สามสัปดาห์ก่อน มีโฆษณา Wonderfruit Festival บนทีวี
หลังจากโฆษณาจบ คุณณิชก็พูดขึ้นมาว่า "อยากไปม้ากกกกกกกกกกกกกกกกก"
ผ่านไปสองวัน คุณณิชปรากฎตัวอีกรอบพร้อมบอกว่า "ได้บัตรมาละนะ ไปกัน!" ไม่ใช่จากใครที่ไหน ผู้สนับสนุนรายใหญ่ของงานอย่าง Samsung นั่นเองงงง ขอบคุณคร้าบบบ กราบบบบบ
จึงเป็นเหตุให้ออกต่างจังหวัดด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกในรอบนานน้านนนนนนนาน น่าจะหลายเดือนเลยแหละ (เพราะไม่มีรถขับ)
ซึ่งแน่นอน ครั้งนี้ก็ไม่มีรถขับอยู่ แต่สถานที่จัดงาน Wonderfruit Festival คือโน่นนน พัทยา สยามคันทรี่คลับ จึงเป็นเหตุให้ต้องเช่ารถเป็นครั้งที่สองของชีวิต เพื่อขับไปแรดที่นั่นนั่นเอง
เนื่องจากช่วงจัด Wonderfruit เป็นช่วงที่เนยทำงานอย่างบ้าคลั่งอยู่ คือจันทร์-เสาร์ สอนแอนดรอยด์ 2 คลาส ตั้งแต่ 9 โมงยันสามทุ่ม หลังจากสอนเสร็จวันเสาร์ ก็ต้องไปเช่ารถและขับรถไปพัทยาคืนนั้นเลย เพื่อให้วันอาทิตย์ตื่นมาแล้วไปวิ่งเล่นที่งาน Wonderfruit ได้ แล้วคืนวันอาทิตย์ก็ขับรถกลับกรุงเทพฯ เพื่อสอนต่ออีกคลาส จันทร์-ศุกร์ ...
ขอให้เรียกว่า Work Hard, Play Damn Hard !
และเช่นเคย หากไม่มีอุปสรรคคงไม่ใช่เนย ...
วันเสาร์ตอนแรกวางแผนไว้แล้วว่าจะยืมรถที่บ้าน แต่เผอิญช่วงนั้นมีญาติที่อยู่เมืองนอกบินกลับไทยพอดี รถก็เลยไม่ว่าง พ่อแม่ต้องใช้ ก็เลยต้องไปเช่ารถแทน
โทรไป 6 ที่เห็นจะได้ AVIS เอย Thai Rent a Car เอย ฯลฯ ปรากฎว่าทุกเจ้าบอกตรงกัน "รถเต็มหมดเลยยาวจนถึงต้นปีหน้าเลยค่ะ"
คนเช่ารถขับไปเที่ยวกันหมด แง้~~~~~~~ T_T
วันนั้นนี่เครียดใช่เล่น กลัวหารถไม่ได้ กลัวไม่ได้ไป แต่พอนึกหน้าเด็กหญิงคนนึงที่อยากไปมากกกกก็เลยพยายามทุกวิถีทาง (ขอบคุณปิ๊ปโป้ที่ช่วยหามา ณ ที่นี้ด้วย ปิ๊งๆๆๆ) สุดท้ายโทรไปหาแต่ละเจ้า เพื่อถามว่าที่สุวรรณภูมิมีรถเหลือบ้างมั้ย ปรากฎว่าโชคยังเข้าข้าง เหลือ Fortuner ของ AVIS อยู่คันนึง กรี้ดดดดดดดด ก็เลยจองแบบไม่คิดชีวิต ถึงจะแพงกว่ารถเล็กธรรมดาหลายเท่าก็ตาม แถมโดนล็อควงเงินเยอะกว่าปกติสองเท่าอีก แต่ก็โอเค อย่างน้อยก็ได้ไปแหละะะ
หลังจากสอนเสร็จก็เลยกลับบ้าน อาบน้ำ และเดินทางไปสุวรรณภูมิผ่าน Airport Link โดนคนจีนกด Ulti ใส่ 4 รอบ แทบกลับน้ำพุ ... นี่มันภัยธรรมชาติชัดๆ ... แต่แล้วก็ฝ่าฟันมนุษย์จีนไปได้ แล้วก็โผล่วาร์ปไปที่สนามบิน มองหาบูธ AVIS อย่างสับสน เพราะพิกัดที่เค้าบอกมา ... มันอยู่ในพื้นที่ผู้โดยสารขาเข้าาาาา คือที่ที่เค้าเดินออกมาจากประตูแล้วเดินแคทวอร์คต่อกันนั่นแหละ แล้วเราจะเข้าไปยังไงว้า?
