"ทุ่มเทอย่างสุดกำลัง เพื่อความฝันและวันข้างหน้า วันนี้เหนื่อยไม่ว่าถ้าหากมันทำให้มีวันหน้าที่สวยงามได้"
พาชม Quartier CineArt โรงหนังใหม่เทียบชั้น Paragon Cineplex บน EmQuartier
4 Apr 2015 01:23   [112494 views]

EmQuartier เปิดที มีอะไรมาเล่าให้ฟังรัวๆเลย ของเล่นเยอะดี =)

เมื่อคืนวานก็มีโอกาสได้ไปเจิมโรงหนังใหม่เครือ Major Cineplex ที่เพิ่งเปิดสดๆบน EmQuartier อย่าง Quartier CineArt ชั้น 4 ตึก Waterfall Quartier (ตึกหลัง) เป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจดีเพราะ Emporium ที่อยู่ข้างๆกันก็มี Emprive Cineclub ของ SF อยู่แล้ว พอเปิด EmQuartier ก็มีของ Major มาอีก และก็ไม่น่าเชื่อว่าทั้งสองจะยอมอยู่ด้วยกันได้แบบนี้ เร้าใจเลยทีเดียว ก็เลยแอบมาพรีวิวให้ดูกันครับผม ^_^

บรรยากาศชั้นโรงหนัง

Quartier CineArt ถูกวางตัวไว้อยู่ในระดับเดียวกับ Paragon Cineplex ก็คือค่อนข้างวางตัวให้หรูดูดี ด้วยการตกแต่งอารมณ์ของ Art Museum หรือ พิพิธภัณฑ์แสดงศิลปะ แต่เหมือนตอนนี้ยังสร้างไม่เสร็จดี ทุกอย่างเลยดูโล่งๆและยังไม่ได้ความรู้สึกของ Art Museum คงต้องรออีกสักแป๊บนึงถึงจะตกแต่งลงตัว

_MG_9414_1

_MG_9406

_MG_9408

_MG_9525

_MG_9400_1

มีจออะไรสักอย่างวางเรียงให้เล่นเป็นตับ แต่ ... ไม่รู้ว่าคืออะไรจริงๆแฮะ พยายามจิ้มไปสองสามทีแล้วรู้สึกว่ามันใช้ยากก็เลยไม่ได้ใช้ต่อ ยังไงลองไปเล่นกันได้ๆ

_MG_9544

โรงหนังพยายามทำ Gimmick ด้วยการเอาหุ่นยนต์ CineRobot มาเล่นกับลูกค้า สร้าง Eye Ball ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ถามว่ามีประโยชน์อะไรในการใช้จริงมั้ย ก็คงบอกว่าไม่ (เลยเรียกว่า Gimmick) แต่อนาคตน่าจะทำอะไรได้มีประโยชน์กว่านี้

_MG_9398

_MG_9440

ตัวอย่างความสามารถของ CineRobot ก็อย่างเช่น ถ่ายรูปหน้าตัวเอง(หรือใครสักคน) ผ่านกล้องของหุ่นยนต์ แล้วให้หน้าไปอยู่บนหัวหุ่นยนต์ได้ 1 นาที

_MG_9438

โหมดที่ชอบสุดคงเป็นโหมด "เดินตาม" ที่สามารถให้หุ่นเดินตามเราไปเรื่อยๆได้ เท่าที่ลองก็ต้องบอกว่าแม่นดีนะ เป๊ะดี =)

_MG_9442

_MG_9444

ที่เหลือก็เป็นโหมดของเล่นอื่นๆ เช่น เต้นตามเพลง ฯลฯ ลองไปเล่นและถ่ายรูปคู่กันได้ครับ นานๆได้เห็นของน่ารักๆ(สำหรับชาว Geek)แบบนี้ที =)

ประเภทโรงหนังใน Quartier CineArt

Quartier CineArt ถูกวางตัวไว้อยู่ในระดับเดียวกับ Paragon Cineplex มีอยู่ 8 โรงด้วยกัน เป็นโรงพิเศษ 4 โรงได้แก่

AEON Theatre - ตอนไปเค้าฉายหนังอยู่ ก็เลยแอบแว้บเข้าไปดูเงียบๆแล้วก็ชิ่งออกมา ก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา (เกรงใจเค้า) โรงนี้เป็นโรงที่หรูที่สุดใน Quartier CineArt เทียบได้กับโรง Blue Ribbon ของ Paragon ซึ่งเป็นโรงราคาแพงรองลงมาจาก Enigma ที่นั่งเป็นเบาะสองเบาะหรือเบาะเดี่ยวสองที่นั่งแล้วแต่ตำแหน่ง อยู่ในคอกขนาดสี่เหลี่ยมสูงเกินหัวกันทั้งซ้ายขวาและด้านหลัง ความเป็นส่วนตัวถือว่าสูงมาก ทำอะไรก็ไม่มีใครเห็นแม้แต่เล่นมือถือก็ไม่รบกวนสายตาคนอื่น

