วันนี้ถือเป็นวันที่ 7 นับตั้งแต่บินมาอยู่เมื่อวันอังคารที่แล้ว เริ่มปรับตัวได้ เริ่มเข้าใจค่าเงิน และเริ่มซื้อของไม่หยุด ... (T_T~)

แต่ถ้านับเป็นจำนวนวันที่เข้า Bootcamp ของ JFDI ก็เป็นวันที่ 5 ละ เรียกว่าเนื้อหาแน่นเอี๊ยด ต่างจากที่คิดไว้เลย ตอนนี้เข้าใจพวกระบบ Startup ระบบธุรกิจ ระบบ Share การตั้งบริษัทในสิงคโปร์ การทำบัญชี ฯลฯ ทั้งหมดอัดอยู่ใน 4 วัน (วันอาทิตย์หยุด) กราบคนที่นี่ที่ทำให้ทุกอย่างเข้าใจง่าย จากตอนแรกฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ตอนนี้ ... ก็ยังฟังไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่ T_T เอาน่า แต่อย่างน้อยก็ดีขึ้นละ

นับวันไอเดียก็เริ่มดีขึ้น เริ่มคมขึ้น การ Present ก็ดีขึ้น เข้าใจง่ายขึ้น ตรงประเด็นขึ้น ในขณะเดียวกัน สื่อต่างๆก็เอาเรื่องราวไปเขียนข่าวบ้างเล็กน้อย คนก็เลยเริ่มรู้จักมากขึ้น

ล่าสุดในวันที่ 5 ของ Bootcamp (ก็คือวันนี้) ก็มีอีเมลจาก Investor ฉบับแรกส่งมาหา บอกว่าสนใจในโปรดักส์ MOLOME มาก มันมี Business Model ที่น่าสนใจมาก อยากขอคุยด้วย ...

นับเป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่มาก ที่ผ่านมาเราวิ่งหา Investor มาโดยตลอด แต่พอมานี่ แค่ 5 วัน กลับมี Investor เดินเข้ามาหา รู้สึกวูบวาบๆ ใจหวิวๆ อย่างบอกไม่ถูก และเป็นอีกครั้งที่อยากจะบอกทุกคนว่า นี่แหละคือสิ่งที่เคยบอกว่า จริงอยู่ที่โอกาสเป็นสิ่งที่เข้ามา เราเลือกให้มันเข้ามาไม่ได้ ได้แต่รอ แต่เราเลือกได้ที่จะอยู่ในที่ที่มีโอกาสเยอะๆนะ

อย่างไรก็ตามต้องใจเย็นๆ ค่อยเป็นค่อยไป ยังมีคนให้คุยอีกมาก ยังมีอีก 95 วันต้องลุยต่อจนจบ (นี่ผ่านไป 5 วัน ก็เหนื่อยแทบเสียชีวิตละ)

ไถ่ถามคนในค่าย ก็มีหลายทีมแล้วที่มี Investor Approach เข้ามา แต่ทุกคนก็คิดเหมือนกันคือ ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่านะ เรายังไม่พร้อมขนาดนั้น ไม่งั้นเราจะมาให้ JFDI ช่วยทำไม แต่ก็ต้องรักษา Connection กับทุกคนไว้ อย่าปฏิเสธและอย่าตอบรับ และถามว่าเป็นการประสบความสำเร็จหรอ ที่มี Investor มาติดต่อ? ... คำตอบคือเปล่าเลย แค่ทำให้ดีใจและมีกำลังใจขึ้นมาได้เท่านั้นเอง หนทางยังอีกยาวไกลลลลลลลลนัก

อาจจะสงสัยว่ามาเขียนอะไรมากมาย เล่าให้ฟังทุกอย่างเลย วันนี้ทำมาพูดว่ามี Investor ติดต่อมา แต่ถ้าวันหน้าไม่ได้ Investor สักราย จะอายมุดดินมั้ย? ได้ Investor ค่อยมาเล่าให้ฟังทีเดียวดีมั้ย? ตอบได้ว่าที่เขียนเล่าทุกวี่วันมันมีสาเหตุครับ เมื่อสักครึ่งปีที่แล้ว ตอนไปเป็น Mentor ให้งานงานหนึ่ง ได้พบว่าไอเดียหลายๆอย่างช่างเจิดจรัส นั่งคุยกันกับเหล่า Mentor เองว่าทำไมผลงานเหล่านี้ถึงไปไม่ถึงฝั่ง ทำไมถึงไม่รอด ทั้งๆที่ทีมก็สมบูรณ์พร้อม

ได้คำตอบว่า "ก็เพราะไม่มี Role Model ยังไงหละ" เค้าไม่รู้ว่าจะต้องเดินไปทางไหน ก็ไม่มีคนให้เดินตามนี่นา เค้าไม่เคยมีคนมาเล่าให้ฟังว่าทางเดินของ Startup สักรายเนี่ย เค้าเดินยังไง กว่าจะพูดก็คือเค้าสำเร็จแล้ว คนอื่นก็ได้แต่เหวอ ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน มันมี Gap ที่ห่างกันเกินไประหว่าง Startup รายใหม่ กับรายที่สำเร็จแล้ว เนื่องจาก Ecosystem ในไทยยังไม่สมบูรณ์

หันมามองตัวเอง เราเป็นคนที่อยู่ตรงกลางพอดีเลยนี่นา เราไม่ใช่รายใหม่ แต่เราก็ยังไม่สำเร็จ จึงขอใช้โอกาสนี้บอกเล่าเรื่องราว ไม่ใช่แค่เรื่องราวดีๆ วันไหนเจออะไรร้ายๆก็จะเอามาเล่าให้ฟังด้วยเช่นกัน เพราะโลกนี้มันมีทั้งด้านบวกด้านลบ โลกจึงสมดุลและอยู่ได้มาเป็นพันล้านปี

เอย