"ประสบการณ์เป็นครูที่ดีที่สุด"
ตลาดทางเท้าสยามยังไม่จบ
9 Mar 2011 02:30   [12201 views]

วันที่ 18 สิงหาคมปีที่แล้ว เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ไมเกรนขึ้นกลางสยามฯและพยายามดิ้นรนสุดชีวิตที่จะกลับบ้าน แต่ผลคือไม่สามารถหาทางขึ้นรถไฟฟ้าได้เพราะตลาดนัดที่ใช้ทางเท้าเกือบทั้งหมด วันนั้นปรี้ดแตกเลยกลับมาเขียน Blog ด่าในหัวข้อ "[ด่า] ทางเดินนะไม่ใช่ห้าง!!"

เป็นที่น่าตกใจที่ Blog นั้นกลายเป็น Blog ที่มีคนเห็นด้วยเยอะมากและ Forward ต่อทั้งทาง Twitter และ Facebook อย่างต่อเนื่อง


และจากการที่มีคนส่งต่อกันเยอะทำให้เรื่องไปถึงผู้จัดการศูนย์การค้าสยามสแควร์และมีการตอบกลับมาทางคอมเม้นท์ลงชื่อ "คุณสวัสดิ ปฐมมงคลกุล" ดังนี้

- ทางเท้าหน้าสยามสแควร์เดิมเป็นพื้นที่รอยต่อของจุฬาฯกับ กทม. โดยทางเท้าในส่วนที่อยู่ใต้แนวกันสาดอาคารถือเป็นพื้นที่ของจุฬาฯ ส่วนทางเท้าที่อยู่นอกแนวกันสาดอาคารเป็นพื้นที่ของ กทม. จุฬาฯจึงจัดระเบียบได้เฉพาะในพื้นที่ของจุฬาฯ

- ขณะนี้มีความชัดเจนว่าทางเท้าทั้งหมดเป็นของจุฬาฯ จึงร่วมกับ กทม.และ สน.ปทุมวัน รวม 3 ฝ่าย กำหนดนโยบายจัดระเบียบทางเท้า เพื่อให้ใช้เป็นทางสัญจรเท่านั้น จะเริ่มดำเนินการตามนโยบายตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.53


- ขอขอบคุณสำหรับทุกเสียงแห่งการสร้างสรรค์ครับ


ผู้จัดการศูนย์การค้าสยามสแควร์ 26 ส.ค. 53

สวัสดิ์ ปฐมมงคลกุล

หลังจากการไปเช็คชื่อพบว่าคุณสวัสดิ์เป็นผู้จัดการศูนย์การค้าสยามสแควร์จริง แต่ไม่อาจยืนยันได้เพราะนี่มันคือ Internet และหลังจากไปเช็คกับผังเมืองก็พบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็น "พื้นที่ทับซ้อน" จริง (อินเทรนด์เนอะ กรุงเทพฯมีพื้นที่ทับซ้อน) โดยที่เรียกว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อนก็เพราะว่าทางเท้ามีคนเป็นเจ้าของ "ทางหน้าที่" และ "ทางพื้นที่" อยู่

1) เจ้าของทางพื้นที่ - แน่นอนว่าคือจุฬาฯนั่นเอง เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์พื้นที่โดยกฎหมาย

2) เจ้าของทางหน้าที่ - กทม.ได้ร่างไว้ว่า "ทางเท้า" ต้องถูกใช้เพื่อสาธารณประโยชน์และกทม.มีสิทธิ์ในการควบคุม


ผลคือเกิดเป็นพื้นที่เกรงใจและไม่มีใครกล้าทำอะไร ส่งผลให้เป็นเกิดเป็นช่องโหว่ให้มือที่สามเข้ามาควบคุมและแอบใช้งานพื้นที่ นำพื้นที่มาเป็นตลาดนัดและเก็บเงินค่าเช่าโดยไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร...


