"Yesterday is gone and Tomorrow may never come so.. Live for Today!!"
ทริปสุดท้ายของปี BB DevCon
11 Dec 2011 18:14   [11257 views]

มีเวลานั่งพักเล็กน้อย ขอเขียน Blog สักหน่อยเกี่ยวกับการเดินทางไปสิงคโปร์ครั้งล่าสุดเพื่อร่วมงาน BlackBerry DevCon ระหว่างวันที่ 6-9 ธันวาที่ผ่านมา ซึ่งต้องบอกว่าเป็นชีวิตที่เหนื่อยและเร่งรีบมากทีเดียว


วันแรกทางทีมนัดไปเจอกันตอน 7 โมงครึ่ง (โดยเครื่องออก 9:45 น.) ซึ่งแอบเช้าไปมาก ทำเอาเหนื่อยและเพลียตั้งแต่เริ่มทริปกับการพยายามในการงัดตัวเองออกจากเตียง แต่สุดท้ายก็ถึงสนามบินก่อนเวลา ราวๆ 7 โมงนิดๆ ไปถึงก็คุยกับคนโน้นคนนี้ จนเลย 7 ครึ่งมาได้หน่อยทางทีมทัวร์ก็เรียกให้ไปรวมตัวกัน


ทีมทัวร์เริ่มประกาศวิธีการขึ้นเครื่องบินทั้งหลายและแจก E-Ticket แล้วก็ Check-in อย่างตัวใครตัวมัน ส่วนตัวเราสบายเพราะมีกระเป๋าสะพายไปใบเดียว ชีวิตมันชิววววว


<< ตัดไปตอนถึงสิงคโปร์เลยละกันเนอะ >>


เครื่องลงอย่างปลอดภัยด้วยเครื่องโครงเครงน่ากลัว แต่ก็เริ่มชิน ออกจาก Gate ก็เดินไปแลกเงินและซื้อซิม Singtel ราคา $50 แอบแพงแต่คำนวณแล้วว่าต้องใช้ มีเล่นเนต มีโทรกลับไทย มีโทรหาเพื่อน พันนิดๆ เอาน่า !


พอเอาซิมเสียบชีวิตก็เริ่มลำบากเพราะ APN ที่ Android ตั้งอัตโนมัติให้เจือกใช้ไม่ได้ เลยต้องมั่วๆๆๆๆ สุดท้ายต่อได้ด้วยการใส่ APN Name เป็น . (จุดตัวเดียวนี่แหละ) แล้วชีวิตก็เข้าสู่อินเทอร์เนต ฮาๆ แต่หลังจากเล่นด้วย Nexus One ไปแป๊บนึงก็ทำให้รู้ว่าแบตคงอยู่ได้ไม่เกินวัน เลยสลับไปใช้ Flyer และกระจายเนตให้ BB กลายเป็นคู่หูคู่ฮาให้ชีวิตที่สิงคโปร์ครั้งนี้ดำเนินไปด้วยดี เอา Flyer ไว้โทรและปล่อยเนต เอา BB ไว้เล่น Social Network และ MOLOME อยู่ได้เป็นวัน เย้!


จากนั้นขึ้นรถทัวร์ที่ทางคณะเตรียมไว้และเดินทางสู่เพนนินซูล่าเพื่อ Check-in เข้าที่พัก แต่เผอิญงานนี้ได้เป็น Speaker ด้วย ทาง RIM เลยมอบที่พักให้ที่ Conrad ซึ่งอยู่ติดกับสถานที่จัดงานอย่าง Suntec พอดี แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้ห้องรึเปล่า เพราะตอนจองห้องมันเกิดขึ้นเร็วมากและงงมาก ทางเนยก็เลยรถไฟใต้ดินจากเพนนินฯไป Conrad เพื่อลองไป Check-in ดูแบบงงๆ สุดท้ายเลย Check-in ได้และตัดสินใจย้ายมาอยู่ Conrad แทน .... (ใช้เวลาขึ้นรถไฟใต้ดินราวๆ 45 นาที บ้ามาก เดินยังเร็วกว่า)


