"Fly high but don't fly alone"
พรีวิว Samsung Galaxy S23 มือถือพร้อมกล้อง 200 พิกเซล ซูม 100 เท่า ถ่ายกลางคืนอย่างโหด !
2 Feb 2023 03:04   [12469 views]

กลายเป็น Norm ไปแล้วที่ช่วงกุมภา ฯ ของทุกปีจะเป็นช่วงย้อนรำลึกความทรงจำของตัวเอง ไม่ใช่เพราะมันต้นปีหรือใกล้วาเลนไทน์อะไรหรอก แต่เพราะจะเป็นช่วงที่มือถือ Samsung Galaxy S Series เปิดตัวรุ่นใหม่ให้ได้ฮือฮากัน

สำหรับคนอื่นอาจจะเป็นงานเปิดตัวมือถือ แต่สำหรับเรามันมีความทรงจำมากมายอยู่ในนั้นเพราะมีโอกาสได้เข้าร่วมงานเปิดตัวมือถือหลายรอบ ได้ทำกิจกรรมกับ Influencer หลายคน ได้เจอคนดี ๆ สร้างความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน บางคนเจอกันตั้งแต่เปิดตัว Samsung Galaxy S ตัวแรกแต่ยังสนิทมาจนถึงตอนนี้

และวันนี้ก็ถึงวันนั้นอีกรอบเพราะ Samsung เพิ่งเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่อย่าง Galaxy S23 ให้โลกได้ฮือฮาอไปเป็นที่เรียบร้อยยยยย หวือหวาไม่ทำให้ผิดหวังอีกแล้ว

ถึงปีนี้จะไม่ได้ไปงานเปิดตัวแต่เราก็มีสรุปงานเปิดตัวมาฝากเช่นเคยจ้าาา มาดูกันว่า S23 เป็นยังไงบ้างงง

มีสามรุ่น

ตามที่หลุดก่อนหน้านี้เป๊ะ ๆ ว่า S23 มีอยู่สามรุ่น ซึ่งก็ไม่แปลกใจเพราะว่า Galaxy S Series ออกมาทีละ 3 รุ่นเป็นปกติอยู่แล้ว สามรุ่นที่ว่าก็ได้แก่

- Galaxy S23 : รุ่นน้องสุดของตระกูล สเปคและฟีเจอร์จะน้อยกว่าหน่อยแต่ตัวเครื่องก็กระทัดรัดกว่าและราคาถูกกว่า

- Galaxy S23+ : รุ่นกลางสำหรับคนที่ชอบทุกอย่างแบบกำลังพอดี ๆ ไม่ได้มีทุกอย่างแต่ก็ไม่ได้มีน้อยไป

- Galaxy S23 Ultra : รุ่นท็อปของตระกูลซึ่งปกติจะเป็นที่เพ่งเล็งทุกครั้งที่เปิดตัวเพราะของเล่นใหม่ที่ฮือฮาหวือหวามักจะมากับรุ่นนี้นี่แหละ

ซึ่งแน่นอน สิ่งที่ต้องโฟกัสเลยสำหรับรุ่นนี้คือ

Galaxy S23 Ultra มาพร้อมปากกาในตัวด้วยนะฮ้าบบบบ

ส่วนตัวว่ามูฟนี้ของ Samsung เด็ดขาดมาก เพราะมันทำให้มือถือรุ่นท็อปกลายเป็นท็อปของท็อปอีกทีนึง ในมุมยอดขายนี่ก็น่าจะทำให้คนที่ชื่นชอบมือถือทั้งตระกูล Galaxy S และสาย Galaxy Note สอยไปโดยไม่ลังเลเลยทีเดียว

จุดเด่นอยู่ที่กล้อง โหดประหนึ่งกล้องโทรได้

นี่ก็ปี 2023 แล้ว เอาจริง ๆ เราผ่านจุดที่มือถือกล้องเทพมาหลายปีมาก ๆ แล้ว แต่ที่น่าทึ่งคือ Samsung ก็ยังหาความเทพกว่ามาให้ได้เรื่อย ๆ อย่าง S23 Ultra รุ่นท็อปนี่ก็มาพร้อมกล้องสุดโหดนับตั้งแต่มือถือ Samsung Galaxy เคยทำมา

