Operator ในเมืองไทยในช่วงปีที่ผ่านมา สนใจงานด้าน Startup มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนน่าดีใจแทนกับเด็กรุ่นใหม่ที่ Ecosystem ไปไวเหลือเกิน ทาง AIS ก็มีงาน AIS Startup ทางด้าน DTAC ก็มี DTAC Accelerate ล่าสุดทาง True ก็ไม่พลาด ถึงจะช้ากว่าค่ายอื่นแต่ก็ถือว่าทันการณ์ เปิดตัวงาน True Incube ซึ่งวันนี้ไปฟังงานเปิดตัวโครงการมาด้วยตัวเอง เพราะความอยากรู้ Objective อย่างแน่ชัดจากเจ้าของโครงการเอง เช่นเดียวกับ AIS Startup และ DTAC Accerelate จึงขอมาเล่าให้ฟัง ณ บัดนี้ ...
หมายเหตุ: สิ่งที่เขียนใน Blog นี้เป็นสิ่งที่เราวิเคราะห์ออกมาจากสิ่งที่ได้ฟัง ไม่ใช่เล่าให้ฟังแบบคำต่อคำที่ได้ยินมานะจ๊ะ ดังนั้นฟังไว้แต่อย่าเพิ่งเชื่อทั้งหมดเน้อ มันเป็นความคิดเรา
True Incube คืออะไร?
True Incube เป็นโครงการ Incubate (บ่มเพาะผู้ประกอบการ) ที่จะช่วยทำให้ผู้ประกอบการด้านไอที ทำโปรดักส์ขึ้นมา แล้วนำไปใช้งานได้จริง ได้รายได้จริง โดยชูแนวคิดว่า "รู้จริง ทำจริง ช่วยจริง"
โดยงานด้านที่ True Incube สนใจมีอาทิเช่น Content & Media Entertainment, E-Commerce, Online Education, Digital Marketing และ E-Payment ซึ่งถ้าพิจารณาแล้ว มันก็คือโปรดักส์ที่เสริมธุรกิจต่างๆของทรูนั่นเอง และหลังจากอ่านความคาดหวังผ่านทั้งทาง Press Release และ Presentation ก็จับในความได้ว่า โปรดักส์ที่ทางทรูต้องการจาก True Incube ต้องตอบรับกับธุรกิจที่มีอยู่ของทรูด้วย
ถึงแม้ True Incube จะบอกว่าตัวเองเป็น Incubator แต่ถ้าดูจากสเกลที่เค้าจะทำแล้ว ก็คงไม่ต่างจาก AIS Startup และ DTAC Accelerate ที่วางตัวเป็น Accelerator เท่าไหร่ เชื่อว่าแค่ต้องการเปลี่ยนคำให้ไม่เหมือนคนอื่นเท่านั้น แต่สิ่งที่ต่างกันจริงๆคงเป็นเรื่องของ Scope งานที่ต้องการ พูดให้ดูเหมือนแย่คือ "แคบลง" แต่จริงๆมันคือ "Target ง่ายขึ้น"
ดังนั้นหากคุณคิดว่าจะทำโครงการอะไรก็ได้ในงานด้านไอทีแล้วเพื่อไปแข่ง เหมือนกับที่แข่งในงานของ AIS และ DTAC ดูเหมือนจะไม่เวอร์คกับงานนี้เท่าไหร่นัก เพราะถ้าบอกว่า Scope ของงานที่ทางทรูต้องการคือโปรดักส์ที่ใช้กับผลิตภัณฑ์ของ True อยู่แล้ว และนั่นก็แปลว่าต้องโฟกัสในไทยเป็นหลักด้วยเช่นกัน
