ไม่ได้เขียน Blog มานาน คิดถึงกันมั้ย =)

เผอิญงานเยอะมากจนแม้แต่เวลาจะนอนก็ยังไม่มี ก็เลยไม่มีโอกาสได้เขียนอะไรเลย

วันนี้เป็นวันแรกที่พอมีเวลาบ้าง เลยปลีกเวลามาเขียน Blog สักหน่อยเผื่อท่านๆคิดถึงงงง ^_^ (ซึ่งคิดว่าไม่มีใครคิดถึงหรอก งืออออออ)

เผอิญวันก่อนได้รับ Tag มาจากอาจารย์ศุภเดช (@Ripmilla) ให้เขียนถึง 10 เรื่องราวดีๆของปี 2014

ตอนแรกเห็นหัวข้อแล้วยอมรับเลยว่ารู้สึกลอยๆ ... เพราะสำหรับเรา ปี 2014 ที่ผ่านมานับเป็นปีที่ "เลวร้ายที่สุด" ในชีวิตเลยก็ว่าได้

มีแต่ปัญหาประดังเข้ามา และที่แย่ที่สุดคือจิตใจจมอยู่กับความเศร้าและความทุกข์กว่า 6 เดือนและต้องอยู่กับผลที่ตามมาจนถึงตอนนี้ ได้แต่พยายามแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วและพยุงไม่ให้มันแย่ลงไปกว่านี้

อย่างไรก็ตาม พอนั่งคิดอีกสักหน่อย ก็พบว่าเจ้าความทุกข์และเรื่องแย่ๆนี่เองที่ทำให้ได้ลุกขึ้นอีกครั้ง ได้ทำสิ่งใหม่ๆและได้ทำตามฝันจริงๆสักที

เลยมานั่งคิดว่าเราเจออะไรดีๆในปีนี้บ้างนะ ... คิดได้ก็เลยเอามาเขียนในนี้ฮับ =)

คงไม่ได้เรียงลำดับอะไรนะ เรื่องดีๆก็คือเรื่องดีๆแหละ ไม่ต้องไปจัดอันดับให้มัน ^_^

1) ได้เปิดบริษัทของตัวเองจริงๆสักที The Cheese Factory Co.,Ltd. - ปีนี้เราก้าวเดินออกมาจากทุกสิ่งที่เคยร่วมสร้างไว้ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทหรือเว็บไซต์ เพื่อเดินตามสิ่งที่ตัวเองต้องการด้วยตัวเอง เกิดมาเป็น The Cheese Factory Co.,Ltd. บริษัทที่ดำเนินการเองทุกอย่าง จดบริษัทเอง บริหารเอง ทำงานเอง ควบคุมทุกอย่างเอง พอทุกอย่างเป็นไปตามแผน ปฏิเสธทุกโอกาสที่เข้ามาล่อหลอก พอไม่มีงานแทรกคอย Distract ก็ทำให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีมาก =)

2) ครั้งแรกที่มีคนเรียกว่า "อาจารย์" - ใฝ่ฝันมานานแล้วว่าอยากจะเป็นอาจารย์ ไม่ใช่เพราะเท่ แต่เพราะอยากปั้นคนมากกว่านั่งปั้นงานไปวันๆ และตอนนี้ก็ได้ทำตามความฝันแล้ว เปิดสอนไป 5 คลาสเรียบร้อย ปีหน้ายังมีตามมาอีกเรื่อยๆครับ คอยติดตามได้จ้า

3) รู้ว่าตัวเองทำเพื่อใคร มีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจนมาก - ไม่ต้องอธิบายเนอะ =)

4) เรื่องที่ค้างคามาหลายปีจบลง - มีเรื่องที่ค้างคาในจิตใจมานานมาก แต่สุดท้ายก็ได้จบลงในปีนี้ จากนี้ชีวิตก็เลยสามารถเดินหน้าโดยไม่มีอะไรรั้งเราไว้ได้อีกแล้ว ... และถึงเรื่องนี้จะกลับมาในอนาคต เราก็จะไม่สนใจแล้ว สำหรับเรามันจบแล้ว ซึ่ง ... รู้สึกดีมากเลยแหละ ^^