เพราะมือถือที่จับได้กำลังพอดีมือกลับมาพร้อมกล้อง 200 ล้านพิกเซลได้ซะอย่างงั้น !  ไม่ใช่แค่นั้น กล้องยังซูมได้ถึง 100 เท่าอีกด้วยยย

โดย Sensor รับแสงของ S23 Ultra ก็ขนาดใหญ่ขึ้นมาจากรุ่น S22 Ultra เล็กน้อยจาก 1/1.33" เป็น 1/1.3" ซึ่งทำให้รับแสงดีขึ้นไปอีก

ประโยชน์ของกล้อง 200 ล้านพิกเซล

กล้องที่รายละเอียดสูง ๆ ก็จะต้องแลกมาด้วยขนาดไฟล์ที่ใหญ่ ดังนั้นในกรณีทั่วไปคนก็ถ่ายไม่ถึง 200 ล้านพิกเซลกันหรอก อ้าว ? แล้วจะมีกล้องละเอียด ๆ ไว้ทำไมกัน ?

Use Case นึงของกล้องมือถือที่ละเอียดสูง ๆ แบบนี้คือความสามารถในการซูม รวมถึงความคมชัดของภาพถ่ายที่ได้ออกมา อันนี้คนทั่วไปได้ใช้งานแน่ ๆ

แต่อีก Use Case นึงที่อาจจะไม่ได้ใช้กันบ่อย ๆ แต่ก็มีประโยชน์มาก ๆ เช่นกันก็คือการถ่ายที่ความละเอียด 200 ล้านพิกเซลเลย ซึ่งจะมีประโยชน์มาก ๆ ในการถ่ายภาพในสถานการณ์ที่ไม่ได้เจอบ่อย ๆ และต้องการเก็บรายละเอียดให้ครบ เช่น งานคอนเสิร์ต

หรืออีก Use Case นึงคือการถ่ายรูปในสภาพแสงต่าง ๆ ตอนถ่ายในที่กลางแจ้งก็สามารถเก็บรายละเอียดได้ครบและถ่ายด้วยความละเอียด 200 ล้านพิกเซลได้ถ้าต้องการ แต่ถ้าแสงมืดลงมาหน่อย กล้องก็จะเอาสีจากเซนเซอร์ 4 พิกเซลที่ติดกัน (2x2) มารวมกันเพื่อชดเชยแสง ได้ออกมาเป็นภาพ 50 ล้านพิกเซลที่ถ่ายออกมาได้คมชัดแม้ที่แสงน้อย หรือถ้าแสงมืดจัด ๆ ก็สามารถใช้สีจาก 16 พิกเซล (4x4) ถ่ายออกมาเป็นภาพ 12.5 ล้านพิกเซลที่สวยงามแม้ที่แสงน้อยนั่นเอง

เทคโนโลยีรวมพิกเซลนี้มีชื่อเรียกว่า Adaptive Pixel ซึ่งถึงจะไม่ใช่รุ่นแรกที่ทำได้ แต่ผลงานจากรุ่นก่อน ๆ ก็เป็นตัวยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า Adaptive Pixel นั้นใช้งานได้จริงและส่งผลต่อคุณภาพภาพถ่ายเป็นอย่างมาก

ก็จะเห็นว่าความละเอียดกล้องที่เพิ่มขึ้นมันก็ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่สามารถใช้งานได้จริงและมีประโยชน์มาก ๆ แม้กับคนทั่วไปด้วย

S23 Ultra ซูม Optical 3x และ 10x -- ซูมมากสุด 100 เท่า

การซูมมีอยู่สองแบบคือ Optical ที่ไม่สูญเสียความคมชัดกับแบบ Digital ที่ภาพจะเริ่มแตก สำหรับ S23 นั้นมาพร้อมกล้องที่สามารถซูมได้ 3x สำหรับกล้อง Wide และ 10x สำหรับกล้อง Tele ครับ ซึ่งระดับการซูมขนาดนี้พูดได้เลยว่าซูมสบายยยย

