เปิดตัวเป็นรายสุดท้ายจากบรรดาทุก Operator หลังจากที่ True Incube และ AIS The Startup ชิงเปิดตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว ล่าสุด Operator สีฟ้าอย่างดีแทคก็เปิดตัวโครงการ dtac Accelerate 2.0 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงจะมาช้าสุด แต่โครงการครั้งนี้ ต้องบอกว่า "น่าสนใจมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก" (ยาวๆไปเลย) เลยหละ
งานนี้ถ่ายรูปยากมาก น้ำตาแทบไหล เพราะไปจัดที่ชั้น 38 ตึก DTAC จามจุรีสแควร์ ปิดทึบทุกด้านเพื่อจัดแสงให้อยู่ในธีมสีฟ้า ดังนั้นภาพอาจจะไม่ได้สวยมากนะก๊ะ
งานนี้ได้รับความสนใจจากคนหลากหลายวงการ คนใหญ่คนโตก็มากันเพียง ผู้คนล้นหลามมาก
ไอดอลอย่างซิกเว่ย์ เบรคเก้ ก็มาด้วย ในฐานะ Telenor ผู้กุมเงินโครงการครั้งนี้
พี่กระทิงหนึ่งในผู้ริเริ่ม dtac Accelerate ครั้งที่แล้ว ก็ร่วมในโครงการปีนี้ด้วย
ช่วงเริ่มต้นก็มานั่งฟังว่า Vision ของดีแทคต่อ Startup ไทยเป็นอย่างไรบ้าง สรุปคร่าวๆได้ว่า
- นาทีนี้ Handheld Device เป็น Channel ที่ดีมากในการเข้าถึงผู้ใช้ จากการเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆของอุปกรณ์เหล่านี้ Telenor เห็นความสำคัญและโอกาส รวมถึงสิ่งที่ขาดอย่าง Local Content จึงกำลังมองหาบริการแบบ Local ที่สามารถเข้าถึงท้องถิ่นต่างๆได้อย่างเหมาะสม
- หากพูดถึง Startup ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ตอนนี้ประเทศไทยเริ่มเป็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และ Telenor ก็สนใจจะลงทุนกับ Startup ในไทย
จากนั้นพี่กระทิงก็ขึ้นมาพูดถึงรายละเอียดโครงการทั้งหมด ดังต่อไปนี้ ~~
โครงการ dtac Accelerate 2.0 ครั้งนี้ วงเงินลงทุนโครงการอยู่ที่ 100 ล้านบาท จาก dtac และ Telenor
ขยาย Target ของโครงการให้กว้างขึ้น เปิดเป็น 2 Tracks ได้แก่
- Incubator (ฟักไข่) สำหรับคนที่มีไอเดีย มีทีม มี Passion แต่ยังไม่ได้เริ่มทำ
- Accelerator สำหรับคนที่ทีม มีโปรดักส์แล้ว มี Traction แล้ว พร้อมจะสเกลไปยังตลาดที่กว้างขึ้น
สำหรับผู้ที่ได้รับการคัดเลือก 5 ทีม จะได้รับ Seed Funding ทันที 500,000 บาท แลกกับ Equity ที่ยังไม่รู้ตัวเลขหรือรูปแบบ (อาจจะเป็นหุ้นหรืออาจจะเป็น Convertible Note ไว้จะไปถามมาให้ วันนั้นมีคนถามแต่ดีแทคไม่ตอบ) และหากผลงานผ่านเกณฑ์ เข้าตา รุ่งโรจน์ ก็อาจจะเพิ่มวงเงิน Seed Funding เป็นสูงสุดถึง 1,500,000 บาท โดยผู้ที่จะมาถือ Equity ในบริษัท Startup จะเป็นบริษัทใหม่ที่ dtac เปิดขึ้นมาในไทยเพื่อโครงการ dtac Accelerate โดยเฉพาะ โดยทั้ง 5 ทีมจะได้รับสิทธิ์เข้า Boot Camp เป็นเวลา 3 เดือนเต็ม
เมื่อปีที่แล้ว งาน dtac Accelerate มีข้อจำกัดค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นโครงการนำร่อง จึงจำกัดแค่ Mobile App แต่ปีนี้ทลายข้อจำกัดด้านหมวดหมู่ของ Startup ทิ้งหมดสิ้น เปิดให้ Startup ด้านไอทีทุกแขนงเข้าร่วมโครงการได้ ไม่ว่าจะเป็น Mobile App, Content/Game, eCommerce, Online Financial Service, Payment, Online Education, Geo/Local, mHealth, Cloud, B2B และ Social Technology Venture
ปีนี้ดีแทคเตรียมตัวมาอย่างดี ดึง Investor ตัวเอ้อย่าง Golden Gate Ventures จากสิงคโปร์, Cyberagent Ventures จากญี่ปุ่น รวมถึง VC ในไทยอย่าง Ardent Capital เข้าร่วมโครงการด้วย
ปัญหาอย่างหนึ่งที่บริษัท Startup ซึ่งส่วนใหญ่(โดยเฉพาะในไทย)เริ่มมาจากสายเทคนิค ประสบพบเจอคือเรื่องของบริษัท เรื่องของกฏหมาย เรื่องของบัญชี บลาๆๆๆ ปีนี้ดีแทคก็มี Partner เป็น PWC (PricewaterhouseCoopers) มาช่วยจัดการตรงนี้ให้ (ตอนไป JFDI ก็มีคนมาช่วยแบบนี้เหมือนกัน รู้สึกอุ่นใจขึ้นเยอะ)
ด้าน Mentor เป็นอะไรที่น่าสนใจสุดๆ เป็น Mentor ระดับอินเตอร์ที่คร่ำหวอดในวงการ Startup มานาน สามารถให้คำแนะนำที่ดีได้แน่นอน แต่ละคนไม่ธรรมดา ดูไปทีละคนเลย
สิ่งที่สำคัญเป็นอันต้นๆจากการเข้าโครงการ Incubator หรือ Accelerator ใดๆ คือ Connection ต่อ Investor และคนใน Startup Ecosystem และ dtac Accelerate ก็ให้ความสำคัญตรงนี้ เพราะวัน Demo Day มี VC จากทั้ง Local และ Global มาร่วมฟัง จะสเกลไประดับเอเซียหรือระดับโลกก็ไม่ใช่ปัญหา
สิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจเป็นพิเศษที่ dtac Accelerate มอบให้คือ
- การเข้าถึงฐานผู้ใช้ Telenor Group ที่มี Subscriber จาก 13 ประเทศ รวมกว่า 150 ล้านเลขหมาย
- สำหรับผู้ที่ถูกคัดเลือก (ยังไม่บอกว่ากี่ทีม) จะถูกส่งไปใช้ชีวิตที่ Silicon Valley เป็นเวลา 2 อาทิตย์ เพื่อเข้า Boot Camp และหลั่นล้าาาา
- นอกจากนั้น ยังจะถูกส่งไป Road Show ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก รวมถึงญี่ปุ่นอีกด้วย
นี่คือรายละเอียดทั้งหมดที่ทีมงาน dtac Accelerate พูดในงานเปิดตัวครับ
ถึงตาเนยละ ...
