วันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน มาปายแป๊บๆก็ถึงวันที่สี่แล้ว (แต่วันที่ผ่านๆมายุ่งมาก วันนี้เพิ่งมีเวลาเขียน เลยขอทยอยอัพวันที่ 2, 3 และ 4 ให้อ่านกันเป็นฉากๆไป :D)
วันที่ 2
วันที่สองนี้เรียกว่าวันเที่ยว เพราะวันแรกยังเหนื่อยเกินจะเที่ยวไหว ส่วนวันถัดๆไปก็ต้องร่วมงาน+ช่วยงานพี่เม่นก็เลยไม่มีเวลาเที่ยว ดังนั้นวันนี้จึงเที่ยวแหลก!!
เริ่มจากตอนเช้า ตั้งนาฬิกาไว้ตีห้ากว่าๆ.... กะจะไปกินโจ๊กตอนเช้าเพื่อกินบรรยากาศ... แต่ทันทีที่ออกจากผ้าห่ม... เราก็กระโจนกลับเข้าผ้าห่มทันที!! มันหนาวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เช้าวันนั้นคาดว่าน่าจะสัก 8-10 องศาเห็นจะได้ สุดท้ายเลยลาก่อน ช่างหัวโจ๊ก!!!
กว่าจะตื่นอีกทีก็ 10 โมง อากาศเริ่มอุ่นขึ้นแล้วเราก็เลยจัดกระเป๋าย้ายของจากหลับฝันดีไปยังพริบตา (Pripta) ซึ่งเป็นสถานที่ที่จัดพิธีตอนเช้า ปุ้ยต้องมาแต่งหน้าเจ้าสาวให้ที่นี่ พวกเราเลยต้องพักที่นี่ สำหรับชื่อพริบตานี้ไม่ได้มาจากกระพริบตาแต่อย่างใด แต่มาจากการรวมกันของคำสองคำได้แก่ ปาย กับ ลิบตา รวมกันแล้วเป็นพริบตาซึ่งแปลว่าสถานที่ซึ่งอยู่ในปายเพียงแต่ไกลลิบตาาาาา ซึ่งถูกต้องทุกอย่าง เพราะอยู่ห่างจากตัวเมืองถึง 7 กิโลเมตร!! เรียกว่าบึ่งมอเตอร์ไซค์เหนื่อยอ่ะ แถมๆๆๆ เราต้องแบกกระเป๋าใหญ่ๆทั้งหมด 6 ใบขึ้นรถมอเตอร์ไซค์คันน้อยกระจายไปสองคัน เรียกว่าสนุกสาดดดอ่ะครับ ลำพังแค่ขี่ก็จะล้มแล้ว ต้องแบกกระเป๋าไปด้วยแบบนี้นี่... เป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมลงเลย ~0~ (รอดมาได้ไงฟระ)
ระหว่าง Check-In ที่พริบตา พี่อาร์ตและพี่อาร์มทีม MADz ก็ขับรถตามมาสมทบพอดี ซึ่งทั้งสองก็เปิดห้องในพริบตานอนด้วยกันนั้นเลย ดีจังงง >_<
สำหรับห้องที่พริบตานี้ถือว่าสุดยอดอ่ะ ห้องกว้างใหญ่มาก มีเตียงให้สองเตียงนอนได้สี่คน Facility ทุกอย่างก็พร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น แอร์ ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำ น้ำร้อน(ย้ำว่าร้อน ไม่ใช่อุ่น ถ้าผสมไม่ดีมีไข่สุก!) และที่ชอบที่สุดคือออออ อ่างน้ำแร่ที่ต่อท่อมาจากโป่งน้ำร้อนภายในห้อง วู้วววว (แต่เหมือนมันจะไม่ได้เกิดมาเพื่อเราเท่าไหร่ ยังไงหนะหรอ... ไว้รออ่านตอนท้ายๆละกัน ฮ่าา)
หลังจากทำโน่นทำนี่เสร็จแล้วก็ออกจากที่พักโดยแยกกันไปสามคันคือรถพี่อาร์ต มอไซค์เนยและณิช (ซึ่งจริงๆแล้วอัดไปในรถก็ได้แต่ไม่เอา เช่ามอไซค์มาแล้ว เอาให้คุ้ม!) แล้วก็ร่อนไปหมู่บ้านจีนยูนนานเพื่อกินขาหมูน้ำแดงกัน โดยรวมระยะทางจากพริบตาแล้วก็ราวๆ... 12 กิโลเมตรเท่านั้นเอ๊ง!! ไอ่รถหนะไม่เท่าไหร่หรอก แต่มอไซค์เนี่ย ขี่กันหัวแทบล้านอ่ะ :S