ห้องที่ Conrad เข้าไปแล้วต้องบอกว่าหรูมาก ชอบ ประทับใจ เตียงนิ่ม Complimentary ดี (มีช็อคโกแลตให้กล่องนึง ดีใจตรงนี้แหละ) เพดานสูง แสงสวย วิวดี อยู่สบายยยยย

นั่งชิวได้แป๊บนึงก็เดินกลับไปเพนนินฯเพื่อขนของมาที่ Conrad ด้วยแท็กซี่ ... เจ็บปวดมาก 4 Blocks เกือบ 10 เหรียญ T_T


กลับขึ้นห้อง พอเริ่มชิวก็เอาคอมพ์ออกมาทำงาน เอาเสื้อผ้ามาวาง แต่ไม่ทันไรก็มีโทรศัพท์เข้ามา แปลเป็นไทยว่า "ห้องที่คุณอยู่ตอนนี้เป็นห้องธรรมดา เราจะอัพเกรดเป็นห้อง Suite ให้นะคะ" ... เสนอมาเราก็สนองงง ก็เลยต้องเก็บของและย้ายที่พัก(อีกแล้ว)ไปอยู่ที่อีกห้องนึงบนชั้น 18 เป็นห้อง Suite ที่ใหญ่ใช้ได้ มีห้องนอนห้องนึง ห้องทำงานห้องนึง และมีห้องน้ำที่ใหญ่เท่าห้องทำงานและห้องนอน หรูได้อีก - - แอบไปดูราคามา คืนละราวๆ 2 หมื่นได้ ... โอ้ จอร์จ !!


แต่ชีวิตก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะตอนแรกมีความขัดข้องทางเทคนิคเล็กน้อยทำให้วางแผนกลับวันที่ 8 ธันวาคม แต่พอเช็คเวลาที่เนยพูดปรากฎว่าเนยพูดเย็นวันที่ 8 ... ก็เลยต้องขอไปทางพี่อาร์ตให้เลื่อนตั๋วให้ แต่ Conrad เลื่อนไม่ได้เพราะมันจองไปแล้ว และด้วยเหตุผลนานับประการเรื่องการขนของไปกองที่งานและไปพูดใน Session มันคงไม่งามนัก เลยต้องติดต่อ RIM ให้ขยายที่พักให้อีกวันนึง แต่การติดต่อนี้ช่างยากเย็นเพราะวันแรกหาตัวคนที่ต้องติดต่อไม่เจอ เลยต้องต๊ะไว้ก่อน


หลังจากเตรียมโน่นเตรียมนี่เสร็จก็ออกไปกิน Check-in เพื่อเอา Badge กับทางงาน BB DevCon เพราะเชื่อว่าวันถัดไปคนต้องเยอะสาดดดดแน่ๆ มาก่อนได้เปรียบ เนอะๆ

จากนั้นก็ไปข้าวกับอู๋ พี่อาร์ม และพี่บอย แห่ง wongnai มื้อนี้อร่อยทีเดียว เป็น Ramen Champion ของแท้จากญี่ปุ่น (กว่าจะคุยกันรู้เรื่อง แทบแย่) ในนั้นเป็นเหมือนโซน Food Center แต่มีราเม็งให้เลือกหกร้านด้วยกัน จะนั่งที่ไหนก็ได้แล้วแต่ศรัทธา


ที่ชอบคือการบริหารจัดการที่ไฮเทคและสะดวก เพราะพอเราเข้าไปกิน เค้าจะเอาบัตรแข็งๆแจกคนละใบ ไถ่ถามจึงรู้ว่านี่เป็นเหมือน "เครดิตการ์ด" คือจะซื้ออะไรก็รูดๆๆๆ แล้วค่อยไปจ่ายทีเดียวตอนออกนะจ๊ะ ... วู้วววว


