"Fly high but don't fly alone"
AIS เปิดตัวโครงการ AIS The Startup 2014 เน้นหา Content Partner ร่วมทำธุรกิจ
20 Feb 2014 00:23   [8736 views]

เวทีประกวดต่างๆเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง True Incube ก็เพิ่งสัมภาษณ์รอบแรกเสร็จไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา มาวันอังคารที่ผ่านมานี้ AIS ก็เปิดตัวโครงการ AIS The Startup เป็นปีที่ 3 เป็นที่เรียบร้อยอีกเวทีหนึ่ง แต่ฉีกรูปแบบงานไปแล้ว โดยเน้นไปที่ SME มากกว่า Startup

เพื่อความสำเร็จของโครงการในทั้งสองฝ่ายคือทั้ง AIS และผู้ที่จะเข้าร่วม เลยขอเคลียร์รูปแบบงานที่ได้รับฟังมาจากงานเปิดตัวให้เรียบร้อยก่อน

เริ่มที่ SME ต่างกับ Startup อย่างไร?

หลายคนสับสนว่า Startup คือ SME ที่เพิ่งเริ่มต้นใหม่ แต่ความจริงไม่ใช่ครับ สองอย่างนี้เป็นคนละความหมายกันไปเลย

Startup คือผู้เริ่มต้นใหม่ มีไอเดีย มีความฝัน สามารถทำได้ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเวอร์ครึเปล่า เน้นว่าต้องเพิ่ม Value ให้กับ Product เพื่อ Exit ในสักวันหนึ่ง มีกลไกและ Ecosystem เพื่อทำให้มันเกิดขึ้นได้

ส่วน SME คือผู้เริ่มต้นธุรกิจ (Business) มี Business Model ชัดเจน ทำเพื่อกำไรที่พอกพูนขึ้นเรื่อยๆ

ตอนไปฟังงานเปิดตัวก็สับสนเล็กน้อยว่าอะไรยังไง แต่สุดท้ายเมื่อฟังจนจบก็ชัดแหละว่า AIS The Startup ปีนี้เน้น SME หรือผู้ที่มีธุรกิจแล้ว มาเป็นหุ้นส่วนกับ AIS ไม่ใช่เน้น Startup อะไรมากมาย

ซึ่ง AIS ก็ประกาศชัดเจนดีว่าปีนี้จะเฟ้นหา ICP (Incubated Content Provider) ที่มีทางเดินชัดเจนแล้ว เพื่อมาเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับ AIS ไม่ใช่หา Startup ที่ยังสับสนหนทางอยู่

เพื่อความเคลียร์ ผมพอเคาะให้ได้เบาๆว่าถ้าคุณเป็น Startup ที่ยังหาเงินไม่ได้เร็วๆนี้ คุณไม่เหมาะกับโครงการนี้ครับ แนะนำให้ Define ตัวเองให้ข้ามมาเป็น SME ที่ต้องหาเงินได้ชัดเจนก่อน (เชื่อว่าหา Revenue ก็น่าจะพอ Profit คงยังไม่ต้องในปีแรก) แล้วสมัครโครงการนี้จะได้สิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่ามาก

ถามว่า Startup กับ SME ต่างกันยังไง ... เอ๊ะ เหมือนเขียนไปแล้ว ด้านบน ด้านบน

และนี่คือ Stage ที่ AIS The Startup 2014 ปีนี้รับสมัครครับ

ก็คือ ต้องพร้อม Launch แล้ว ไม่ใช่แค่ไอเดีย ไม่ใช่แค่ Prototype

ตอนแรกก็ยอมรับว่าตะหงิดๆนิดหน่อยว่าตกลง AIS The Startup ทิ้ง Startup ไปแล้วใช่มั้ย ...

