""โอกาส" ก็สำคัญพอกับ "อากาศ" นั่นแหละ"
รีวิว N900 ภาค Overview
20 Dec 2009 15:41   [12900 views]

ได้มาครบอาทิตย์แล้ว แต่ก็ยังไม่มีเวลาเขียนรีวิวเสียทีกับเจ้า N900 มือถือเครื่องบึกที่อุตส่าห์ฝากเพื่อเฟอร์ซื้อมา แถมต้องรอตั้ง 2-3 เดือนกว่าจะได้ ทั้งนี้เพราะว่าช่วงนี้เราวุ่น วุ่น วุ่น วุ่นมากกกกกกกกกกก (ชินกับคำนี้ยัง -_-)


ถามว่าช่วงนี้หายวุ่นแล้วหรอ... ก็ตอบได้เต็มปากว่า... ยัง(โว้ยยยยยยยยยย)!! (แหะๆ) แต่ถ้าปล่อยต่อไปเรื่อยๆก็คงไม่ได้รีวิวอ่ะนะ เอาช่วงนี้แหละ น่าจะกำลังดี


ต้องบอกก่อนว่าวันนี้จะขอรีวิวแค่ส่วนหนึ่งก่อนเท่านั้น รีวิวละเอียดๆจะตามมาในเร็ววันนี้ ไม่น่าจะเกินสี่เดือน... ล้อเล่น นานไป -_- ไม่น่าจะเกินอาทิตย์สองอาทิตย์นี้แหละนะ


สำหรับ N900 นี้เรามีโอกาสเล่นแบบครึ่งๆกลางๆมาก่อนหน้านี้ที่งาน FNDC อินเดีย พอถึงไทยเราก็เลยตั้งหน้าตั้งตารอเพื่อจะได้เล่นแบบเต็มๆ วันเสาร์ที่ผ่านมาเลยไปรอรับของจากพี่ที่กลับไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่ 6.45 น. ซึ่งเกือบชวดกันเพราะเค้าไม่มีเบอร์เรา และเราก็ไม่กล้าโทรหาพี่สาวเค้าเนื่องจากเกรงใจ แต่สุดท้ายก็โทร ก็เลยได้ของมาทันเวลาก่อนที่เค้าจะออกจากสนามบินไป แหะๆ


แกะกล่อง

แน่นอน Template การเขียนรีวิวของเรา... นึกอะไรไม่ออก ไม่รู้จะเริ่มยังไง กรูแกะกล่องไว้ก่อนนี่แหละ!! ดังนั้นมาดูกันว่ากล่องเป็นยังไง มีอะไรอยู่ในกล่องบ้าง


กล่องของ N900 เหมือนกับกล่องของ N97 แทบทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดภายนอกหรือภายใน สำหรับภายนอก มันเป็นกล่องสี่เหลี่ยมสีดำทำจากกระดาษขุยๆ(ลดโรคร้อน) คำว่าทำจากกระดาษอาจจะฟังดูเหมือนของถูก แต่จริงๆแล้วมันทำมาได้ดูมีค่าทีเดียวเชียวแหละ

แน่นอนคำว่าเหมือน N97 ก็คือเหมือน!! เพราะบนฝากล่องมีจิตรกรรมแบบนูนต่ำรูป N900 อยู่ด้วย (พูดซะเว่อร์)

ตรงมุมขวาล่างเขียนบอกชัดเจนว่าเป็นรุ่น N900 (คนที่ไม่รู้จักต้องนึกว่าเครื่องจีนแน่ๆ เพราะเป็นเครื่อง N Series 3 หลักเครื่องแรกๆ) จากรูปนี้ก็ลองสังเกตดูวัสดุกล่องด้วย อย่างที่บอกว่ากล่องทำจากกระดาษขุยๆ นั่นแหละ สวยดี

ฝากล่องของ N900 ก็เป็นแบบสองชั้นเปิดฝากล่อง เมื่อเปิดแล้วก็จะเจอมือถือสีดำร่างบึกนอนอยู่อย่างอ้างว้างเดียวดายเหมือนกำลังรอใครมาเปิดบริสุทธิ์ อ๊างงง (เห็นภาพ)

จึงจัดแจงหยิบของในกล่องมาวางเรียงอย่างช้าๆประณีตบรรจง... เพราะมีอยู่ไม่กี่อย่าง มีอะไรบ้างก็ลองดูเอาเลยละกันโนะ ดังนี้!