ยัง ยัง ยังไม่พอ พอสั่งซื้ออะไรเสร็จแล้วก็ไม่ต้องยืนรอ(เพราะทำนานเชี่ย) แต่เค้าจะแจกอุปกรณ์คล้ายยานบินให้ แล้วก็ไปนั่งรอที่โต๊ะเลย ถ้าอาหารเสร็จเมื่อไหร่สัญญาณไฟก็จะดังขึ้น ให้เดินไปรับได้เลย ... เจ๋งโคดดดดด เห็นแล้วได้แรงบันดาลใจ อยากทำอะไรแบบนี้ที่เมืองไทย ความวุ่นวายของการยืนคอยน้อยลงไปเยอะ

ได้มาก็โซ้ยๆๆๆๆ แล้วรีบกลับที่พักเพื่อไปทำสไลด์ต่อเพราะถึงแม้เราจะพูดวันที่ 8 ตอนเย็น แต่ทางผู้จัดต้องเอา Slide ไปแก้ภายในเช้าวันที่ 7 เพื่อเช็คเรื่อง Branding ในสไลด์เช่นที่เราพิมพ์ไปว่า BB 8900 เค้าก็จะเปลี่ยนเป็น BlackBerry Curve 8900 ให้ ... ถึงจะเหนื่อยกับการปั่นสไดล์ แต่ต้องชื่นชมในระบบบริหารจัดการ ทำให้สไลด์ทุกคนออกมาในทางเดียวกัน มีมาตรฐาน


คืนนั้นปั่นสไลด์ไปได้ถึงตีหนึ่งแล้วก็ไปหลับด้วยความเหนื่อยจากการเดินทางและนอนไม่พอ คร่อกกกก...


ZZZzzzzzzzzzzz


ตื่นเช้ามา .... โอเค พูดจริงๆคือตื่นสายมา - - ราวๆ 8 โมงกว่าๆ อาบน้ำเสร็จอะไรเสร็จก็นั่งแก้สไลด์ต่อจนถึงเกือบสิบโมง แล้วก็ลงไปกินข้าวเช้า หรูเว่อร์ !! เพราะเผอิญได้นอนห้อง Suite เค้าเลยจัดอาหารเช้าสำหรับ Business ให้ ราวกับบุฟเฟต์อาหารดีๆย่อมๆเลยทีเดียว แต่ไปมาสามวันก็กินอยู่แบบเดียวอ่ะนะ Smoke Salmon กับเบคอน แหะๆ ^^" ระหว่างกินข้าวก็นั่งคิด ... นี่ผ่านไป 24 ชั่วโมงเองหรือนี่ ทำอะไรไปเยอะชะมัด - - แค่อ่านยังเหนื่อยเลยป่ะ

แล้วก็ออกเดินทางสู่ Suntec ด้วยความลำบาก .... เดินข้ามถนน ใช้เวลา 10 วินาทีรวด ถึงแล้ว !! รอบหน้าขอเป็น Speaker อีกนะคร้าบบบบ กราบๆๆๆ -0-

พอถึงก็เดินไป Ballroom เพื่อไปดู Key Note (เข้าสายไปราวๆครึ่งชั่วโมง) แล้วก็นั่งดูได้ชั่วโมงกว่า เป็นการบรรยายและเดโมที่สนุกดี จะมีปัญหาก็คือคนที่เชิญมาบางท่าน Proud กับ Product ตัวเองมากเกินไปจน Present เกินเวลา เค้าจะให้จบก็ไม่จบ ซึ่งไม่ดีนะ ไม่ดี สุดท้าย Key Note ก็เลยจบเลทไปชั่วโมงนึง ส่วนตัวเราก็ต้องออกมาก่อนเพราะมีประชุมตอนเที่ยงตรง ... ซึ่งแน่นอน พอถึงห้องประชุมก็ยังไม่มีใครมาเพราะทุกคนไม่ยอมออกมาจากห้อง Key Note ง่ำ !! อุตส่าห์ตรงเวลา T_T


