ชีวิตผ่านพ้นไปอีกเดือนแล้ว เดือนก่อนเป็นอีกเดือนที่เดินทางวุ่นมาก ไปโน่นไปนี่ทุกสัปดาห์เลย เพิ่งได้มีเวลามาเคลียร์สิ่งที่คั่งค้างทั้งหมดก็ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา อันนี้ก็เป็นอีกอันที่ค้างมาจากเดือนที่แล้ว เผอิญมีโอกาสได้ไปดู "บ้านเพียงเพลิน" คอนโดตากอากาศจาก แสนสิริ Developer ที่มาแรงแซงทุกเจ้าในขณะนี้ บ้านเพียงเพลินเป็นยังไง ทำไมถึงตั้งชื่อดูย้อนยุคแบบนี้ ไปทำความรู้จักกันครับ

Look and Feel

คนที่ไปหัวหินคงเคยได้ "เพลินวาน" บรรยากาศของ "บ้านเพียงเพลิน" นี้ก็คล้ายๆกันครับ คือดึงเอาบรรยากาศย้อนยุคมาทำเป็นธีม

อาจจะสงสัยว่าทำไมหัวหินต้องเอาบรรยากาศย้อนยุคมาเป็นจุดเด่นด้วย จริงๆแล้วหัวหินเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนาน เป็นเมืองผู้ดีและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่น และในช่วงปี 2499 ยุคอันธพาลครองเมือง (คุ้นๆมะ) ก็เป็นถิ่นที่มีรูปแบบที่คลาสสิคเฉพาะตัว จนเรานิยามเป็นคำว่า "ย้อนยุค" จนถึงทุกวันนี้ เราจะเห็นบรรยากาศอย่างงั้นได้จากเพลินวาน และก็ได้สัมผัสอีกครั้งในบ้านเพียงเพลินนี้

การออกแบบดูเป็นแบบกึ่ง Modern กึ่งย้อนยุค ประกอบไปด้วยสามอาคาร เป็นคอนโดสูง 8 ชั้นสองอาคาร และบ้าน Facility อีกหนึ่งหลัง

ในส่วนของอาคารอยู่อาศัยทั้งสองตึก มองจากภายนอก เท่าที่ดูค่อนข้างเป็นการออกแบบที่ธรรมดา เป็นไปตามคอนโดแบบมาตรฐาน ไม่มีอะไรโดดเด่นมาก แต่บรรยากาศรอบๆออกมาได้สวย จนส่งเสริมอาคารให้ดูดีขึ้นไปได้

บ้านหลังน้อยๆที่ทำเป็น Facility ถูกวางไว้ด้านในระหว่างอาคารทั้งสอง

ชั้นบนเป็นห้องออกกำลังกาย ด้านล่างเป็นที่นั่งพักผ่อนเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ

ถ้ามองลงมาจากบ้าน Facility ก็จะได้วิวประมาณนี้

เห็นแล้วฟินแสรดดดดดดด > <

ผังห้อง

ในทั้งสองอาคารมีผังห้องอยู่ 4 ขนาด ได้แก่

• สตูดิโอ 29.7 ตารางเมตร
• 1 ห้องนอน 47.62 ตารางเมตร
• 2 ห้องนอน 60.23 ตารางเมตร
• 2 ห้องนอน 60.47 ตารางเมตร

ซึ่งห้องตัวอย่างที่จัดมามีอยู่สองขนาดคือ สตูดิโอ และ 2 ห้องนอน จึงขออนุญาตพาไปดู ณ บัดนี้

ห้องสตูดิโอ

ภาพด้านบนนี้ถ่ายมาจากสถานที่จริง หากว่าห้องสวยคงไม่ใช่ ต้องบอกว่า โคดสวยยยยยย คือนาทีแรกที่ก้าวเข้าไป ความคิดที่จะซื้อคอนโดแห่งนี้ก็ผุดขึ้นมา มันดูลงตัวทุกอย่าง มีครบเพียงพอที่จะใช้ชีวิตอย่างสบายๆที่หัวหิน จะอยู่เองก็ได้ จะปล่อยเช่าก็มีคนอยากเช่า จะขายต่อก็ขายง่าย สำหรับผังห้องจะเป็นแบบนี้ครับ

