นิสัยของ iOS User ที่ดี(มาก)อย่างนึงมาตลอดคือ ถ้ามี OS Update ก็จะกดอัพเดตทันที ทำให้ไม่ค่อยเกิด Fragmentation ด้าน Software เท่าไหร่
ปกติเวลา iOS มีอัพเดตเวอร์ชั่นแบบ Major ก็เตรียมตัวย้ายฐาน OS ขั้นต่ำการพัฒนาขึ้นมาได้เลยเป็นสองเวอร์ชั่นล่าสุด เช่น ถ้า iOS 7 ออก ก็โยน iOS 5 ทิ้งได้เลย พร้อมปรับขั้นต่ำเป็น iOS 6 ไปสักพักนึง ระหว่างนั้นก็เตรียมย้ายไปขั้นต่ำ iOS 7 แบบเต็มตัวได้ในเวลา 1-2 เดือน เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่คนทยอยอัพเดต OS ส่วนคนใช้เครื่องตกรุ่นก็จะทยอยซื้อเครื่องใหม่ สุดท้ายคนใช้ OS ล่าสุดก็จะกินตลาดเกิน 80% ในเวลาอันสั้น ทำให้การย้ายฐานการพัฒนาไปเวอร์ชั่นล่าสุดก็สามารถทำได้เลย (ถ้าไม่ Mind คนใช้มือถือตกรุ่น)
แต่กับ iOS 8 ถือเป็นครั้งแรกที่การอัพเดต "หยุด" อยู่ที่เพียง 48% เท่านั้น ข้อมูล Official จากเว็บ Apple เผยว่า ถึงแม้ 5 วันแรกจะพุ่งขึ้นเป็น 46% แต่หลังจากนั้นก็แทบจะหยุดนิ่ง วันนี้ผ่านไป 1 เดือน ก็ยัง 48% อยู่ และไม่มีทีท่าว่าจะเพิ่มขึ้นเลย
สาเหตุมีอยู่หลายประการ เช่นการอัพ OTA ใช้เนื้อที่เยอะเกินไป ในยุค Post PC แบบนี้ การอัพเดตผ่าน iTunes มันไม่สะดวกนัก รวมถึงปัญหาของ Software ที่ถูกบ่นกัน ทำให้คนยังไม่กล้าอัพ
ถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมากเลยนะ 1 เดือนขึ้นแค่ 2%
จริงอยู่ที่เลขตรงนี้ไม่ได้แปลว่า Active User ของพวกแอพฯจะยังเป็น iOS 7 อยู่ พวก iOS 7 อาจจะเป็นพวกไม่ใช้แอพฯก็ได้ แต่พอไป Research ดู ก็พบว่าตัวเลขสถิติของการใช้แอพฯก็ตรงกับตัวเลข Market Share ด้านบน คือมีผู้ใช้แอพฯบน iOS 7 และ iOS 8 พอๆกัน อยู่ที่ 1:1 เลย โดยข้อมูลที่ไปดูมาอ้างอิงกับ Mixpanel ซึ่งเป็นบริการเก็บ Data Point ของการใช้งานแอพฯมากมายทั่วโลก ไม่ใช่แค่แอพฯสองแอพฯ ผลออกมาเป็นกราฟดังนี้ ...
ดังนั้นสำหรับ Developer แล้ว ตัวเฮาแนะนำว่าให้ยึด OS ขั้นต่ำไว้ที่ iOS 7 ไปก่อนแบบยาวๆพอสมควรเลย จากการคาดการณ์น่าจะสัก 4-6 เดือน อย่าเพิ่งขยับไปใช้ iOS 8 API ยกเว้นถ้าจำเป็นต้องใช้จริงๆ แบบเป็น Core ของ Service ไรงี้ ก็ใช้ได้ เพราะตัวเลข 48-49% ก็ถือว่าสูงแล้วที่จะมีคนใช้เยอะมาก แต่ถ้าอยากจะ Mass และใช้ iOS 7 ได้และใกล้ Launch แล้ว ... ใช้ iOS 7 ไปก่อนนะ
ส่วนแอนดรอยด์ ...
ไปหละ สวัสดี