ก็มี (1) ตัวเครื่อง (2) Wall Charge หัว USB (3) สายต่อ AV-Out (4) สาย USB (5) Small Talk พร้อมปุ่มควบคุม Multimedia (6) คู่มือการใช้งานสองเล่ม (7) ผ้าเช็ดจอ (8) ใบแจ้งว่าถ้าเครื่องพังต้องทำยังไง


สวัสดี N900 ตัวน้อย... เอ่อ ก็ไม่น้อยนะจริงๆแล้ว (-_--")

สำหรับ N900 ถือเป็นมือถือเครื่องแรกที่ติดฟิล์มสีดำทึบมา อยากจะบอกว่าติดฟิล์มดำแล้วดูสวยดีอ่ะะะ วันแรกๆไม่กล้าลอกออกเลย ดูดีเกิ๊นนน (วันแรกๆเลยแทบไม่ได้เล่น เพราะมองจอไม่เห็น)

เอาหละ ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้.........


...................ก็เอี้ยแล้วววววววววววว เขียนแค่นี้คงโดนลอบสังหารอ่ะ งั้นต่อๆๆๆๆ ~ ~


รอบตัว

ชูมือขึ้นแล้วหมุนหมุน ชูมือขึ้นโบกไปมา โอ้เย มาดูรอบๆตัวเครื่องกันว่ามันเป็นยังไง เริ่มจากด้านหน้า

สังเกตว่าหน้าตาแทบจะเหมือน N97 เดี๊ยะๆ

แต่ยังไงรายละเอียดก็ต่างกันเยอะนะ อย่างน้อยก็จอหละ ละเอียดกว่าเยอะมากกกกเพราะเจ้า N900 มาพร้อมจอขนาด 800x480 ส่วน N97 อยู่ที่ 640x360 เท่านั้น


ด้านบนเป็นปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง ชัตเตอร์กล้อง ปุ่มเบา/เร่งเสียง และช่อง Infrared (ยังจะมี!!)

ด้านขวามีลำโพง ปุ่มสไลด์เปิด/ปิดจอ รูหูฟัง/TV-Out และ Stylus

ด้านซ้ายมีลำโพงช่อง USB และรูคล้องสายมือถือ

ด้านล่าง... ไม่มีอะไร โล้นโล่งสวยงาม~~~ ^_^

สุดท้ายด้านหลัง โล้นๆ มีแต่กล้องและขาตั้ง

ชอบวัตถุประสงค์ของขาตั้่งมากๆ อย่างไรก็ตามพอใช้งานจริงเรากลับรู้สึกว่ามันออกแบบมาได้ใช้ประโยชน์ลำบากมากเพราะมันเอียงมากเกินจนต้องชะเง้อมองจอ สู้ N97 ก็ไม่ได้ วางได้องศาพอดีเด๊ะ


วัสดุ ขนาดและน้ำหนัก

แม้แต่วัสดุ มันก็ยังคงความเหมือน N97 ไว้!! คือตัวเครื่องทำจากวัสดุด้าน ขอบๆรอบๆทำจากวัสดุคล้ายโลหะมันวาว

ขอบตรงนี้ดำง่ายมากกกกก เหมือนมันมีปฏิกิริยาโดยตรงกับรอยนิ้วมือ จับปุ๊บดำปั๊บ เหมือนกับเงินตอนโดนพิษยังไงยังงั้น

ก็ไม่มีอะไรมาก เช็ดออกได้ ไม่มีปัญหา


มาถึงเรื่องขนาด บางคนอาจจะคิดว่ามันใหญ่... ซึ่งมันก็ใหญ่จริงๆ -_- แต่ความใหญ่ของมันจะไปทางด้าน "ความหนา" เสียส่วนใหญ่เพราะเมื่อเทียบแล้วความกว้างความยาวเล็กกว่าทั้ง E72 และไอโฟนเล็กน้อย

แต่ถ้าให้พูดถึงความหนาแล้ว...

