การเมืองไทยช่างน่าปวดหัว อื้มหืมมมม จริงๆไม่เรียกว่าการเมืองได้ป่ะเพราะมันไม่ใช่อ่ะเปิ้ลมันไม่ใช่ :D แต่จะเป็นคำอะไรก็... แล้วแต่จะคิดจะฝันกันแหละเนอะ!!
ช่วงนี้สถานการณ์มันดูรุนแรง หลายคนเครียดและหงุดหงิด ระบายอารมณ์ต่างๆนานาลงบน Social Network ทั้งหลาย จนเกิดเป็นเรื่องราวต่อไปใหญ่โต ส่วนเราวันๆเอาแต่ทวีตติงต๊องไร้สาระไปเรื่อยๆ
ไม่เดือดร้อนงั้นหรอ? ตรงกันข้าม เดือดร้อนสัดๆๆๆๆๆๆตะหากเพราะร้านที่อยู่แถวที่ชุมนุมกำลังจะเจ๊ง ทุกวันนี้อาศัยนอนที่ออฟฟิศก็เลยประหยัดค่าเดินทางไปได้เยอะ เลยพอมีเงินโอนช่วยแม่ได้อยู่ แต่ก็มีเงินแสนที่ต้องหาใน 1 เดือน ทุกวันนี้จิตตกนิดหน่อยว่าจะหาเงินมาจากไหน... แต่ไม่เป็นไร ชีวิตต้องมีทาง
ไม่เครียดงั้นหรอ? นอกจากเรื่องที่เดือดร้อนแล้ว อันนี้ยอมรับว่าไม่เครียดเรื่องการเมืองหรือท่าทีของฝ่ายใดๆ ทำไมหนะหรอ?... อ่ะ ไปอ่านอันนี้ก่อน "คุณพร้อมจะเป็นควายกับผมมั้ย"
หรือโดยสรุปคือ "เครียดไปแล้วทำอะไรได้? มีอะไรดีขึ้นมั้ย?"
ที่ผ่านมาก็เห็นมีแต่ทำให้คนที่ไม่ได้เกี่ยวกับเสื้อไหนเลยหันมาทะเลาะเพิ่มกันไปเรื่อยๆเพราะ "เชื่อว่า" ได้เห็นถึงเนื้อในของความคิดคนนั้นๆแล้ว ย้ำนะว่า "เชื่อว่า" :p
ตอนนี้ก็เลยมีจุดยืนที่ตั้งใจไว้คือ "อยากทำให้ทุกคนหัวเราะและยิ้ม(อย่างมีความหวัง)ถึงแม้จะอยู่ในช่วงเวลาวิกฤติ" นั่นเป็นสาเหตุที่ยิงมุกไปเรื่อยๆทั้ง Twitter และ Facebook
แต่ถ้าถามว่าลึกๆแล้วมีความเห็นอะไรยังไงบ้างในมุมแบบเนยๆ? คำตอบก็คงจะสั้นๆ
"กำลังนั่งดูคนฆ่าตัวตาย"
ฟังดูแรงเนอะ... แต่จริงๆมันมีเหตุผลของมันอยู่ อ่านต่อไปเรื่อยๆละกัน
ส่วนตัวบอกตามตรงว่าสงสารและเห็นใจคนเสื้อแดงที่มาด้วยใจบริสุทธิ์... เชื่อว่าเยอะด้วยแหละ หลายคน(เยอะมาก)อาจจะบอกว่าคนเหล่านี้ "โง่" แต่ส่วนตัวแล้ว คนเหล่านี้แค่ "ท้อแท้สิ้นหวัง" ต่างหาก
ท้อแท้สิ้นหวังในความไม่ยุติธรรมของสังคม เกิดเป็นเกษตรกรแต่ขายเงาะได้โลละ 10 บาท วันๆต้องพึ่งฟ้าพึ่งฝน ปีไหนน้ำไม่มีหรือน้ำหลากก็แทบสิ้นเนื้อประดาตัว ส่วนคนในกรุงเทพฯแค่เดินไปเดินมาก็ได้เงินเป็นหมื่นแล้ว
นี่ยังไม่รวมถึงปัญหาคอรัปชั่นจากนักการเมืองท้องถิ่นที่ทำให้การแบ่งแยกฐานะชัดเจนขึ้นไปอีก
หากคุณเอาใจเขามาใส่ใจเราคุณจะเข้าใจในจุดนี้และแทบจะร้องไห้ร่วมกับพวกเขาได้เลย...
