ห่างหายการรีวิว Gadget มานานเพราะก่อนหน้านี้ไปทำงานที่บริษัทใหญ่แล้วไม่สามารถรีวิวสินค้าอะไรพวกนี้ได้ (ถึงแม้จะซื้อมาเองก็ตาม) เพราะอาจจะมี Conflict of Interest แต่ตอนนี้ชีวิตเป็นอิสระแล้ว (ลาออกแล้วนั่นเอง) ก็เลยกลับมารีวิวได้แล้ว เย้ !
ช่วงที่ทำงานอยู่ตอนนั้นมีมือถืออยู่รุ่นนึงที่อยากรีวิวมากกกก ซื้อมาใช้เองแล้วแฮปปี้สุด ๆ เรียกว่าแฮปปี้ที่สุดในรอบหลายปีเลยจากมือถือทุกรุ่นที่ซื้อมาใช้ ใครตามเฟสเราน่าจะรู้ว่ามันคือ Samsung Galaxy Z Fold3 นั่นเอง แต่ก็นะ ติดเรื่องงานก็เลยรีวิวไม่ได้ ได้แค่พูดในเฟสว่าเป็นรุ่นที่เราใช้แล้วมีความสุขที่สุดในรอบหลายปี
แต่ตอนนี้จังหวะพอเหมาะมากเพราะ Samsung Galaxy Z Fold4 มือถือรุ่นใหม่ในตระกูลเดียวกันก็ออกมาพอดี และแน่นอนว่าเราก็ได้มันมาครอบครองแล้วไม่มีพลาด วะฮะฮ่าาา ซึ่งไม่มีผิดหวังเลยเพราะเป็นรุ่นที่ใช้แล้วแฮปปี้มากไม่ต่างอะไรกับ Z Fold3 เลย (เพราะมันค่อนข้างเหมือนกันมาก) เลยขอใช้โอกาสนี้รีวิว Z Fold4 ให้ทุกท่านได้อ่านกันโดยเขียนจากประสบการณ์การใช้จริงมาสองเดือนเต็ม ดีก็บอกว่าดี ไม่ดีก็บอกไม่ดีเช่นเคยฮ้าบบบบ
อ่ะ เริ่ม !
ตัวเครื่อง
ด้วยความที่มันถูกออกแบบมาให้เป็นประหนึ่ง Tablet พับได้ จึงไม่ต้องแปลกใจที่ตอนมันพับจะดูเหมือนมือถือหนา ๆ แต่มันก็ไม่ได้หนามากขนาดนั้น ถือว่าซัมซุงทำออกมาได้ดีในเงื่อนไขที่ท้าทายแบบนี้ โดยรวมเรื่องขนาดตอนพับถือว่ารับได้เลย
ซึ่งเอาจริง ๆ ใส่เคสแล้วอะไรแล้วก็ไม่ต่างกับมือถือทรง Bar ปกติที่ใส่เคสกันกระแทกแบบแน่นหนาเลยอ่านะ
ส่วนตอนกางออกมานี่ถือว่าดูดีเลย เหมือนถือ Tablet บาง ๆ เล็ก ๆ เครื่องนึง
จากการใช้งานจริงพบว่าจอด้านนอกหน้ากว้างแคบไปนิดนึง ใช้งานอะไรได้อยู่แต่ไม่สะดวกเท่ากับจอด้านใน ทำให้ตั้งแต่ใช้มาเคยใช้หน้าจอด้านนอกแค่ 2-3 ครั้งเท่านั้น ที่เหลือใช้ด้านในตลอดเลย
สำหรับรอบ ๆ ตัวเครื่องก็ไม่มีอะไรมาก มาตรฐานทั่วไป ด้านล่างเป็นลำโพง ไมโครโฟนและพอร์ต USB Type-C
ด้านข้างฝั่งซ้ายเป็นถาดซิม ส่วนฝั่งขวาเป็นปุ่ม Volume และปุ่ม Power ที่มาพร้อมฟังก์ชันสแกนลายนิ้วมือแบบไวว่อง
