"ไม่ต้องมีเวทมนตร์ ไม่ต้องไปหาแม่มด แค่คุณทำสิ่งที่โลกระลึกถึงตลอดกาล แค่นั้นคุณก็เป็นอมตะแล้ว"
Case Study อ่านเล่น ไปรษณีย์ไทยกับการซื้อของออนไลน์
30 Apr 2014 09:41   [8297 views]

วันก่อนเล่นเฟสบุ๊คแล้วก็มี Sponsor Post มา ดูเนื้อหาแล้วน่าสนใจยิ่งนัก เพราะมันเป็นของ Visa และพูด Dispute Transaction ในกรณีที่การสั่งซื้อของออนไลน์มีปัญหา

ความจริงเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติมากมาเป็นสิบปีแล้ว เพราะมันเป็นประโยชน์หลักๆของบัตรเครดิตในการซื้อของออนไลน์เลยหละ ที่ให้เราสามารถ Dispute ได้ในกรณีที่เกิดปัญหา แต่พอมาโพสท์ในไทย สิ่งได้รับคือ ...

โอ่ยยย จะฝากร้านอะไรเยอะแยะ !

เอาใหม่ เป็นโพสท์ที่มีคน Reply เป็นร้อย ขอ Cap มาเฉพาะใจความสำคัญละกัน

แล้วก็เกิดการทะเลาะกันในโพสท์วุ่นวาย เรียกว่า 70% ของคอมเม้นท์เป็นคนไทยที่รุมด่าไปรษณีย์และเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ที่มาด่ากลับ อีก 20% เป็นคนมาฝากร้าน ... ส่วนอีก 10% ถึงจะพูดเรื่องบัตรเครดิต

แต่เราจะไม่เจาะประเด็นดราม่าอะไร แต่สิ่งที่สะกิดใจอย่างหนักคือ ไปรษณีย์ไทยเป็นที่ยอมรับจากทั่วประเทศว่าห่วย เป็นอิมเมจที่ชัดเจนมากและคงไม่อาจจะลบเลือนได้ง่ายๆ ทั้งๆที่การส่งของควรจะเป็นแกนหลักของประเทศเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และนี่คือปัญหาที่ทำให้การซื้อขายออนไลน์ติดขัดได้

Logistic นับเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การซื้อของออนไลน์ขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี หากบอกว่ามีโอกาส 30% ที่ของคุณจะเสียหายจากการจัดส่ง แล้วใครหละจะกล้าสั่ง?

มองในมุมคนขาย ถ้าของพังแล้วตัวเองต้องรับผิดชอบทั้งๆที่เป็นความผิดไปรษณีย์ไทย แล้วใครหละจะกล้าขาย?

ตอนนี้ก็เลยมีเอกชนพลิกวิกฤติมาเป็นโอกาสด้วยการเปิด Logistic ในไทยจำนวนมาก ทั้งที่คนรู้จักกันอยู่แล้วอย่าง DHL, UPS, FedEx และที่กำลังลุยตลาดอย่างเต็มที่อย่าง Kerry ไม่นับรวบรายย่อยที่ทำ Logistic แล้วเราไม่รู้จักอีก (มีบางคนที่ In Talk อยู่ ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีด้วย)

หลังจากที่ไปศึกษาด้าน eCommerce มานิดหน่อย ก็พบว่า Kerry กับ DHL ได้รับความนิยมพอสมควรเลย (แต่ Kerry ก็โดนบ่นจากเจ้าของมาพอสมควรเรื่องช้า) และคนที่ทำ eCommerce จริงจัง ก็แทบไม่เห็นใครใช้บริการไปรษณีย์ไทยเลย ... จะมีก็พวกแม่ค้าพ่อค้าขายของออนไลน์รายย่อยตาม Instagram ที่ใช้ไปรษณีย์ไทยอยู่ เพราะเรื่องราคา

และ Characteristics ของคนไทยที่เป็น Emerging Market คนยังใช้บัตรเครดิตน้อย และคนขายก็เป็นมิจฉาชีพเพียบ คนจำนวนมากก็เลยต้องการเรียกเก็บเงินปลายทาง (COD: Cash on Delivery) ซึ่งเป็นทางออกที่ดีมาก ตอบโจทย์ทุกอย่าง

ปีนี้คาดว่าตลาด eCommerce, mCommerce จะโตอย่างก้าวกระโดด ดังนั้นธุรกิจ Logistic ก็จะเติบโตแบบก้าวกระโดดด้วยเช่นกัน ผู้เล่นในตลาดตอนนี้มีเยอะ แต่มีเพียงไม่กี่เจ้าที่ COD ได้ รายแรกๆคือ Kerry แต่ได้ยินมาว่าเจ้าดังๆก็เริ่มจะมาลงเล่น COD กันละ ตามสภาพตลาดของไทย จึงทำให้ Kerry กำลังรุกตลาดหนักอยู่ในตอนนี้

เป็นเรื่องที่น่าสนใจว่าตลาด Logistic สุดท้ายใครจะชนะ ใครกันที่สามารถกดราคาค่าส่งลงได้ ใครกันที่สามารถ Deliver COD สู่ตลาดได้และใครกันที่รักษามาตรฐานไว้อย่างต่อเนื่อง

ไม่จำเป็นเลยที่ต้องเป็นคนที่ครองตลาดตอนนี้อยู่แล้ว สุดท้ายถ้าเป็นเจ้าใหม่ที่เพิ่งเริ่มวันนี้ แต่ทำระบบจัดการได้ดีมาก ก็อาจจะครองตลาดไปเลยในเวลาไม่กี่เดือน หากคุณคิดจะทำธุรกิจ Logistic แล้ว พูดเลยว่า ... เวลาดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ลุยเลยครับ

อย่างเนย ตอนต้นปีก็มีคนชวนไปทำ แต่ก็ไม่ได้ไป เพราะไม่ว่าง แต่ใจอยากไปร่วมทำด้วยมากๆ เพราะเห็นแล้วว่ามาแน่ตลาดนี้ และ Repeat ได้ยาวๆเลยด้วย

อีกอย่างนึงที่กำลังดูอยู่คือ ... ไปรษณีย์ไทยจะสามารถทำ Surprise จนคนตกใจทั้งปฐพีได้มั้ย ถ้าทำได้นี่ ... ตลาด eCommerce ไทยคงสนุกมากอ่ะครับ พูดเลย

อันนี้ต้องมาดูกันต่อไปครับ =)

บทความที่เกี่ยวข้อง

Mar 23, 2014, 19:15
9170 views
จบงานพูดบรรยายในฤดูกาลแรก กับแนวคิดสั้นๆที่อยากจะแชร์ต่อสังคม Startup ไทย
Apr 29, 2014, 20:27
17551 views
เริ่มต้น Startup ให้ถูกทาง: ธุรกิจที่ยั่งยืนต้อง Scalable และ Repeatable
0 Comment(s)
Loading