ความไม่ยุติธรรมนี้ค่อยๆแทรกซึมเข้าสู่จิตใจของคนไทยมาเป็นช่วงระยะเวลานาน จนบ่มเพาะเป็นความรู้สึกแบ่งแยกเป็นชนชั้นจนเกิดความเกลียดชังอย่างรุนแรงแบบไม่รู้ตัว
วันนี้จึงไม่ต้องแปลกใจที่พวกเค้ามารวมตัวกันอย่างสามัคคีและคิดจะ "เผาทำลายกรุงเทพฯเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม" และไม่ต้องแปลกใจที่แกนนำจะใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือทำลายกรุงเทพฯให้ปี้ป่นเพื่อให้ทุกคนยากจนอย่างเท่าเทียม (หรืออย่างน้อยก็ได้ระบาย) เพราะนี่เป็นแค่ "ผล" ของความไม่ยุติธรรมที่ทุกคนร่วมสั่งสมกันมาโดยไม่รู้ตัว
แต่ที่น่าเศร้ามากคือ... พวกเขาไม่รู้เลยว่าเค้ากำลัง "ฆ่าตัวตาย" อยู่
ความจริงข้อหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครรู้คือ คนที่อยู่ในกลางเมืองกรุงเทพฯกว่าครึ่งเป็นคนต่างจังหวัดที่เข้ามาหากินในกรุงเทพฯ ส่วนคนที่เป็นคนกรุงเทพฯจริงๆย้ายออกไปอยู่ชานเมืองรอบนอกซะส่วนใหญ่ นั่นหมายความว่าอะไร? ถูก... เค้ากำลังทำลายสถานที่ทำงานของพี่น้องท้องถิ่นของเค้าเอง ซึ่งอาจจะได้เห็นจากข่าวบางข่าวที่บอกว่ามีบางครอบครัวลูกที่เข้ามาทำงานแถวสีลมต้องย้ายกลับไปบ้านเกิดส่วนครอบครัวมาประท้วงปิดถนนที่สีลม
ความน่าเศร้ายิ่งกว่าคือคนที่อยู่กรุงเทพฯจริงๆแล้วแทบไม่เดือดร้อนอะไรเลย หลังจากม็อบจบไปก็สามารถใช้ชีวิตปกติได้ จะกระทบก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเพราะเศรษฐกิจโดยรวมคงย่อยยับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่กลุ่มที่มาเรียกร้องในกลุ่มเสื้อแดงนี่แหละที่จะได้รับผลกระทบเต็มๆ พวกเขาจะจนลงและมีหนี้สินเฉลี่ยต่อครอบครัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ที่น่าเศร้าเข้าไปอีก หลังจากนี้ประเทศไทยจะเข้าสู่สถานการณ์ที่ย่ำแย่เพราะเสื้อเหลืองและเสื้อแดงได้ขยายขีดเส้นของความล้ำเส้นไปแล้ว เนยเคยเขียนไว้ตั้งแต่ตอนเสื้อเหลืองว่าหลังจากเสื้อเหลืองจบไปคุณจะได้เห็นม็อบประท้วงปิดถนนทุกหย่อมหญ้าไม่เว้นอาทิตย์เพราะเสื้อเหลืองได้ขีดเส้นไว้แล้วว่า "ถ้าไม่พอใจให้ปิดถนน" ซึ่ง...ก็ลองดูจากที่ตัวเองเห็นในข่าวตลอดหลายปีที่ผ่านมาว่าจริงหรือเปล่า
ส่วนเสื้อแดงได้ขีดเส้นไว้แล้วว่า "ถ้าไม่พอใจให้รุนแรง ยิงแมร่งหรือเผาทำลายได้ทันที" ไม่ใช่แค่เสื้อแดงนะ กลุ่มคนไม่เห็นด้วยก็จะมีความคิดรุนแรงนี้ฝังอยู่ในหัวเราไปแบบไม่รู้ตัวด้วย และก็น่ากลัวที่มันเป็นความคิดที่จะฝังไปตลอด จากนี้... ก็อาจจะได้เห็นผลจากสิ่งนี้เรื่อยๆ
และทั้งสองสีก็ดั๊นนนนปลูกฝังสิ่งเดียวกันซะอีก "ถ้าเมิงคิดไม่ตรงกับกรูถือว่าเมิงผิด เมิงสมควรตาย" -,..,- ไม่มีประเทศไหนสั่งสอนกันแบบได้หรอกนะ อ้อ! จริงๆก็มีแหละ ประเทศที่ล่มสลายไปแล้วไง!!
คำถามสั้น... ประเทศนี้จะอยู่ยังไงต่อไป?