แต่ถ้าอยากซูมต่อเข้าไปหน่อยก็จะต้องใช้ Digital Zoom ร่วมด้วย อันนี้เค้าเรียกว่า Space Zoom ซึ่ง S23 Ultra สามารถซูมได้ถึง 100x เลยทีเดียว ส่วนคุณภาพระยะหวังผลอาจจะต้องลองกันอีกทีว่ากี่เท่าถึงจะยังชัดอยู่

สำหรับ S23 และ S23+ นั้นจะมาพร้อม Space Zoom ที่ต่ำลงมาหน่อยอยู่ที่ 30 เท่าครับผม

Nightography เน้นเรื่องการถ่ายกลางคืนมากก

เรื่องความละเอียดและระดับการซูมก็น่าสนใจระดับหนึ่งแล้ว แต่ส่วนตัวตื่นเต้นและอยากลองสิ่งนี้มากกว่า "Nightography"

ถึงจะไม่ได้รีวิวมือถือมานาน (เพราะไปทำงานกับบริษัทใหญ่มาหลายปี) แต่ถ้าจำกันได้ ส่วนตัวเป็นคนชอบถ่ายรูปกลางคืนมาก ๆ เพราะมันได้เสน่ห์กว่า ดูลึกลับกว่า และจะเลิฟมากถ้าสามารถถ่ายดาวหรืออะไรที่เป็นความสวยงามยามค่ำคืนได้ ซึ่งจากงานเปิดตัวก็พบว่าทุกอย่างที่เราชอบมันมีอยู่ใน S23 Ultra !

โดยงานเปิดตัวนี้ครึ่งงานเห็นจะได้ที่พูดเรื่องกล้อง แถมยังมี Ridley Scott และผู้กำกับชาวเกาหลีมาถ่ายหนังสั้นทั้งเรื่องในสภาพแสงน้อยจนถึงมืดด้วยกล้อง S23 Ultra เพื่อโชว์ประสิทธิภาพให้ดูอีก อันนี้บอกเลยว่าดึงดูดมากเพราะวีดีโอออกมาดูดีมากแม้แสงจะมืดสุด ๆ

ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเป็นการเอาหลาย ๆ เทคนิคมาใช้ร่วมกันจนทำให้ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการลด Noise จากการเอาภาพหลาย ๆ เฟรมมาประมวลผลร่วมกัน

รวมถึงตัว Hardware เองด้วยที่ทำออกมารองรับสภาพแสงน้อยได้ดี

แล้วก็มี OIS ที่ขยายพื้นที่ในการขยับกล้องเพิ่มขึ้นสองเท่า ทำให้เมื่อรวมกับหลาย ๆ อย่างที่พูดถึงข้างบน การถ่ายวีดีโอในที่มืดก็เลยทำได้อย่างสวยงามด้วยกล้องมือถือตัวน่อยนี่เอง

โดยรวมคือเป็นการผสมผสานของ Hardware และ Software เข้าด้วยกันอย่างลงตัวจนทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Nightography ขึ้นมา

และแน่นอนว่าไม่ใช่แค่วีดีโอ ภาพนิ่งก็สวยงาม มีการปรับแสง ปรับ Saturation รวมถึงเอา AI มาปรับโน่นนี่ให้ภาพออกมาสวยงามขึ้นอีกต่างหาก

 

เป็นสิ่งที่ทำให้อยากสอยมาลองเลย ยิ่งถ้ารวมกับความสามารถในการซูมแล้ว ถ้าเอาไปถ่ายพระจันทร์แบบชัด ๆ ได้นี่คือ Killer เลยนะ

ไว้ถ้าได้เครื่องมาแล้วจะลองให้ดูจ้าาา

โฟกัสในที่มืดได้เร็ว

อันนี้เค้าพูดไว้ตอนงานเปิดตัวว่าเนื่องจาก Sensor มีจำนวนพิกเซลเยอะทำให้สามารถจับวัตถุต่าง ๆ ได้ไวขึ้นแม้แต่ในที่มืด การจับโฟกัสในสภาพแสงน้อยหรือแสงมืดจึงทำได้และรวดเร็วอีกด้วย เขียนไว้ก่อน เดี๋ยวคงต้องลองเครื่องจริงอีกที

ถ่ายวีดีโอ 8K และ 4K 60fps Super HDR ได้

แน่นอนว่ามาถึงปี 2023 แล้ว มือถือรุ่นท็อปอย่าง S23 ก็เลยถ่ายวีดีโอ 8K @ 24fps, 30fps ได้อย่างไม่ต้องสงสัยจ้าาาา