เอาน่า แต่ก็ถึงโดยปลอดภัย ^ ^
พอถึงแล้วก็เดินแบบงงๆ ทำไมหมู่บ้านมันเปลี่ยนไป จำแทบไม่ได้!! เลยเดินไปกินร้านขาหมูยูนานเจ้าต้นตำรับ แต่เป็นร้านที่ไม่เคยนั่งมาก่อนด้วยความเข้าใจว่าหมู่บ้านเปลี่ยนไปแล้ว แต่ด้วยความเอะใจเราเลยไปเดิน Survey ทั่วๆดู จึงพบว่าเราไปผิดร้าน!! แม่เจ้าาาาา ความผิดเฮาเอง ฮืออ T_T
ยังไม่พอ ปรากฎว่าคนที่ร้านสั่งอาหารครบแล้ว เราเลยต้องเดินไปบอกว่าขอ Cancel ทุกรายการและขอแค่ขาหมูก็พอน้าาาา สุดท้ายก็เป็นตามนั้น แล้วก็รีบจัดการให้เสร็จภายใน 10 นาทีเพื่อย้ายไปอีกร้านนึงตามที่หวังไว้
(10 นาทีผ่านไป)
(เช็คบิล)
(เดินๆๆๆๆ)
(ไปนั่งร้านดินที่ทุกคนต้องไปตามธรรมเนียม)
(สั่งอาหารๆๆๆ ราวกับไม่ได้กินข้าวมาแต่เช้า [ซึ่งก็จริง])
(อาหารมา)
(ชิม)
... ... ...
ร้านแรกที่เรานั่งผิดนั้นอร่อยกว่า อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ToT
รู้สึกผิดแทบเอาหัวมุดลงไปในดิน อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก แต่ก็กินๆกันไป(ด้วยใจเศร้าหมอง) จึงขอใครเตือนทุกท่านว่า ถ้าจะไปกินขาหมูยูนานอร่อยๆเนี่ย ไปร้านที่เลยร้านดินและติดถนนไปหน่อยดีกว่า มันเขียนว่าต้นตำรับหรืออะไรเนี่ย ขาดแต่บรรยากาศที่น่านั่งเท่านั้นเอง แต่รสชาติอาหารเทพกว่ามาก ฮือออออ
พอเสร็จกิจ... เอาใหม่ คำศัพท์เซะซี่ไป พอกินเสร็จก็พาท้องอิ่มๆไปชวนอ้วกกันที่ชิงช้าโบราณ คราวที่แล้วที่ไปกับแฟนเก่านั้นเราไม่กล้าขึ้นเพราะไม่ชอบเล่นอะไรพวกนี้ แต่คราวนี้ชีวิตเปลี่ยนไปแล้วววว เราขอขึ้นเองเลยโดยไม่ขัดขืน ฮ่าๆ ซึ่งเพิ่งรู้ในตอนหลังว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิด! ^^" ชิงช้าที่ดูไม่มีอะไรนั้น จริงๆแล้วเสียวมากกกกกกกกกกก (อ๊างงงงง) เพราะทุกอย่างไม่มีอะไร Secure เลย แขนต้องล็อคไว้ในท่อนไม้ที่หมุนๆ แถมคนตัวเบาอย่างเราตัวก็ลอยจนเกือบตกเก้าอี้ทุกครั้งที่ถูกเหวี่ยง (เป็นปัญหาเดียวกับตอนเล่นรถไฟเหาะแล้วเกือบตกรถไฟเหาะในตอนเด็กๆจนเราฝังใจ) แต่ไม่ว่าเราจะอ้อนวอนขอลงยังไงเค้าก็ไม่ให้เราลง เราเลยต้องเกาะแน่นอีกแน่นอีก สุดท้ายตอนลงมาเลยได้รอยถลอกห้อเลือดติดแขนมาด้วยนิโหน่ย แต่ถ้าถามว่าสนุกมั้ยก็สนุกนะ แค่ไม่เล่นอีกแล้วววว ^^"
จากนั้นก็พุ่งไป Coffee in Love กันต่อ (วันเที่ยว คุคุ)
แต่ตอนนั้นสนุกสนานกันที่หมู่บ้านจีนยูนานนานไปหน่อย (สมชื่อหมู่บ้าน) เราเลยไปถึง Coffee in Love ตอน 6 โมงเย็น ร้านกำลังจะปิดพอดี แง้วๆ ก็เลยเน้นไปทางถ่ายรูปกันซะส่วนใหญ่ วิวสวยดีมากเลย ^^ และที่ตรงนั้นเองก็ได้แอบเด็ดดอกไม้เล็กๆไปกำนึงเพื่อเอาไปแต่งเบรลล์เจ้าสาว ฮว่าๆๆๆ ณิชปุ้ยลุยสวน!!