แต่... พระเจ้าประทานข้อดีอย่างหนึ่งมาให้คนไทย "โคดดดดดดขี้ลืม" เรื่องที่เกิดขึ้นคนก็อาจจะลืมมันไปในอีกไม่นานนัก แต่อย่างไรก็ตามความรู้สึกที่ถูกฝังอยู่ส่วนลึกของจิตใจจะยังคงอยู่ตลอดไป หรือที่เราเรียกว่า "เมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้าง (Seed of Chaos)" เมื่อถึงเวลามีคนรดน้ำ เมล็ดก็จะงอกออกมาเป็นต้นอีก
อ่านถึงตรงนี้ทุกคนคงจะเข้าใจแล้วว่าปัญหาของประเทศไม่ใช่เรื่องการศึกษาแต่เป็นเรื่องของ "ความหิว" ตราบใดที่คนส่วนใหญ่ของประเทศไม่มีปัจจัยสี่ที่เพียงพอ ปัญหาก็จะไม่มีวันจบ
แต่เมื่อพูดถึงความหิว... ก็ตลกดีเนอะที่ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมที่มีอาหารทุกอย่างพร้อม แทบไม่ต้อง Import อะไรมาเลย ต่างประเทศซะอีกที่อยากได้อาหารจากไทยไปในประเทศเค้า ดังนั้นถ้าเอาจริงๆคนไทยตัดเรื่อง "ความหิว" ทิ้งไปได้เลยหากแต่ว่าถ้าคนไทยสามารถทิ้งความเป็น "ผู้บริโภคชั้นเยี่ยม" ไปได้ การใช้จ่ายเกินความจำเป็นเป็นสิ่งที่อยู่คู่คนไทยมาโดยตลอด ผมไม่ใช่คนแรกที่มองเห็นตรงนี้ครับ มีบางท่านได้มองเห็นจุดนี้ก่อนผมมานานมาก ซึ่งก็คือท่านที่ได้ประทานแนวคิดดีๆอย่าง "เศรษฐกิจพอเพียง" มานั่นเอง :) ถ้าคนส่วนใหญ่ทำได้รับรองว่ามีความสุขในการ "ใช้ชีวิต" แน่นอน
ยังไงนาทีนี้บอกได้เลยว่าวิกฤตินี้สายเกินแก้แล้ว ปัญหาที่บ่มเพาะมาเป็นร้อยปีไม่สามารถแก้ได้ใน 1 ปีหรอก มันไม่ใช่ปัญหาการเมืองแต่เป็นปัญหาเรื่องความเชื่อและสิ่งที่เคารพแล้ว แม้เรื่องราวจะจบลงไปประเทศไทยก็จะไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะคำว่าจบในที่นี้คือจบแบบ "ชั่วคราว" เท่านั้น
ปัญหานี้ใหญ่นัก 6 ตุลาหรือพฤษภาทมิฬเทียบไม่ติดเลยหละ เพราะมันเป็นการขัดแย้งของคนในชาติโดยตรง ไม่ใช่ปัญหาคอมมิวนิสต์ เผด็จการหรือประชาธิปไตย มันเป็นแค่ข้ออ้าง หากมองให้ลึกตอนนี้คนไทยพร้อมจะฆ่ากันเองแล้วเพราะเค้าไม่ได้มองว่าทุกคนเป็นคนไทยอีกต่อไป แต่เค้ามองว่าใครเคารพใคร ถ้าไม่ได้เคารพคนเดียวกับชั้น แกผิด... ประเทศที่ประชาชนคิดเห็นไม่ตรงกันนั้นอยู่ได้ แต่ประเทศที่ประชาชนไม่รับความคิดเห็นคนอื่น ประชาชนไม่รักกันนั้นอยู่ไม่ได้... นี่คือเหตุผลหลักที่คนไทยยังไงก็ต้องการพระเจ้าอยู่หัว... เป็นผู้เดียวที่สามารถรวมทุกหัวใจไว้เป็นหนึ่งเดียวได้... มิฉะนั้นประเทศไทยจะต้องแบ่งเป็น 3 ซีกแน่นอน ว่าแต่คงจะบอกว่าหนึ่งเดียวไม่ได้แล้วสินะเพราะเริ่มมีคนออกมาแสดงทีท่าชัดเจนว่าจะล้มเจ้า หะหะ
ก็หวังว่าคนไทยจะผ่านวิกฤตินี้ไปได้นะ... แต่ด้วยสังคมที่เน่าเฟะ บ่มเพาะความคิดแย่ๆตลอดไม่ว่าจะเป็นการยกย่องคนเลว ยกย่องคนรวย กดขี่คนจน สื่อก็เอาแต่ยั่วยุ หน้าหนังสือพิมพ์นับวันได้ที่จะลงอะไรดีๆ วันๆมีแต่ข่าวคนฆ่ากันตาย ดาราคนไหนเลว คนไหนคลิปหลุด ต้องตีข่าวกระจาย... ใช่ฮะ... มันเป็นปัญหาที่ "สังคม"... ยิ่งฟังยิ่งเศร้า บางทีการปล่อยให้เสื้อแดงเผาเมืองแล้วเริ่มต้นใหม่ทุกอย่างก็อาจจะดีก็ได้ หะหะ #เพ้อเจ้อ