5) จิตใจด้านชา - ผลพวงจากเรื่องร้ายๆที่ได้พานพบ ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องไม่ดี แต่เอาจริงๆเรารู้สึกแข็งแกร่งและรับกับสิ่งเลวร้ายได้ดีขึ้นนะ รู้จักปล่อยวาง แคร์คนอื่นน้อยลง แคร์ตัวเองมากขึ้น แคร์คนที่รักเรามากขึ้น ชีวิตมีความสุขขึ้นเยอะเลย

6) ได้รับเลือกให้ไป Incheon Games ในฐานะ Social Caster โดยซัมซุง- อยู่ดีๆก็ได้รับการเสนอชื่อในฐานะ Blogger ให้ไปรายงานข่าวกีฬาที่เกาหลี เป็นทริปที่มีความสุขมากๆ มากๆ ถึงมากที่สุด ยังคงคิดถึงอยู่จนถึงตอนนี้ กำลังเขียน Blog เรื่องนี้อยู่ ค้างไว้นานแล้ว หวังว่าจะเสร็จเร็วๆนี้ครับ ขอบคุณซัมซุงและเกศ & เอมมี่ แห่ง ADapter มากเลยสำหรับโอกาสนี้ ^_^

7) เริ่มถ่ายรูปจริงจัง - ซื้อ 5D Mark II มาก็นาน แต่ปีนี้เรื่องแย่ๆกลับทำให้เราหยิบกล้องขึ้นมาเริ่มถ่ายรูปมากขึ้น มีหลักการขึ้น ถึงตอนนี้จะยังถ่ายไม่สวยเท่ามืออาชีพ แต่ก็พอเอาไปทำอะไรได้แล้ว

8) ได้รับตำแหน่ง Food Blogger ย่อมๆ - ก็เนื่องมาจากปัญหาชีวิตอีกนั่นแหละ เลยเปลี่ยนแนวการเขียน ไปเขียนถึงเรื่องอาหารมากขึ้น สุดท้ายก็เริ่มติดตลาดจนมีคนนึกถึงเมื่อมีโปรดักส์เกี่ยวกับอาหารใหม่ๆ จนถึงมีแบรนด์อาหารบางรายติดต่อมาให้เขียน (แต่ก็ไม่ค่อยได้รับ) น่าเสียดายที่พักหลังเรายุ่งมากจนไม่ได้เขียนอีก แต่ถ้ามีเวลาว่างจะไม่พลาดแน่นอนครับ มีอาหารอยากเขียนถึงอีกเพียบเลย

9) การได้ Fade ตัวเองออกจากโลกไอที เข้าสู่โลกธุรกิจมากขึ้น - ตลอดปีที่ผ่านมา ไม่ค่อยได้ไปงานไอที งานเปิดตัวมือถือ อะไรพวกนั้นเท่าไหร่แล้ว ไม่ได้หยิ่ง แต่เพราะความสนใจเริ่มผันเปลี่ยนตามอายุและความฝัน เลยหันไปงานด้านธุรกิจมากขึ้น คุยกับคนเกี่ยวกับ Business Opportunity มากขึ้น

10) เขียนโปรแกรมน้อยลง - ความจริงอย่างหนึ่งของเราคือ เราไม่อยากเขียนโปรแกรมแล้ว ... มานานแล้ว ... แต่เพราะหลายๆเหตุผล จึงยังต้องเขียนอยู่ แต่ล่าสุด ครึ่งปีมานี้ เราลดงานเขียนโปรแกรมลงไปกว่า 50% ซึ่ง ... เรามีความสุขมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่ชีวิตความเป็นโปรแกรมเมอร์เรามันอิ่มตัวไปแล้วแหละ มีอะไรอยากทำอีกเยอะมากเลย และจะเริ่มละ (จริงๆคือเริ่มแล้ว)