สรุปแล้วการประชุมก็เลทออกไป 1 ชั่วโมงเต็ม กลายเป็นเรื่องบ่ายโมงแทน แต่ก็เป็นการประชุมที่ดี ทำให้ได้รู้จักคนเยอะ ขอบคุณพี่อาร์ตและ RIM ที่เชิญไปประชุมครั้งนี้นะครับ =)


จบจากการประชุมก็ออกไปจะเข้า Session แต่พอเห็นบรรยากาศแล้วดูเครียดเกินไป เลยตัดสินใจไปเอาของขวัญเล็กๆที่ชื่อว่า Playbook ที่ทาง RIM แจกให้ทุกคนที่มางาน =P

จากนั้นออกไปแรดกับอู๋และพี่อาร์มที่ Somerset และ Orchard ต่อทันที กรั่กๆ วันนั้นก็เลยมีโอกาสได้ไปแวะ H&M ที่คุณณิชชี่มีนี้ดชุดบางตัวเหลือเกิน แต่เสียใจด้วย มันเป็น Limited Edition ซะงั้น ขายแค่วันที่ 6 พฤศจิกายน วันเดียว ถามไถ่มาเพิ่งรู้ว่ามันคือชุดที่ Versace ดีไซน์ให้ H&M !!! เออ ถ้าประวัติแบบนี้ค่อยน่าซื้อหน่อย แต่มันก็ไม่มีขายแล้วอ่ะนะ อด - -

ก็เลยโยกย้ายพรรคพวกเดินไปอีกนิดถึง Takashimaya เดินเล่นให้ปวดขาเล่นแล้วก็ไปซัด Yoshinoya ประชดสาขาในไทยที่ไม่อร่อยเลยยยย คราวนี้สบายใจเพราะที่สิงคโปร์ยังอร่อยเหมือนเดิม =)

กินเสร็จก็เดินเล่นอีกนิดหน่อยและออกเดินทางไปยัง Suntec เพื่อเข้าร่วม Party ของ BB DevCon ... ชอบอยู่แล้ว Party ของ RIM หนะ จัดทีไรอลังการทุกที ในงานนี้ก็เลยได้คุยกับ RIM อีกคนนึงเรื่องขอต่อห้องอีกคืนนึง แต่เค้าบอกว่าต้องติดต่ออีกคนนึง(อีกแล้ว) ให้ตื่นไปติดต่อวันรุ่งขึ้นแทน ฮืออออ

อยู่ Party สักพักก็เริ่มเบื่อ เลยออกไปแรดกันแถวๆวันฟูราตัน นั่งกินเหล้าบ๊วยกันสามคน เน้นอร่อย ไม่เน้นเมา ... แต่แอลกอฮอล์ 12% นะ ! ซึ่งเผอิญวันนั้นผับข้างๆระยะ 20 เมตรมี Lady Night พอดี ก็เลยมีสาวสิงคโปร์เดินมาเรื่อยๆ ดูกันเพลินเลยทีเดียว หุ่นดี ผิวสวย แต่หาคนสวยยากจริงๆ ฟันธง !! แล้วก็โชคดีอีก นั่งๆอยู่มีเลเซอร์ยิงโชว์จาก Marina Bay Sands อีก ชิวไปเลยทีเดียว

กินกันจนถึงราวๆ 5 ทุ่มก็กลับไปเตรียมตัวพรีเซ็นท์ที่ห้อง ซึ่งแน่นอน ไม่มีแรงหรอก หลับ ! พรุ่งนี้ก็ได้ฟระ - -


ตื่นมาเช้าอีกวันหนึ่ง ... วันนี้ตื่นเช้าเพราะต้องไปวิ่งเรื่องห้องที่ Conrad ไม่งั้นต้อง Check Out ตอนเที่ยง ดูเวลาแล้วน่าจะไม่ไหว เลยรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วพุ่งไปที่งานทันที คราวนี้ติดต่ออีก 3 คนรวด กว่าจะเจอตัวคนที่รับผิดชอบเรื่องการจองโรงแรม ง่ายเหลือเกิน แค่บอกว่าขอต่ออีกคืนนึง เค้าก็พยักหน้าหงึกๆ ... จบ!! ติดต่อมาสามวัน T_T


