วันนี้วันที่ 7 เมษายน ... ผ่านวาเลนไทน์มาเกือบสองเดือนแล้ว แต่วาเลนไทน์ปีนี้มีเรื่องแสบบบบและโกรธมากกกกจะเล่าให้ฟัง
งงหละสิงง วันวาเลนไทน์มันวันแห่งความรัก แล้วจะโกรธอาร๊ายยยยย เรื่องมันมีอยู่ว่าอย่างงี้ครับ ...
ช่วงปลายปีที่ผ่านมาจนถึงต้นปี งานเยอะมากกกก เยอะจนไม่สามารถไปเที่ยวหรือไปแรดไหนได้เลย ช่วงวันที่ 11-12 เลยตัดสินใจเอาดื้อๆสองวันก่อนหน้า จะไปนอนเล่นที่ปราณบุรกันสักคืน ซึ่งก็เป็นทริปที่สงบและมีความสุขดี ไม่ต้องทำอะไรมาก นั่งเฉยๆ เดินเล่นหาดทราย ลงทะเลว่ายน้ำ ฟัดกับหมาทะเล ฯลฯ
วันต่อมาก็กลับกรุงเทพฯกัน ไปเผชิญชะตากรรมต่อ ขากลับก็มีเหตุต้องไปขนของจากออฟฟิศเก่าไปยังออฟฟิศใหม่ (ช่วงนั้นเป็นวันย้ายออฟฟิศพอดี) จุดนี้ก็เลยได้ออกแรงกันพอสมควร เพราะของในออฟฟิศเก่าเยอะมากกกกกก เสร็จแล้วก็ขนขึ้นรถ Jazz คู่ใจ ไปวางไว้ในออฟฟิศใหม่อย่างทุลักทุเล
ภาพที่ไปเที่ยวปราณบุรีเริ่มจางหาย กลายเป็นกรรมกรขนของซะงั้น - -
จบจากการขนของครั้งใหญ่ ก็ขับรถกลับห้องกัน ซึ่งปรากฎว่า ... หลงทาง - - จะไปอ่อนนุช แล้วเจือกไปโผล่พัฒนาการได้ยังไงไม่รู้ แต่ด้วยความหิวเลยหยุดซื้อไก่แมคโนดัลด์ที่นั่นกินกัน
กินกันอย่างเอร็ดอร่อย โดยหารู้ไม่ว่า ... มันกำลังจะพาให้ชีวิตบัดซบในวันต่อมา ...
กลับถึงห้อง ทำโน่นทำนี่ทำนั่นทำโน้นนน แล้วก็นอน ZZzzzzzzz
รู้สึกตัวอีกทีตอนราวๆ 6-7 โมงเช้า ตื่นขึ้นมาด้วยสภาพกระอักกระอ่วนถึงขีดสุด ความรู้สึกแรกคือ "อยากจะอ้วก" และไม่ได้อยากจะอ้วกเบาๆ อยากอย่างแรงเลยหละ แต่เผอิญเป็นคนที่เกลียดการอ้วก มันแสบหลอดอาหาร ก็เลยกลั้นไว้ แต่เริ่มทนไม่ไหวก็เลยไปนั่งอยู่ในห้องน้ำสภาพอ่อนแรง แล้วสุดท้ายก็อาเจียนออกมาอย่างหนัก เยอะมาก จนฟุบอยู่ตรงนั้นแป๊บนึง ... มองอะไรไม่ออกหรอกว่าอ้วกเป็นอะไรออกมา แต่ที่เห็นบ้างคือชิ้นไก่ อยู่ยังไงอยู่อย่างงั้น
พอแรงกลับมาก็ล้างปากล้างหน้า ชีวิตดีขึ้นมาบ้าง แล้วสักพักก็ได้ยินเสียง "ณิชอยากจะอ้วก" ลอยมา ... โอ้ว ม่ายยย นึกว่าเป็นคนเดียว แล้วเธอก็พุ่งมาห้องน้ำ พยายามอ้วกอยู่เป็นชั่วโมง แต่ก้ไม่เป็นผล สุดท้ายคืออ่อนแรง เดินแทบไม่ได้ เลยลุกไปแต่งหน้า ... ห๊ะ ! (หมายเหตุ วันนั้นเป็นวันแรกที่ไปออฟฟิศใหม่)
และอย่างที่บอก วันนั้นเป็นวันแรกที่ย้ายไปออฟฟิศใหม่ เลยไม่มีใครมีกุญแจเลย อยู่ที่เราประมาณ 10 ใบ ก็เลยต้องทิ้งณิชอยู่สภาพนั้นแล้วลากสังขารที่ไม่ได้ดีเลย เดินเหมือนซอมบี้ เพื่อไปเปิดห้องให้ทุกท่าน
พอเริ่มมีคนมาแล้วก็ขอจรลีร่ำลาเพื่อไปหาณิช และพอโทรคุยกันก็พบว่าอาการณิชแย่ลงไปอีก เลยตัดสินใจไปบำรุงราษฎร์กัน
