และแล้วก็สอย iPad มาจนได้เลยมามินิรีวิวให้ฟังกัน (คาดว่าจะมินินะเพราะไม่รู้จะเขียนอะไร)

ช่วงตัดสินใจ

ตอนแรกคิดหนักมากเลยว่าจะเอา iPad WiFi หรือ iPad WiFi+3G ดี โดยสิ่งที่แตกต่างกันของสองแบบนี้คือ

1. ราคา (ต้องเลือกระหว่างแพงกับแพงห่าๆ)

2. แน่นอน มี 3G หรือไม่มี

3. มี GPS หรือไม่มี (สำหรับรุ่น iPad WiFi จะไม่มี GPS ในตัว)

4. หน้าตา (ตัว WiFi+3G ส่วนบนของด้านหลังจะมีแถบสีดำๆอยู่)

หลังจากคิดแล้วคิดอีกคิดนั่นคิดโน่นคิดอะไรนักหนาไม่รู้!! เลยตัดสินใจซื้อ iPad WiFi มาด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1. คนมันจน มีตังค์แค่นี้อ่ะ

2. อยากได้เร็วๆอ่ะ!

3. 3G หรอ? หุหุ เรามีเครื่องมือวิเศษ!! Nokia E72 (แบตมหาอึด) ที่ลงโปรแกรม JoikuSpot Premium (300 บาท) ซึ่งมีไว้แชร์สัญญาณ 3G ออกเป็น WiFi ไว้ ... คิดออกรึยังว่าใช้งานยังไง? ถูก!! ก็ต่อ WiFi เข้า E72 ไปสิ :D ตอนนี้ iPad เราก็เลยกลายเป็น iPad + WiFi (3G) ไปโดยปริยาย คริคริ ^ ^ พอทำแบบนี้ได้ก็เลยไม่เห็นความจำเป็นต้องใช้ iPad WiFi + 3G อีกต่อไปเลยทีเดียว

4. GPS หรอ? ช่างมัน ไว้ก่อน!!

หลังจากตัดสินใจได้ว่าจะเอาตัวไหนก็ไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆเพราะที่เมกาขายดีมาก กว่าจะได้ก็อีกประมาณ 2-3 อาทิตย์ ระบบบิลลิ่งก็ค่อนข้าง Strict ข้อห้ามเยอะมาก ฝากเฟอร์ซื้อก็โดน Cancel Order ซะงั้น!! สรุปแล้วคือสั่งไม่ได้ ก็เลยหาซื้อในไทย จนไปได้ของพี่คนนึงมาในราคาสองหมื่นกว่าๆซึ่งถือว่า Reasonable สำหรับเนยแล้วหละ แล้วก็ได้ของมาวันนี้เรียบร้อย :)

First Touch

วินาทีแรกที่ได้จับกล่อง iPad หยิบขึ้นมา... ภาพผู้ชายล่ำๆกล้ามเป็นมัดๆก็โผล่ขึ้นมาในหัว "กูมีที่ยกน้ำหนักเพิ่มแล้ว!!" คือว่าไม่รู้จะหนักไปไหนค้าบบบบ สำหรับคนอื่นอาจจะบอกว่าไม่หนักถ้าถือเล่นๆ แต่สำหรับเรามันหนักมากอย่างมีนัยสำคัญแม้จะถือมันเล่นๆ ยิ่งได้ถือมันเล่นนานหน่อย (สัก 2-3 นาที.. นี่นานแล้ว!!) ปรากฎว่า "เมื่อย" เรียกได้ว่า เมื่อยอย่างจริงใจและจริงจัง จีรังและยั่งยืน!! อันนี้ไม่ได้โม้พูดจริงๆ ตอนนี้ก็ยังปวดแขนอยู่ -_-

แกะกล่อง

แกะเลยละกัน!!

สรุป กล่องออกจะใหญ่แต่เป็นพื้นที่ใส่ลมไปซะเกือบครึ่ง -*-

เล่นๆๆๆ

ตอนแกะออกจากกล่องก็หยิบมันขึ้นมา ทัศนารอบๆตัว อื้มๆๆๆ

- มันคือ iPod Touch กินเห็ด (ยืนยันจาก 3 ปากที่ได้เห็นเครื่องนี้)

- บางกว่าที่คิดไว้

- จอไม่คม(อย่างที่คาดไว้ไม่มีผิด) เห็นรอยแตกลายงาชัดเจน แต่จริงๆจุดนี้ไม่ได้ซีเรียสอะไร แค่พอได้เล่นจอชัดๆมาบ้าง แล้วจะนิสัยเสียแบบนี้แหละ