ตอนนี้ก็เริ่มสบายใจเลยกลับขึ้นไปนอน ... ก็แย่แล้ว!! ไม่ได้ไปเที่ยวเฟร้ย ก็ขึ้นห้องไปแล้วก็เก็บของ ลงมากินข้าวเช้าตอน 10:20 น. ซึ่งเค้าจะปิดตอน 10:30 น. แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะตั้งใจจะกิน 5 นาทีแล้วออกอยู่แล้ว มีคนที่อยากไปคุยในงานพอดี


กินอย่างเร็วรีบ ปวดท้องได้อีก แล้วก็ดุ่มๆๆๆๆไปหาคน ซึ่งแน่นอน ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พอถึงงานคนที่อยากเจอกลับไม่อยู่ ฮือๆ ไม่เป็นไร กินข้าวเที่ยงก็ได้ .... (เอาแต่กินเนอะ) กินเสร็จทางคณะที่มาด้วยก็ถึงเวลากลับไทย ส่วนเราขอตัวขึ้นห้องไปซ้อมพรีเซ็นต์กับพี่อาร์มสามครั้งรวด ใช้เวลาซ้อมรวมๆแล้วก็ 2 ชั่วโมงได้ การซ้อมครั้งนี้ทำให้การพูดโดยรวมลื่นขึ้นเยอะ ถ้าจะพรีเซ็นต์อะไรอย่าลืมซ้อมก่อนเสมอนะจ๊ะเด็กๆ


ดูนาฬิกา ... เกือบจะสี่โมงเย็นแล้ว ถึงเวลาอันสมควรแล้ว เลยลงไปดูบรรยากาศที่งานให้ตื่นเต้นเล่น ระหว่างเดินๆเล่นอยู่ ทางพี่กวาง Manager ก็มาขอสัมภาษณ์ พอสัมภาษณ์เสร็จก็ถึงเวลาพอดี เข้าไปเซ็ตอุปกรณ์เตรียมพรีเซ็นต์ โย่วว


บรรยากาศตอนเข้าไปในห้องใหม่ๆนี่แอบใจชื้นเพราะคนไม่เยอะ มีแค่ราวๆ 10 คนจากความจุ 120 คนเท่านั้นเอง แต่พอเซตไปเซตมา คนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆเรื่อยๆเรื่อยๆ สุดท้ายคนเต็มห้อง เหลือที่นั่งไม่ถึง 10 ที่ ! ฉิบหายยยยยย -0-


แต่แปลกแฮะ พอขึ้นเวทีกลับไม่มีความตื่นเต้นเลย รู้สึกเหมือนมาพูดคุยกันเฉยๆ ถึงแม้การพูดครั้งนี้จะเป็นภาษาอังกฤษล้วน แต่การที่ได้ซ้อมมาก่อนอีกทั้งยังมีพี่อาร์มพรีเซ็นต์ร่วมอยู่ด้วย ทำให้ภาษาไม่ใช่ปัญหา


การพูดๆครั้งนี้มีการเรียบเรียงเรื่องราวค่อนข้างดี ทำให้เนื้อหาน่าสนใจ โดยเราไม่ได้เน้นมาขาย Product อะไร แต่เราจะพูดในเชิง Motivation & Inspiration ให้เห็นว่าเราสามารถทำ MOLOME บน BlackBerry ให้เสร็จใน 2 อาทิตย์ได้อย่างไร


ซึ่งงานนี้ทาง Amazon เข้าฟังด้วยเพราะ Session เราเป็น Session ที่ทำให้ Amazon ตัดสินใจมา Sponsor งานนี้ เท่ป่ะหละ ! ซึ่งนี่เป็นโอกาสอันดีมากที่ได้รู้จักกับทีม AWS เป็นการส่วนตัว =)