ส่วนด้านบนเป็นลำโพงและไมโครโฟนรัว ๆ
ด้านหลังมาพร้อมกล้อง 3 ตัว ได้แก่ กล้อง Wide (กล้องปกติ) กล้อง Ultrawide และกล้อง Tele
แต่กล้องไม่ได้มีแค่นั้น ยังมีอีกสองตัว ตัวนึงเป็นกล้อง Selfie จอนอก ส่วนอีกตัวเป็นกล้อง Selfie จอในที่ฝังไว้ใต้จออีกทีแบบเนียน ๆ
โดยรวมก็ประมาณนี้สำหรับตัวเครื่องจ้า
ภายนอกค่อนข้างเหมือนกับ Z Fold3 เกือบทุกประการ
จากที่ใช้ Z Fold3 มาเป็นปีก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ Z Fold4 ก็ต้องบอกว่าสองรุ่นนี้ด้านนอกมันแทบจะเหมือนกันเลย แต่ก็มีรายละเอียดต่างกันเล็กน้อยคือตัวเครื่อง Z Fold4 นั้นเล็กลงกว่ารุ่นพี่นิดนึง ในขณะเดียวกัน จอ Fold4 กลับขนาดเท่าเดิมในหน่วยนิ้ว แต่ต่างกันในเรื่องอัตราส่วนเพราะจอเตี้ยลงแต่กว้างขึ้น
ต้องชมในด้านวิศวกรรมของซัมซุงที่ทำให้เครื่องเล็กลงได้อีก ถึงตอนแรกใช้จะดูไม่ได้ต่างจาก Z Fold3 แต่พอมาเทียบกันดี ๆ ในรายละเอียดแล้วก็มีส่วนต่างอยู่บ้างเหมือนกัน (พูดถึงเฉพาะภายนอกนะ)
เคสสวยงาม แต่แบบที่มีปากกาพกพายากนิดนึง
ยังคงวนอยู่กับภายนอกอยู่แล้วค่อยไปเจาะตรงส่วนของ Software และการใช้งาน
แน่นอนว่าเวลาใช้มือถือเราก็ต้องใส่เคสกันอ่ะโนะ ถ้าตกขึ้นมาความเสียหายมันจำกัดลงไปได้เยอะ ซึ่งซัมซุงก็จัดให้ มีเคสสวย ๆ ขายใน Store ให้เราซื้อมาใส่ปกป้องเครื่องได้ทันที
โดยเคสที่มีขายมีท้ังแบบที่เป็นเคสเปล่า ๆ กับเคสที่มีปากกา S Pen มาด้วย ซึ่งเราเป็นสายขีด ๆ เขียน ๆ อยู่แล้ว ติด S Pen อย่างหนักหน่วงมานาน ที่บ้านมีเป็นสิบ ๆ ด้าม เลยไม่ต้องแปลกใจที่จะเลือกซื้อตัวที่มีปากกามาด้วย
หลังจากใช้มาสองเดือนก็ต้องบอกว่าข้อดีคือเคสสวย วัสดุดี บางจนเครื่องไม่ได้หนาขึ้นมาก แต่ข้อเสียของมันเลยคือเค้าเอาปากกาไปใส่ไว้ด้านหลัง (จากรุ่นก่อนหน้าที่ใส่ไว้ข้าง ๆ) ซึ่งทำให้การพกพายากขึ้นมาก โดยเฉพาะคนที่พกมือถือสองเครื่องอย่างเรา มันเบียดกันตลอดเวลาในกระเป๋ากางเกง
ข่าวดีคือมันมีเคสทางเลือกขายข้างนอกอยู่ หลายอันเสียบปากกาไว้ด้านข้างเหมือนเดิม ก็ลองดูละกันว่าแบบไหนเหมาะสมกับตัวเราครับ บางคนอาจจะชอบด้านหลังก็ได้นะ แต่สำหรับเราเราว่ามันพกพายาก ชอบด้านข้างมากกว่า