เลยเดินถามยาม ยามก็บอก "เดินเข้าไปเลยครับ" .... ง่ายๆและงงๆ สับสนในสุวรรณภูมิ -_-
พอไปถึงก็บอกชื่อแล้วยืนรอ 5 นาที จากนั้นก็มีรถตู้มาขับรับไปจัดการเอกสารและรับรถที่สำนักงาน AVIS ใกล้ๆสนามบิน เป็นบริการที่จำเป็นต้องทำแต่กลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก =)
ประโยคแรกที่ไปถึง พนักงานบอกว่า "เราอัพเกรดคันใหม่ให้พี่นะครับ เป็น Isuzu MU-X เพิ่งมาใหม่ วิ่งไปได้แค่ 70 โล พี่เป็นคนขับคนแรกเลย" ...
แม่เจ้าโว้ยยยยยยย แค่นี้ยังเกร็งไม่พอหรอออออออออ ToT ดีใจก็ดีใจ แต่กลัวก็กลัว เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ขับรถใหญ่ แถมขับไปต่างจังหวัดอีกตะหาก แต่ก็เอาวะ !! ต้องแล้วหละ
จัดการเอกสารโน่นนี่ ทำโน่นทำนี่ เรียนรู้วิธีการขับ บลาๆๆๆๆ กว่าจะทำทุกอย่างเสร็จก็โน่นปาเข้าไปเที่ยงคืน เข้าไปนั่งในรถ ปรับโน่นนี่ เอามือถือมาแปะกระจก เปิดแอพฯ HERE Maps เป็น Navigator ซึ่งพอออกจาก AVIS ปุ๊บ ... หลงเลยตั้งแต่เลี้ยวแรก วนเข้าไปไหนไม่รู้ ซอยแคบแบบขับเข้าไปได้คันเดียว เมี่ยงเอ้ยยยยยย โดนรับน้องตั้งแต่ 500 เมตรแรก T_T
พอหลุดมาได้ก็ค่อยๆประคองรถ (ยังไม่ชิน) แล้วก็ไปรับคุณณิชที่ปาร์ตี้ปีใหม่อยู่บ้านคุณชายอดัม ซึ่งก็อยู่ต่อจนถึงราวๆตีสอง ก่อนขับไปส่งเพื่อนในเมืองแล้วก็ตีรถกลับออกเดินทางสู่พัทยา เย้ เย
ระหว่างทางคุณณิชหลับปุ๋ยชนิดถีบก็ไม่ตื่น ตัวเราก็เลยขับชิวๆสบายๆ ค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้นเพื่อทดสอบความนิ่งของตัวรถ ปรากฎว่าโอเคอยู่นะเรื่องการควบคุม ชอบตรงเร่งเครื่องได้เร็วมากและเบรคได้ไวเช่นกัน เลยรู้สึกปลอดภัยในการขับขี่มาก แต่ที่ไม่ชอบเลยคือการตกแต่งภายใน ทุกอย่างใช้ยากและดูผิด UX เหมือนออกแบบมาผิดเยอะมาก เอาแค่ช่องวางของที่อยู่ใต้พวงมาลัย ล้วงไปต้องระวังโดนบาดไป (มีส่วนคมๆอยู่) สุดท้ายก็ไม่วาย โดนบาดไปแผลนึง - - เรื่อง Console ควบคุมวิทยุ ฯลฯ ก็แปลกๆ กดลงแล้ว UI ขยับขึ้น กดขึ้นแล้ว UI ขยับลง อะไรของมันเนี่ยยยยยยยย เราว่ามันไม่ควรเลยนะ ไม่ควรๆ ภายในนี่ฟังก์ชั่นเยอะ แตสอบตกเรื่องการออกแบบ
อย่างไรก็ตาม ไม่ค่อยได้ใช้อย่างอื่นอยู่ละ ทำแค่ Pair มือถือเข้ากับรถแล้วเปิดเพลงฟังจาก KKBox (ฟินนนนนนน) ก็เลยไม่สนใจอะไรมาก ขับรถไปเรื่อยๆ จนเริ่มชินก็ขับไปราวๆ 160 km/h เพราะอยากถึงพัทยาไวๆ ดูจากอาการแล้วต้องบอกว่ากำลังจะง่วง เลยใช้ตอนที่มีสติเต็มร้อยอยู่นี้ขับอย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด ให้ถึงพัทยาก่อนจะง่วงให้ได้
สุดท้ายก็ไปถึงพัทยาตอนตีสี่ตรง ก่อนเวลาที่ Navigator บอกไปราว 45 นาที เข้าเช็คอินที่ Holiday Inn เอาของขึ้นไปเก็บ แล้วก็ลงไปซื้อของกินนิดหน่อย ขึ้นไป กินๆๆๆๆ อาบน้ำ แล้วก็ ... นอนไม่หลับ T_T เมี่ยงเอ้ยยยยยย
