เห็นชื่อบล็อคแล้ว ถ้าใครที่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องน่ากลัว ผมบอกได้เลยว่า .... คุณคิดถูกแล้วครับ -*-
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยใสชีวิตและจิตหลอน ต้องประกาศก่อนว่าบล็อคนี้อาจจะสั่นคลอนประสาทคุณได้ ... มั้ง ! (ผ่าง)
เรื่องที่จะเขียนมันเกี่ยวกับห้องที่ไปพักมาที่บาเซโลน่า เนื่องจากว่าเราจองที่พักช้ามาก ประมาณ 1 อาทิตย์ก่อนไปเท่านั้นเอง ทำให้สุดท้ายโรงแรมเต็มหมด สุดท้ายจึงต้องไปเช่า Apartment อยู่แทน และถ้าใครรู้จักบาเซโลน่าดีก็จะรู้ว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่เก่ามาก อาคารแต่ละหลังก็เรียกได้ว่าโบราณเลยหละ ไม่เว้นแม้แต่อพาร์ทเม้นท์ที่ไปอยู่ .... น่ากลัวมากกกก T_T
ขอให้นึกถึงบันไดเก่าๆ กำแพงเป็นอิฐที่ก่อไว้แต่ไม่ได้โบกปูน มีสีต่างๆเลอะเทอะเต็มไปหมด ไฟมีแค่ดวงเดียวเล็กๆ ประมาณรูปนี้เลย
สิ่งที่ต่างคือที่ที่เราไปอยู่มันเก่ากว่านี้มากและมืดมาก... เรียกว่านาทีแรกที่เดินเข้าไปถึงกับส่ง SMS หาคนที่ไทยว่าขอเปลี่ยนที่พักได้มั้ยเลย -_-
อาจจะสงสัยว่าทำไมเนยถึงไม่ถ่ายรูปมา ... ยอมรับตามตรงว่าไม่กล้าถ่าย เพราะกลัวจะถ่ายติดสิ่งที่ไม่อยากเห็นขึ้นมา แล้วพาลจะทำให้อยู่ที่นั่นไม่ได้อีก T_T (นึกสภาพเอาละกันว่ามันน่ากลัวขนาดไหน)
ก็ยังดีที่สภาพในห้องถือว่าดีมาก ทำให้ลืมสภาพข้างนอกไปได้ แต่ยังไงก็ตามก็มีบางอย่างที่ทำให้ไม่สบายใจและเกิดข้อสงสัยจนถึงตอนนี้คือ ... ห้องข้างบนตรงหัวเลยเนี่ยมันมีอะไรอยู่ในห้องกัน?
ที่เกิดข้อสงสัยก็เพราะว่า "ห้องข้างบนมีเสียงดังตลอดเวลา" เสียงที่ว่าได้แก่เสียงวิ่งตึกๆๆๆๆ ยกของขึ้นแล้วก็วาง ขึ้นแล้วก็วาง พร้อมกับเสียงลากเฟอร์นิเจอร์ไปมา
อื้ม... อาจจะแปลกใจว่าทำไมแค่มีเสียงแล้วต้องคิดมากไปถึงขนาดนั้นด้วย แรกๆเราก็ไม่สนใจหรอก นึกว่าเค้าคงจะทำการก่อสร้างอยู่ กำลังจัดห้องอยู่ แต่เริ่มเอะใจเมื่อสองทุ่มก็แล้ว สามทุ่มก็แล้วหรือจนเที่ยงคืนแล้ว มันก็ยังลากอยู่ ... รวมแล้วน่าจะวันละเกิน 20 ชั่วโมงในการวิ่งไปวิ่งมาและลากเฟอร์นิเจอร์ไปๆมาๆ "โดยไม่หยุดพัก" ... ใช่แล้ว เค้าไม่ได้หยุดพักเลย เช่นวิ่งไปวิ่งมา 10 รอบแล้วก็ลากเฟอร์นิเจอร์หนักๆเสียงดังมากไปแล้วก็กลับแล้วก็ไปแล้วก็กลับ ไปกลับเป็นสิบรอบแล้วก็วิ่งแล้วก็ลาก แล้วก็วิ่งแล้วก็ลาก บางทีก็ยกของแล้วก็วางแล้วก็ยกแล้วก็วางอยู่อย่างนั้น ... โดยในแต่ละวันมีแค่เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงที่เราจะไม่ได้ยินเสียงนั้น แม้แต่ตอนจะนอนก็ยังได้ยินหรือตอนตื่นนอนก็ต้องตื่นเพราะเสียงห้องข้างบนนี้นี่แหละ
ในวันแรกยังไม่คิดอะไรมาก แต่สิ่งที่เริ่มทำให้คิดมากคือวันที่สองวันที่สามหรือแม้วันสุดท้ายทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ห้องข้างบนก็ยังคงวิ่งและลากเฟอร์นิเจอร์ไปมาอยู่เหมือนเดิม และที่น่ารักคือเราไม่เคยได้ยินว่ามีคนเปิดปิดประตูห้องข้างบนหรือแม้ได้แต่ยินเสียงคนจากห้องข้างบนเลยแม้แต่ครั้งเดียว...
ก็เรียกว่าลังเลเลยหละว่าห้องข้างบนเป็นคนหรือเป็นผีกันแน่ แต่ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้เพราะจะย้ายที่พักก็คงทำไม่ได้แล้ว จะหาคนมาอยู่ด้วยก็คงไม่งามนัก... เอิ๊กๆ ทำให้ในวันที่สองวันที่สามเริ่มแปรเปลี่ยนความรู้สึกกลัวเป็นความรำคาญแทน (จะนอนแต่นอนไม่ได้) ส่วนคนที่ไทยเราก็กลัวว่าจะเป็นห่วงและซ้ำเติม (เหอะๆ) ก็เลยโกหกไปว่าเราได้ยินเสียงคนเข้าออกข้างบนตลอดเลย เค้าคงขนเฟอร์นิเจอร์อยู่ หรือเค้าคงจะฟิตเนส บลาๆๆ แต่ความจริงคือมันไม่ใช่งะ หะหะ
เป็นเรื่องที่อึดอัดมากเพราะตอนอยู่นั่นเขียนถึงไม่ได้แต่ก็ถือว่ากลัวทีเดียวเพราะอยู่คนเดียว ตอนออกจากที่พักเรียกว่ายกภูเขาออกจากอกเลยเพราะไม่ต้องเจอเรื่องน่ากลัวๆ สุดท้ายจึงเก็บเรื่องนี้มาเขียนให้ฟังเป็นอีกหน้าหนึ่งในประสบการณ์ชีวิตว่า ... จะไม่ไปเมืองนอกที่เก่าแก่คนเดียวอีกแล้ววววว ฮืออออออ T_T