ถามว่าดีมั้ย? หากมองในมุมที่เราถูกปลูกฝังว่า โปรดักส์จะต้องดังระดับโลก มีรายได้ปีละหลายร้อยล้าน บลาๆๆๆ อาจจะดูว่าโครงการนี้ไม่น่าสนใจ แต่จริงๆแล้วหากทำใน Target ที่ชัดเจนและแคบลง ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ได้รายได้ ยิ่งอยู่ในฐานผู้ใช้ที่ทรูมีอยู่เยอะมากแล้ว หากเก็บเงินได้เฉลี่ยคนละบาทต่อเดือน ก็ได้เดือนละหลายล้านแล้ว ดังนั้นบอกได้เลยว่า งานนี้น่าสนใจครับ
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าถ้ามีผลงานที่โดดเด่นจริงๆ ถึงจะไม่ตอบรับกับธุรกิจของทรู เค้าก็คงสนใจจะ Invest นะ หรือถ้าผลงานสามารถตอบรับธุรกิจของทรูแล้วดันสามารถสเกลไปยังระดับเอเซียหรือโลกได้อีก จะเป็น Choice ที่เท่ที่สุดเลยครับ และผมเชื่อว่าคนที่จะชนะโครงการนี้ก็จะต้องมาจากแนวคิดนี้
การเดินโครงการของ True Incube
เมื่อเรารู้ความต้องการของทรูแล้ว ต่อไปมาดูรูปแบบโครงการต่อหน่อยละกัน โครงการนี้จะเฟ้นหา 5 ทีมสุดท้าย (ทีมละไม่เกิน 5 คน) เพื่อรับเงินสนับสนุนโครงการ 500,000 - 1,000,000 บาท และเข้าโครงการ Boot Camp 99 วัน (ตามสเต็ป) และระหว่างนั้นก็จะมีการอบรมและรับคำปรึกษาจาก 500 Startups และคนในกลุ่ม True อีกด้วยเช่น True Money, e-Payment จนถึง Cloud เป็นต้น
สุดท้ายก็จะเลือกเหลือเพียง 1 เพื่อได้รับรางวัลใหญ่ บินไปเข้าโครงการกับ 500 Startups Accelerator ตัวพ่อของ Silicon Valley ซึ่งถือว่าเป็นรางวัลที่เย้ายวนมาก
จุดเด่นของโครงการนี้
ความเท่ของโครงการนี้คือ True Incube มี Partner ชื่อดังเป็น Accelerator มืออาชีพอย่าง 500 Startups ถึงแม้คุณจะไม่ได้เงินเป็นกอบเป็นกำจากงานที่เข้าส่งแข่ง แต่การที่ได้รู้จักกับ 500 Startups เป็นการส่วนตัว ก็จะทำให้ผลงานชิ้นต่อๆไปของคุณง่ายขึ้น หรือถ้าผลงานที่คุณส่งเข้าแข่งมันเวอร์คจริงๆ งานคุณก็จะออกสู่ระดับโลกได้ง่ายขึ้นมาก (เค้าถึงเรียกว่า Accelerator ไงหละ)
อีกจุดเด่นคือการที่เราสามารถเข้าถึง Infrastructure ของทรูที่ครองประเทศไทยอยู่ในขณะนี้ หากสามารถคิดทำธุรกิจกับโครงข่ายนี้ได้หละก็ คำว่าร้อยล้านก็เห็นอยู่แว้บๆแล้วหละครับ อย่าคิดว่าการที่ผลงานอยู่แต่ในไทยจะไม่รวยนะ ไม่จริงหรอก
Invest สองสเต็ป ทั้ง Seed และ VC