ยังไงปัญหานี้อาจจะยาวมาก ยาวจนเราไม่สามารถแก้ไขได้ใน 10-20 ปีนี้ สิ่งที่พวกคุณจะทำได้คือ "สอนลูก" และ "ให้ความอบอุ่นกับเค้าอย่างเต็มที่" เด็กรุ่นต่อไปเป็นความหวังสุดท้ายแล้ว ถ้าเด็กรุ่นต่อไปยังเป็นแบบนี้ ขวานทองคงเป็นแค่อดีต... และคงจะกลายเป็นแค่เพียงหน้าหนึ่งในหนังสือประวัติศาสตร์ว่าด้วยเรื่องของ "ประเทศล่มสลาย"
จากนี้จะเกิดอะไร? (ไม่ได้ดูดวงนะ คิดไปเองล้วนๆ ไม่ต้องตื่นตระหนก ถ้าอะไรไม่ตรงก็อย่าว่ากัน)
คนไทยจะลืมและกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ก็จะมีคนปลุกปั่นอยู่ตลอด
คนใหญ่คนโตไฮโซและแกนนำทุกสีตกอยู่ในอันตราย
การล้างแค้นโดยใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือจะยังมีอยู่ต่อเนื่อง
การเมืองจะไม่มีวันจบจนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ความรุนแรงในสังคมจะเพิ่มพูนทวีแต่ก็จะจบลงไปเพราะความหิวโหย
การแบ่งฟักแบ่งฝ่ายจะมีอยู่ในทุกอณูสังคม แม้แต่เพื่อนร่วมสถาบันก็ทะเลาะกันเพราะคิดไม่ตรงกัน
คนจำนวนมากอารมณ์จะอยู่เหนือเหตุผล รวมถึงเด็กรุ่นต่อไป
เศรษฐกิจย่อยยับ ถึงอีกไม่นานจะมีคนกลับมาเที่ยวแต่ภาคธุรกิจจะไปอยู่ที่เวียดนามหมดสิ้น ก็ยังถือว่าโชคดีนะที่ประเทศไทยมีทรัพยากรดี ความย่อยยับเลยมีจุดสิ้นสุด ไม่งั้นคงวินาศ แต่ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำนี้เองเป็นช่วงที่สำคัญให้เวียดนามแซงหน้าเราไป และจากนั้นจะไม่มีใครสนใจไทยอีก
ความต่างของชนชั้นจะชัดเจนขึ้น คนรวยจะรวยขึ้นคนจนจะจนลง ก่อให้เกิดปัญหาระยะยาวอีก
ความหิวจะทำให้คนไทยยอมขายทุกอย่างแม้แต่ชาติตัวเอง ต่างชาติจะเข้ามาครอบครองหลายกิจการ คนไทยก็จะดูเหมือนรวยขึ้นแต่จะรวยขึ้นแค่ไม่ถึงปีจากนั้นจะจนลงจนลง
ความหิวโหย(ในเงินทอง) ความพอกพูนของหนี้สินจะมีมากขึ้นอย่างน่ากลัว
จำนวนคนฆ่าตัวตายเพราะเครียดเรื่องหนี้สินเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สุดท้ายทุกอย่างจะดีขึ้น ไม่ใช่เพราะอะไร เพราะความเป็นคนไทยนั่นแหละ ชิลจัด ลืมง่าย แต่ก็ด้วยความเป็นคนไทยก็จะทำให้ประเทศไม่สามารถเจริญแบบยั่งยืนได้
ภัยธรรมชาติจะเป็นผู้กู้วิกฤติและผู้สร้างวิกฤติไปพร้อมกัน
เซ็นทรัลเวิร์ลและพารากอนเปิดให้บริการ... เย้!
สุดท้ายนี้ขอทิ้งคำถามว่า "ใครจะได้เป็นนายกคนต่อไป" และ "ถ้าเค้าได้เป็นจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป?" แล้วจะเห็นทางว่าอนาคตของเมืองไทยจะเป็นยังไง...
สุดท้ายจริงๆ อยากฝาก Blog นี้ไว้ให้อ่านกันอีกรอบ "90-10 Principle" ตอนนี้คนที่ได้รับผลกระทบอยู่ก็เหมือนกับได้รับส่วน 10 ไป แล้วอีก 90 คุณจะทำยังไง ขึ้นอยู่กับคุณแล้วหละ :)