หนาโคดพ่อวววววว ยืนยันว่าหนาจริงๆ

แต่ขนาดโดยรวมแล้วก็ต้องบอกว่า "พอดีมือ"

แต่แน่นอน หนาขนาดนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยที่มันหนักมาก!! โดยน้ำหนักมันสูงถึง 181 กรัม หรือ E72 (ที่ว่าหนักแล้ว) ถึงหนึ่งเครื่องครึ่งเลยทีเดียว เท่าที่เล่นเมื่อถือนานๆต้องยอมรับเลยว่าเมื่อยมาก เรียกว่าซื้อมือถือแถมที่เล่นกล้ามเลยทีเดียว


คียบอร์ด 3 แถว

คียบอร์ดก็เกือบเหมือน N97 (อีกละ) คือมี 3 แถว จำนวนปุ่มก็เกือบเท่ากันเลย

ดังนั้นถ้าจะเข้าไทยก็ต้องยอมรับกันไปว่ามันต้องพิมพ์ลำบากแน่นอน


หน้าจอละเอียดจัดๆ

อย่างที่บอกตอนแรกว่าหน้าจอทำมาได้ละเอียดมากกกก ขนาดก็ไม่ใหญ่มากแต่ละเอียดถึง 800x480 เวลาทำอะไรเลยรู้สึกค่อนข้างเปรมจิตเปรมใจ สวยไปซะทุกอย่าง

โดยเฉพาะตอนถ่ายรูป... โคดเปรม!!

ยิ่งตอนดูหนังนะ... โคดของโคดเปรม!!! ชัดมากกกกกกกกกกกกกกอ่ะ ประทับใจ >_< (แต่ก่อนเคยลอง Omnia HD ก็ว่าประทับใจแล้วนะ ไอ่นี่ประทับใจกว่าอีก)


Unlock จอแบบนี้ คุ้นๆแฮะ ~ ~

ดูเองละกัน!!


Resistive Touchscreen ที่ทำงานดีเหมือน Capacitive

N900 มีความได้เปรียบที่จอมันใหญ่ นอกจากนั้นปุ่มต่างๆบนจอก็ทำออกมาได้ค่อนข้างใหญ่ (แต่บางปุ่มก็เล็ก) ทำให้เราสามารถใช้นิ้วกดโน่นกดนี่ได้สบาย เพียงต้องออกแรงกดเล็กน้อยตามสไตล์ของ Resisitve (แต่ย้ำว่าเล็กน้อยจริงๆ รู้สึกตั้งแต่ N97 เป็นต้นมาจอโนเกียออกแรงกดน้อยลงเยอะ) แต่เมื่อชินแล้วก็จะสามารถทำทุกอย่างได้โดยไม่ติดขัด อย่างเช่นการ Unlock จอ สามารถใช้นิ้วรูดได้สบายๆ

ก็คงเหลืออย่างเดียวที่ทำไม่ได้คือ Multi Touch แหละ เอิ๊กๆ


Maemo ที่แตกต่างและพัฒนาแล้ว

ส่วนตัวเคยมีประสบการณ์กับ Maemo มาแล้วเพราะเคยสั่ง N810 มาใช้ (ตอนนี้นอนหลับอยู่ในเก๊ะ) ปรากฎว่าตอนนั้นโดยรวมไม่ประทับใจเลย ทั้งประสิทธิภาพและ UI เห็นแล้วก็พูดได้อย่างเดียวว่า "มันตายแน่"


แต่เวลาผ่านไป Maemo ก็พัฒนาขึ้น!! กลายเป็น Maemo 5 ที่อยู่ใน N900 ถ้าจะให้พูดว่าแตกต่างยังไง ก็คงต้องบอกว่าแตกต่างโดยสิ้นเชิง มันดีขึ้นมากๆจนน่าตกใจ ถ้าไม่ติดคำว่า Maemo มันก็อยู่ในจุดที่พร้อมจะเป็นรีแบรนด์เป็นระบบปฏิบัติการตัวใหม่เลยแหละ


