0_< รู้สึกว่ามันเป็นเมืองที่น่าอยู่มาก ถึงแม้จะเหงา เนต">
"Yesterday is gone and Tomorrow may never come so.. Live for Today!!"
หนีหน้ามาปายวันสุดท้าย
6 Mar 2010 05:12   [5017 views]

เขียนถึงตอนนี้ถามว่ารู้สึกยังไง บอกตรงๆว่ารู้สึก "ตกใจ" ตกใจอะไรหนะหรอ? ตกใจที่เราอยู่ปายตั้ง 7 วันหนะสิ!! มันนานมากกกกกก ไม่นึกว่าจะนานขนาดนี้ >0<

แต่พออยู่ไปก็เริ่มผูกพัน เริ่มอยากอยู่ต่อเรื่อยๆนะ >_< รู้สึกว่ามันเป็นเมืองที่น่าอยู่มาก ถึงแม้จะเหงา เนตไม่ดีและไฟดับเป็นพักๆก็เถอะ (ซึ่งไม่เหมาะกับการทำงานด้านคอมพ์เลย)

สำหรับคืนสุดท้ายนี้เป็นคืนที่นอนหลับสบายที่สุด เพราะที่นอนและอากาศช่างสบายยยยยย (พี่เม่นพี่จี้ เปิดรีสอร์ทเถอะ!!) แต่มีสิ่งที่น่าพิศวงงงงวยอยู่อย่างนึงคือตอนตื่นนอนปรากฎว่ามีไฟเปิดอยู่ดวงนึง ทั้งๆที่ตอนนอนไฟทุกดวงถูกปิดไปแล้ว ถามหาคนเปิดก็ไม่มีใคร สุดท้ายเลยสรุปได้อย่างเดียว... อิเนยละเมอมาเปิดไฟแน่ๆ ว่าแต่ตอนไหนฟระะะะะ ไม่รู้ตัวเลยจริงๆอ่ะ (-_---")

เช้าวันสุดท้ายนี้เราประสบความสำเร็จอยู่อย่างนึง... ตื่นเช้าได้แล้ว!! โดยตื่นประมาณ 7 โมงราวๆนั้น แล้วก็ยกพวกไปกินโจ๊กแสนอร่อย(มั้ง)กัน แต่ที่อร่อยจริงๆหนะ ปาท่องโก๋ตรงข้ามร้านโจ๊ก!! ชอบมากเลย ชิ้นเล็กๆกรอบๆ สุดยอดดดดดด นั่งกินอยู่พี่เม่นพี่จี้ก็ตามมาสมทบ แต่เราไม่อยากเป็นกขค.ก็เลยกลับห้องไปนั่งทำงานกัน (ส่วนเนยหลับต่อนิดหน่อย แหะๆ)

ทำงานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (รู้สึกเริ่มอยู่ตัวกับปายแล้ว ทำงานได้เยอะขึ้น แต่มันวันสุดท้ายแล้ว แง้ T_T)

จากนั้นตอนเที่ยงก็ไปกินข้าวกันที่มุสลิมโฮมเมด โดยสั่งจาปาตีแกงเนื้อแกงไก่มากินกัน หม่ำๆๆๆๆๆ ไม่ได้กินอะไรแบบนี้มาตั้งแต่กลับจากอินเดีย เพียงแต่ที่นี่รสชาติไม่เข้มข้นเท่าไหร่ แต่น่าจะเหมาะกับคนไทย(และฝรั่ง)แหละนะ เพียงแต่ไม่จี๊ดสำหรับเรา

กินเสร็จก็ได้เวลารถออก (14:00 น.) ไปถึงตรงเวลาพอดีเด๊ะะะ แต่กลับเป็นคนแรกที่ขึ้นรถ :S คนอื่นไม่ยอมขึ้นรถ นั่งออกันอยู่นั่นแหละ มนุษย์เราก็แปลก!!

งวดนี้ขนของกลับเยอะเหมือนกันเพราะเราทำหน้าเป็น Lost and Found man ยกของที่คนลืมๆเอาไว้กลับไปให้ท่านๆ หนักทีเดียวววว

นั่งรถคราวนี้ไม่ลืมที่จะกินยาแก้เมารถดักไว้ ซึ่งได้ผลดี...สำหรับน้องธีนะ ส่วนข้าพเจ้าไม่เวอร์คแฮะ ไม่ค่อยหลับ ^^" (เพราะก่อนหน้านี้หลับไปเยอะมาก) แต่ก็หลับบ้างมึนบ้างตามประสายาออกฤทธิ์ ผลก็เลยไม่เมารถ เย้ๆๆ

(สามชั่วโมงผ่านไป)

17:00น. รถตู้ถึงอาเขต... ตรงเวลาเด๊ะ!! เทพมากอ่ะ

จากนั้นก็ฝากของเอาไว้ที่นครชัยแอร์และออกไปหาอะไรกินกันที่ริมน้ำปิง โดยร้านที่เลือกคือ Good View ติดกับ River Side เรียกว่าบรรยากาศดีมากมาย

เพียงแต่สภาพตอนนั้น... เมายาแก้เมารถมาก -_- เบลอกันทั้งคู่เลย มองอะไรทำอะไรก็มึนไปหมด แต่ก็ยังมีสติพอจะสั่งอาหาร โดยสั่งมา 3 อย่าง ได้แก่ ยำปลาดุกฟู ต้มยำกุ้ง และก็หลนกุ้ง