ส่วนห้องครัวและห้องน้ำหน้าตาจะเป็นแบบนี้ครับ ส่วนห้องครัวมีระเบียงเล็กๆออกไปให้ยืนเล่นได้ด้วย (แต่ในส่วนห้องนอนไม่มีระเบียง)

พื้นที่ใช้สอยตรงนี้เรียกได้ว่าเหลือเฟือครับ สามารถใช้ชีวิตสองคนได้แบบ "สบาย" และ "ชิล" มาก

ตารางเมตรละ 50000 - 60000 บาท ห้องนี้สนนราคาเพียง 1.5 - 1.8 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ซื้อง่ายอยู่สบาย ยิ่งอยู่ในทำเลตรงนั้นด้วยแล้ว ชีวิตก็ใช้ง่ายขึ้นไปอีก (สำหรับทำเลเดี๋ยวจะพูดถึงในหัวข้อถัดไปครับ)

2 ห้องนอน

เป็นห้องสองห้องที่ใหญ่แต่ดูอึดอัดเล็กน้อยเพราะห้องตัวอย่างยัดของมาเยอะมาก แต่ถ้าพิจารณาเป็นพื้นที่ใช้สอยแล้ว เนื้อที่แทบจะเตะบอลได้เลย มาดูผังห้องกัน

เมื่อเปิดห้องเข้ามาก็จะเจอประตูห้องนอนก่อนเลย (ฮวงจุ้ยดูแปลกๆ ประตูตรงกันสองบาน รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่) ซึ่งห้องนอนนี้มีแค่ห้องนอนและตู้เสื้อผ้า ส่วนห้องน้ำถ้าจะเข้าต้องออกจากห้องนอนมาเข้าตรงหน้าประตู

จากนั้นก็หันเข้าสู่ห้องโถงกลางที่ประกอบด้วยห้องนั่งเล่น ห้องอาหารและห้องครัว

ซึ่งห้องครัวเนี่ยคงทำได้แค่แบบเบาๆ เพราะอยู่กลางห้องเลย แต่ถ้าจะทำหนักก็เปิดหน้าต่างแล้วเอาพัดลมอัดออกได้

สุดท้ายห้องด้านในเป็นห้องนอนใหญ่ มีทุกอย่างครบหมด ห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า พื้นที่ใช้สอยอีกนิดหน่อย วางทีวีอะไรได้สบาย

ห้องน้ำค่อนข้างธรรมดาๆ ไม่ได้หรูหราอะไร ไม่ค่อยสมกับห้อง ต้องแต่งเพิ่มอีกหน่อยถ้าอยากให้มันดูหรู

อันนี้ลองนั่งชิลดูครับ ชิลจริงๆแหละ ไม่อยากลุกเลยยย

สำหรับห้องนี้ก็สนนราคาราวๆ 3,000,000 - 4,000,000 บาท

ส่วนข้างในห้องต้องบอกว่าประทับใจ ชอบมาก มีความสุขกับผังและบรรยากาศ มีแค่บางอย่างที่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ มีวัสดุ ห้องน้ำและประตูที่ซ้อนกัน ที่เหลือแฮปปี้มากครับ และจากที่เข้าห้องตัวอย่าง ที่เทใจให้คือห้องสตูดิโอ เพราะค่อนข้างโล่ง โปร่ง ไม่มี Partition กั้น อยู่เองก็น่าจะมีความสุขมาก ปล่อยเช่าก็น่าจะได้ราคาที่ Affordable จะขายต่อก็น่าจะง่ายเพราะราคาไม่สูงมาก

ทำเล

โครงการบ้านเพียงเพลินวางไว้อยู่แถวถนนเขาตะเกียบ ตรงซอยหัวหิน 97 เลย Cicada Market และทางขึ้นวัดเขาตะเกียบไปสักพักหนึ่ง ซึ่งต้องบอกว่าค่อนข้างไกลจากตัวเมืองเหมือนกัน แต่ละแวกนั้นมีคอนโดและบ้านผุดขึ้นมาเต็มไปหมด ค่อนข้างเจริญมาก สามารถหาอะไรกินได้อย่างสบาย อยากกินอาหารทะเลก็ขับรถไปเขาตะเกียบ ไม่น่าจะเกิน 3 นาที อยากไปเซเว่นก็ขับเลยไปอีกหน่อย มีเซเว่นอยู่ อยากไปเพียงเพลินก็ขับตรงไปทางถนนหัวหินไม่เกิน 20 นาทีถึง แต่อย่างนึงที่ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมคือสังคม ต้องลองดูว่าละแวกนั้นสังคมเป็นยังไง เพราะถือว่าเป็นแหล่งชุมชนและทางไปค่อนข้างมืดนิดหน่อย