- ลองรูด ปี้ดๆๆๆ จอ Refresh เร็วนะ แต่ก็ยังเร็วไม่พอ ทำให้เกิดภาพติดตาน่าปวดหัวได้อยู่ ถามว่าเร็วช้าแค่ไหน ก็คงเท่ากับ Refresh Rate ของ iPhone แหละ (เป็นอีกนิสัยเสียนึงหลังจากได้เล่นมือถือจอ Refresh Rate สูง)

- หนัก (ยังคงติดใจเรื่องนี้อยู่)

App Store เจ้ากรรม

เกิดเป็นคนไทยไม่ได้เป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยี เลยต้องเป็นลูกเมียน้อยไปวันๆ (ตัดพ้อ) อื้ม อืม iPad เข้า App Store ไม่ได้ -_-

แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะลงโปรแกรมไม่ได้เลย แต่เราต้องลงผ่านคอมพ์หนะ โดยเปิด iTunes แล้วก็ไปโหลด App จาก App Store จากนั้นก็ Sync App ลง iPad ได้เล้ยยยย

ทั้งนี้เมื่อพูดถึง App ใน App Store แล้ว ต้องบอกเลยว่าหา App ดีๆที่เหมาะสมกับความเป็น iPad ได้ยากมาก App ส่วนใหญ่เหมือน App บน iPod Touch กินเห็ดมา เหมือนยังไม่มี Know How ด้านการออกแบบโปรแกรมบน Tablet กัน ที่มีคุณภาพก็มีอยู่บ้างแต่น้อยมากและส่วนใหญ่ไม่ฟรี เปิดไปดูมีแต่ Paid App Paid App เลยคาดว่าคงเพราะ iPad กับ Paid เป็นคำที่มีตัวอักษรอยู่ในชุดเดียวกัน เอวัง

ทั้งนี้คงต้องรอให้ iPad มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยก่อน น่าจะโหลด App ได้มากกว่านี้ (ลูกเมียน้อยรำพัน)

ระบบจัดการไอคอนบน iTunes

ไม่ได้เล่นไอโฟนนาน ไม่รู้ว่าเวอร์ชั่นล่าสุดมันทำแบบนี้ได้รึเปล่า แต่ว่า iPad ทำได้

มันคือระบบการโยกย้ายไอคอนผ่านคอมพ์ได้เลย ซึ่งสะดวกกว่าการไปย้ายใน iPad สี่พันสี่ร้อยแปดสิบห้าเท่า

วีดีโอรีวิว

เขียนไปเขียนมา... ขี้เกียจเขียนแล้ว!! อัดวีดีโอเทสต์ให้ดูเลยละกัน จัดไป!!

ทัศนคติโดยรวม

ตั้งแต่จับมา ได้เห็นอะไรหลายอย่างหลายมุมมองจากเจ้า iPod Touch ยักษ์เครื่องนี้

- หนัก ยิ่งใช้ยิ่งหนัก ยิ่งใช้ยิ่งหนัก!!

- ตีหัวเจ็บ...

- สองข้อบนนี้อาจจะฟังดูพูดเล่น แต่มันหมายถึงเป็นสินค้าที่ไม่เหมาะกับ End User อย่างแรง การพยายามรวมเอา Mobility กับ Computer เข้าด้วยกันเป็นความพยายามที่ดี แต่ถ้า Mobility แต่พกพาไม่ได้ถือไม่ไหวก็เปล่าประโยชน์

- เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะกับงานด้าน Business เช่นการเอาไป Present งานหรือการเอาไปใช้เป็นอุปกรณ์บลาๆๆในโรงแรม ภัตตาคารหรูๆ สร้าง Image ให้กับสถานที่นั้นๆได้ดีนักแล

- เล่นเกมก็พอเล่นได้ แต่การจะพก iPad เพื่อเล่นเกม... บ้า!!

- เกมประเภท Tap Tap ที่จะดังใน iPad ต้องเป็นเกมตีกลองเป็นแน่แท้ ตะกี้เล่นไปเกมนึง รู้สึกเหมือนตีกลองจริงๆ

- ยอมรับว่าเหมาะกับการอ่านหนังสือ ถึงจะไม่สบายตาแบบ Kindle แต่ก็ถือว่าโอเคเลย สอบผ่าน นี่โหลด Comic มาอ่านหลายตัวอยู่ รู้สึกว่าประทับใจตรงจุดนี้ของ iPad ดังนั้นฟันธงเลยว่าสิ่งที่จะเกิดใน iPad คือ E-Book Reader (ที่ถือนานๆไม่ได้ เมื่อย... ยังเคืองจุดนี้อยู่!!)