สิ่งที่ดีขึ้นจาก Z Fold3
ถึงภายนอกจะดูไม่ต่างจาก Z Fold3 มาก แต่สเปคต้องบอกว่าอัปเกรดไปหลายอย่างเลย ด้านความเร็วในเปเปอร์อาจจะต่างเพราะ Z Fold3 ใช้ Snapdragon 888 (5nm) ส่วน Z Fold4 ใช้ Snapdragon 8+ Gen 1 (4nm) ซึ่งดีกว่า 888 พอสมควร ถึงตอนใช้จริงมันก็ลื่นมากทั้งคู่จนแยกด้วยระบบประสาทมนุษย์ไม่ออกแล้ว แต่สิ่งที่ต่างอย่างเห็นได้ชัดคือ
อายุแบตเตอรี่ที่ Z Fold4 อยู่ได้ยาวนานกว่า Z Fold3 พอสมควรทั้ง ๆ ที่ความจุแบตเตอรี่เท่ากัน ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการที่ CPU มันกินพลังงานลดลงนั่นเอง
ไม่ใช่แค่ใช้งานได้นานขึ้น ตอนเล่นเกมหรือใช้งานอะไรหนัก ๆ ตัว Z Fold3 เครื่องอุ่นจนถึงร้อนอย่างเห็นได้ชัด แต่ Z Fold4 ยังไม่เคยอุ่นเลยตั้งแต่ใช้มา ซึ่งก็เป็นตัวบ่งชี้นึงว่า Z Fold4 มีการจัดการพลังงานได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากเรื่องของพลังงานแล้ว สิ่งที่ต่างกันแบบสุด ๆ คือ "กล้อง"
โดย Z Fold4 มาพร้อมกล้องหลัก 50MP ในขณะที่รุ่นที่แล้วอย่าง Z Fold3 ใช้กล้องละเอียดเพียง 12MP ส่วนเซนเซอร์รับแสงก็ใหญ่ขึ้นจาก 1.8μm เป็น 2.0μm หรือ 10% เลยทีเดียว
อันนี้ถือเป็นการอัปเกรดที่สายถ่ายภาพต้องชอบ ส่วนตัวตอนนี้พก S21 กับ Z Fold4 ใช้คู่กัน แต่เวลาจะถ่ายรูปต้องหยิบ Z Fold4 มาใช้ถ่ายภาพตลอดเพราะภาพสวยกว่าจริง ๆ โดยเฉพาะตอนถ่ายที่แสงน้อย Z Fold4 ทำคุณภาพภาพออกมาดีกว่ามาก Noise น้อยกว่าแบบสุด ๆ
อันนี้ตัวอย่างภาพในที่แสงน้อย ด้านซ้ายคือ Z Fold3 ด้านขวาคือ Z Fold4
ดูภาพรวมที่ย่อแล้วอาจมองไม่ออก แต่ถ้าซูมเข้าไปดูจะเห็นว่ารายละเอียดความคมชัดต่างกันเลย
เรียกว่า Z Fold4 กล้องจัดเต็มเลยหละ พกไปแล้วใช้ได้ทุกสถานการณ์แน่นอน !
กล้องต่ออีกหน่อย
จริง ๆ เรื่องกล้องมีอีกเยอะที่เจ๋ง หลาย ๆ อันก็มีตั้งแต่ Z Fold3 5G แหละ แต่ขอหยิบมาพูดอีกในรุ่นนี้เพราะมันมีประโยชน์ต่อการใช้งานจริง ๆ (อันนี้จากประสบการณ์การใช้งานเองเลย) โดยหนึ่งในฟีเจอร์ที่เด็ดสุด ๆ สำหรับเราคือ Dual Preview ที่ทำให้เราสามารถดูพรีวิวกล้องจากจอหน้าได้ด้วย !
