ห่างหายจากการดูหนัง(ในโรง)มาสักพัก เพราะพระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก พระอาทิตย์แตก พระจันทร์กระแทกหัว หรือพูดง่ายๆคืองานยุ่งจนไม่มีเวลาทำเห้อะไรเลย (ทั้งงานราชงานหลวงงานกระทรวงงานทบวงกรมนั่นแหละ) แต่เมื่อวานหลังจากนอนไม่พอมาหลายวัน ทำงานไม่ทันมาหลายตัว ปิดงานไม่เสร็จมาหลายชิ้น ก็เลยสิ้นใจหมดหวังในการทำทุกสิ่ง ปิดมือถือวิ่งหนีงานแล้วไปดูหนังแก้กลุ้ม กรั่กๆๆ

หนังที่อยากดูเรียกว่ามีเพียบ ...​ ปัญหาคือส่วนใหญ่ออกแล้ว แง้ ฮืออออออออ T_T แต่ที่ยังอยู่ในโรงก็มีหลายตัว เมื่อวานเพ่งไว้สองตัว อันได้แก่ The Hunger Game และ Wraith of the Titans ซึ่งน่าดูทั้งสองเรื่อง เรื่องแรกมีคนชมว่าหนังดีมาก สนุกมาก แต่ส่วนตัวไม่รู้จักหนังสือเรื่องนี้เลย แต่ดู Trailer แล้วสะอิดสะเอียนกับแนวหนังไม่น้อย เรียกว่าไม่อยากดูเลยก็ได้ เพราะไม่ชอบหนังแนวนี้มาตั้งแต่ Battle Royal แล้ว ส่วนเรื่องที่สองก็เป็นหนังที่ภาพน่าจะสวย โครงเรื่องน่าจะเหมือนกับ Titans ภาคอื่นๆ แต่คงเปลี่ยนเนื้อเรื่องตามใจผู้กำกับอีกตามระเบียบ

หลังจากตัดสินใจร่วมหกชั่วโมง ... ก็แย่ละ ตัดสินใจแค่ 2 นาทีหน้าโรงนั่นแหละ หนังที่ถูกเลือกดูก็คือ แต่น แต๊นนนนน ....​ บอกไปก็คงไม่ตื่นเต้นเพราะชื่อบล็อคก็บอกอยู่แล้ว - - แน่นอน ไททานิคนั่นเองงงงงงง .... (แป๊ก) เอาใหม่ๆ The Hunger Game นั่นเองงงงงงงง > < เหตุผลไม่มีอะไรซับซ้อน หนังมันมีรอบ 4 ทุ่มครึ่ง ส่วน Titans มี 5 ทุ่ม 10 เลยขี้เกียจรอ เกิดมาชีวิตเดียว อย่าเยอะ โอนะ !!

โครงเรื่องหนังเรื่องนี้แบบไม่สปอยล์ก็คือการจับคนมาฆ่ากันนั่นแหละ แต่มีเหตุผลที่ฟังขึ้น(แต่โหดร้าย) ผนวกกับมีเรื่องรักๆใคร่ๆทั้งแบบหนุ่มสาวและพี่น้องเข้ามาด้วย ทำให้มันไม่ให้อารมณ์เหมือนหนังฆ่ากันเลือดสาดเท่าไหร่นัก ก็เรียกได้ว่าเอา Thriller, Action, Fashion และ Romantic มาผสมเข้ากันได้อย่างกลมกล่อม และที่เจ๋งคือ เป็นหนังหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ "ตอนจบไม่ขัดใจ" จบได้สวยงามมากครับ ไม่มีตัดจบ ไม่มีดื้อแพ่ง ไม่มีปลายเปิดให้คิดไปเอง แต่ให้เวลาและใส่ใจการทำตอนจบมาก ทำให้น่าติดตามและอยากดูภาคสองเร็วๆเลย

สิ่งที่ชอบในหนังเรื่องนี้นำมาอันดับหนึ่งกลับเป็นเรื่องของ "แฟชั่น" ต้องปรบมือให้ Stylist เรื่องนี้ที่ทำทุกอย่างออกมาได้อย่างมีสไตล์ ประทับใจเครื่องแต่งกายและการแต่งหน้าหลายๆตัวละครเลย ส่วนที่ประทับใจรองลงมาคือนางเอกอย่าง Jennifer Lawrence ที่หน้าตาไม่ได้สวยเลิศเลอ หุ่นก็ไม่ได้ผอมเพรียว แต่กลับเป็นคนที่มีเสน่ห์มากกกกกกกก แถมสกิลการเล่นหนังยังสูงมากอีกด้วย ไม่แปลกที่เป็นเด็กอายุ 21-22 ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสก้าปีที่แล้ว นี่รอดูเธอเล่น X-Men ภาคสองอยู่เนี่ย จะกลับมาเล่นมั้ยน้าาาา หลงรักซะแล้วเนี่ย

สรุปแล้วเป็นหนังที่ดีมากทีเดียว แต่ก็ปนด้วยความโหดร้ายของสังคม หากใจไม่รับก็อาจจะหดหู่ตอนออกมาจากโรงได้ แต่ถ้าดูแบบสบายๆชิวๆไม่คิดอะไร หนังเรื่องนี้ก็สนุกเลยแหละ ถ้าให้คะแนน ผมให้ราวๆ 4.5 เต็ม 5 นะ ไปดูกันได้เลย ไม่มีเสียดายตังค์