นี่ก็อีกอันที่ก็อปมาจาก Blog เก่า เนื้อเรื่องต่อจาก Blog ที่แล้วก๊ะ เช่นกัน ใครเคยอ่านแล้วข้ามมมมม
ซ่อม Acer แบบเถื่อนๆ
ตั้งชื่อ Blog เท่ห์โคตรอ่ะ ๕๕๕ จริงๆแล้วไม่มีอะไรหรอก แค่คนที่ซ่อมทั้งหมดเป็นวิศวกรเท่านั้นเอง อิอิ
การซ่อมเครื่องครั้งนี้ต้องใช้บุคลากรวิศวกรฯถึงสี่คนด้วยกัน เนย เฟอร์ ชิว เอ็ม เปลืองสาดดดด -_- แน่นอนใช้คนเยอะขนาดนี้ การซ่อมต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ
ต่อจาก Blog ที่แล้วที่คอตก เปิดเครื่องด้วยวิธีธรรมดาไม่ได้ เปิดแล้วปิดไม่ได้ แถมเครื่องยัง Overheat อยู่ เปิดอะไรที่เป็นกราฟฟิคไม่ได้เลย นั่งวิเคราะห์กันสามสี่คนว่าจะต้องใช้อะไร เมื่อวานก็เลยดำเนินการเดินหาอุปกรณ์มาซ่อม สิ่งแรกที่เนยเล็งหาคือ แผ่นซิลิโคน เริ่มจากไปเดิน Fortune ปรากฎว่า... ไม่มีสักร้านเลย!! ตกใจนะเนี่ย เรานึกว่ามันมีทั่วไปซะอีก
ไม่ยอมแพ้ บ้าหอบฟางไปเดินพันธุ์ทิพย์ต่อ (เดินทางเหนื่อยจัดๆ ฮึ่มมมม) ไปถึงพันธุ์ทิพย์... ตรงไปร้าน Jedi ที่ชิวแนะนำมา... ปรากฎว่า... เค้า... ไม่รู้จัก!! ว้ากกกกก ตกใจๆๆๆๆ มันสูญพันธุ์ไปนานแล้วหรอนั่น ทำไมไม่รู้จ้ากกกกก ไม่ยอมแพ้ๆๆ เดินไปทุกชั้นทุกซอกทุกมุม ผลออกมาว่า... ไม่มีร้านไหนมีครับ!! ที่แย่เข้าไปใหญ่คือ กว่าครึ่งไม่รู้จักซิลิโคนแบบแผ่นครับ พี่น้องงงง
ทำอะไรไม่ได้ เลยต้องใช้แผนสอง เป็นแผนของเฟอร์คือ หาโลหะสอดเข้าไปใน space ระหว่าง Sink และ IC โดยให้ตัวโลหะนี้เป็นตัวนำความร้อนไปให้ Sink ทั้งนี้เพราะซิลิโคนไม่ได้ช่วยนำความร้อนในระยะห่างๆ มันแค่ช่วยในระยะสั้นๆเท่านั้น แต่ก็เป็นวิธีที่ไม่ค่อยอยากทำเลย เพราะกลัวช็อต แต่... ไม่มีทางเลือกแล้วเว้ย!! คุ้นๆว่าทองแดงมันนำความร้อนดีมาก แล้วเผอิ๊ญญญญเหลือบไปเห็นปลั๊ก เอามาส่องๆ เหอออออ ข้างในนั่นมันทองแดงนี่นาาาาา เลยซื้อมาอย่างไร้สติด้วยราคา 30 บาท =_= (อย่าหาว่าโง่เลยนะ แต่เดินมาจะสามชั่วโมงแล้ว ขาจะหักแล้วค้าบบบบ)
จากนั้นก็หอบเอาร่างกายอันแสนเหนื่อยล้าไปจุฬาฯ ไปถึงก็ทำการทุบทำลายปลั๊กทันที! ตอนแรกว่าจะใช้วิธีการสุภาพอ่อนน้อย หยิบเลื่อยมาเลื่อย ปิ๊ด ปิ๊ด ปิ๊ด... เหนื่อย -_- เลยไปคว้าค้อนเหล็กอันใหญ่ๆมา ตอกปลั๊กส่วนขาไว้ในพื้นดิน แล้วก็... ทุบ!! "ตุ๊บ!!" มีรอยแตกขึ้นมาหนึ่งรอย! เหยๆๆๆ ดูมีอนาคตกว่าเลื่อยเยอะเลยๆๆๆ ๕๕๕ (พิสูจน์แล้วนะครับ ความรุนแรงไม่ได้เป็นเรื่องแย่เสมอไป ๕๕๕) จากนั้นทุบไปอีกสองตุ๊บ ปลั๊กก็ถูกแยกชิ้นส่วนอย่างสมบูรณ์ สบายแฮ~~~