หมอก็เช็คอะไรเรียบร้อย สรุปคืออาหารเป็นพิษ และทางฝั่งเนยก็สรุปชัดเจนเช่นกันว่า อาหารเป็นพิษเพราะไก่แมคโดนัลด์ เพราะเย็นวันก่อนหน้านั้นไม่ได้กินอะไรนอกจากไก่แมคเลย หมอเห็นอาการแล้วบอกว่าให้ Admit เพราะย่ำแย่มาก แต่ห้องที่ว่างดันเป็นห้องคู่ ซึ่งไม่ค่อยปลื้ม ณิชก็เลยไม่ขอ Admit
แต่ด้วยเซนส์อันแรงกล้า รู้ว่าณิชกานต์อยู่สภาพนี้ได้ไม่นานหรอก เลยวางทิ้งไว้ที่โรงบาลอีกชั่วโมงนึง (พูดอย่างกับก้อนหิน) และแล้วเธอก็ยอมนอนโรงบาล เพราะเริ่มปวดตัว ไข้ขึ้น ฯลฯ เหมือนที่เคยเป็นครั้งก่อนๆเลย
สุดท้ายวันนั้นวันที่ 13 กุมภาฯ เธอเข้า Admit อีกครั้งหลังจากไม่ได้เข้าโรงบาลมานานเป็นปี เพราะ "ไก่แมคโดนัลด์ราคา 100 บาท" และเราก็ต้องฉลองวันวาเลนไทน์กันในโรงพยาบาลนั่นเอง ซึ่งเย็นวันที่ 13 นั้นก็ลากสังขารตัวเอง ออกไปหาของขวัญวันวาเลนไทน์ที่ตั้งใจจะซื้อให้ตั้งนานแล้ว แต่หาไม่ได้สักที เลยเดินตระเวนไป 5 ห้างติด เพื่อหา สุดท้ายก็ได้มันมา และเอาไปให้ที่โรงบาล ^ ^
เป็นครั้งที่สองละที่ให้ของขวัญบนเตียงคนไข้ ครั้งที่แล้วก็วันครบรอบวันเจอกันครั้งแรก (-_---")
มารยาทการใช้ห้องคู่ของที่บำรุงราษฎร์คือ ถ้าคนไข้เป็นผู้หญิง คนเฝ้าไข้ผู้ชายห้ามนอนค้างคืน แต่โชคยังดีที่ตกลงกันได้ระหว่างทั้งสองห้อง เพราะห้องข้างๆก็เป็นผู้ชายนอนเฝ้าไข้ผู้หญิงเหมือนกัน สุดท้ายเราเลยหลับสบายยย บนเบาะนุ่มๆของโรงพยาบาล ... น่ายกกลับห้องยิ่งนัก นิ่มเกิ๊น
วันที่ 14 เธออาการดีขึ้น (แต่ยังอ่อนแรงอยู่) เลยออกจากโรงบาล ไปออฟฟิศ แล้วก็ใช้ชีวิตประจำวันปกติ แค่ต้องกินยาฆ่าเชื้อไปอีกหลายวัน
อาจจะสงสัยว่าข้าพเจ้าหละเป็นยังไงบ้าง จริงๆสภาพก็แย่เหมือนกัน ไม่มีแรง เดินเหมือนซอมบี้ ลากขาๆ แต่โชคดีมั้งที่ตอนเช้าอ้วกออกมาหมด เชื้อเลยไม่ดูดซึมเยอะ แต่เชื้อก็ยังมีอยู่ไม่น้อย จุดนี้เลยขโมยยาฆ่าเชื้อของณิชกิน สุดท้ายคืออาหารไม่ค่อยย่อย กินอาหารไม่ค่อยลงไปราวๆ 2 อาทิตย์ สาเหตุเพราะเชื้อแบคทีเรียที่มีประโยชน์ก็พากันตายไปหมดเหมือนกัน ก็เลยต้องนั่งอัดยาคูลท์และบีทาเก้นไปปริมาณมาก กว่าจะกลับมาปกติได้ - -
สุดท้ายไม่มีใครจำได้เลยว่าไปปราณบุรีมา และเรื่องนี้มันเซ็งตรงที่เราไม่ควรจะต้องเสียเงินจำนวนมากเช่นนี้ ไม่ควรจะต้องเจ็บปวดขนาดนี้ เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะแมคโดนัลด์ทำอาหารไม่สะอาด ทำให้ลูกค้าล้มป่วย แต่เราทำอะไรไม่ได้เลยยยย สิทธิของผู้บริโภคอยู่หนใดในประเทศนี้? อยากรู้จริงๆ
และเรื่องตลกที่ไม่ค่อยขำตอนนี้ก็คือ ... แค่เดินผ่าน McDonalds ตอนนี้ก็จะอ้วกแล้วครับ ต้องวิ่งหนีผ่านไปให้เร็วที่สุด อาการไม่ต่างกับที่กลัวพาราฯเลยหละ