มีคอกอย่างที่ว่าทั้งหมด 4 แถว แถวละ 4 คอก รวมแล้ว 16 คอก 32 ที่นั่ง ราคาที่นั่งเดี่ยวราคาที่นั่งละ 1,000 บาท ส่วนที่นั่งคู่ ราคา 1,800 บาทครับ

_MG_9449

จุดเด่นของโรงนี้อยู่ที่ระบบฉายด้วย Premium Laser Projector ที่คมชัดและสว่างกว่าปกติมาก (พิสูจน์ด้วยตาตัวเองแล้ว) และเนื่องจากโรงนี้อยู่ใน Range เดียวกับ Blue Ribbon ดังนั้น ... จึงมีพื้นที่ Lounge สำหรับนั่งกินโน่นนี่ก่อนหนังเริ่มด้วย

_MG_9496

_MG_9500

_MG_9493

_MG_9476

_MG_9491

และเช่นกัน มีอาหารให้ทานด้วย โดยมีให้เลือก 3 คำ + เครื่องดื่ม 1 ชนิดครับ (ไม่มี Popcorn ให้)

_MG_9488

สำหรับคนที่ชอบโรง Blue Ribbon ที่ Paragon Cineplex เนยว่า AEON Theatre น่าจะตอบโจทย์ได้ดีมากครับ (อย่างน้อยก็เนยคนนึงละ ถ้ามีตังค์จะไปดูเรื่อยๆเลย)

SCB First Screen - โรงนี้เป็นโรงที่นั่งธรรมดาแต่เน้นไปที่เสียงระบบ Atmos (ระบบเสียง 4 ทิศทาง 64 ช่องเสียงที่เหนือกว่า 7.1 ไปอีกขั้น) ประกอบไปด้วยที่นั่งราคา 220 และ 240 บาท และแถวด้านหลังขายเป็นคู่ คู่ละ 800 บาท

_MG_9451

True Screen X - โรงที่นำเทคโนโลยีเดียวกับโรง 4DX มาฉาย ด้วยความพิเศษของระบบฉายแบบ 270 องศา หรือ ฉายทั้งจอหน้าด้านซ้ายและด้านขวา ... เนื่องจากโรงยังไม่เรียบร้อย เข้าไปดูตอนเค้ากำลังก่อสร้างอยู่ ดังนั้นก็เลยขอไม่เปิดเผยรูปมุมที่มีการก่อสร้างนะครับ เดี๋ยวจะไม่งาม แต่โดยรวมโรงนี้ค่อนข้างเล็ก ประมาณ 7-8 แถวเท่านั้นเอง มีเก้าอี้อยู่สองแบบคือแบบเดี่ยว

_MG_9505

_MG_9507

และแบบคู่

_MG_9511

เครื่องฉายสวยดี

_MG_9521

อย่างไรก็ตาม Content ที่จะฉายบนโรงนี้ได้อย่างสมบูรณ์ยังมีน้อย จะมีก็แต่โฆษณาหรือหนัง 2-3 เรื่อง ดังนั้นตอนใช้งานน่าจะยังเป็นการฉายหนังธรรมดาอยู่ครับ (ไม่ยืนยันนะ ต้องรอดูตอนมันเสร็จแล้ว)

โรงนี้มีการฉายทั้งหน้าซ้ายขวาก็จริง แต่ฝั่งซ้ายขวามีช่องลำโพงอยู่ด้วยนะ ฝั่งละ 3 รูใหญ่ๆ ขวางตาพอสมควรเลย

Toyota IMAX - ชัดเจนว่ามันคือโรง IMAX ... อันนี้เป็นโรงที่เรามาดูหนังในครั้งนี้แหละๆ โรง IMAX ที่นี่มีหน้าตาคล้ายของพารากอนเอามากๆ แต่ขนาดเล็กกว่าและจอเล็กกว่าด้วย แต่สำหรับเราเรารู้สึกว่ามันกำลังดี (ส่วนตัวเป็นคนเกลียดโรง IMAX เพราะมันใหญ่นี่แหละ แต่ที่นี่โอเคเลย)

_MG_9559

ระยะห่างแต่ละเก้าอี้สำหรับเราแล้วถือว่านั่งสบาย ไม่ชนข้างหน้าและตอนเอนหลังก็ไม่ชนคนข้างหลัง (แต่เทียบกับ Paragon ไม่ถูกแฮะ เพราะไม่ได้ใช้บริการนานแล้ว)