เอาคีมน้อยๆหยิบไส้ปลั๊กออกมา เอ๋... สีมัน... ทำไม... ไม่เหมือนทองแดงวะ?!? สมองอันน้อยนิดก็เลยคิดได้ทันที ใครเค้าเอาทองแดงทำปลั๊กวะ!! นี่มันทองเหลืองงงงง ว้ายยยยยย วิศวกร ๕๕๕ เซ็งรอบสอง แต่ก็ไม่ยอมแพ้ ให้น้องสรณ์ช่วยหาให้หน่อยว่าเจ้าทองเหลืองเนี่ยมันนำความร้อนดีแค่ไหน ระหว่างนั้นก็ทุบให้มันแบนๆ ทุบด้วยความเหนื่อยยาก น้องสรณ์ก็มารายงานว่า "มันนำความร้อนแย่กว่าทองแดงสามเท่าพี่" กึก! ทุบแทบตาย -_- อ๊ะ! เหลือบไปเห็นอลูแผ่นบางๆ (ก็ตอนนั้นอยู่ห้องโรบอทนี่นา) ก็เลยถามน้องสรณ์อีกรอบ น้องเค้าก็บอกว่า อลูนำดีกว่าทองเหลืองสองเท่าพี่... เย้!! เอาอลูนี่แหละ ฮ่าๆๆๆ
ก็นั่งตัดอลูไป ตัดออกมาขนาดใหญ่กว่าชิปการ์ดจอนิดหน่อย เพื่อป้องกันมันขูดคอร์ จากนั้นก็จัดการทาซิลิโคนแล้วก็แปะอลูแผนน้อยลงไป! แล้วก็ทาซิลิโคนอีกชั้นก่อนแปะ Sink ลงไป หากนึกไม่ออก... มันก็คือแฮมเบอร์เกอร์นั่นเอง อ่ะ เพื่อความสมจริง...
๕๕๕ เอาเข้าไป แต่อัตราส่วนระยะห่างนี่ได้เลยนะ คิดดูละกันว่ามันจะห่างขนาดไหน บุ่ยๆ
หลังจากสอดไส้อลูเสร็จก็จัดแจงประกอบกลับแบบง่ายๆ แล้วก็ลองเปิดเครื่องดู... เหยๆๆๆๆๆ ดูมีอนาคต!!! บู้ทได้ถึงหน้าวินโดวส์อย่างสบายๆ เปิดโน่นเปิดนี่เล่นได้ ดีใจๆๆๆๆๆ >_< ไหนลองเปิดเกมดูดิ๊~~~ เล่นๆๆๆๆ เล่นได้ครึ่งเกม... ดับ -_- บุ่ยๆๆๆ ความดีใจดับวูบอีกแล้ว ฮืออออ
ประจวบกับจังหวะนั้นเฟอร์ก็เข้ามาพอดี เฟอร์เลยหยิบเมนบอร์ดไปดู "กูว่าอลูมันบางไปวะ" ว่าแล้วมันก็ไปคว้าอลูหนา 1 มิลลิเมตรจากมุมห้องมาตัด ฉึบ ฉึบ แล้วก็ตะไบให้เสร็จสรรพ ตะไบจนเล็บสึกไปพร้อมอลูเลย -_- ขอบใจมากมาย เอิ๊กๆ เสร็จแล้วก็เอาอลูมาสอดไส้เบอร์เกอร์อีกรอบ คราวนี้หนาขึ้นอย่างสะใจ ซิลิโคนบางจ๋อยยยย ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดี เนื่องจากเหตุผลที่บอกข้างต้น ซิลิโคนมันไม่ได้ช่วยนำความร้อน
อ่ะ ไหนๆก็ไหนแล้ว เลยตัดอลูเพิ่มเอามาสอดตรง Chipset ด้วยเลย ซึ่งอันนี้ไม่ต้องตะไบ อย่างที่บอก... มันห่าง 3 มิลลิเมตรได้ =_= จัดแจงทาซิลิโคนจนเสร็จ สอดไส้เบอร์เกอร์ครบทุกจุด ไขๆหมุนๆ
ถึงเวลาทดสอบ...