เช่นเดียวกัน ถ่าย 4K @ 60fps ได้อย่างสบาย ๆ หรือจะลดเป็น 30fps หรือ 24fps ก็ย่อมได้

ส่วนคุณภาพจะเป็นยังไง เช่นเคย ต้องรอดูเครื่องจริงอีกทีคร้าบ

สเปคกล้อง

ส่งท้ายด้วยสเปคกล้องทั้งหมดครับ เอามาให้ดูในภาพเดียวไปเลย

CPU ตัวใหม่ล่าสุด เร็วแรงไม่เกรงใจใคร

อย่างที่บอกในสเปคด้านบนว่า S23 มาพร้อม CPU ตัวแรงที่สุดในนาทีนี้อย่าง Snapdragon 8 Gen 2 เอาจริง ๆ มือถือรุ่นก่อนหน้าก็เร็วแรงจนไม่รู้ยังไงอยู่แล้ว นี่ก็แรงขึ้นไปอีก

โดย CPU แรงขึ้นกว่า S22 ถึง 34% GPU แรงขึ้น 41% ทางด้าน NPU (หน่วยประมวลผล Neural Network) ก็แรงขึ้นอีก 49% จุก ๆ ดังนั้นเรื่องประสิทธิภาพจึงไม่ต้องกังวลเลย เล่นเกมหนัก ๆ ได้สบายยย แถมพวกฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ต้องใช้ AI (เช่น พวกช่วยให้ภาพถ่ายออกมาสวยขึ้น) ก็ทำงานได้รวดเร็วขึ้นอีกต่างหาก

แต่แน่นอนว่าคนอาจจะกังวลเรื่อง CPU ตัวใหม่แบตจะหมดเร็วขึ้นมั้ย อันนี้ไม่มีข้อมูลเรื่องการกินพลังงาน แต่มีข้อมูลว่า S23 ทั้งสามรุ่นมาพร้อมแบตที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมจ้าาา ซึ่งถ้า CPU มันกินพลังงานเยอะขึ้น แบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นก็น่าจะชดเชยเรื่องตรงนี้ไปได้ แต่ในงานเปิดตัวเค้าบอกว่าใช้ได้นานขึ้นนะ

แล้วเรื่องระบายความร้อนหละ ? งานนี้ซัมซุงก็คิดมาครบแล้วเพราะ S23 Ultra มาพร้อมระบบระบายความร้อนที่ดีไซน์มาใหญ่ขึ้นถึง 2.1 เท่า ทำให้เครื่องระบายความร้อนได้เป็นอย่างดีแม้จะเล่นเกมนาน ๆ ถ่ายรูปกลางแดดนาน ๆ ก็ไม่หวั่น

สรุปคือเครื่องเร็วแรงอยู่นานไม่เกรงใจครายยยย

กราฟฟิกส์เกมระดับโปร

ด้วย CPU/GPU ตัวใหม่ ฟีเจอร์เกมหลาย ๆ อย่างที่ต้องใช้สเปคแรง ๆ แม้แต่บนคอมพ์ เช่น Ray Tracing ก็ใช้งานบนเจ้า S23 ได้แล้ว

คนเล่นเกมน่าจะปลื้มปริ่มกับรุ่นนี้เลยหละ

จอสว่าง 1750 nit

สำหรับคนที่ทำงานกับที่แสงจ้าน่าจะชอบสิ่งนี้เพราะจอ S23 สามารถปรับความสว่างสูงสุดถึง 1750 nit! ซึ่งสว่างกว่า S22 ที่จำกัดที่ 1500 nit อยู่ระดับนึงเลย

ไม่พอแค่นั้น จอยังสามารถปรับความถี่หน้าจออัตโนมัติเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน ณ ขณะนั้น ๆ อีกด้วย

S23 Ultra + S-Pen เมื่อ Galaxy S มาพร้อมปากกา !