เสร็จจาก Coffee in Love ก็ไปต่อกันที่ถนนคนเดิน (เที่ยวมาราธอน) เดินเที่ยวกันนานมากกกกกกก มากกกกกกกก สุดท้ายได้อะไรไปบ้างจำไม่ได้ แต่คุ้นๆว่าเยอะ เหะๆ พอเดินเสร็จก็ควบมอไซค์กลับพริบตากันไป ซึ่งถือเป็นค่ำคืนที่ทรมานมากจริงๆ ไกลก็ไกลมืดก็มืดหนาวก็หนาวยังต้องขี่มอไซค์ผ่าลมหนาวแบบนี้อีก แม่เจ้า กว่าจะถึงที่พักนี่ถึงกับตัวหนาวสั่นกันเลยทีเดียว >_<
แต่เรายังหนาวไม่พอ... เราเลยออกไปช่วยพี่แหวว วีนนาทและน้องแนนที่กำลังจัดซุ้มดอกไม้กันอยู่ ซึ่งตรงนี้เราจึงได้ค้นพบตัวเองว่า... เราก็มีหัวทางด้านการจัดดอกไม้เหมือนกันนะ นั่งทำเพลินมากๆ >_< ต๊ายยยย ค้นพบๆ ๕๕๕
โดยหลักๆที่เราทำก็คือทำหัวเสาดอกไม้อันเล็กๆ(พรุ่งนี้คงเห็น) เค้าต้องการ 14 หรือ 16 อันจำไม่ได้ เราก็ทำไป 4 อันตามสไตล์เนยๆ รวมถึงมานั่งทำกรวยและดอกไม้สำหรับโปรยอีกด้วย และก็มีทำโน่นทำนี่อีกนิดหน่อย ก็นะ งานดอกไม้มันก็ยิบย่อยแบบนี้แล~~~
และด้วยการที่เรานอนที่พริบตานั่นเอง เราเลยได้รับมอบหมายจากพี่แหววให้เป็นคนรับผิดชอบเรื่องดอกไม้ทั้งหมดในตอนเช้า ซึ่งก็โอเคเลย ยินดีและเต็มใจ (เพราะค้นพบตัวเองเจอแล้วหนิ ๕๕๕)
จัดดอกไม้เสร็จตอนเที่ยงคืนพอดีก็ขอตัวกลับเข้าห้องเพื่อกระโดดลงอ่างน้ำแร่(ซึ่งใช้ให้เพื่อนปุ้ยเปิดเตรียมรอไว้แล้ว) ผลคือ... น้ำเต็มบ่อแล้วเย้ๆ แต่... ทางโรงแรมปิดวาล์วน้ำไปแล้วเพื่อส่งน้ำไปให้หมู่บ้านใกล้เคียง แง้~~~ ยังไม่พอเคราะห์ซ้ำกรรมซัดหนักเข้าไปอีกเมื่ออ่างที่แช่นั้นเกิดรั่ว ทำให้น้ำค่อยๆไหลออกจากอ่างไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ สุดท้ายเลยต้องแช่กับธีสองคนเพื่อเพิ่มความสูงน้ำเลยพอยืดความนานได้นิดนึง
ถ้าตัดเรื่องความซวยเรื่องน้ำแร่และอ่างไปแล้ว บรรยากาศถือว่าดีมากเลย นอนแช่แล้วเงยหน้าขึ้นไปก็จะเห็นพระจันทร์ดวงโตๆยิ้มให้อยู่ >_< นอนแช่ไป 30 นาทีได้แล้วก็ขึ้นมาอาบน้ำแล้วกระโดดขึ้นเตียงนอนอย่างมีความสุข พร้อมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตี 5 เพื่อเตรียมงานตอนเช้าทั้งผู้ชาย(จัดดอกไม้)และผู้หญิง(แต่งหน้าเจ้าสาว)
โอเค จบวันที่ 2 แบบลวกๆแล้ว ขอโทษที่ไม่มีภาพเพราะตอนนี้ไม่สะดวกตัดต่อภาพเท่าไหร่ ไว้รออ่านวันที่ 3 เร็วๆนี้จ้า จุ๊บจุ๊บบบบ :D