นั่งกินกันไปแบบงงๆ กินเสร็จก็สั่งเช็คบิล ยิ่งงงเข้าไปใหญ่เมื่อเจอลูกมั่วของพนักงานเข้า!!! เมื่อตอนจ่ายเงินธีจ่ายด้วยบัตร Citibank ที่มีโปรโมชั่นลด 10% แต่พนักงานกลับไม่ได้ทำเรื่องลดให้ พอมาถึงโต๊ะก็ทำหน้าตาเลิ่กลั่กพร้อมกับยัดเยียดให้ธีเซ็น กว่าจะคุยกันรู้เรื่องก็ล่อเป็นนาที ไล่ให้เค้ากลับไป Void อันเก่าทิ้งแล้วทำใบใหม่ที่ลดราคาแล้ว เสียเวลาไปอีกร่วม 5 นาที (หรือมากกว่า) เซ็งได้ถ้วยอ่ะ ร้านออกจะใหญ่โต อาหารก็โคดของโคดแพง ทำงานกันยังไงว้าาาา ขอด่าออกอากาศ!!

จ่ายเงินเสร็จก็ดูนาฬิกา โอ้ววว ทุ่มครึ่งแล้ว!! (รถออกสองทุ่ม) แต่ก็ไม่ตื่นตระหนกตกกะใจมากเพราะอาเขตอยู่ห่างแค่ 2 โลเท่านั้น เลยเรียกรถแดงขึ้นหน้า Good View เลย แต่... โดนรถแดงหักหลัง พาไปอ้อมเมืองซะงั้น!! กว่าจะถึงอาเขตก็ประมาณ 19.55 น. เรียกว่าลุ้นกันตัวโก่ง

แต่เราก็ไม่ลืมของฝาก... น้องธีเลยแยกไปจัดการกระเป๋าให้ ส่วนเราก็ไปซื้อแคบหมูในอาเขตเอาไปฝากคนที่กรุงเทพฯ ทุกอย่างทำไปอย่างรวดเร็ซ เสร็จใน 2 นาทีเท่าน้านนนน เราก็เลยขึ้นรถกันอย่างสบายใจและหลับยาวตลอดทาง... (เฉพาะน้องธีนะ ส่วนเราหลับๆตื่นๆตลอดเวลา)

บทรถก็มีเรื่องเซ็งๆอยู่บ้างคือมีอาม่าคนนึงพูดมากที่สุดในโลก เสียงดัง พูดไม่หยุดและพูดแต่ละเรื่องก็ทำให้คนอื่นอึดอัดมาก อยากหันไปด่ามากๆ แต่ก็ยังไม่กล้าพอ เหอะๆ โชคดีที่สุดท้ายหมดแรงหลับไปเองซะก่อน

และด้วยความที่เรานอนไม่หลับ เลยมีโอกาสได้ดูหนังเรื่องจ๊ะเอ๋ที่ปอยเล่นเป็นผี ดูแล้วรู้สึกกลุ้มใจกับหนังไทยยิ่งนัก... หนังแต่ละเรื่องที่ทำออกมามันก็ไม่ใช่ง่ายๆนะ แล้วทำไมถึงทำออกมาได้ห่วยถึงเพียงนี้ มันไม่ใช่หนังที่ดูเพลินๆ แต่เป็นหนังที่ดูยังไงก็ไม่เพลิน กลุ้มใจวงการหนังไทยจริงๆ -0-

แล้วสุดท้ายเราก็หลับไปจนได้ แต่ปวดขามากเพราะที่นั่งไม่เหมาะกับตัวเรา เลยหลับๆตื่นๆตลอดทาง

(xx ชั่วโมงผ่านไป)

5:30 น. เดินทางถึงหมอชิตโดยสวัสดิภาพ ลงเสร็จก็จัดแจงเข้าห้องน้ำเรียบร้อยและแยกย้ายกันกลับบ้าน ด้วยความที่ของเยอะเลยกระโดดขึ้นแท็กซี่ทันที บรึ๋นนนนน ถึงบ้านก็นั่งทำงานต่อจนถึงบ่ายก็ออกไปประชุมและทำธุระปะปังมากมาย

เป็นอันจบการเดินทางที่แสนยาวนาน(แต่ชิลล์)ครั้งนี้

ขอบคุณ

ขอบคุณพี่เม่นพี่จี้ที่ทำให้วันเวลาดีๆเหล่านี้เกิดขึ้นมา ขอบคุณที่ทำให้รู้คุณค่าและความสวยงามของความรัก

ขอบคุณพี่อาร์ต พี่อาร์ม ณิชและปุ้ย ที่ไปร่วมทุกข์ร่วมสุขกันตลอดหลายวัน

ขอบคุณธีที่ไปร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมากกว่าข้างบนประมาณสองเท่า

ขอบคุณทุกท่านที่ไปร่วมงานและทำให้ข้าพเจ้ารู้จัก "มิตรภาพ" ที่แท้จริง

ขอบคุณแสงแดดที่ทำให้รู้ว่าจริงๆหน้าข้าพเจ้าก็ไม่ด้านนะ :S

ยังมีคนให้ขอบคุณอีกมาก แต่คงไม่สามารถพูดได้หมด ยังไงเค้าก็รักทุกคนน้าาาา จุ๊บ จู๊บบบบบ หมั่วะ!

บทความที่เกี่ยวข้อง

Feb 26, 2010, 01:27
7883 views
หนีหน้ามาปายวันที่ 1
Mar 7, 2010, 19:16
36678 views
ความหมายของสัมผัสที่หก
0 Comment(s)
Loading