กลับมาเขียน Blog ต่อละ หุหุ (แต่ชีวิตที่ไม่ได้เขียน Blog ก็มีความสุขดีนะ)


ชีวิตพักหลังนี้ชอบกินอะไรที่มันแบบว่าเพื่อสุขภาพ อย่างนึงที่ชอบมานานแล้วแต่มีปัญหาในการกินทุกทีเลยคือน้ำส้วม เอ้ย! น้ำส้ม

ปัญหาอะไรหนะหรอ? เรากินน้ำส้มทีไรเราท้องอืดทุกทีเลยหนะสิ!! ยิ่งช่วงหลังๆนี่กินไปแค่ขวดเล็กๆขวดเดียวนี่ถึงกับเป็นลมทำอะไรไม่ได้เป็นวันเลย แต่ก็ชอบกินและยังอยากกินอยู่อ่ะ ทำไงดีๆๆๆๆ... ทำใจ!!! ม่ายยยยยยยยยยยยย คนเราต้องมีความพยายามเฟ้ย! เลยลงทุนไปกวาดซื้อน้ำส้มทุกยี่ห้อที่มีเอามาลองให้หมด ผลปรากฎว่า... ไอ่ที่มันกินแล้วท้องไม่อืดมันก็ไม่อร่อยสักยี่ห้อ แต่ที่กินแล้วอร่อยก็อืดมันทุกยี่ห้อ ไรว้าาาา เซ็งมั่ก (จากการทดลองก็เป็นลมไปหลายรอบอยู่ เอิ๊กๆ)


แต่ระหว่างที่เซ็งๆอยู่นั้นก็ไปค้นพบว่ามินิเมดปัลปี้จะเข้ามาทำตลาดในไทย ก็เลยนั่งรอมันวางตลาดอย่างใจจดใจจ่อ


วันนั้นยังจำได้ดีวันแรกที่มันวางตลาด... เราตระเวนเดินไปทีละห้างทีละห้างไม่ว่าจะเป็น Big C เอย โลตัสเอย วิลล่ามาร์เก็ตเอย... แมร่งไม่มีขายสักร้าน! สงสัยสินค้าจะล้ำเกินไป วางของไม่ทัน


สุดท้ายก็เลยไปแก้เซ็งที่ 7-Eleven ในอารมณ์ของคนจะหาอย่างอื่นกินแทน เดินไปดูในตู้น้ำ... เจือกมี!! จึงได้หิ้วมินิเมดปัลปี้กลับไปกินบ้านด้วยประการฉะนี้...

แต่... พนักงานเซเว่นหยิบมินิเมดเราไปยิงแล้วก็ถามว่า "ไม่รับอีกยี่ห้อนึงไปแทนหรอคะ เนื้อส้มเยอะมากๆเลยนะ" โอ้ววววว เซเว่นมีแนะนำสินค้ากันด้วยเว้ย แต่เราก็ยืนยันจะเอามินิเมดแต่ในใจก็สนใจอีกยี่ห้อนึงอยู่เหมือนกัน แค่ไม่อยากเสียฟอร์ม บอกไปแล้วหนิว่าไม่เอา วันหลังก็ได้วะ!!


1 วันผ่านไป... (โทษทีกูรีบ) ก็กลับไปที่ 7-Eleven สาขาเดิมแล้วก็คว้าน้ำส้มอีกยี่ห้อที่วางข้างๆกันอย่าง Sappo Juice Me มาลองกินดู จึงเป็นที่มาของรีวิวนี้!! (เกริ่นนานแสรด)

เกิดคำถามในใจ "อะไรอร่อยกว่ากัน" เดี๋ยวจะลิสต์ให้เป็นข้อๆเลยนะ


เรื่องของปริมาณ: ทั้งสองขวดปริมาณเท่ากันคือ 300 ml

ปริมาณของเนื้อส้วม เอ้ย! เนื้อส้ม: Juice Me เนื้อส้มเยอะกว่ามากกกกกกกกกกก เยอะชนิดว่าน่าจะยัดส้ม 2-3 ลงไปในขวดเห็นจะได้ เยอะแบบเยอะมากกกกกกกกกกกกกกก บางขวดมีเม็ดแถมมาด้วยอีกต่างหาก ส่วนมินิเมดนี่เนื้อส้มน้อยกว่าหลายเท่าเลย

รสชาติ: มินิเมดให้รสชาติของน้ำตาลสูงกว่า โดยส่วนตัวคิดว่า Juice Me อร่อยกว่า

Packaging: มินิเมดขวดสวยกว่าอ่ะ ถือแล้วดูดีมีชาติตระกูลกว่า >_<

ราคา: มินิเมด 18 บาท จู๊สมี 20 บาท


หมายเหตุ: Blog นี้ไม่ได้รับเงินใครมาเขียนทั้งสิ้น แต่ถ้าคิดว่าเนื้อหามีประโยชน์ทางการตลาดก็รบกวนส่งเงินมาให้ด้วยที่....... ๕๕๕ ล้อเล่น ก็ลองไปซื้อกินกันละกันนะ แล้วใช้ชิวหาตัวเองนี่แหละพิจารณาว่าอะไรอร่อยกว่ากัน