แต่ก็ถือเป็นสัญญาณอันดีที่คุณสวัสดิ์ได้ตอบกลับมาว่า "ได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้วระหว่างสามฝ่ายได้แก่ สยามฯ กทม.และสน.ปทุมวัน" (ถ้าที่โพสท์มาเป็นเรื่องจริง) แต่ ณ วันนั้นก็ได้บอกเพื่อนๆไว้แล้วว่าเรื่องราวจะลุกลามใหญ่โตแน่นอน เพราะฝ่ายที่สี่อย่างพ่อค้าแม่ค้าไม่ยอมหรอก เนื่องจากได้รับการเป่าหูมาตลอดว่าคนที่เก็บเงินค่าเช่าแต่แรกเป็นจุฬาฯ และมันก็เป็นตามนั้นเพราะจากวันนั้นถึงวันนี้ผ่านมาครึ่งปีแล้วเรื่องราวก็ยังไม่ยุติ มีตั้งแต่ประท้วงจนถึงกระทบกระทั่ง เราก็โดนผลกระทบไปด้วยเพราะเราเป็นคนแรกๆมั้งที่เขียน Blog ด่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเป็นราว ทางพ่อค้าแม่ค้าหลายคนเลยมาโพสท์ด้วยถ้อยคำอย่างมีสถุนรุนชาติเช่น "เปิดร้านแล้วหนักหัวพ่อมึงหรอ" ฯลฯ บางคนข่มขู่จะทำร้ายร่างกายก็มี และที่ทำให้น่าเศร้าคือการได้รู้ Attitude ของพ่อค้าแม่ค้าสยามหลายๆคนที่บอกว่า

"...คนมาเดินสยามฯตอนกลางคืนเค้าก็มาเดินตลาดนัดกันทั้งนั้นแหละ

คนขึ้นรถไฟฟ้ามีนิดเดียว..."

สุดท้ายเลยต้องปิดคอมเม้นท์บล็อคไป แต่ไม่ลบบล็อคทิ้งเพราะเรายังยืนยันความคิดของเราอยู่ และจุดยืนตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมอยู่คือถ้ากฎหมายเขียนไว้ว่ามันผิดก็อย่าหาเหตุผลส่วนตัวมาแหกกฎ... เข้าใจป่ะ...


แต่ถ้าที่คุณสวัสดิ์เคยมาคอมเม้นท์ไว้เป็นจริง คงต้องบอกว่าพื้นที่ทางเท้าในขณะนี้ จุฬาฯมีสิทธิ์โดยสมบูรณ์ที่จะควบคุม .... ซึ่งจุดนี้คงจะตอบคำถามที่ค้างคาของหลายคนได้ว่าจุฬาฯทำถูกหรือไม่ ซึ่งล่าสุดจุฬาฯแก้ปัญหาด้วยการเอาต้นไม้มาวางแทนที่ตลาดนัดทางเท้า (ขอบคุณรูปจากน้องเอ้จ้า)

ซึ่งการวางต้นไม้นี้ก็ทำให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่หน้าพารากอนจากพ่อค้าแม่ค้า ... น่าตลกยิ่งนักที่เป็นการประท้วงเพราะต้องการแหกกฎและไม่พอใจที่มีคนทำตามกฎ... อนาถใจ


สำหรับการวางต้นไม้ก็แอบตลกนะเพราะปัญหาที่เกิดคือมันมีร้านวางเกะกะจนไม่มีทางเดิน แต่จุฬาฯมาแก้ปัญหาด้วยการเอาของมาวาง สรุปคือเดินไม่ได้เหมือนเดิม -_- แต่... พอมาคิดเยอะๆดีๆอีกทีแล้วก็พบว่า ... ถ้าเราเป็นจุฬาฯเราก็คงไม่รู้จะแก้ไขยังไงเหมือนกัน หะหะ ก่อนหน้านี้ก็แทบจะเผาสยามฯประท้วงกันแล้วมั้ง ก็เอาเหอะ พอเรื่องดีขึ้นก็รบกวนเอาออกด้วยละกันนะ จะเอาใจช่วย