ทุกนาทีที่ผ่านไป แววตาความสนใจของผู้ฟังทำให้การพูดขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี มีเสียงฮือปนกับเสียงฮาสลับกันไประหว่าง Session ทำให้ทุกอย่างดูผ่อนคลายและมีความสุข ช็อตที่ประทับใจคือมีคนออกจากห้องระหว่างพูดแค่ 5-6 คนเท่านั้น และตอนที่พูดถึง Amazon ทาง Amazon ถึงกับยิ้มแป้นและจับมือกันในทีม

พูดจนจบ มีคำถามเล็กน้อยซึ่งก็เรียกเสียงฮาได้ไม่น้อยกับคำตอบเพราะนิสัยเดิม เกรียนตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่ตอนพูดภาษาอังกฤษ ฮ่าๆ สุดท้าย Session ความยาว 1 ชั่วโมงก็จบลงราวกับผ่านไปแค่ 10 นาที ทุกคนปรบมือ หลายคนเดินมาพูดด้วยที่หน้าเวที หลายคนเดินออกไปด้วยแววตามุ่งมั่นมากขึ้น รู้สึกดีใจมาก ถือว่าเป็น Session ที่ประสบความสำเร็จครั้งหนึ่งในชีวิตเลย ดีใจ เหนื่อยมากแต่ก็คุ้มครับ =)


จบจาก Session ก็พุ่งตัวออกไปแรดต่อทันที เพราะเย็นนั้นนัดเจ้าปูนเอาไว้ ไปหม่ำข้าวกันที่ China Town ซึ่งร้านที่เลือกกินคือติ่มซำร้านนึง เจอการต้อนรับแบบแปลกๆด้วยคำถามที่ว่า "จะกินร้านนี้หรอ?" แหมะ เป็นการต้อนรับที่ควรโดนด่ามาก แต่จะคิดอะไรมากเนอะ กิน!


กินเสร็จก็ไปกินเต้าฮวยเทพต่อที่ Maxwell ใกล้ๆ China Town หอมอร่อยดี แต่เจ้าปูนพาไปผิดร้าน ก็เลยยังไม่ Top =P


จากนั้นพี่อาร์มก็ตามมาสมทบ หม่ำโน่นหม่ำนี่แล้วเดินต่อจนถึงราวๆ 3-4 ทุ่มแล้วก็ไป Check Out ที่เพนนินซูล่าเพื่อไม่ให้ต้องเหนื่อยในวันถัดไป และก็เดินกลับ Conrad อย่างสงบสุข .... ทำไมชีวิตมันวุ่นวายอย่างนี้ !!!


คืนนั้นใช้ Facility ในห้อง Suite อย่างคุ้มค่า นอนแช่อ่างพร้อมน้องเป็ดจนแทบหลับคาอ่าง ในห้องมีเกลือมาให้ขัดด้วยก็ขัดๆเล่น .... มันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อขัดหน้าใช่มะ แสบสัดดดด - -

แล้วคืนนั้นก็หลับสบาย หรือเรียกว่าหลับเป็นตายก็โอเค ไม่ผิดนะ ฮ่าๆๆๆ แต่ก็ตื่นเร็วราวๆ 8 โมงเพื่อไปกินข้าวเช้า แล้วก็เข้า Orchard ไปดูของฝาก สุดท้ายซื้อ H&M มาได้ตัวนึง เห็นว่าสวยดี ชอบเป็นการส่วนตัว แล้วก็กลับที่พักอย่างรวดเร็ว สรุปได้ช็อปปิ้ง 1 ชั่วโมงถ้วนนนน

ถึงห้องก็นั่งพักอีกชั่วโมง Check Out แล้วก็พุ่งตรงไปสนามบิน Check In โหลดกระเป๋า เข้า Duty Free ซื้อครีมนวดนม ... เดี๋ยวนี้เค้าไม่ซื้อน้ำหอมฝากกันแล้ว (-_---")