_MG_9548

และถือว่าเป็นเกียรติอย่างสูงที่มีโอกาสได้ลงไปถ่ายจากจอด้านล่างด้วย ^_^ มุมนี้อยากให้เห็นว่าโรงไม่ใหญ่มากครับ จับจองที่นั่งที่เหมาะสมของท่านได้เลย =)

_MG_9549

และอันนี้จากด้านบน

_MG_9554

เก้าอี้ที่นี่ก็มีสองแบบเช่นกัน คือเก้าอี้ธรรมดาตามภาพด้านบน และเก้าอี้แบบคู่ในแถวหลังสุดครับ โดยแบบคู่นี้มีผ้าห่มให้ด้วย ส่วนที่อื่นๆไม่มีจ้า

_MG_9555

ความเท่ของโรงนี้จริงๆมีตั้งแต่ทางเข้าแล้ว ออกแบบมาเป็นถ้ำแบบเหมือนกำลังจะหลุดไปโลก Avatar

_MG_9534

แต่ที่ต้องบอกว่าเท่จริงๆคือ Projector Mapping ด้านขวาที่เห็นเป็นรูปผู้หญิง อันนั้นเจ๋งจริง เป็นการยิง Projector มา Map บนฉากรูปตัวคนขนาดเท่าจริงแล้วเล่นวีดีโอพูดๆๆๆกับเรา เราชอบมากเลยนะอันนี้ เป็นแรงบันดาลใจได้อย่างดี ไม่ดูหนังก็ลองแวะไปดูกันได้ครับ

_MG_9390

และ Toyota IMAX นี้ก็เป็นอีกโรงที่มี Lounge แต่ไม่ค่อยส่วนตัวเท่าไหร่เพราะตั้งอยู่ด้านหน้าข้างนอกซึ่งเป็นพื้นที่ Public เลย

_MG_9537

สำหรับแว่นตามีให้ยืมครับ ไม่ต้องซื้อเอง คืนตอนออกจากโรงก็พอ (ขออภัย ภาพโฟกัสไม่ติด ใช้มือถือถ่าย)

2015-04-02-20.48

สนนราคาอยู่ที่ 300 และ 350 บาทสำหรับที่นั่งปกติ และ 1,200 บาทสำหรับที่นั่งคู่ครับ (ราคานี้คือคู่ละ)

_MG_9448

ที่เหลือเป็นโรงธรรมดาอีก 4 โรง ราคาปกติครับ 220 บาทสำหรับที่นั่งธรรมดา 350 บาทสำหรับ Quartier Chair (ไม่รู้คืออะไร) และ 800 บาทสำหรับที่นั่งคู่ครับผม

_MG_9453

โรงหนังก็มีเท่านี้ครับ ถึงจะอยู่ใน EmQuartier ที่ดูหรูเลิศและแพงล้ำ แต่โรงหนังบนนี้ก็ราคาอยู่ในช่วงปกติ แค่เพียง 200 - 1,800 บาทเท่านั้น เป็นการแย่งชิงเค้กกับ Emprive Cineclub ของ SF ฝั่ง Emporium ได้อย่างน่าติดตามผลเลยทีเดียว =)

การซื้อตั๋ว

ความเท่ปนความวุ่นวายในระบบซื้อตั๋วของ Quartier CineArt อยู่ที่ ที่นี่ไม่มี Box Office ให้ต่อแถวซื้อตั๋วแล้ว ต้องซื้อผ่านตู้เท่านั้น ครับ

_MG_9431

_MG_9427

การชำระเงินจึงต้องชำระผ่านบัตรเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิตที่รูดได้เลย ... เป็นการเสียเงินที่เร็วมาก 3 วิประมาณนั้น -_-

_MG_9430

หรือไม่ก็ชำระผ่านบัตรตระกูล m ทั้งหลาย

_MG_9452

อาจจะมีคำถามว่า แล้วคนที่ถือเงินสดเข้ามาหละ? จะซื้อบัตรยังไง

อันนี้ได้คำตอบมาจากพนักงานว่า ต้องไปซื้อบัตร Speed Cash มาก่อนที่เคาน์เตอร์ด้านขวาของตู้ แล้วเอาบัตรมารูดอีกทีครับ

ส่วนตัวคิดว่าไม่ค่อยสะดวก แต่เดี๋ยวคงต้องรอดูกันไปหลังจากนี้ครับ =)

Quartier iTicket บริการออกบัตรดูหนังเป็นรูปคุณ

อีก Gimmick ที่น่าสนใจดีคือบริการออกตั๋วพร้อมพิมพ์รูปของคุณบนตั๋วหนังออกมาเป็นบัตรแข็ง iTicket โดยต้องอัพโหลดภาพผ่านแอพฯ iTicket ที่มีทั้งบน iOS และ Android เพื่อรับรหัสและ QR Code ก่อนเอาไปสแกนในเครื่องขายตั๋ว 2 เครื่องซ้ายสุด

_MG_9459

ตั๋วก็จะพิมพ์ออกมา พร้อมค่าบริการ 39 บาท ...