ถามว่ามันมีประโยชน์ยังไง ตอนแรกพบว่ามันมีประโยชน์ตอนถ่ายเซลฟี่กับแฟน เราสามารถใช้กล้องหลังในการถ่ายได้เลย ภาพคมชัดสวยงาม แล้วก็ใช้ Dual Preview มาดูมุมที่ถ่ายรูปกัน
แต่ตอนหลังพบว่ามันมีประโยชน์มากกว่านั้น เพราะเวลาให้คนอื่นถ่ายรูปให้ เราสามารถดู Compose ได้ว่าทุกอย่างดูโอเคมั้ย เพราะบางทีคนที่เราขอให้เค้าถ่ายรูปเค้าก็ไม่ได้ชำนาญการถ่ายภาพขนาดนั้น เราก็สามารถช่วยกำกับและได้ภาพที่ต้องการได้แม้จะเป็นแบบให้เค้าถ่ายก็ตาม
ในเรื่องกล้องอีกสิ่งหนึ่งที่ซัมซุงทำได้ดีมาโดยตลอดคือ "โหมด Pro"
ที่ชอบโหมด Pro ของ Z Fold4 เป็นพิเศษเพราะมันสามารถถ่ายโหมด Pro ได้จากกล้องทั้งสามตัวเลย โดยกล้องหลักและกล้อง Tele สามารถดัน Speed Shutter ไปได้ถึง 30 วินาที จุก ๆ กันไปเลย ส่วนกล้อง Ultra Wide อันนี้ได้ 0.5 วินาทีตาม Hardware กล้อง ส่วน ISO ได้ 50-3200 ทั้งสามตัวจ้า
คนที่ชอบถ่ายภาพแบบแนว ๆ โดยใช้ความสามารถของกล้อง เช่น Long Exposure น่าจะแฮปปี้กับโหมดนี้มากมายเพราะควบคุมทุกอย่างได้หมด แถมมีไฟล์ RAW มาให้ Develop อีกถ้าต้องการ
สำหรับรีวิวกล้องโดยละเอียดเดี๋ยวจะจัดมาให้อีกในบล็อกนึงจ้า
Task Bar ทำชีวิตง่ายขึ้นอีกมหาศาล
อันนี้เป็นส่วนของ Software ละ ความแตกต่างนึงของซอฟต์แวร์ Z Fold4 กับ Z Fold3 ที่สังเกตเห็นได้ชัดแบบไม่ต้องมีใครมาชี้บอกคือบน Z Fold4 มันมีแถบที่อุดมไปด้วยไอคอนแอป ฯ วางเรียงกันอยู่บริเวณด้านล่างสุดของจอแบบนี้
ไม่ต้องมีใครสอนใช้เพราะออกแบบ UI มา Intuitive มากว่ามันคือ Task Bar นั่นเองงง มันช่วยให้ชีวิต Multi Task สะดวกขึ้นมาก ๆ เพราะการสลับแอป ฯ ไปมาไม่ต้องกดหลายขั้นตอนอีกแล้ว ใช้แค่จึกเดียวจบ สลับได้เลย หรือถ้าจะเปิดแอป ฯ ที่ไม่ได้ใช้เร็ว ๆ นี้แล้วไอคอนไม่โผล่ เราก็สามารถกดที่ปุ่มซ้ายสุดเพื่อเลือกแอป ฯ อะไรก็ได้ด้วย
อารมณ์เหมือนใช้ OS บนคอมพ์อะไรประมาณนั้นเลย ชีวิตสะดวกขึ้นมหาศาลกับเจ้าแถบนี้หละ
แบ่งหน้าจอได้ 3 แอป ฯ
Z Fold4 น่าจะเป็นมือถือรุ่นแรก ๆ ของซัมซุงมั้งที่แบ่งหน้าจอได้มากถึง 3 แอป ฯ ด้วยกัน อาจจะมีคนถามว่ามันมีประโยชน์จริง ๆ หรอ มีสิ ! นี่คือเซตอัปหน้าจอที่เราใช้งานจริงระหว่างออกแบบ NFT คอลเลคชั่นล่าสุด
ฝั่งขวาไว้วาดรูป ซ้ายบนคือ Reference ส่วนซ้ายล่างดู YouTube ไปด้วยระหว่างวาด
สำหรับคำถามว่ามันหนืดมั้ย ตอบเลยว่าลื่นมากจ้าาาา ไม่มีปัญหาใด ๆ ถึงแม้จะรัน 3 แอป ฯ พร้อมกันแบบนี้ ไม่มีความอุ่นหรือร้อนใด ๆ ให้รู้สึกเลยอีกด้วย ต้องขอบคุณ Snapdragon 8+ Gen 1 มา ณ ทีนี้
โดยวิธีแบ่งหน้าจอก็ง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย แค่ลาก ๆ ไอคอนที่อยู่บน Task Bar มาวางบนหน้าจอก็ใช้งานได้ทันที เฉียบ !