ทั้งนี้เนื่องจาก Maemo เป็นลินุกซ์ ทำให้ Maemo 5 นี้สนับสนุน Hardware ครบทุกประเภท รวมถึงการ์ดจอ ตัว N900 เลยกลายเป็นเครื่องเทพมากๆเครื่องหนึ่งเนื่องจาก CPU ก็แรง (ARM Cortex-A8) แรมก็เยอะ แถมยังมีการ์ดจออีก ทำให้มี Effect ที่หรูหราตระการตาชนิดที่ระบบปฏิบัติการอื่นทำกันไม่ได้


แต่จุดอ่อนมันก็ยังมีอยู่เพราะออกแบบ UI มาได้ใช้ยากมากกกกกก ขอด่าว่าคนออกแบบ Maemo 5 ทำได้ห่วยมากๆ Core Engine ทำมาได้ดีมากแล้ว แต่ดันทำ UI ไม่ดี ไม่รู้จะด่ายังไง (เด็กสาย UI ของขึ้น ฮ่าๆ)


สำหรับตัว Software โดยละเอียดคงจะพูดถึงอีกทีใน Blog หน้า ติดตามชม!!


กันรอยหน้าจอมาแล้วนะเออ

เมื่อวานซืนไปเดินมาบุญครองเพื่อจะเอา E72 ไปแปะกันรอย ก็เลยถือโอกาสถามทางร้านเจ้าประจำเล่นๆว่ากันรอย N900 มารึยัง ปรากฎว่า... มาแล้ว!! ก็เลยประเดิมติดกันรอยเป็นเครื่องแรกเลย โดยทางร้านบอกว่าติดยากมาก ติดกันเองไม่ได้แน่ๆเพราะมันพอดีขอบเด๊ะๆ (ก็จริง พอดีเด๊ะๆเลย พอดีจนมองแทบไม่ออกว่าติดฟิล์ม) แล้วก็เว้นตรง Proximity Sensor ไว้เรียบร้อยสวยงาม

ตรงนี้น่าสนใจว่าร้านที่มาบุญครองให้ความสนใจกับรุ่นนี้มาก ขนาด E72 ยังต้องรอกันรอยเป็นอาทิตย์ๆ แต่ N900 เครื่องยังไม่มา(และไม่มีวี่แววว่าจะมารึเปล่า) กลับมีฟิล์มกันรอยแล้ว! เพราะอะไรหนอๆ


เครื่องหิ้วว่อน

แอบไปดูตามร้านและในเนตมา พบว่าเริ่มมีคนเอามาขายบ้างแล้ว แต่เห็นราคาแล้ว... กรูอยากขายต่อ!! เอาเป็นว่าถ้าได้ตามราคาที่เราซื้อมา ก็กำไร 100% อ่ะ ฮ่าๆ ดังนั้นใครคิดจะซื้อเมืองไทยก็แนะนำให้ลองหาเมืองนอกและ Ship มาดีกว่านะ ถูกกว่าเป็นหมื่น


เจอกันคราวหน้ากับการรีวิวซอฟต์แวร์และประสิทธิภาพฉบับเต็ม

Blog นี้เขียนเกี่ยวกับสิ่งที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าภายนอกเกือบหมดแล้ว เดี๋ยว Blog หน้าจะเขียนเกี่ยวกับ Software และประสิทธิภาพต่างๆเช่นแบตเตอรี่ (เบื้องต้นบอกก่อนว่าหมดเร็วมาก) รวมถึงความเร็ว ความร้อนและความคุ้มค่าในการซื้อ ฯลฯ ยังไงถ้ามีคำถามอะไรอยากรู้หรืออยากให้รีวิวก็พิมพ์ไว้ในคอมเม้นท์ได้เลยครับ จะเขียนรวมไว้ใน Blog หน้าให้


Blog หน้าเจอกันจ๊ะ!!

บทความที่เกี่ยวข้อง

Nov 19, 2009, 04:34
84884 views
รีวิว Nokia E72
Feb 20, 2010, 14:55
6561 views
Nokia X10 จัดไป~~
0 Comment(s)
Loading