ทรูเขียนไว้ว่าเงินในโครงการนี้ลงไว้ 250 ล้านบาท ซึ่งมาบวกๆในเรื่องของรางวัลแล้ว ยังไงก็ไม่ถึง สุดท้ายถึงบางอ้อเมื่อได้รู้ว่าจริงๆแล้วเค้าสนใจลงทุนสอง Steps ด้วยกัน ได้แก่ Seed Funding 500,000 - 1,000,000 บาท สำหรับ 5 ทีมสุดท้าย และถ้าผลงานเลยสเกลของ Seed Funding ไปแล้ว ก็จะลงในแนวทางของ VC งบตั้งแต่ 5-10 ล้านบาทหรือมากกว่า
สรุป
True Incube ไม่ใช่ของโครงการสำหรับ Startup ทุกคน ไม่ใช่โครงการสำหรับทุกโปรดักส์ที่ดี แต่โจทย์ที่เพิ่มมาคือต้องตอบรับกับธุรกิจของทรูด้วย ซึ่งฟังดูเหมือนเป็นเรื่องไม่ดี แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นข้อดีที่จะได้ไปเล่นกับตลาดที่ "โต" แล้ว จะบอกว่าดีมากๆเลยหละ
ความสำเร็จก็คือความสำเร็จ จะสำเร็จจากการทำงานระดับโลก หรือระดับท้องถิ่น มันก็คือความสำเร็จครับ โจทยืมีมาชัดมากแล้ว ที่เหลือคือคุณต้องมานั่งพิจารณาว่าโปรดักส์ที่คุณมีหรือที่คุณจะทำ จะสามารถตอบโจทย์และชิงโอกาสงามๆนี้มาได้หรือไม่
หากเทียบกับงาน AIS Startup และ DTAC Accelerate ผมมองว่างาน True Incube อยู่คนละประเภทการแข่งขัน มันต่างออกไป ผมสรุปเป็นคำพูดในหัวแบบสั้นๆว่า งาน True Incube คืองาน "จะต่อยอดอะไรจากผลิตภัณฑ์ของทรูออกมาเป็นตัวเงินได้บ้าง" ถึงแม้ทรูอาจจะหวังไว้มากกว่านั้น แต่ในเฟสแรกผมเชื่อว่าทรูคงจะเน้นเรื่องนี้แหละ วันนี้มีคนถามว่าแข่งอะไรดีระหว่างสามงานนี้ ผมก็บอกไปว่า งานมันคนละประเภทกันหนะ เทียบกันตรงๆไม่ได้ มันน่าสนใจทุกงานนั่นแหละ
ก่อนหน้านี้ต้องยอมรับว่างานแข่งของ True ประวัติไม่ค่อยดี แต่อดีตมันผ่านไปแล้ว อดีตมีไว้เข็ดและจำก็จริง แต่อีกแง่หนึ่ง อดีตก็มีไว้แก้ไขอนาคตเช่นกัน สำหรับงานนี้ผมถือว่า True ลงมาเล่นค่อนข้างชัดเจนและเต็มตัวนะ กติกาชัด Concern ชัด อนาคตชัด สามารถต่อยอดเป็นธุรกิจได้จริงๆแน่ คราวนี้ก็เหลือแค่เรื่องผลประโยชน์คือสิ่งที่ต้องคุยกันในแง่ Business เป็นปกติอยู่แล้ว เชื่อว่าไม่ใช่ปัญหาในสเกลนี้ครับ
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดทั้งมวลก็มองเห็นจากเงินลงทุนและงานวันนี้วันเดียว ซึ่งเอาจริงๆมัน Too Early ที่จะบอก เรื่องนี้คงต้องดูยาวๆหลังจากจบโครงการไป ในขณะนี้ต้องบอกว่า "ทรูกำลังเข้าห้องสอบอยู่" ผลสอบคงออกมาในหนึ่งปีให้หลังนี้ ตอนนั้นเรามาดูกันว่าจะ Win-Win หรือ Win-Lost
ยังไงก็เอาใจช่วยทุกท่านที่จะเข้าร่วมโครงการนะครับ มีอะไรก็มาปรึกษาได้เน้อ =)
สุดท้ายก่อนกลับ ขอถ่ายรูปกับคุณ MC งานสักนิดนึง แช๊ะะะะ ^ ^