิ้งไว้ที่เดิมอย่างไร้เยื่อใย ... นี่กุซื้อประกันผิดแบบป่ะเนี่ย T_T
ส่วนตอนนี้สาวเจ้าแฮปปี้กับ iPhone ใหม่มาก ที่คนว่าแบตอึดๆ เธอใช้หมดได้ในไม่กี่ชั่วโมง คนละอารมณ์กับตอนได้ Note 4 เลย สรุปก็ยังไม่สามารถดึงเธอออกมาจากโลกของ iPhone ได้จริงๆ ยอมแพ้ละ T_T
ยังไงก็ขอชมพนักงานสาขานี้นะครับว่าขนาดเราแต่งตัวโทรมๆไปเค้าก็ยังดูแลดีมากตั้งแต่ยังไม่ให้เบอร์ Serenade ไป เทรนมาดีๆ =)
แต่ที่ปวดตับตามมาคือ รูดไป 28,500 บาท แต่บัตรขึ้นไปว่าหัก 57,000 บาท วันนี้เสียเวลาวิ่งรอกไป 2 ชั่วโมง และยังบอกไม่ได้ว่าใครที่ผิด ไป AIS ก็ไม่มียอดว่ารูดเกิน โทรไป KBank ก็บอกว่ามันขึ้น Transaction เดียวสองยอด ไม่ใช่อาการของการรูดเบิ้ลด้วย ... กว่าจะรู้ว่าเป็นเพราะอะไรต้องรอวันอังคาร ผลคือตอนนี้บัตรเครดิตยอดติดลบสองหมื่นกว่าบาท ไม่สามารถใช้เงินที่ใส่ไปได้ กระทบแผนชีวิตอีกละ
ซวยจนชิน แต่ก็เคืองเบาๆ เคยมีครั้งไหนมั้ยที่ทำอะไรแล้วไม่มีปัญหาเนี่ย ... แต่ก็โอเคแหละ ยึดหลักว่าอะไรที่แย่ๆจะตามมาด้วยเรื่องดีๆ แล้วก็ปล่อยวาง เฮฮาๆกันไปตามเรื่องตามราว
เอวังด้วยประการฉะนี้ ...