ก็อย่างที่บอกใน Blog ก่อนว่ามีธุระที่สเปนนิดหน่อย แบบว่ากะจะไปกินข้าวเที่ยงแล้วกลับ... เอิ่ม.. ล้อเล่น -_- นั่นแหละ ไปงาน Mobile World Congress หนะ
ช่วงนี้เลยต้องวุ่นวายกับการไปขอวีซ่า นะ ใครเคยขอวีซ่าก็คงรู้ว่ามันวุ่นวายแค่ไหน แค่เอกสารที่เค้าต้องการก็มีเยอะมาก แล้วก็หายากทั้งนั้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นจดหมายเชิญ ต้องให้เค้าร่างให้ กว่าจะเสร็จก็ล่อไปหลายวันอยู่ แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ยกเว้นอย่างนึง... เป็นเอกสารที่เป็นปัญหาหนักอกเราเลย หลักฐานการทำงานนั่นเอง (-_--") ก็ข้าพเจ้าเป็น Freelance แล้วจะไปเอาหลักฐานที่หนายยยยย ก็เลยใช้สมุดบัญชีถ่ายย้อนหลัง 6 เดือนไปยื่นแทน (ถ่ายไป 10 กว่าหน้าอ่ะ บัญชีมันจะวิ่งเยอะแยะอะไรนักหนาไม่รู้) โชคดีที่พอมีเงินอยู่ในบัญชีบ้าง
อาทิตย์ก่อนก็เลยเอาหลักฐานทั้งหมดไปยื่นที่สถานฑูตสเปน ณ ตึก Lake Ratchada แถวๆศูนย์สิริกิติ์ เช้าวันนั้นกำลังจะออกไปยื่นเรื่องละ เพิ่งนึกได้ว่า... ลืมอัพเดตสมุดบัญชี!! แว้กกก คือถ่ายหมดเล่มแล้ว แต่หน้าสุดท้ายยังไม่อัพเดต ก็เลยต้องไปอัพที่จุฬาฯก่อนแล้วก็ถ่ายเอกสาร แล้วถึงไปที่สถานฑูต
ทำการอัพบุ๊คเรียบร้อย ถ่ายเอกสารเรียบร้อย แล้วก็รีบตรงดิ่งไปที่ตึก Lake Ratchada ทันที ก็ปรากฎว่าไปถึงราวๆ 8.45 น. อย่างไม่น่าเชื่อ (สถานฑูตเปิด 9 โมง) ด้วยความลน... ขึ้นผิดชั้นอีก - - เลยต้องไปเปิดไอโฟนนั่งหาว่ามันอยู่ชั้นไหนกันแน่ พอได้รู้ว่าตกลงคือชั้น 23 ก็รีบพุ่งขึ้นไปทันที สุดท้ายก็ขึ้นไปถึงราวๆ 8.50 น. ในใจคิดว่าคนต้องเยอะมากแน่ๆ เพราะว่าเคยไปขอวีซ่าที่สถานฑูตเนเธอแลนด์ คราวนั้นไปถึงก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง แต่คนนั่งรอกันเยอะอย่างกับก่อม็อบประท้วง!!
แต่คราวนี้ผิดคาดแฮะ... มีคนอยู่ก่อนหน้าแค่ 2 คนเท่านั้นเอง!! ส่วนเราก็งงๆ ทำอะไรไม่ถูก ไปยืนดูว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง (นอยด์นิดๆ) ปรากฎว่าเจอตัวอักษรโตๆตัวนึงว่า "ค่าธรรมเนียม 2704 บาท กรุณาเตรียมให้พอดี" ... ฉิบหายยยย กระผมเตรียมมา 3000 บาท โดนด่าแหงม ก็เลยลงไปกดเงิน ขึ้นมาก็ 8.55 น. จำนวนคนก็ยังเท่าเดิม -_- ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเลยเนอะประเทศนี้ หะหะ
คราวนี้ทุกอย่างพร้อมละ เลยไปถามเจ้าหน้าที่ที่นั่งอยู่ว่าต้องทำอะไรบ้าง เค้าก็เอาบัตรประชาชนเราไปเขียนโน่นเขียนนี่ แล้วก็ให้บัตรคิวเรามา "คิวที่ 3" ดีใจจริงๆที่รีบไป
พอ ได้บัตรคิวก็ทำท่าจะเข้าสถานฑูต แต่ก็มีเสียงประกาศจากเจ้าหน้าที่คนนั้นบอกว่า "ห้ามเอามือถือเข้านะครับ ต้องฝากไว้ข้างนอก" เอิ่มๆๆๆๆ กลัวผมเอาไปถ่ายหนังซูมหรอครับ
แอบไม่เข้าใจนิดนึงอ่ะว่าทำไมต้องยึดมือถือไว้ เราก็พกไปเยอะซะด้วย แอบหวงหน่อยๆ แต่ก็เอาวะ! ยังไงก็ต้องทำวีซ่า สุดท้ายเลยต้องยอมเอามือถือไปกองฝากเค้าไว้ เฮ้อ!