ความจริงไม่ต้องบรรยายอะไรมากเลยสำหรับข้อนี้เพราะ S-Pen เป็นฟีเจอร์สุดเด็ดของซัมซุงมาอยู่แล้ว เรียกว่า S-Pen ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ๆ ให้กับวงการมือถือมาเป็นสิบปี และจนถึงวันนี้มันก็พิสูจน์ตัวเองไปนานแล้วว่ามันเป็น Gadget ที่มีประโยชน์จริง ๆ คนก็ใช้งานมันจริง ๆ และก็สร้างประสบการณ์การใช้งานที่เพิ่ม Productivity ได้จริง ๆ

การมาของ S-Pen กับ S23 Ultra เลยเป็นสิ่งที่เราว่าเป็นมูฟที่เด็ดขาดและชอบมาก เรื่องการใช้งานอาจจะไม่ได้ต่างอะไรจากเดิมเพราะมันก็พัฒนามาไกลแล้ว แต่เนื่องจากมันไม่ใช่ Gimmick ที่โผล่มาให้หวือหวาแล้ว แต่มันเป็นฟีเจอร์ที่เกิดมาเพื่อใช้งานจริง เราเลยไม่สนใจอะไรมากละว่ามันจะมีลูกเล่นอะไรใหม่ ๆ ของ S-Pen กับรุ่นนี้มั้ย เพราะเอาเข้าจริงแค่มี S-Pen ชีวิตก็เปลี่ยนไปหลายอย่างละ

เอาเป็นว่าแฟน ๆ Galaxy S ทั้งที่เคยและไม่เคยใช้ S-Pen มาก่อนน่าจะชอบกับสิ่งนี้ รับประกันจากคนที่ใช้ S-Pen ทุกวันค้าบบบ

มือถือรักษ์โลก

ฟังดูอาจจะตลก แต่ส่วนตัวที่อยู่ในวงการเทคมาหลายสิบปี นาทีนี้สิ่งที่กำลังมองหาจากแบรนด์เทคต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องฟีเจอร์ใหม่ ๆ แต่เพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่อยากได้จากแบรนด์ต่าง ๆ ด้วยคือ

"การรักษาสิ่งแวดล้อม"

มือถือรุ่นใหม่มีออกแทบทุกเดือน คนเปลี่ยนมือถือกันเป็นว่าเล่น มือถือเก่ากลายเป็นขยะอิเลคทรอนิกส์ กลายเป็นว่า Carbon Footprint ก็เพิ่มขึ้นทุกปี เราสะดวกสบายขึ้นแต่โลกกลับสภาพแย่ลง

น่ายินดีที่ Samsung ก็ใส่ใจเรื่องนี้ เห็นได้จากปีหลัง ๆ ที่พยายามลด Carbon Footprint ลงและใช้อุปกรณ์ Recycle มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างกล่องมือถือ(ที่คนไม่เก็บอยู่แล้ว)ก็ทำจากกระดาษ Recycle พวกฟิล์มที่ติดบอร์ดี้มาจากโรงงานก็ทำจาก Recycled PET รวมถึงพวกเคสก็ทำจากส่วนประกอบของพืชและสีย้อมที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม

ถึงเราจะคาดหวังให้มันดีต่อสิ่งแวดล้อม 100% ไม่ได้ แต่มูฟเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปนี่แหละที่จะทำให้เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้นฮับ ^__^

สรุปสเปครวม

ส่งท้ายด้วยสเปครวมของแต่ละรุ่นทั้ง S23, S23+ และ S23 Ultra จ้า

ส่วนสเปคตัวที่เข้าไทยคงต้องรอ Samsung Thailand แจ้งอีกทีครับผมม

เดี๋ยวไว้รีวิวให้ดูอีกที

อันนี้เป็นสรุปจากงานเปิดตัว ส่วนเครื่องจริงยังไม่ได้จับเลย ยังไงถ้าได้เครื่องมาแล้วจะรีวิวอย่างละเอียดให้ดูอีกทีนะฮ้าบบบบ เย้ เย

บทความที่เกี่ยวข้อง

Sep 26, 2021, 10:16
27422 views
Ray-Ban Stories เมื่อถึงยุคที่เราถ่ายวีดีโอผ่านแว่นกันแล้ววว
Jun 5, 2023, 16:56
12031 views
AI กับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ที่กำลังจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อสังคมมนุษย์
0 Comment(s)
Loading