_MG_9465

_MG_9468

ด้านหลังบัตรเป็นภาพที่ถูกพิมพ์ออกมา แต่เนื่องจากภาพตัวอย่างไม่ค่อยโอเค ก็เลยขอสงวนสิทธิ์ไม่เอาลงละกันนะครับ ... ก็จินตนาการว่าเป็นภาพถ่ายที่ถูกพิมพ์ออกมาละกันนะ แต่คุณภาพภาพไม่ค่อยโอเคหงะ รู้สึกเหมือนเป็น Gimmick มากกว่าฟีเจอร์ -0-

ประสบการณ์การใช้งาน

เนื่องจากวันนั้นไม่ได้ไปในฐานะลูกค้าอย่างเต็มตัว เลยได้รับการดูแลดีมาก(ขอบคุณเมเจอร์มากครับ) บอกประสบการณ์การใช้งานในฐานะลูกค้าไม่ได้เต็มปาก โรงปกติก็ยังไม่มีโอกาสได้เข้า แต่จากภาพรวมที่สังเกตดู ต้องยอมรับว่ายังไม่ลงตัวนะ เห็นคนดูบูดๆอยู่หลายคย ต้องปรับปรุงอีกหลายอย่าง แต่ก็เข้าใจว่าเพิ่งเปิดได้สองสามวัน

เทียบกับ Emprive ฝั่งตรงข้ามแล้วก็ต้องบอกว่าเป็นคนละ Segment ทาง Quartier CineArt เน้นเกรด B+ ขึ้นไป ส่วน Emprive นี่ A+ (และราคาก็บวกไปอีกที) คุณภาพก็เลยตามราคาเป็นปกติครับ จะคาดหวังให้ดีเท่าคงไม่ได้จริงๆ

Fast & Furious 7

สำหรับหนังที่ดูวันนั้นก็หนีไม่พ้น Fast & Furious 7 นั่นเอง

_MG_9380

_MG_9383

_MG_9384

เป็นหนังที่มีฉาก Action เยอะมากมากมากมากและมากมากมากกกกก น่าจะราวๆ 70-80% ของเรื่องเลย เหนื่อยมาก แทบไม่ได้หยุดพัก เอะอะซัดกันเอะอะซัดกัน แถมก็ไม่น่าเชื่อว่าเป็นการเอารถมาซัดกันได้อย่างไม่น่าเบื่อ ถึงแม้จะ 7 ภาคแล้วก็ตาม คนกำกับภาพทำได้ดีจริงๆ

แล้วก็ไม่รู้ว่าผู้กำกับหรือตากล้องเปลี่ยนแนวหรืออย่างไร เพราะเป็นหนังภาคที่เน้นนมและก้นเอามากๆ มุมกล้องนี่แทบจะ Piranha 3D แล้ว แต่ไม่มีถึงขั้นติดเรทครับ ดังนั้นเซฟๆ

เนื้อเรื่องถึงจะเวอร์ไปในหลายๆฉาก เหมือนจะเน้นแอคชั่นจนเกินไป แต่ก็ต้องยอมรับนะว่าสนุกและมันส์มาก และการดำเนินเรื่องก็ทำได้ดี เป็นการอำลา Paul Walker ผู้ล่วงลับได้อย่างลึกซึ้งตรึงใจมาก ทำ CG ได้เนียนพอสมควร ถึงจะพอมองออกอยู่บ้าง แต่มันก็ทำให้นึกถึงเหตุและผลว่าทำไมต้องทำ CG ด้วย ... ขอให้ Paul Walker ไปสู่สุคติครับ

ให้ 9.5/10 เลยครับ แนะนำให้ทุกคนไปดูนะ =)

สุดท้าย ขอบคุณ Major Cineplex ที่เอื้อเฟื้อตั๋วที่นั่งครับ ^_^

บทความที่เกี่ยวข้อง

Nov 2, 2016, 22:34
171391 views
วีดีโอบรรยายเรื่อง Developer Mindset วิธีคิดเปลี่ยนชีวิตก็เปลี่ยน "ใครก็เป็นนักพัฒนาได้"
Mar 22, 2015, 22:14
10723 views
แอบถ่าย Emquartier โค้งสุดท้ายก่อนเปิดห้าง
0 Comment(s)
Loading