หลังจากโบกมือลามือถือสุดรักก็เดินเข้าไปนั่งรอข้างใน อื้มๆ สถานฑูตที่นี่ต่างกับที่วาดไว้ลิบลับเลย เพราะสถานที่เล็กมาก จุได้แค่ 10-20 คนอ่ะ ระหว่างเพลิดเพลินกับการชมสถานที่ "คิวที่ 1 คะ" คนจากคอกยื่นเรื่องก็เรียกคิวที่ 1 ไปยื่นเอกสารที่เคาน์เตอร์ ใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 3-4 นาที (ทำงานเร็วมากครับ นับถือ) แต่คนแรกเหมือนว่าจะมีปัญหาเรื่องหลักฐาน เราแอบใจแป้วเล็กน้อย แล้วก็เรียกคิวที่ 2 ต่อ ก็ใช้เวลาไม่ต่างกัน แล้วก็มีปัญหาเรื่องหลักฐานอีกแล้ว!! ใจแป้วเข้าไปใหญ่ T_T ที่ใจแป้วเพราะแอบนั่งฟังเค้าคุยกันระหว่างรอ ประมาณว่าเค้าเชี่ยวเรื่องการไปยุโรปมาก ไม่น่าจะพลาดเรื่องพวกนี้ได้ แล้วเราจะรอดหรอออออ
ระหว่างนั่งใจแป้วอยู่นั้น "คิวที่ 3 คะ" ด้วยความนอยด์ พอไปถึงคอกเลยชิงบอกไปก่อนเลยว่า "ผมไม่มีหลักฐานการทำงานนะครับ เพราะเป็นฟรีแลนซ์" เค้าก็มองหน้าแป๊บๆแล้วก็ "ขอบัตรคิวใบเล็กด้วยคะ" แปลว่าไม่เป็นไรใช่มั้ย กลัวนะเนี่ย กลัวนะ ![]()
จาก นั้นเค้าก็นั่งเช็คหลักฐานทีละชุดๆ โชคดีที่เราแบ่งเป็นอย่างๆด้วยคลิปไว้ เลยดูเหมือนว่าเค้าจะทำให้อย่างอารมณ์ดี ^ ^ พอเค้าตรวจโน่นตรวจนี่เสร็จ แล้วก็บอกว่า "2704 บาทคะ" เหยๆๆๆ แสดงว่าหลักฐานครบใช่มั้ยๆๆ (ยังนอยด์อยู่) แล้วสักพักเค้าก็เอาใบรับวีซ่ายื่นให้แล้วบอกว่า "มารับวันที่ 28 นะคะ" กรี้ดดดดดดดดด อารมณ์ตอนนั้นถึงวีซ่าจะยังไม่ผ่านแต่ก็ดีใจจัดๆที่หลักฐานครบ สบายใจแล้วหละ ^^
สรุปการมาขอวีซ่าครั้งนี้ถือว่าโอเคเลยทีเดียว ผ่านไปอย่างมีความสุข และไม่น่าเชื่อว่าเราทำอะไรเองได้ด้วย :| คราวนี้ไม่ได้พึ่งพาคนอื่นเลย (ยกเว้นใจ๋ ให้ช่วยกรอกแบบฟอร์มหน่อย บางช่องแปลไม่ออก)
แต่ไปคราวนี้ก็ทำให้เข้าใจชีวิตมากขึ้นอีกหน่อย ก็คนที่สองนี่สิ บินวันที่ 28 นี้แล้ว แต่ดันเพิ่งมาขอวันนี้ สรุปคือยังไงก็ไม่ทัน ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ขนาดไม่เกิดกับตัวเองยังเครียดแทนเลย >_<
ล่าสุดก็ได้วีซ่ามาแล้ว ผ่านเรียบร้อย :) อนุมัติตั้งสามเดือนแหนะ กะว่าพอถึงเวลาจะยังไม่กลับ อยู่ขายตัวต่ออีกสักสองเดือน ได้ข่าวว่าได้เงินเยอะมาก ๕๕๕
อ้อ มีอย่างนึงที่เราสงสัยมาก ตอนเราไปรับวีซ่าก็ให้บัตรประชาชนคนหน้าสถานฑูตไปเหมือนตอนไปยื่นเรื่อง แล้วก็เข้าไปนั่งรอ... ปรากฎว่าคนในสถานฑูตสามารถหยิบ Passport ของเรามาถูกได้โดยไม่เห็นหน้าเรา! (ที่นั่งรอกับเคาน์เตอร์มันมีกำแพงบัง ไม่เห็นหน้ากัน) ไม่รู้เลยว่าเค้าสื่อสารกันยังไงระหว่างคนหน้าสถานฑูตกับคนในสถานฑูต :S