และถ้าดูจากผังโครงการจะรู้ว่าอาคารทั้งสองทำมุมตั้งฉากกัน จึงมีอาคารนึงหันหน้าเข้าสู่ทะเล อีกอาคารหันเข้าภูเขา เท่าที่ได้ข้อมูลมา ชั้น 5-8 ของอาคารที่หันเข้าทะเลขายหมดแล้วอย่างรวดเร็ว ส่วนชั้น 1-4 ยังมีเหลืออยู่บ้าง ทางด้านอาคารที่หันเข้าภูเขาก็ยังพอมีห้องเหลือ ลองโทรสอบถามดูได้ครับ

การจอง

ความเซ็กซี่ของโครงการนี้คล้ายๆกับของภูเก็ตคือ ค่าจอง/ดาวน์ถูกมากกกก ลงเงินแค่ 40,000 บาท ได้แถม iPad Mini หนึ่งเครื่องและรับใบจองไปเลยยยย ซึ่งถือเป็นจุดขายที่ทำให้เราเกือบจองเลยในวันนั้น เพราะดูโอกาสแล้ว ยังไงก็ปล่อยต่อได้ ถ้ากู้แบงค์ไม่ผ่านก็ขายใบจอง ได้กำไรเป็นแสนแน่นอน แต่ก็ยั้งไว้ก่อนเพราะเงินสดมีไม่พอ T_T ยังไงใครเห็นโอกาสตรงนี้ โทรถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย ถ้าคลิกก็ดิ่งไปจองเลยครับ ไม่คิดค่านายหน้า

ข้อมูลเพิ่มเติมดูจากเว็บนี้ได้เลยจ้า http://www.sansiri.com/condominium/baanpeangploen_huahin/th/

สรุป

พักหลังนี้คอนโดในกรุงเทพฯราคาเริ่มชนเพดาน หากใครจะซื้อคอนโดในกรุงเทพฯอาจจะต้องยั้งๆและตัดสินใจให้ดี เพราะราคาอาจจะไม่ได้ขึ้นไวเหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่สำหรับต่างจังหวัดแหล่งท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตและหัวหิน แนะนำว่าหากได้ที่ราคาดีและถูกใจ ให้ซื้อเลย โอกาสทำกำไรจากมันมีสูงมาก ราคาค่าที่ก็ขึ้นเร็วอย่างต่อเนื่อง การจะขายต่อก็ทำได้ง่ายเพราะ Demand สูง การปล่อยเช่าก็ไม่ยากเพราะมีชาวต่างชาติมาเที่ยวเรื่อยๆ หากสามารถทำรับ Demand ของครอบครัวใหญ่ๆได้ เราอาจจะปล่อยเช่าแค่ปีละ 3 เดือนก็กำไรมากแล้ว ที่เหลือเราไปอยู่เองยังโอเลย ก็แล้วแต่วิธีของแต่ละคนครับ แค่แนะนำคนที่จะเล่นอสังหาฯว่า นาทีนี้ภูเก็ตกับหัวหินเป็นแหล่งทำงานแหล่งใหม่ มีโอกาสก็เล่นเลยครับ

แถม

สำหรับทริปนี้ทางแสนสิริเลี้ยงดูดีมาก เอาภาพของกินมาอวดจ้า

ซึ่งตื่นเต้นมากครั้งนี้ได้ไปทะเลด้วย เจอม้าน้ำตัวเป็นๆเลย !!

ยังไงถ้ามีโอกาสไปดูคอนโดอีกก็จะเอามาเขียน Blog อีกนะคร้าบบ ขอบคุณแสนสิริครับผม