แต่สิ่งต่อไปที่แว้บเข้ามาในหัว "AIS ทำอะไรเพื่อผลักดัน Startup ได้ดีที่สุด?" (เป็นคำถามที่โดนคน SingTel ถามตอนอยู่สิงคโปร์ แล้ว ... ตอบไม่ได้ อึ้งไปครึ่งวันเลย แหะๆ) ... AIS เป็น Telco ครับ ไม่ใช่ Accelerator ไม่ใช่นักลงทุน 100% ใน Startup Ecosystem แต่ธุรกิจหลักของ AIS รวมไปถึงบริษัทแม่อย่าง SingTel คือ ดันบริการที่เสริมกับ Service ของตัวเองให้ดีที่สุด (SingTel Innov8 ก็ Acquire และลงทุนแต่กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจในเครือ)

คำตอบเดียวที่คิดได้ตอนนั้น ตอนถูกคน SingTel ถามคือ "อยากเข้าถึง Channel ของ AIS และ SingTel ครับ ทั้ง Service ต่างๆ และ Partner" เพราะนั่นคือจำนวนลูกค้ามหาศาล และ Channel การโฆษณาอันทรงพลัง ช่วยให้แอพฯประสบความสำเร็จได้ง่ายๆเลย (หรือล่มจมง่ายๆถ้าแอพฯไม่ดี)

และนั่นคือสิ่งที่ AIS The Startup จัดให้ในปีนี้

ปีนี้ AIS The Startup พยายามหาคนที่ต้องการเข้าถึง Channel และช่วยให้ AIS ผลักดันในสิ่งที่มีอยู่ในมืออย่าง Partner และลูกค้าจำนวนหลายสิบล้านคนในไทยและหลายร้อยล้านคนทั่วโลก

และนั่นคือนิยามของ ICP (Incubated Content Provider) ครับ คือ Partner ผู้ที่สามารถหา Content เพื่อ Plug เข้าไปในเครือข่ายของ AIS, SingTel และ Telco ในเครือ แล้วรันเป็นธุรกิจที่ใหญ่โตได้

ก็น่าเสียดายอย่างนึงที่เวทีที่จะมอบโอกาสให้กับคนที่ก้าวเข้ามาใหม่ก็หายไปอีกหนึ่ง ปีนี้เหมือนเป็นเวทีสำหรับสร้าง Hero มากกว่า แต่ก็อาจจะดีต่อวงการ Startup เมืองไทยก็เป็นได้ เพราะอัตราประสบความสำเร็จของ Startup ในไทยนั้นยังต่ำมาก ต้องยอมรับ การดันคนที่มีโอกาสสำเร็จสูงให้สำเร็จก่อน อาจจะช่วยทำให้เกิด Role Model ในการผลักดันคนรุ่นต่อไปได้


งาน AIS The Startup ปีนี้แบ่งเป็น 3 หมวดด้วยกัน ตามภาพนี้

ซึ่งได้แก่ (ขอลอกมาจากเว็บเลยละกันนะ)

1) Corporate Solution -  ระบบที่สนับสนุน จัดการองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Business to Business – B2B) มีตลาดเป็น Enterprise พร้อมมีการหารายได้และรูปแบบ Business Model

2) Online & Digital Contents - ผลิตภัณฑ์ที่มีรูปแบบดิจิทัล โดยอาศัยการสื่อ หรือการแสดงเนื้อหาผ่านทางอุปกรณ์ดิจิทัลต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสาร (Business to Consumer – B2C) มีตลาดเป็น Mass Customer และมี Business Model ที่ชัดเจน ตัวอย่างเช่น Mobile Application, Digital Content

3) Social Business - ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ที่เอื้อประโยชน์ทางสังคมทั้งในด้านการพัฒนา และการแก้ปัญหา และมีโมเดลธุรกิจรองรับที่ชัดเจน

ระยะเวลาโครงการก็ค่อนข้างกระชับมาก ช่วงเวลาการรับสมัครคือภายในวันที่ 23 มีนาคมนี้ ประกาศผลผู้เข้ารอบสุดท้าย 29 มีนาคม เริ่มเข้าโครงการวันที่ 2 เมษายน พรีเซ็นต์จบวันที่ 8-10 เมษายน ประกาศรางวัล 21 เมษายน และเริ่มลุยธุรกิจเลย

สรุปคือ ทุกอย่างจบในเวลาไม่ถึงเดือนนั่นเอง ปริบๆ


ทางด้านรางวัล ... ยาวมาก ก็อปแปะอีกละกันนะ

ผู้ชนะในแต่ละหมวดจะได้รางวัลดังต่อไปนี้

- เงินรางวัลเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ 200,000 บาท (เอไอเอส 100,000 บาท, Invent 50,000 บาท และธนาคารกสิกรไทย 50,000 บาท)