กว่าจะหลับก็โน่น หกโมงเช้า พระอาทิตย์ขึ้น นกร้องจิ๊บๆๆๆๆ แล้วก็ตื่นตอน 10 โมงเพื่อเตรียมตัวไปหลั่นล้าที่ Wonderfruit ในสภาพง่วงเล็กน้อย เพราะนอนไม่พอมา 3 คืนติดแล้ว แต่ก็ไหวอยู่ๆ
แล้วก็ขับรถไปที่จัดงาน โน่นนนนน สยามคันทรี่คลับ ซึ่งแน่นอน .... หลงทางจ้าาาาาา 55555555 แต่สุดท้ายก็ไปถึงโดยสวัสดิภาพ >_<
ไปถึงปุ๊บก็กินข้าวปั๊บ วิ่งเข้าไปหาอาหารจากเชฟเปาโลชื่อดัง ทุกอย่างอร่อยมากกกกกกกกก พูดเลย ส่วนราคา ... ไม่พูดเลยละกัน หากไม่มีซัมซุงเลี้ยง เราคงจักต้องจกทรายจิกหญ้ากินแถวนั้น ToT เอารูปไปดูวววว
โฉมหน้าคณะเดินทาง (คนส่วนใหญ่มาตั้งแต่วันเสาร์แล้ว มีแค่เรากับณิชที่ตามไปวันอาทิตย์) (เกือบจะเป็นหญิงล้วน) (ฉันมาทำอะไรที่นี่)
หลังจากทานข้าวเสร็จ ก็แยกย้ายกันไปเที่ยวของตัวเอง ถึงเวลาสนุกแล้วสิ =)
บรรยากาศของ Wonderfruit เป็นลักษณะเหมือนงานคานิวัล มีซุ้มและเต้นท์ต่างๆพร้อมกิจกรรมมากมาย ท่ามกลางอากาศที่กึ่งร้อนจากแดดและกึ่งเย็นจากอากาศ(ในช่วงนั้น) แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ ... ฝุ่นตลบทั้งงานจ้าาาา ตลบแบบ แบบ แบบ นึกว่าอยู่ทะเลทรายอ่ะ - -
แต่ก็บ่ยั่น เดินเล่นทั่วงานกันจนเย็น ถ่ายรูปมาจำนวนนับไม่ถ้วน เอามาอวดๆ ^_^ (หมายเหตุ: แดดแรงมาก ถ่ายแบบมั่วสุดๆ เพราะมองอะไรไม่เห็นเลย แดดแยงตา ภาพพรีวิวก็มองไม่เห็น ดังนั้น ... จะได้ภาพสไตล์อารมณ์นะครับ ... อารมณ์มั่ว 555) ชอบบรรยากาศมาก ฝรั่งใส่บิกินีเดินไปเดินมาแบบชิวๆ รู้สึกอินกับสังคมแบบนี้
เล่นไปเล่นมา เวลาก็ผ่านไป 4-5 ชั่วโมงโดยไม่รู้ตัว
พระอาทิตย์ค่อยๆคล้อยต่ำลง ส่วนเราก็เริ่มรู้ตัวว่าไม่ไหวแล้ว เดี่ยวต้องขับรถกลับและวันรุ่งขึ้นมีสอนอีก เลยต้องรับผิดชอบชีวิตทุกคนด้วยการ ... หนีไปนอนบนรถ ปล่อยให้คุณณิชเดินเล่นในนั้นคนเดียวไป
แย่หน่อยตรงที่ที่จอดรถมีแต่ฝุ่น หากเปิดหน้าต่างคงต้องสำลักฝุ่นตายแน่นอน เลยจำต้องปิดกระจกนอนแบบนั้นไป แต่ปรากฎว่าไม่มีปัญหาใดๆเลย เพราะร่างกายไม่ไหวแล้วจริงๆ เลยหลับไม่รู้เรื่องไปเลย 2 ชั่วโมงรวด ตื่นมาอีกทีก็สองทุ่มกว่าๆละ เลยกลับเข้างาน ไปนั่งกินโน่นกินนี่ ถ่ายรูปโน่นนี่ จะบอกว่าบรรยากาศตอนกลางคืนดีมากกกกก ดีกว่าตอนกลางวันเยอะเลย รู้สึกเหมือนอยู่เมืองนอก ผู้คนพูดภาษาอังกฤษกัน และอากาศก็เรียกว่าหนาวเลยหละ มีความสุขสุดๆ
และก็ถึงเวลาลาจาก ออกจากงานแล้วมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ คืนรถที่สุวรรณภูมิ และนั่งแท็กซี่กลับบ้าน อาบน้ำนอนและไปสอนในวันถัดไปอย่างมีความสุข ^_^
ถือว่าเป็นอีกทริปที่ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ระยะทางใกล้ๆ แต่การได้เดินทางไปในที่ที่ไม่เคยไป ในงานที่ไม่เคยรู้จัก มันเป็นอะไรที่ ..... จะจดจำไว้อีกนานเท่านานเลยหละ
หวังว่าจะจุใจกับภาพใน Blog นี้ และขอขอบคุณ Samsung อีกครั้งสำหรับการดูแลเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นการเข้างานหรือแม้แต่ที่พักที่ Holiday Inn เป็นอีกงานที่ประทับใจครับ =)