อันนี้แค่ตัวอย่างเดียวนะ เรายังใช้อีกหลายเซตอัปมาก เช่น ทำสไลด์ แล้วก็ดึงรูปจากหน้าจอนึงไปแปะ แล้วก็จดโน้ตในอีกหน้าจอนึง โดยรวมเราว่ามันออกแบบมาเหมาะกับคนที่ต้องการความคล่องตัวในการทำงานแต่ไม่อยากใช้คอมพ์ได้เลยนะ ตั้งแต่ได้ Z Fold มาคือเราเปิดคอมพ์น้อยลงไปเยอะมากเลยจริง ๆ
เล่นเกมจอใหญ่สะใจ เครื่องไม่มีร้อน
ใช้มาสองเดือน เล่นเกมมานับไม่ถ้วนด้วยความเป็นเด็กติดเกม สองสิ่งที่ประทับใจกับประสบการณ์การเล่นเกมบนนี้เลยคือ
1) จอใหญ่แถมภาพสวยคมกริ๊บ
2) ไม่ร้อนให้เห็นเลย !
เรียกว่า Z Fold4 ทำมาได้ดีขึ้นกว่า Z Fold3 มากในเรื่องนี้เพราะ Fold3 ตอนเล่นเกมกราฟฟิกส์หนัก ๆ นี่ร้อนจี๋เลย แต่ Fold4 กลับไม่มีความร้อนให้เห็นแต่อย่างใดถึงจะเป็นเกมเดียวกันก็ตาม
และมือถือก็เหมาะมือมากสำหรับการเล่นสองมือ เล่นพวก ROV อะไรพวกนี้ฟินเลย แต่ข้อเสียก็มีนิด ๆ คือเรื่องของมุมมองในเกม ถ้าเกมออกแบบมาให้ตัดมุมมองซ้ายขวาเหมือน ROV ก็จะทำให้มุมมองถูกจำกัดลงได้ เปลี่ยนไปเล่นจอหน้าได้ถ้าเจอปัญหานี้ มุมมองจะกว้างกว่าเดิมด้วย ฮ่า ๆ
ภาพรวม
Samsung Galaxy Z Fold4 ถูกวาง Position ไว้ให้เป็นมือถือแบบ "Work and Play" ซึ่งอันนี้ยืนยันว่ามันถูกออกแบบมาได้ตอบโจทย์จริง ๆ เพราะส่วนตัวก็ทั้งทำงานและเล่นเกมบนมือถือเป็นปกติอยู่แล้ว พอมาเป็น Z Fold เลยถูกจริตมาก แฮปปี้ตั้งแต่ Z Fold3 ละ ยิ่งเป็น Z Fold4 อีกก็รู้สึกว่าชีวิต Productive ขึ้นอีก
ถ้าให้เราประเมินว่ามือถือรุ่นนี้เหมาะกับใคร เราคงชี้ไปทางคนที่พกมือถือไว้เพื่อใช้ทำงาน เช่น กลุ่มผู้บริหาร รวมไปถึงกลุ่มที่ใช้มือถือในการวาดภาพเช่นเหล่า Artist เจ้า Z Fold4 ก็เหมาะมาก ๆ เหมือนกัน
แต่แน่นอนว่าการที่มันเป็นมือถือจอพับขนาดใหญ่มันต้องแลกมาด้วยความเทอะทะสำหรับบางคน (เช่น ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ น่าจะรู้สึกว่ามันเป็นมือถือที่ใหญ่และหนา) ซึ่งตรงนี้เราไม่สามารถฟันให้ได้ว่าจะเหมาะกับใครไม่เหมาะกับใคร แนะนำให้ไปลองเล่นที่ Shop ก่อนตัดสินใจว่าตัวเครื่องเหมาะกับชีวิตประจำวันเรามั้ยน้า
ส่วนด้านประสิทธิภาพการทำงานนี่ไม่ต้องพูดถึง เหลือเฟือ ชอบมาก !