ส่วนตัวแล้ว จากบรรดา 3 งาน Startup จาก 3 ค่ายโอเปอเรเตอร์ หากมองในแง่ Startup ที่จะสเกลผลงานไปยัง Regional จนถึง Global งาน dtac Accelerate 2.0 ถือเป็นงานที่ดูมีภาษีดีที่สุดในขณะนี้ (เรื่อง Execute เป็นยังไง ก็คงต้องดูกันอีกปีนึง บอกตอนนี้ไม่ได้หรอก) และเน้นไปทาง Startup จริงๆจังๆ
การออกแบบงานดูเข้าใจและดูเป็นมืออาชีพที่อยู่ในวงการ Startup มากๆ รู้ว่า Startup ขาดอะไร พลาดอะไร ความต้องการคืออะไร และจะทำยังไงให้ร่วมมือกันได้ดีที่สุด รวมถึงจัดเตรียมการสเกลไปยังระดับ Regional/Global มาเป็นอย่างดี ด้วย Partner ที่เชื่อถือได้ ขอชื่นชมผู้จัดโครงการครับ เป็นการเริ่มต้นที่ดีมาก
แม้แต่ตัวเอง ฟังแล้วยังเคลิ้มเลย อยากจะไปร่วมลงสมัครด้วย กับผลงานชิ้นใหม่
ส่วนทาง AIS จะมีภาษีดีเรื่องของการเป็น Operator ที่แข็งแกร่งทั้ง Local และ Global ด้วยเครือข่ายของ SingTel แต่ปีนี้เหมือนจะเน้นไปทาง SME มากกว่า Startup เพียวๆ (ซึ่งเป็นเรื่องดีในแง่หนึ่งเหมือนกัน ไปอ่านเพิ่มเรื่องงาน AIS The Startup 2014 ได้ที่นี่) ทางด้าน True Incube จุดแข็งคือ Infrastructure ของเครือ CP ที่แข็งแกร่งมากในไทย หาใครทัดเทียมได้ไม่
ข้อมูลที่ได้เพิ่มเติมในช่วง Q&A
- ทีมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในมุมมองของ dtac Accelerate และการมีตัวคนเดียว ถึงไอเดียดีแค่ไหน ภาษีก็จะตกลงไปทันที แม้แต่ Superman ก็เหงาเป็นนะ ... ตัวเลขที่ได้ยินมาคือทีม 5 คน กำลังดี (ส่วนตัวว่าเยอะไป 3 คนก็น่าจะพอละ)
- บริษัทที่จะมา Take Equity เนื่องในโอกาส Seed Funding จะเป็นบริษัทใหม่ที่ dtac Accelerate เปิดขึ้นมา (ข้อนี้สำคัญในแง่โครงสร้างหุ้น) ยังไม่รู้ว่าจะขอ Equity มากแค่ไหนและรูปแบบใด
- dtac ไม่มีปัญหาหากบริษัทต้อง Scale แล้วไปเปิดบริษัทที่ประเทศอื่น โดย dtac จะหาหนทางเพื่อทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี
- คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ ไม่จำกัดเพศ อายุ สัญชาติ หรือการศึกษา ขออย่างเดียว สามารถทุ่มกับโปรเจคนั้นอย่างเต็มเวลาได้ รวมทีมมาไม่เกิน 5 คนแล้วก็สมัครได้เลย
เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้จนถึง 16 เมษายน ประกาศผล 21 เมษายน เริ่ม Pitch วันที่ 22 เมษายน (แน่นอน เป็นภาษาอังกฤษ) ประกาศผล 5 ทีมสุดท้ายวันที่ 23 เมษายน (จะไวไปไหน) เริ่มต้น Boot Camp ปลายเดือนเมษายน จนถึงเดือนกรกฎาคม ก่อนจะมี Demo Day ในวันที่ 14 สิงหาคม ครับ
ข้อมูลเพิ่มเติมและการสมัคร เชิญไปที่เว็บ dtac Accelerate http://www.dtac.co.th/accelerate/ ได้เลยจ้า เว็บสวยๆ =)
ขอให้นักล่าฝัน ประสบความสำเร็จและทำตามความฝัน สมดั่งตั้งใจทุกท่านนะครับ และขอบคุณดีแทคที่ร่วมผลักดันวงการมา ณ ที่นี้ด้วย