แต่ยัง มันยังไม่จบเพราะระหว่างที่เรื่องราวของตลาดทางเท้ากลางคืนยังเคลียร์ไม่ลง ทางม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ก็ประกาศเมกะโปรเจค "ทุ่ม 1.5 หมื่นล้านสร้าง Super Skywalk ความยาว 50 กม." (ลิงค์) คำนวณเล่นๆก็แค่ ... กิโลเมตรละ 300 ล้านเอ๊งงงงง!!! โปรเจคนี้สร้างความกังขาต่อประชาชนมากมายหลักๆก็เรื่องราคานี่แหละ ... กม.ละ 300 ล้าน บร้าเรอะ!!! แถมทุกวันนี้แค่รถไฟฟ้า ทางด่วน สะพานต่างๆก็แทบจะทำให้ชาวกรุงเทพฯหาแสงอาทิตย์กันไม่เจอแล้ว ยังจะสร้าง SkyWalk มาบังแดดอีก -_-

ที่เป็นประเด็นน่าเฮฮาคือทำไมหนอทำไม ทำไมถึงต้องสร้าง Sky Walk ด้วย ทางเท้าก็มีให้เดิน ... อ้อ! เพราะที่ทางเท้าไม่มีที่ให้เดินนั่นเอง มีแต่ร้านเปิดขายของ!!! ตกลงกทม.จะถลุงเงินภาษีจำนวนมหาศาลเพราะผ่อนผันให้คนที่อ้างว่า "ต้องแหกกฎเพราะจะทำมาหากิน(บนความเดือดร้อนของคนอื่น)" จนไม่มีที่จะเดิน สุดท้ายต้องมาสร้างทางเดินลอยฟ้า? ... เยี่ยมครับ ... ถ้าคุณเป็นพ่อค้าแม่ค้าที่เอาเปรียบผู้อื่นอยู่นี้ก็ยินดีด้วยครับ คุณได้เป็นหนึ่งในตัวต้นเหตุที่ภาษีหมื่นล้านถูกผลาญไป ... เงินคุณด้วยนั่นแหละไม่ต้องตกใจ


ถึงแม้อีกเหตุผลนึงที่ทางผู้ว่ากทม.ให้มาจะน่าสนใจอย่างการ "จะเอาทางเดินลอยฟ้าเป็นที่เก็บสายไฟในอนาคต" เหตุผลนี้ฟังขึ้นเพราะบ้านเมืองจะดูดีได้ก็ต่อเมื่อสายไฟมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า บางประเทศทำด้วยการเอาลงใต้ดิน แต่มันแพงมากเลยหละ อาจจะสูงว่า 1.5 หมื่นล้านได้ แต่ที่น่าสนใจคือ ... การมีทางเดินทั่วกรุงเทพฯเผลอๆมันอาจจะเลวร้ายกว่าการมีสายไฟเสียอีกมั้ง? ... หะหะ กลายเป็นเมืองอะไรไปแล้วเนี่ยยยยยย แสรดมากประเทศไทย


สุดท้ายก็รอดูต่อไป คนธรรมดาๆอย่างเราทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ขนาดเห็นคนทำผิดกฎหมายทุกวันอย่างตลาดทางเท้าสยามฯก็ยังทำอะไรไม่ได้เลย จะเอาอะไรกับ Super SkyWalk ... ก็ขอ RIP กับความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายไทย ถ้าแค่เรื่องตลาดทางเท้าสยามฯยังแก้ไม่ได้ ก็ขอก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปโดยไม่สนใจอะไรละประเทศชาติละ โชคดี!!

บทความที่เกี่ยวข้อง

Nov 24, 2010, 18:18
6509 views
มุมมองเล็กๆกับการทำแท้ง
Jul 3, 2011, 23:25
9066 views
Forbidden Democracy
0 Comment(s)
Loading