เดินๆๆๆๆ แป๊บๆก็ Boarding ละ เลยขึ้นเครื่องไปนั่งชิวบนเครื่อง และก็เป็นไปตามคาด .... ดีเลย์ !! นั่งกันขนงอกเลย ดีเลย์ไปราวๆ 45 นาที แถมตอนอยู่บนฟ้าก็ตกหลุมอากาศราวกับบินอยู่บนผิวดวงจันทร์ ตึกตักๆตลอดเว แต่สุดท้ายก็ถึงไทยอย่างปลอดภัย


ก็ขอบคุณทุกท่านที่เกี่ยวข้องมา ณ ที่นี้ สี่วันที่สิงคโปร์ครั้งนี้เหนื่อยมากๆ ทำอะไรไปเยอะมาก แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดี ได้สิ่งตอบแทนแบบไม่ได้คาดหวังไว้ด้วยจากทาง Amazon ไว้จะอัพเดตให้ฟังอีกที ^ ^


กลับมาถึงไทยเห็นว่ารถติดมาก เลยตัดสินใจนั่ง Airport Link Express Line ไปพญาไทแล้วต่อรถไฟฟ้าอีกที ซึ่งตอนซื้อตั๋วนี่ขอเม้าท์หน่อยละกัน พนักงานขายตั๋วสาว หน้าตาบูดบึ้งมาก เหมือนทะเลาะกับแฟนมาสี่วันรวด แจ็คพอตมาตกที่คนข้างหน้าเรา ดูหน้าแล้วน่าจะจีนไม่ก็เกาหลี พูดภาษาอังกฤษไม่เก่งเท่าไหร่ ทางพนักงานถามว่า แว-ดู-ยู-โก ... ไม่แปลกใจเลยที่ทางนักท่องเที่ยวพูดไม่ค่อยถูก บอกว่า "Single Trip Express Line" ซ้ำกัน 2 ครั้ง


ทางพนักงานขายตั๋วหงุดหงิดขึ้นมาทันที ทำหน้าไม่พอใจอย่างมาก (นึกหน้าเอานะ ไม่พอใจอย่างมาก ขมวดคิ้ว นัยน์ตาบ่งบอกการดูถูก น้ำเสียงเหมือนคุยกับคนที่ขโมยของตัวเองแล้วถูกจับได้) แล้วตะคอกกลับไปว่า "ไอ โน แว ดู ยู โก แว ดู ยู โก" ... ส่วนตัวไม่เรียกว่าการกระทำแบบนี้ว่าดุนะครับ ผมเรียกว่าเหี้ยเลยหละ


พอมาถึงคิวเนย น้ำเสียงก็ยังแย่อยู่ เหมือนไปมีปัญหาส่วนตัวกับใครมาแล้วมาลงที่ผู้โดยสาร จุดนี้ต้องบอกว่าผมผิดหวังมากครับกับคนแบบนี้ในประเทศตัวเอง ถ้าทำงานบริการไม่ได้ก็ไปทำอย่างอื่นครับ ไปทำงานที่นั่งคนเดียว ขุดดิน ขุดทราย ทะเลาะกับไส้เดือนไปนะครับ แต่อย่าทำงานที่เป็นหน้าตาของประเทศเลย อายเค้า...


น่าเสียดายที่ต้องจบ Blog ด้วยเรื่องแย่ๆ ซึ่งสำหรับ Blog หนะมันจบ แต่สำหรับนักท่องเที่ยว นี่คือคนแรกๆที่เค้าจะเจอเลยนะ มันคือการเริ่มต้นท่องเที่ยวประเทศสารขันฑ์ที่เค้าคงจะจำและโกรธไปอีกนาน...

บทความที่เกี่ยวข้อง

Dec 4, 2015, 11:33
6477 views
บันทึกการเดินทาง ครั้งหนึ่ง ณ ซานฟรานซิสโก ตอน 2: เยี่ยมเยือนเพื่อนพ้อง
Dec 11, 2011, 07:51
9788 views
สองวันกับ BB DevCon Asia'11
0 Comment(s)
Loading