- โอกาสที่จะได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดกับเอไอเอส ในส่วนของ Consumer Product

- สื่อทางการตลาด มูลค่า 1,000,000 บาท จากเอไอเอสและ Invent

- ที่ปรึกษาด้านการลงทุน จาก Golden Gate Ventures และ Expara

- Microsoft Bizspark พร้อมทั้ง  Windows Azure เครดิตมูลค่า USD60,000 ในปีแรก และ ลดราคาพิเศษ 50% ในปีที่ 2

- Amazon Web Service (AWS) เครดิตมูลค่า USD3,000

- Co Working Space Package 3 เดือน 2 ที่นั่ง จาก Hubba มูลค่า 12,100 บาท

- ส่วนลดราคาพิเศษ Co Working Space Package จาก Launchpad (Buffet monthly plan 3,000 บาทต่อเดือนต่อสมาชิก)

- สิทธิพิเศษจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติในการพิจารณาให้ทุนสนับสนุนโครงการนวัตกรรมเป็นกรณีพิเศษ (การพิจารณาให้การสนับสนุนผลงานหรือ
โครงการนวัตกรรมเป็นไปตามกฎ ระเบียบ และนโยบายของสำนักงานฯ)

มีดอกจันด้วยว่า *หมายเหตุ: ผู้ชนะเลิศในแต่ละหมวดต้องให้สิทธิ พิจารณาร่วมธุรกิจกับกับเอไอเอสเป็นลำดับแรก

สำหรับคนที่เข้ารอบ Final Presentation ก็มีรางวัลให้ดังต่อไปนี้

- ฟรี ค่าธรรมเนียมแรกเข้าสำหรับการเปิดบริการ K-SME Debit Card เป็นเวลา 1 ปี (สิทธิพิเศษ อาทิ Cash back 1% / SMS Alert / สิทธิพิเศษการเข้าร่วมสัมมนาและรับข่าวสารเกี่ยวกับ SME/ ส่วนลดจากพันธมิตรต่างๆ)

- สิทธิพิเศษ KSME บัญชีหลัก ( สิทธิพิเศษ อาทิ โอนเงินอัตโนมัติระหว่างบัญชีออมทรัพย์- กระแสรายวัน ฟรี 1 ปี/ ฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีการทำธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ต K-BizNet)

- การพัฒนาทักษะด้าน Business development จากเอไอเอส

- การสอน การนำเสนอด้านการลงทุน จาก Expara

และรางวัลพิเศษสำหรับ 1 ทีมที่ถูกคัดเลือกคือ การได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ KSME มีตังค์เยอะ ของธนาคารกสิกรไทย


ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ Partner ที่ร่วมด้วยปีนี้ หลายๆรายมี Potential ในการช่วยผลักดันธุรกิจได้จริงๆ

Connection คือหนึ่งใน Key Success ของ Business และผมว่า Partner ที่มาเล่นด้วยในโครงการนี้ เป็น Connection ที่ดีมากๆเลยหละ


อยากสมัครหรืออยากอ่านข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปที่เว็บ AIS The Startup 2014 ได้เลยครับ การส่งไม่ได้ใช้อะไรเยอะมาก แค่มีความพร้อมทางด้านโปรดักส์และอัดเป็นวีดีโอพรีเซ็นต์ความยาว 3 นาที ก็สามารถสมัครได้แล้ว

ยังไงปีนี้ถ้ามีโอกาสอาจจะ Join ด้วยครับ =)

บทความที่เกี่ยวข้อง

Feb 19, 2014, 20:44
9704 views
บันทึกเบื้องหลังความสำเร็จของ "Meme ชัชชาติ" โดยคนทำแอพฯแต่งภาพด้วยสติกเกอร์ชัชชาติ
Apr 30, 2014, 09:41
8323 views
Case Study อ่านเล่น ไปรษณีย์ไทยกับการซื้อของออนไลน์
0 Comment(s)
Loading