ลองบู้ท... บู้ทไม่ติด!!! ว้ากกกกกกกกกก
อ่อ... ลืมใส่ Harddisk ^^"
ใส่ๆๆๆๆ ไขๆๆๆขันๆๆๆ เอก กี เอ้ก เอ้กกกก
บู้ทอีกรอบ... ผ่านหน้าแรกไปอย่างสบาย ผ่านหน้าบู้ท Windows อย่างง่ายดาย ผ่านไป 5 นาทีบู้ทเสร็จ... ไม่ดับ!! โอ้เย้ๆๆๆ มีลุ้นๆๆๆ
ไม่รอช้า... ไหนลองเปิดเกมเล่นดู เล่นจบไป 1 เกม... ไม่ดับ!! กรี้ดๆๆๆๆๆ ปกติเกมนี้เล่นไปไม่ถึงครึ่งเกมก็จะดับแล้ว ไหนๆๆๆๆ เล่นอีกๆๆๆๆ เล่นไปอีก 4-5 เกม ก็ยังไม่ดับ กรี้ดดดดดดดดดด ดีใจแทบจะลงไปวิดพื้นสามสิบรอบ ปฏิบัติ!! >_<
หลังจากนั้นก็เทสต์อะไรอีกหลายอย่างไม่ว่าจะ Burn In Test เทสต์ 3D แบบหนักๆ ฯลฯ ปรากฎว่า... ไม่ดับแล้วค้าบบบบบบ กรี้ดกร้าดดดดดด แถมพอวัดอุณหภูมิดูมันก็ไม่ร้อนอย่างที่เคยด้วย เย็นกว่าตอนออกจากห้องแอร์ของศูนย์ Acer อีก ตอนออกจากศูนย์ใหม่ๆ อยู่ห้องแอร์แท้ๆยัง 65 องศาเลย แต่นี่ 50 องศา ไม่เกิน 55 อ่ะ แล้วห้องก็ไม่ได้เย็นจับจิตเหมือน Acer ด้วย เรียกว่าสุดยอดเลยหละ! ซ่อมดีกว่าที่ศูนย์มันทำอีก (แต่ก็เสี่ยงกว่าด้วย ^^")
เทสต์เครื่องจนพอใจก็ประกอบเครื่องกลับอย่างสบายใจ หลั่นล้าๆๆ ดีใจมากมาย ระหว่างประกอบกลับก็ต่อไฟเทสต์บ้างเป็นบางขั้นตอน ปรากฎว่าใช้ได้ เยี่ยมมากเลย ^^
อ๊ะ... ลืมอะไรไปอย่างรึเปล่า? ทำไมวันนี้เปิดเครื่องได้ สายแพมันขาดไม่ใช่หรอ?!? จริงๆแล้วลืมเล่าหนะ! อิอิ คือว่าชิวซื้อสายแพมาให้จากบ้านหม้อ แต่เป็นสาย 24 เส้น (ของเรามันแค่ 12 เส้น) ทางคุณเอ็มเลยจัดการตัดให้เรียบร้อย งานนี้ต้องให้เอ็มทำ งานละเอียดๆเนี่ย และก็ปรากฎว่าสำเร็จด้วยดี เสียบเทสต์แล้วใช้ได้ทันที! เยี่ยมไปเลย ^0^ ปัญหาอย่างเดียวที่มีก็คือ... สายยาวมากกกกกก ยาวกว่าสายเดินสามเท่าได้ ตอนประกอบกลับเลยพับสายซะเหนื่อยทีเดียว หะหะ
พอประกอบเสร็จก็ลองเปิดเครื่อง โอ้วเย~~ เปิดติด นั่งเทสต์เกมไปร่วมครึ่งชั่วโมง แล้วก็เปิด Burn In Test อีกชั่วโมงกว่า... ไม่ดับแล้วค้าบบบบบบ กรี้ดกร้าดดดดด มันคืนชีพแล้ววววววว โน้ตบุ๊คสุดห่วยราคา 4 หมื่นของเนยยยยยย