11) มีโอกาสได้ออกกำลังกายจริงจัง - ถึงจะยังผอมอยู่ แต่กล้ามขึ้นทั่วตัวแล้วน้าาาา

12) ได้เริ่มทำ Startup ตัวใหม่ - มีแอบทำอยู่ตัวนึง ถือเป็นตัวแรกที่ทำนับตั้งแต่รู้จักคำว่า Startup แต่ยังไม่เปิดตัว ไว้เปิดแล้วจะบอกนะ =)

13) ได้สร้างอาชีพให้พ่อ - พ่อเราเป็น Artist ที่เก่งมากและมีพรสวรรค์ แต่ไม่ค่อยออนไลน์เท่าไหร่ เราก็เลยทำ Online to Offline ให้ซะเลย ผลคือตอนนี้เริ่มมีงานเข้ามาเรื่อยๆ และพ่อก็ค่อยๆเข้าสู่โลกของสังคม Artist ในไทยแล้ว ปีหน้าน่าจะได้เห็นอะไรแปลกๆใหม่ๆจากบิดาเรา ดีใจ ดีใจ

14) ได้พัฒนาสกิลด้านธุรกิจอย่างก้าวกระโดด - ก่อนหน้านี้พยายามจะทำงานด้านบริหารหลายครั้ง แต่สุดท้ายคนด้าน Technical ไม่พอ ก็เลยอดบริหารทุกที และต้องกลับไปทำงานที่ตัวเองไม่ชอบอย่างโปรแกรมมิ่ง ... ตอนนี้พอได้ทำทุกอย่างเอง ก็รู้สึกแฮปปี้กับการได้ทำงานด้านบริหารมากและทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่คาดหวังไว้ ดีใจที่ได้พัฒนาความสามารถด้านการบริหารสักที ยังมีอีกเยอะที่ต้องพัฒนา แต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีครับ =)

15) ทำเว็บ nuuneoi.com แห่งนี้ใหม่หมด - เป็นการรื้อเว็บครั้งใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี และมีความสุขมากฮับ

16) ปล่อยแอพฯ nuuneoi.com ลง Play Store - ตั้งใจจะทำตั้งนานแล้ว ไม่ได้ทำสักที สุดท้ายพอตั้งใจก็ใช้เวลาทำแค่สองวันแล้วก็ปล่อยเลย ... ผลตอบรับดีมาก ขอบคุณทุกท่านคร้าบบบ ^0^

17) ได้เจอมิตรภาพที่แท้จริง - ในวันที่ล้ม มีคนบางคนเลือกเดินจากไป แต่ก็มีคนบางคนเดินเข้ามา ก็ทำให้ได้รู้ว่าใครคบเราเพื่อหวังผลหรือใครเป็นมิตรแท้ ใครควรคบหาต่อ ใครที่ควรเดินหนีออกมา

สำหรับเรื่องร้ายๆที่พบเจอ คงไม่เขียนถึงมัน จะทิ้งมันไว้ที่นี่ ที่ปี 2014 นี้ ... จะคงเหลือไว้ในความจริงว่า ความเจ็บปวดครั้งนี้มอบสิ่งดีๆให้เรามากมายเลยแหละ =)

ส่วนปีหน้าเราก็มี New Year Resolution แล้ว อาจจะน่าตกใจสักหน่อยสำหรับคนที่บอกไปแล้ว แต่บางคนก็บอกว่าดีแล้ว ...

สองข้อสั้นๆ

1) หาเงินใช้หนี้ให้หมด ยอดราวๆ 7-8 ล้าน

2) ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน ... เนยคงขอลี้ไปอยู่ต่างประเทศสักพัก เนยรู้สึกว่าประเทศนี้คงไม่เหมาะกับอาชีพอย่างเนย ขอไปไขว่คว้าและออกเดินทางหาสิ่งที่อาจจะใช่สำหรับตัวเองสิ้นปีหน้าครับ =)

เป็นความตั้งใจที่จะทำให้ได้ ไม่ค่อยมั่นใจแต่ก็จะพยายามอย่างเต็มที่ เอาใจช่วยกันด้วยครับเน้อ ^_^