จะหลงเหลือก็แค่ปัญหานิดหน่อยคือ Bluetooth สวิตซ์ไม่ลงร่อง ทำให้เปิดยาก ต้องใช้ท่ายากนิดหน่อย แต่ก็โอเค ขี้เกียจแกะแล้ว ~.~ ส่วนเรื่องอื่น... ดีกว่าตอนซื้อใหม่ซะอีก เย้~~~~~~~~
สรุปนะครับสรุป สาเหตุที่เครื่อง Acer Aspire 5593 Overheat กันถ้วนหน้าประกอบด้วย 2 สาเหตุครับ
1. ตัว Body เป็นช่องเปิดขนาดใหญ่ ทำให้อะไรต่อมิอะไรสามารถหลุดเข้าไปได้ง่าย และก็ไปอุดตรงครีบ Heat Sink นับวันก็จะยิ่งสะสมขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีทางใดระบายออกได้ เรียกได้ว่ามันคือระเบิดเวลานับถอยหลังก็ว่าได้ วันหนึ่งมันต้องพัง
2. ตัว Heat Sink ออกแบบมาห่างจากชิบการ์ดจอ Radion X1600 ที่ร้อนติดอันดับต้นๆของโลกตั้ง 2 มิลลิเมตร ทางผู้ผลิตเลยต้องติดเป็นแผ่นซิลิโคนระบายความร้อนมาแทน ซึ่งมันนำความร้อนได้ไม่ดีมากนัก ส่งผลทำให้ความร้อนสะสมอยู่ตรงการ์ดจอ การระบายอากาศแย่มาก ยิ่งเปิดยิ่งระอุ ว่างั้นก็ได้
เมื่อสองเหตุผลมารวมกัน มันเลย Overheat ในที่สุด
ส่วนวิธีที่เนยและเพื่อนพ้องเอามาแก้ปัญหาก็คือ เอาแผ่นอลูมิเนียมมาสอดไส้เบอร์เกอร์ เพื่อช่วยให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น อย่างที่เขียนไว้ข้างบนนั่นเอง
ฟันธงจากแพนด้าตัวน้อยตัวนี้ "Acer Aspire 5593 ออกแบบภายในมาอยู่ในระดับที่ห่วยพอสมควร"
ทั้งนี้เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัว แต่เชื่อว่าท่านผู้อ่านคงเอาสิ่งที่เนยชำแหละมาช่วยพิจารณาด้วยตัวท่านเองได้ว่า มันห่วยหรือไม่อย่างไร
ก็ต้องขอบคุณที่มันพัง ทำให้เราได้รู้ว่าเราไม่ได้คิดไปเองว่า Acer มันห่วย
อนาคตของเจ้าตัวปัญหาตัวนี้ ก็จะถูกเนรเทศไปอยู่บ้านอีกหลังนึง ซึ่งบ้านนั้นไม่มีหมาขนร่วงผลอยแบบริชชี่ ก็หวังว่าคงจะไม่มีปัญหา Overheat อีก... ขี้เกียจแกะ -_-
ไปหละวันนี้ สวัสดี ^^
จบ